เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไปอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
View Moreบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ปรากฎร่างของชายหนุ่ม และ หญิงสาวนอนกอดรัดกันอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มขนาดกว้างประมาณ หก ฟุตได้…แขนข้างซ้ายของชายหนุ่มเหยียดยาวออกมาข้างหนึ่ง บนแขนข้างซ้ายของชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าปีมีศีรษะแข็งได้รูปสวยของหญิงสาวนอนหนุนอยู่คล้ายคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
เรือนไหมนุ่มสลวยสีดำขลับของสาวเจ้าทิ้งตัวลงอย่างมีน้ำหนัก จมูกโด่งรั้นของชายหนุ่มจรดชิดหน้าผากกว้างของหญิงสาววัยยี่สิบห้าปีเศษ ๆ
ดวงตาคู่กลมโตของหญิงสาวเปล่งประกายวาวระยับ ยามเมื่อเวลานี้นรีกุลได้ลอบสังเกตสีหน้าของคนรักหนุ่มด้วยเเววตา เปี่ยมสุข
“นุ่นผมรักคุณนะ” เสียงเข้มของชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยออกมา
จากริมฝีปากสีชมพูระเรื่อพลางหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหล
ดวงตาคู่อ่อนโยนชวนฝันของนัฐธวีร์สะกดให้นรีกุลนอนนิ่ง อยู่กับที่หญิงสาวสบสายตาอันลุ่มลึกของนัฐธวีร์ราวกับหล่อนต้องอยู่ในมนต์สะกดของชายหนุ่มก็ไม่ปาน
“วีร์คะ” เสียงหวานของนรีกุลเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เรียวปากบางของหญิงสาวไร้ซึ่งการแต่งแต้มสีแดงสดขยับขึ้น
“ครับ” นัฐธวีร์เอ่ยรับคำของหญิงสาวด้วยเสียงทุ้มสุภาพอ่อนโยน
“ผมรักนุ่นนะ” นัฐธวีร์กล่าวกับหญิงสาวอย่างหวงแหนพลางใช้นิ้วสากของตนเองไล้ใบหน้าอันไร้การเติมแต่งประทินโฉม
แต่อย่างใดของนรีกุล“นุ่นก็รักคุณค่ะ” นรีกุลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและแววตาอ่อนละมุน พลางผุดลุกขึ้นนั่งแล้วใช้มือเรียวของหล่อนสวยเสยผมขึ้นอย่างลวก ๆ
นัฐธวีร์อดรู้สึกไม่ได้ว่า เวลานี้นรีกุลเป็นหญิงสาวที่สวยกว่าสตรีคนไหนในโลกใบนี้ที่เขาเคยเห็นมาหลายต่อหลายคน
“วีร์คะ” นรีกุลเอ่ยเรียกชายหนุ่มเพื่อดึงชายคนรักขึ้นจากภวังค์ด้วยเสียงหวานอันสดใสของเธอ
ยังไม่ทันที่นัฐธวีร์จะตอบ นรีกุลกระโดดผลุงลงจากเตียง พลางเดินไปดูเครื่องซักผ้าที่เพิ่งส่งสัญญาณเตือนเธอเป็นครั้งที่สอง
แม้ว่านัฐธวีร์เป็นรักครั้งที่สองของหญิงสาวหากแต่นรีกุลก็รักเขามากเหลือเกินเธอรักเขามากและวาดฝันไว้ว่าวันหนึ่งเขาและเธอคงจะได้อยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันไปจนแก่เฒ่า
ในความรักครั้งแรกของหญิงสาวตาสวยนั้น นรีกุลเลือกคบกับหนุ่มลูกเสี้ยวอิตาลีแต่แล้วก็ไปกันไม่รอด นั่นก็เพราะนิสัยการใช้เงินมือเติบของแฟนหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกเช่นเขาทำให้ความรักของทั้งคู่ต้องอับปางลงอย่างหมดหนทาง
ทว่าครั้งนี้นรีกุลกลับตกหลุมรักนัฐธวีร์ตั้งแต่แรกเห็นอย่างจัง หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่านัฐธวีร์มีออร่าเปล่งประกาย
กว่าชายหนุ่มคนอื่นในที่ทำงานเดียวกันเสียอีก นัฐธวีร์เป็นอาร์ตไดเร็คเตอร์ที่มีความสามารถพิเศษในการครีเอทงานอาร์ตเวิร์คเจ๋ง ๆ สวย ๆได้อย่างไม่มีที่ติและนรีกุล หญิงสาวก็ได้ เข้ามาเป็นนักออกแบบประจำบริษัทส่งออกเกมชื่อดังในแถบอาเซียน
เพียงครั้งแรกที่หญิงสาวพบเขาเข้านรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าเธอ ค้นพบชายหนุ่มที่หล่อนได้ค้นหามาตลอดทั้งชีวิต นักออกแบบสาวจึงวาดฝันมาตลอดที่จะได้แต่งงานกับชายหนุ่มตรง หน้าเธอคนนี้
เสียงสัญญาณของเครื่องจักรดังขึ้นอีกครั้งราวกับว่าจะบ่งบอกหญิงสาวให้ละทิ้งชายหนุ่มตรงหน้าแล้วหันมาสนใจเครื่องจักรกลอย่างมัน
นรีกุลผละออกจากนัฐธวีร์พลางเดินไปทางเครื่องจักรกลที่ เพิ่งทำงานเสร็จหมาด ๆ และมันได้ส่งสัญญาณเตือนแยกเธอออกจากนัฐธวีร์
นัฐธวีร์กระโดดลงจากเตียงนอนขนาดใหญ่ตามหญิงคนรักไปติด ๆ ร่างสูงสมส่วนก้าวขาเข้าไปยืนขวางทางนรีกุลจนเกือบทำให้ หญิงสาวต้องเซไปอีกทาง
นัฐธวีร์ย่อกายลงในท่าคุกเข่าขากำยำของเขา ชายหนุ่มชันขาขึ้นข้างหนึ่งขณะที่มือข้างขวาของนัฐธวีร์ล้วงหยิบ แหวนเงินเกลี้ยงเกลาออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา
นรีกุลอดรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบระเบิดออกมา นอกอกไม่ได้ ทันทีที่หญิงสาวที่ได้เห็นท่าทีของชายหนุ่มคุกเข่าในท่าที่เธอฝันใฝ่มานานแสนนาน
“แต่งงานกันนะ” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำจนลามไปถึงติ่งหูของเขา
ดวงตาคู่เรียวรีสีสนิมของนัฐธวีร์มองสบสายตากับดวงตากลมแป๋วราวกับเมล็ดอัลมอนด์ของนรีกุลยังไม่ทันที่นรีกุลจะได้กล่าวอะไรต่อนั้นมือหนาของชายหนุ่มพลันเอื้อมมาจับมือเรียวขาวละเอียดของหญิงสาวไว้อย่างอ่อนโยน
นรีกุลสะดุ้งเล็กน้อยหัวใจของหล่อนยามนี้เต้นแรงมากราวกับเธอได้ฟังเพลงแดนซ์สายย่อในเวลานี้
ดวงตาของนัฐธวีร์เปล่งประกายวาววับยามเมื่อเวลานี้เขาได้เอ่ยปากขอหญิงสาวที่ตนเองคบมาหกปีแต่งงานโดยที่สาวเจ้าไม่ทัน ได้รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อนว่านัฐธวีร์จะแอบซื้อแหวนแต่งงานให้เธออย่าง ลับ ๆ
“วีร์อย่าล้อนุ่นเล่นซิคะ”นรีกุลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้นขำ ในสีหน้าของชายหนุ่มพลางหันหน้ามามองเขาด้วยใบหน้าขึ้นสีจัดราวลูกมะเขือเทศ
ดวงตะวันยอแสงอาบท้องเวหาให้กลายเป็นสีแดงฉานเจือสีส้มระเรื่อแสงจากหน้าต่างเล็ดลอดเข้ามาสะท้อนกับเรือนไหมของหญิงสาวที่เวลานี้กำลังหน้าแดงระเรื่อจัดราวลูกตำลึงสุกก่ำ ๆ
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที
Comments