ฉันแกล้งแหย่ลุงไปอย่างนั้นเอง แต่ลุงกลับยิ้มที่มุมปาก
"เดี๋ยวลุงต้องคิดเผื่อไว้บ้างแล้วแหละ" "หมายถึงหนูเหรอคะ" "ก็ใช่นะสิ หนูดาทั้งสวยแถมลุงก็ยังสนิทกับตาของหนูอีกนะ คิดดูสิถ้าปองดองกันจะลงตัวขนาดไหน" "ลุงหนูพูดเล่น" "ลุงคิดจริงนะเนี่ย" "หนูกลับก่อนดีกว่า" "ฮ่าๆ กลับดีๆนะหนู" "หนูเอานี่กลับไปให้ตาชิมค่ะ" "อร่อยเดี๋ยวลุงทำให้กินใหม่นะ" "จ๊ะลุง" ฉันเดินกลับบ้านงงๆ ถือถุงขนมที่ลุงให้มา "ตา ลุงพลเขาฝากขนมมาให้" "ลุงพลข้างบ้านเราหรอลูก" "จ๊ะตา" "อร่อยดีนะ ลุงพลเขาเก่งนะลูก ทำขนมก็เป็นแถมยังโสดอีกด้วย ฐานะก็ดี ถึงจะแก่หน่อยก็เถอะ" "เดี๋ยวนะ ตาพูดอะไรเนี่ย" "ตามองคนไม่ผิดหรอกลูก" "ตาหมายความว่าไงคะ" "เอ้า ที่ลุงพลมาหาตาบ่อยๆก็เพราะหนูนั่นแหละ" "เพราะหนูหรอคะ" "อื้ม เขามองหลานตามาสักพักใหญ่ๆแล้วล่ะ ก็เลยมาขอหนูกับตา แต่ว่าตากลัวหนูจะกลัวก็เลยยังไม่บอก" "ตา...แต่อายุเราต่างกันมากเลยนะคะ" "ต่างแล้วยังไงลูก เขารักหนู อยากดูแล...แล้วตาเองก็แก่ขนาดนี้จะอยู่กับหนูได้นานแค่ไหนก็ยังไม่รู้เลย" "ตา...ทำไมพูดแบบนี้คะ" "ลองไปคิดดูนะลูก" ฉันไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็แอบเอาเก็บมาคิดเหมือนที่ตาบอกจริงๆ สถานการณ์ตอนนี้ของฉันแทบจะไม่ดีเลย ถ้าวันหนึ่งขาดตาไปจริงๆจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร ฉันตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อทดสอบลุงพลในวันต่อมา "ลุงพลคะ" "อ้าวหนูดา มาบ่อยนะเรา มีอะไรหรือลูก" "หนูจะมาถามว่าวันนี้ทำขนมอีกไหมคะ" "อ่อ ทำไมละหนู หรือว่าตาอยากกิน" "ดาอยากกินค่ะ" "เหรอ งั้นเดี๋ยวลุงทำให้เลย แต่ว่าอาจจะนานหน่อยนะหนู เดี๋ยวลุงไปเตรียมของก่อน" "เดี๋ยวดาช่วยค่ะ" "เอางั้นเหรอ ได้ๆ" ฉันทำขนมกับลุงพลเสร็จก็ขอบางส่วนเตรียมเอากลับบ้าน "เดี๋ยวหนูดา" "คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ" "ถ้ามีอะไรให้ลุงช่วย บอกได้ตลอดเลยนะหนู" "ได้ค่ะ ถ้ามีหนูจะบอกลุงพลเป็นคนแรกเลย" ฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่าลุงพลหน้าแดง แกก้มหน้าไม่สบตาฉันก่อนที่จะหันไปทำอย่างอื่นต่อ "หนูกลับก่อนนะคะ" "จ๊ะ กลับดีๆนะหนู" "เป็นไงละลูก ได้อะไรมา" "ขนมเทียนค่ะ" "ลุงพลทำให้อีกละสิ" "ค่ะ ลุงเค้าใจดีนะคะตา" "เห็นไหมตาบอกแล้ว" "หนูจะลองเอาไปคิดดูค่ะตา แต่ว่าตอนนี้ตาต้องกินข้าวก่อนนะ" "ฮ่าๆ ได้ๆ" หลังจากตากินข้าวเสร็จฉันก็ขึ้นบ้านไปอาบน้ำชำระร่างกายเตรียมตัวเข้านอน "ลุงพลก็อบอุ่นเหมือนกันแฮะ" ฉันพูดกับตัวเองและยิ้มออกมา วันต่อมาลุงพลมาเยี่ยมตาที่บ้านตอนฉันเลิกงานกลับมาพอดี "อ้าวหนูดา กลับมาแล้วเหรอ" "จ๊ะลุง" "แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง ลุงทำกับข้าวมาฝากตาหลายอย่างเลยมากินด้วยกันสิ" ฉันมองกับข้าวหลายอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ "โห น่ากินจังเลยค่ะ" "ลุงพลมากินด้วยกันสิคะ กินหลายคนอร่อยจะตาย" "นั่นสิ มากินด้วยกันเจ้าพล" "ครับลุงมั่น" "อ่ะ กินเยอะๆนะหนู" ลุงพลพูดพร้อมกับตักกับข้าวมาใส่จานให้ฉัน "ขอบคุณค่ะ" เป็นจังหวะเดียวกันที่ฉันและลุงพลเผลอสบตากัน "อะหื้มมม" เสียงตากระแอมขึ้นพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก "อะไรเล่าตา" "เปล่า ไก่มันติดคอหนะ" ฉันส่งสายตาค้อนให้ผู้เป็นตา "ลุงมั่นคงไม่ลืมที่ผมพูดกับลุงวันนั้นใช่ไหมครับ" "ไม่ลืมๆ อยู่ที่เจ้าตัวเขานี่แหละจะยังไง" จู่ๆลุงพลและตาก็พูดขึ้น และฉันก็เดาได้ว่ามันหมายถึงอะไร จนทั้งสองหันมามองฉันเป็นตาเดียว "อะไรคะ มองหนูทำไมกัน" "ว่าไงเราหนะ จะตกลงไหม" "เรื่องอะไรเหรอคะ" ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ "ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยเรา ตาบอกหนูไปแล้ววันก่อน" "ตา หนูอายเขา" "ก็เรามัวแต่เล่นตัวแบบนี้ไง ตามองปาดเดียวก็รู้ว่าเราสองคนแอบชอบกันตั้งนานแล้ว" "ตา...หยุดพูด" "เอาเถอะครับลุงมั่น ผมไม่รีบอะไร...รอได้ครับ" "ลุงพลก็เล่นไปกับตาอีกคนหรอคะ" "เปล่าลุงก็แค่ไม่อยากไปเร่งรัดอะไร ลุงพูดจริงๆ" "รู้ค่ะ แต่ว่าดาอายนี่คะ" "แล้วจะให้ลุงทำยังไง" "อ้าว สองคนคุยกันไปนะตาอิ่มแล้วขอตัวก่อน" "ตาเดี๋ยว" "คุยกันไปเถอะ ตาง่วงแล้ว" ตาโบกมือเดินเข้าบ้านไปโดยทิ้งให้ฉันอยู่กับลุงพลสองต่อสอง "ลุงอิ่มหรือยังคะ" "อิ่มแล้ว" "'งั้นดาเก็บเลยนะคะ" "เอาสิ" ฉันเก็บถ้วยชามและเดินออกมาหาลุงพลที่กำลังนั่งรออย่างเงียบๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันต่อ จนเวลาผ่านไปสักพักฉันจึงพูดขึ้น "ลุงจะกลับเลยไหมคะ" "ทำไม..." "หนูจะเดินไปส่งค่ะ" "อ๋อ...ไปสิลุงก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน" "นำไปสิคะ" ขณะที่เดินไป "หนูดารังเกียจลุงไหม..." "รังเกียจทำไมคะ" "ลุงแก่ปูนนี้แล้วยังมาชอบเด็กอีก รู้สึกยังไง..." "ก็เฉยๆค่ะ ดาไม่ติดอะไรหรอก" "หมายความว่า หนูดาจะให้โอกาสลุงใช่ไหม" "ค่ะ ดาจะให้โอกาส" "จริงๆนะ ห้ามโกหกคนแก่นะหนู" "พูดจริงค่ะ" "ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ลุงจะไปส่งหนูที่ทำงานดีไหม" "ก็ได้ค่ะ ลุงพูดแล้วนะ" "สัญญาเลย" เช้าวันต่อมา... ลุงขับรถมาส่งฉันที่ทำงานตามปกติแต่ที่ไม่ปกติคือฉันเองเพราะมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ลุงพลเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและเป็นผู้ใหญ่มาก "ลุงกัลก่อนนะ ตั้งใจทำงานนะหนู" "ขอบคุณค่ะลุง" "เปลี่ยนจากลุงเป็นเรียกพี่ได้ไหม" "ลุงพูดอะไรเนี่ย" "ล้อเล่น เรียกลุงเหมือนเดิมแหละดีแล้ว" "ค่ะ งั้นดาไปทำงานก่อนนะคะ" "จ๊ะ เดี๋ยวตอนเย็นลุงมารับนะ" ฉันพยักหน้าให้ลุงก่อนจะเดินเข้ามาในออฟฟิศ แล้วหลังจากนั้นลุงพลก็มารับ-ส่งฉันทุกวัน ฉันเริ่มเปิดใจให้ลุงทีละน้อยๆ ดั่งโบราณว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกล่อน จนเวลาผ่านไป1ปีเต็ม ลุงพลก็ได้มาสู่ขอฉันตามประเพณี เป็นความต้องการของฉันเองที่ไม่อยากจัดงานแค่ผูกข้อไม้ข้อมือรับรู้กับทั้งสองฝ่ายก็เพียงพอแล้ว วันที่ลุงพลรอคอยก็มาถึงสักทีหลังจากที่ตามจีบฉันมา1ปี แถมลุงพลยังเป็นสุภาพบุรุษไม่รังแกฉันด้วยนะ ผู้ชายแบบนี้หายากมากเลยล่ะ คืนเข้าหอ... ฉันกับลุงพลเราผูกข้อมือเล็กๆรับรู้กับภายในครอบครัว มีผู้ใหญ่และแขกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น พอเสร็จพิธิเราทั้งสองก็เข้าหอด้วยกัน งานพิธีจัดขึ้นที่บ้านของลุงพลเพราะบ้านของฉันออกจะคับแคบ และตาก็เสนอให้ใช้บ้านของลุงพลเป็นเรือนหอซะเลยจะได้สะดวกกับคนทั้งสอง ส่วนตาก็ค่อยมาเยี่ยมเยือนกันเอาเพราะบ้านก็อยู่ไม่ไกลกันเดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึง "ลุงเหนื่อยไหมคะ" "ก็นิดหน่อยจ๊ะ แต่ได้เจอหน้าหนูดาลุงก็หายแล้วล่ะ" "เดี๋ยวหนูไปอาบน้ำก่อนนะ" "ให้ลุงช่วยอาบไหม..." "ลุง หนูยังไม่ชิน อย่าเพิ่งสิคะ" "อย่าอะไรกัน...เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ ใจคอจะไม่ให้ลุงชื่นใจสักนิดเลยหรอ" "แต่ว่าหนู..." "ลุงรอมา1ปีแล้วนะ คืนนี้อย่าห้ามลุงเลยนะเด็กดี..." ลุงพูดใส่ข้างหูของฉันด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "นะครับเด็กดีของลุง" "ดะ ได้ค่ะ แต่นี่เป็นครั้งแรกของหนู ลุงเบาๆหน่อยนะคะ" "ลุงรู้" "รู้เหรอคะ" "ทำไมจะไม่รู้ล่ะ หนูดาเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ตั้งแต่โตมาก็ไม่เคยเห็นจะมีแฟนกับเขาเลย หนูอยู่ในสายตาลุงตลอดแหละ" "ลุง...หือออ" ลุงหอมแก้มฉันเบาๆ "ลุงถอดให้นะ" ลุงพลค่อยๆถอดเสื้อผ้าของฉันออกช้าๆ ตั้งแต่เสื้อและกางเกง โดยที่ฉันเอาแต่ยืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับนิ่งจนร่างกายของฉันเหลือเพียงแค่ชุดชั้นใน แกก็หันไปถอดเสื้อผ้าของตัวเองตามจนเหลือแค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว "ลุงพล..." "ไม่ต้องกลัว ลุงจะค่อยๆให้หนูเรียนรู้ไปพร้อมกับลุงเอง" "ค่ะลุง" ลุงพลอุ้มฉันเข้ามาในห้องน้ำที่มีอ่างเตรียมเอาไว้ ในอ่างเต็มไปด้วยฟองน้ำสีขาวที่มีกลิ่นหอบ ลุงพลค่อยๆวางฉันลงในอ่างอย่างทะนุถนอม ฉันนั่งลงในอ่างก็รู้สึกว่าน้ำเย็นมากจนฉันสะดุ้ง "น้ำน่าจะเย็นหน่อยนะหนู เดี๋ยวหลังจากนี้จะค่อยๆร้อนขึ้นเอง..." "ลุงพูดบ้าอะไรเนี่ย" "ลุงตลกเหรอหนู" ลุงพลจ้องเข้ามาในตาลึก แกส่งสัญญาณบอกว่าที่พูดนั้นไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย "ลุงถอดให้นะ" ไม่พูดเปล่าลุงพลค่อยๆใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในตัวจิ๋วของฉันหลุดติดมือออกไปอย่างง่ายดาย ข้อมือเล็กถูกดึงเข้าหาตัวเองก่อนที่ตัวของฉันจะทับอยู่ที่ตัวของลุงพลในท่าที่ฉันนั่งคร่อมอยู่ด้านบน จุ้บ "อื้มมมม" ลุงพลกระกบจูบปากฉันอย่างนุ่มนวล มือใหญ่กอดรัดและบัดเคร้นที่แผ่นหลังเราเบาๆ "อื้อออ" ลิ้นร้อนแทรกควานเข้ามาหาความหวานในโพรงปากและดูดกินเป็นระยะ ฉันหอบหายใจหนักๆเหมือนกับว่าจะขาดอากาศหายใจ ลุงพลยังคงกดจูบซ้ำแล้วซ้ำแล้วเหมือนคนอดอยากมานานแสนนาน มือใหญ่เคลื่อนต่ำลงมาตรงกลางของหว่างขาของฉัน และใช้นิ้วสะกิดเม็ดยอดดวงใจของฉันจนต้องสะดุ้ง "อุ้ย" "ถ้าลุงจับตรงนี้หนูจะเสียวมากกว่านี้" "ค่ะ อื้อออ" "ซี๊ดดดด หนูดาเซ็กซี่มากลุงจะอดใจไม่ไหวแล้ว" "ลุงพล..." ลุงพลไซร้ซอกคอทั้งสองข้าง และสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดสลับกับด้านล่างก็บดขยี้ยอดดวงใจของฉันเป็นจังหวะ "อ๊าส์ ลุงจ๋า..." "อื้มมม" ลมหายใจที่ร้อนระอุค่อยๆเลื่อนต่ำลงมาไหลปลร้าคู่งามและไม่นานลิ้นร้อนก็หยูดอยู่ที่ขอบเสื้อชั้นในสีแดงเพลิงที่ปิดบังอกงามของฉันเอาไว้ "ลุงขอกินหน่อยนะ" "อื้ออ" ลุงพลใช้มือเพียงข้างเดียวปลดตะขอหลุดออกไปอย่างง่ายดาย ไม่านริมฝีปากนุ่มก็ครอบครองอกอวบสีชมพูสลับไปมาทั้งสองข้างจนหนำใจ ลุงพลทั้งดูดทั้งตวัดปลายลิ้นระรัวสลับกับขยี้ยอดปลายประทุมถันอย่างเมามันส์จนฉันต้องร้องครางออกมาด้วยความเสียวที่ค่อยๆพุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ "อ๊าส์ อ๊ะลุงจ๋า" "ซูดดดดด เสียวไหมหนูดาของลุง" "เสียวค่ะ อื้ออออ" "ลุงปวดไปทั้งแท่งแล้วหนูดา...ทรมานเหลือเกิน" "ลุงพล...หนูดาเสียว อื้มมม"สวัสดีค่ะเราชื่อนุช เป็นสาวสุดจี๊ดประจำซอย อายุ24ปี เรียนใกล้จะจบแล้วค่ะ บ้านเราพอมีฐานะและพ่อกับแม่ค่อนข้างตามใจ เราชอบแต่งตัวแซ่บๆ เช่นเสื้อสายเดี่ยวกางเกงขาสั้น ชุดที่เปิดเผยอะค่ะ ในซอยเราจะมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เราไม่ค่อยชอบเพราะพวกนั้นชอบมาแข่งรถเสียงดังสร้างความรำคาญให้ชาวบ้านบ่อยๆ เราเคยเกือบจะมีเรื่องกับพวกมันเพราะนอกจากเราจะแซ่บในเรื่องการแต่งตัวแล้วเรายังปากแซ่บอีกด้วย วันนั้นเพื่อนมาส่งเราที่หน้าปากซอย เพราะทางเข้าบ้านค่อนข้างแคบเราเลยไม่ให้เพื่อนเข้ามา เราต้องเดินผ่านวัยรุ่นกลุ่มนี้และตามคาดพวกมันส่งเสียงแซวเรามาตลอดทาง เราทำท่าจะถอดรองเท้าปาใส่พวกมัน พวกมันก็หัวเราะพอใจราวกับว่าได้แกล้งให้เราโมโหได้สำเร็จ เป็นแบบนั้นอยู่บ่อยครั้งเมื่อเราเดินผ่านจุดนั้น ถามว่าเรากลัวไหมก็ไม่...ก็แค่พวกขยะสังคมที่วันไม่ทำอะไรเอาแต่แข่งรถส่งเสียงหนวกหูน่ารำคาญ ดึกคืนหนึ่ง... วันนี้เราต้องกลับบ้านดึกเพราะที่มหาลัยมีกิจกรรม วันนี้เราใส่กระโปรงทรงเอสั้นจนเกือบเห็นก้น เสื้อนักศึกษารัดๆฉบับสาวแซ่บ เรารีบเดินเพราะว่ามันค่อนข้างมืด ข้างทางมืดสนิทและไม่มีผู้คนสัญจรไปมา เงียบสนิท ยังไม่ทันจ
สวัสดีค่ะ มะปราง หรือจะเรียกปรางเฉยๆก็ได้ค่ะ ปรางเป็นเด็กต่างจังหวัดที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเด็ก ปรางไม่มีพี่น้องเป็นคนลูกคนเดียวค่ะ ตั้งแต่ที่พ่อแม่แยกทางกันปรางก็อาศัยอยู่กับแม่ จนอายุครบ18 ก็บอกกับแม่ว่าจะขอเข้ามาทำงานในเมือง แต่ปรางก็ยังติดต่อแม่ปกตินะคะ ส่งเงินให้ใช้บ้าง บางครั้ง เพราะรายได้ของปรางเองก็ได้มากมายอะไร วันหนึ่งมีคนโทรมาหาปราง บอกว่าแม่ป่วยเข้าโรงพยาบาล ต้องใช้เงินรักษาจำนวนหนึ่ง และจำนวนที่ว่านั้นสำหรับปรางแล้วก็มากโขเลยค่ะ ตอนนั้นปรางไม่มีเลย สิ่งเดียวที่คิดได้ก็คือเงินกู้รายวันที่พวกเจ้าถิ่นขาใหญ่เอาใบมาเสียบไว้ตามรั้วบ้านและเสาไฟ ปรางตัดสินใจสุ่มมา1ใบ และกดโทรไป เขารับสายและเราก็ได้ยอดกู้มาจำนวนหนึ่ง เขาบอกว่าจะให้คนเอาเงินเข้ามาให้ ไม่นานก็มีชายสวมชุดหนังสีดำขี่มอไซค์เข้ามาหน้าตึก เราลงไปรอด้านล่างก่อนที่เขาจะยื่นซองน้ำตาลให้ พอครบกำหนดวันจ่ายที่ต้องคืนเงิน ปรางหาเงินคืนไม่ทัน จำนวนเงินก้อนรวมดอกมันเพิ่มขึ้นเท่าตัว วันนั้นโดนลูกน้องเขาตามมาทวงเงินที่ห้องพัก เรากลัวมากแอบไปหลบในห้องเพื่อนที่ทำงานด้วยกันถึงรอดมาได้ เช้าวันต่อมา... เราไปทำงานปกติ แ
สวัสดีค่ะ ดาวเป็นอาจารย์สอนเด็กมหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ดาวเพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ประมาณ1เดือนแต่ยังไม่ชนกับเด็กๆที่นี่เท่าไหร่ เพราะว่าเด็กค่อนข้างซน ดาวสอนเด็กปี.1ค่ะ คงเพราะแบบนี้ก็เลยเจอเด็กที่เกเรและดื้อบ่อยๆ เพราะพวกเขาเองก็คงจะยังปรับตัวเข้ากับดาวไม่ได้เช่นกัน เด็กบางห้องน่ารักบอกสอนง่าย แต่บางห้องก็ดื้อ เอาเรื่องเลยละค่ะ แต่ดาวก็คิดว่าตัวเองรับมือได้นะ พี่เก้า เป็นรุ่นพี่ มาตั้งแต่สมัยเรียน พี่เก้าสอนเด็กที่มหาลัยนี้เหมือนกันค่ะ ก็เลยพอจะมีเพื่อนคุย ปรับทัศนคติกันบ้างเวลาที่เจอปัญหา ดาวเป็นสาวเปรี้ยว ชอบแต่งหน้า แต่งตัว และกระโปรงที่ดาวใส่ก็มีแต่สั้นๆ จริงๆดาวโดนตักเตือนไปแล้วรอบนึงนะคะ แต่ด้วยความชอบก็เลยก็จะใส่ยาวเลยก็ไม่ได้ ดาวจึงขอว่าจะยอมใส่ยาวลงมาอีกนิดหน่อยเท่านั้น ทางมหาลัยจึงไม่ว่าอะไร ยอมให้เราใส่ได้ คาบเรียน "มึงดูต้นขาอาจารย์สิ ขาวไหมมึง" "เออ ก็อาจารย์ใส่สั้นขนาดนั้น" "มึงว่าข้างในจะขาวขนาดไหนว่ะ" "กูก็อยากรู้เหมือนกัน" "อูยยย อาหารขยับแล้วๆ นั่นกางเกงในสีขาววะมึง" "โห ขาวมากกก" เคว้ง!!! เสียงดาวเอาแปรงลบกระดานโยนลงพื้นเองค่ะ ดาวเห็นพวกเด็กๆมองกระโป
สวัสดีค่ะ ป้าชื่อสายใจ อายุเข้าเลข4แล้ว ป้ามีอาชีพขายอาหารตามสั่งในหมู่บ้าน พอได้หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพราะสามีของป้าติดคุกตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ป้าก็เลยเลิกกับมัน มันติดคุกเพราะขายยา วันรั้นป้าเกือบซวยไปด้วยเพราะในบ้านมีแต่ป้าอยู่มันแอบหนีออกไปหลังบ้านตอนตำรวจลง ดีที่แม่ของป้ามาช่วยพูดให้และให้ป้าช่วยล่อมันมาเพราะเด็กๆแถวนี้โดนมันหลอกขายยาให้และเสียอนาคตไปหลายคนแล้ว สุดท้ายป้าก็ต้องอยู่คนเดียว และไม่ยอมมีผัวใหม่อีกเลย "สั่งข้าวหน่อยครับ" ป้ากำลังนั่งคิดเพลินๆก็มีลูกค้าเข้าร้าน "รับอะไรดีคะ" "กระเพราหมูกรอบจานนึงครับ" ป้าพยักหน้าก่อนจะไปทำให้เขา แต่วันนี้ลูกค้าไม่ค่อยมี คนนี้เป็นคนแรก ป้าก็เลยทำให้เขาเยอะหน่อย ลูกค้าคนนี้เขาชื่อ สนิท อายุน่าจะรุ้นเดียวกันกับป้านี่แหละ เป็นพ่อหม้ายเมียของเขาเสียไปได้หลายปีแล้ว เขามาเป็นลูกค้าประจำของป้า พอเขาเรียกเก็บเงินป้าก็รีบลุกขึ้นแค่น่าจะเพราะรีบเกินไปตอนลุกก็เลยเวียนหัวดีที้ได้ลุงสนิทมาช่วยไว้ทัน "ขอบใจ พักนี้เป็นเพลียๆจะลุกจะเดินยากลำบากเสียจริง" "ไหวไหมครับให้ผมพยุงเข้าไปพักในบ้านไหม" "ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวลูกค้ามาไม่เจอจะแย่เอา" "น่
สวัสดีครับ ผมชื่อสน อายุ27ปี วันนี้ผมมีเรื่องที่เกิดขึ้นมาไม่นานมานี้จะมาเล่าให้ทุกคนฟัง ผมเคยเป็นลูกจ้างในร้านอาหาร เป็นลูกมือคอยช่วยหยิบจับของในร้าน ซึ่งเป็นร้านของลุงกับป้าผมเอง ท่านเป็นญาติห่างๆของผมอีกทีนะครับ ลุงกับป้ามีลูกสาวอายุ18ปี ชื่อพราว แรกๆผมไม่ค่อยสนิทกับพราวเท่าไหร่เพราะเธอไม่ค่อยพูดครับ ในส่วนร้านจะอยู่ด้านล่าง ส่วนชั้นสองจะเป็นห้องนอนครับ หลังจากนั้นผมก็ทำงานไปเรื่อยๆจากวันเป็นปี นานวันเข้าก็ปาเข้าไปปีกว่าๆ จนผมและพราวเริ่มสนิทกัน พราวปฏิบัติกับผมเหมือนพี่น้องไม่เหมือนเจ้านายกับลูกจ้าง เวลาเธอได้กินอะไรดีๆก็มักจะนึกถึงผมอยู่บ่อยๆ พราวใกล้จะจบมัธยมปลายแล้วและเธอก็เริ่มจะเป็นสาว พราวเริ่มแต่งตัวและออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ่อยๆ เธอเริ่มแต่งตัวเซ็กซี่ขึ้น โชว์มากขึ้น และชอบใส่กระโปรงสั้นๆเดินไปเดินมาในบ้านราวกับว่าไม่มีคนอื่นอยู่เลย ลุงกับป้าค่อนข้างจะตามใจพราวมาก ไม่ว่าเธอจะทำอะไร แต่งตัวแบบไหน ท่านก็ไม่เคยบ่นหรือดุด่าพราวเลยสักครั้ง ผมอยู่ที่นี่มานานจนรับรู้นิสัยใจคอทุกคนในบ้านนี้หมดทุกคนครับ และวันหนึ่งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ วันนั้นลุงกับป้าต้องออกไปทำธุระข
สวัสดีค่ะเราชื่อเจ้าขา เป็นลึของแม่เมยและมีพ่อเลี้ยงชื่อสักดา ปีนี้เราอายุ23ปีแล้วค่ะ แม่ของเราแต่งงานใหม่ตั้งแต่เราอายุได้แค่5ขวบ และพ่อเลี้ยงก็เป็นคนเลี้ยงเรามาเหมือนพ่อแท้ๆ จนเหมือนเป็นพ่อลูกกันจริงๆ พ่อเลี้ยงท่านใจดีมาก ตั้งแต่เด็กๆพ่อก็ตามใจเราทุกอย่างไม่ว่าอยากได้อะไรก็ซื้อให้เรา เราโตมาได้เพราะเขาจริงๆ ส่วนมากพ่อเลี้ยงจะอยู่กับเรามากกว่าแม่เพราะแม่ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดบ่อยๆตามหน้าที่การงานที่แม่ทำอยู่ จนแทบจะไม่มีเวลาให้เรา ช่วงที่เราอายุเข้า16-17 ตอนนั้นเราเริ่มมีเพื่อน ติดเพื่อน ก็ได้พ่อเลี้ยงเรานี่แหละคอยตามจนพักหลังๆเราก็แอบคิดว่าพ่อเค้าหวงเราหรือเปล่า หวงแบบที่ไม่ใช่ฐานะพ่อลูกแต่เป็นชายหญิง พ่อมักจะบอกเราบ่อยครั้งว่าข้างนอกมันอันตราย พวกผู้ชายก็ไว้ใจไม่ได้ เราเชื่อพ่อเลี้ยงจนพักหลังไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเลย จนนานเข้าเราก็อึดอัดวันๆก็ต้องอยู่แต่บ้าน ไม่มีอะไรให้ทำ วันนั้นเราบอกพ่อเลี้ยงว่าจะออกไปหาเพื่อนแถวๆนี้ เพราะบ้านเพื่อนอยู่ไม่ไกล แต่พ่อไม่ให้เราไปบอกว่านี่ก็ใกล้มืดมันอันตราย ถ้าเราดื้อไม่เชื่อฟังจะฟ้องแม่ วันนั้นเราโกรธมาก ปกติพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดกับเร