ห้องผู้ป่วยวิกฤตที่โรงพยาบาล ร่างกายของเว่ยเจินถูกห่อหุ้มไปด้วยผ้าพันแผล บริเวณดวงตาที่เปิดอยู่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเปลือกตาบวม ลูกตาโปน และเต็มไปด้วยเลือด... นิ้วของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล และเห็นได้ชัดเจนว่านิ้วของเขาหายไป รุ่ยลาและเสี่ยวหานไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป และบอดี้การ์ดก็เฝ้าพวกเขาอยู่ข้างนอก อิ๋นอิ๋นเดินตามเข้ามา เธอเปิดตาเรียวที่สดใสแล้วจ้องมองไปที่คนบนเตียงผู้ป่วย เธอพยายามสังเกตบุคคลนั้น แต่เธอจำไม่ได้ว่าเป็นใคร “นี่... นี่ใครคะ?” เสียงของเธอเล็ดลอดออกมาจากลำคอเบา ๆ ด้วยกลัวว่าจะรบกวนคนบนเตียงผู้ป่วย ไมค์หันกลับมาและเห็นว่าเธอดูหวาดกลัวจึงพยุงเธอเดินไปที่ประตู “นี่คือเว่ยเจิน อิ๋นอิ๋น เธอออกไปข้างนอก...” “ฮือ ๆ!” อารมณ์ของอิ๋นอิ๋นดิ่งลงทันที เธอผลักไมค์ออกไปแล้วเดินอย่างรวดเร็วไปที่ข้างเตียงพลางน้ำตาไหลอาบ “เว่ยเจิน! เว่ยเจิน คุณเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ใครรังแกคุณ? ฮือ ๆ ๆ!” อิ๋นอิ๋นอยากจะจับมือของเขา แต่กลัวสัมผัสบาดแผลของเขา สุดท้ายเธอทำได้เพียงจับผ้าห่มไว้ “ครั้งก่อนที่คุณให้ดอกทานตะวันฉัน... คุณบอกว่ามันคือความหวัง... ตอนนี้ฉันขอคืนความหวังให้คุณ
ไมค์เอ่ยปาก “เฮ้ คุณจะไปหาใคร? ที่นี่คือประเทศบี คุณคุ้นเคยกับที่นี่มากหรือไง?” ฟู่สือถิง “ขอแค่มีเงินก็ทำได้ทุกอย่าง คำพูดนี้ใช้ได้ทั่วโลก ตราบใดที่ผมยินดีจ่าย ก็มีคนมากมายยอมทำงานหนักให้ผมแล้ว!” ไมค์เห็นเขาทำตัวเย่อหยิ่งราวกับเป็นพระเจ้าและถูกรัศมีของเขาข่มขู่ จึงลุกออกจากเบาะที่นั่งคนขับอย่างว่าง่าย แต่ไมค์ก็ไม่ลืมเยาะเย้ยเขา “วันนั้นที่สนามบิน ฉินอันอันเมินคุณ คุณร้องไห้เลยหรือเปล่า? ร้องไห้สินะ? ตอนนั้นผมน่าจะถ่ายฉากนั้นเอาไว้…” “ไปให้พ้น!” ฟู่สือถิงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ปิดประตูรถสุดแรง! ......วิลล่าสีขาว หลังจากที่ฉินอันอันตื่น ก็ได้รับรายงานอาการป่วยของเว่ยเจิน อาการบาดเจ็บบนตัวเว่ยเจินรวมแล้วมีอยู่หลายหน้า ฉินอันอันเปิดอ่านสักพักถึงอ่านจบ “คุณฉิน เขายังไม่ตาย พักฟื้นสักหน่อยก็หายแล้วค่ะ” ผู้หญิงที่รับผิดชอบในการจับตามองฉินอันอันยืนอยู่ข้าง ๆ และพูดประชด เว่ยเจินพ้นขีดอันตรายแล้วก็จริง แต่ร่างกายของเขาสิ้นสภาพไปแล้ว อาการบาดเจ็บมากมายไม่สามารถรักษาให้หายได้ ตัวอย่างเช่นนิ้วที่ถูกตัดออกไม่สามารถใส่กลับเข้าไปใหม่ได้ หรือเช่นการมองเห็นของเข
ฉินอันอันรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว! เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกแล้ว! ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนายแพทย์ฮัวถวอ*ก็ช่วยชีวิตคนตายไม่ได้หรอก! “คุณฉิน นี่คือลูกสาวสุดที่รักของผม เธอคือผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก” เสียงของอิ๋นหวังดังก้องอยู่ในหูของฉินอันอัน มันมีความประชดประชันและบ้าคลั่งอยู่เล็กน้อย “คุณรักษาเธอให้หายได้ใช่ไหม? ขอแค่คุณรักษาเธอได้ ผมยินดียกให้คุณทุกอย่าง!” ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเป็นสีแดง เธอผลักเขาออก “คุณมันบ้า! เธอตายไปแล้ว คุณจะให้ฉันรักษายังไง?! ฉันรักษาได้แค่คนเป็นเท่านั้น ฉันไม่เคยพูดเลยนะว่าฉันมีทักษะทางการแพทย์ที่เก่งจนทำให้คนตายฟื้นได้!” “มีคนบอกผมว่า คุณเป็นลูกศิษย์คนสนิทของหูชิง เธอบอกว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณเก่งกว่าหูชิงเสียอีก! ทำไมคุณจะรักษาคนตายไม่ได้ล่ะ?! ถ้าคุณไม่ลองแล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าทำไมได้?!” อิ๋นหวังกำแขนเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอไป “คุณฉิน คุณจะไปไหน? ต่อจากนี้ที่นี่คือบ้านของคุณ!” หัวใจของฉินอันอันรู้สึกราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง! ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่า คนป่วยที่ต้องการรักษาไม่ใช่คนในโลงน้ำแข็ง แต่เป็นคนที่มีชีวิตตรงหน้าเธอ! เขาไม่ใช่คนปกติ!
“ที่นี่คือประเทศบี กฏหมายของประเทศเอใช้กับผมไม่ได้หรอกนะ” อิ๋นหวังยังคงหัวเราะและพูดต่อไป “ที่พูดแบบนั้นมันก็จริงอยู่ แต่ว่าตอนนี้มีคนใช้เรื่องอื้อฉาวของพวกเรามาบีบให้พวกเราปกป้องเธอ! คุณต้องรีบปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” “ผมไม่ปล่อย” น้ำเสียงของอิ๋นหวังหนักแน่น “ผมจะให้เธอช่วยยืดอายุให้ผม เธอเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์ เธอจะต้องคิดหาวิธียืดอายุให้ผมได้แน่!” “คุณแน่ใจเหรอ?” “ผมแน่ใจ” อิ๋นหวังตอบ “งั้นคุณอย่าเพิ่งแตะต้องเธอ.... ต้องให้เธอมีชีวิตอยู่” สมาชิกสภากล่าว “ส่วนผมจะจัดการทางนี้อีกที ทางที่ดีคุณควรทำให้ผุ้หญิงคนนี้สมัครใจอยู่กับคุณ แบบนี้แล้วก็จะไม่มีช่องให้โจมตีได้!” “ผมรู้น่า!” รอยยิ้มบนใบหน้าอิ๋นหวังกลายเป็นเย็นชา ทำให้ฉินอันอันอยู่โดยสมัครใจงั้นเหรอ? แล้ววิธีไหนที่จะทำให้เธออยู่ที่นี่ต่อไปโดยสมัครกันล่ะ? ......ช่วงบ่าย ไมค์ไปพบฟู่สือถิงที่บริษัทบอดี้การ์ดที่พิเศษและลึกลับ ไมค์คิดไม่ถึงว่า ฟู่สือถิงไม่เพียงแต่มีเส้นสายที่แข็งแกร่ง แต่ความสามารถในด้านการจัดการก็โดดเด่นเช่นกัน ตอนนี้อิ๋นหวังพักอยู่บนภูเขาสูง บัดนี้ พวกเขาได้สร้างแบบจำลองทางภูมิศาสตร์อย่างละเอียดใ
“ฉินอันอัน!” เขากู่ร้องเรียกชื่อออกมาเธออย่างใจสลาย! ใบหน้าของเขาเย็นเฉียบราวกับใบมีด เปื้อนไปด้วยรังสีสังหารที่น่ากลัวและสยองขวัญ! เขาอยากไปช่วยเธอ! แต่เขากลับพบว่าถึงพวกเขาจะอยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ แต่ก็ห่างไกล! เขาได้ยินเสียงลมหายใจหนักหน่วงของเธอ เขามองเห็นความกลัวที่ขยายใหญ่ขึ้นในดวงตาของเธอ แต่เขาทำอะไรไม่ได้! เลือดในตัวเขาเดือดพล่านทันที เขาอยากจะสับชายที่รังแกเธอเป็นพัน ๆ ชิ้น! เลาะกระดูกแล้วเอาให้หมากิน! อีกด้านของวิดีโอ ฉินอันอันตกตะลึง นั่นมันเสียงฟู่สือถิง! ร่างกายของเธอหนาวเย็นไม่หยุด! เธอคิดไม่ถึงว่าอิ๋นหวังจะแอบถ่ายวิดีโอส่งให้ฟู่สือถิง! “สือถิง! อย่ามอง!” น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูไหลออกมาจากดวงตาของเธอ “ขอร้องล่ะ! อย่ามอง!” ฟู่สือถิงมองดูท่าทางที่ไร้ทางสู้และเจ็บปวดใจของเธอแล้ว หัวใจเขาเหมือนถูกบดขยี้จนแหลก! นิ้วมือของเขากำโทรศัพท์แน่น มีความเกลียดชังที่กระหายเลือดในดวงตา! “ผมจะรีบไปช่วยคุณ! ผมจะไปช่วยคุณเดี๋ยวนี้!” วินาทีที่เขาเอ่ยปาก น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างเงียบงัน มันไหลลงมาที่มุมปาก น้ำตารสขม! เขาไม่เคยลิ้มรสความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน ที่ได้เห็น
“ผมนัดหมายกับเธอบนเครื่องบินแล้ว ถ้าทางเธอไฟดับ นั่นเป็นสัญญาณที่พวกเราจะเข้าไปช่วยเธอ ถึงเวลานั้นให้เธอฉวยโอกาสที่กำลังวุ่นวายหามุมซ่อนตัว รอจนพวกเราเข้าไปแล้วฆ่าศัตรูให้หมดก็ช่วยเธอออกมาได้แล้ว!” “ถ้าไม่ทำลายระบบวงจรไฟฟ้าของพวกเขา และทำให้ระบบภายในเสียหาย พวกเขาจะต้องใช้เธอเป็นตัวประกันข่มขู่พวกเราแน่!” ……ภายในวิลล่า หลังจากวิดีโอถูกวางสายไปแล้ว เสียงของฉินอันอันก็หายไปเช่นกัน หลังจากที่เธอหยุดดิ้นรนขัดขืนไม่ร้องไห้แล้ว ความสนใจของอิ๋นหวังก็ลดลงเหตุผลทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนของเขานั่นเอง มีเพียงแค่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของเขาเท่านั้น เธอถึงจะยอมอยู่อย่างสมัครใจ และเหตุผลที่โทรวิดีโอหาฟู่สือถิง ก็เป็นเพราะเขาตรวจสอบเจอว่าฟู่สือถิงคือผู้ชายของเธอหากทำให้ฟู่สือถิงเห็นว่าเธอถูกเหยียบย่ำ ฟู่สือถิงไม่มีทางต้องการเธออีกแน่นอน “ทำไมคุณไม่ร้องแล้วล่ะ? คุณคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะมาช่วยคุณจริง ๆ เหรอ?” อิ๋นหวังยิ้มและตบหน้าเล็ก ๆ ที่เย็นชาของเธอ “คุณรู้ไหมว่ามีทหารซ่อนอยู่ในป่าด้านล่างวิลล่ากี่คน? ถ้าผมไม่อนุญาต ไม่มีใครสามารถเข้ามาในวิลล่าของผมได้!” “ลูกสาวคุ
ไมค์เอาสองมือปิดหน้า ทรุดตัวลงและร้องไห้ “ผมเสียใจมาก! ทำไมเมื่อคืนนี้ผมถึงได้พูดจาโหดร้ายกับเธอขนาดนั้น!” ฟู่สือถิงคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ดวงตาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดร้าว “ตอนนั้นเธอทั้งหวาดกลัวและทำอะไรไม่ถูกเอามาก ๆ ถึงผมจะไปช่วยเธอไม่ได้ในทันที แต่ก็ไม่ควรพูดออกมาเลย! เธอได้ยินคำพูดของผมจะต้องสิ้นหวังมากแน่ ๆ…” ไมค์รู้สึกผิดมากจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ลูกกระเดือกฟู่สือถิงขยับขึ้นลงพร้อมกับพูดด้วยเสียงแหบพร่า “หยุดร้องได้แล้ว! ทำลายระบบใกล้เสร็จรึยัง?”ไมค์เช็ดน้ำตาด้วยมือทั้งสองข้างแล้วเหลือบมองความคืบหน้าบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ “ใกล้แล้วล่ะ… เสร็จภายในเที่ยงคืนนี้แน่นอน ผมปวดหัวมาก ถ้าฉินอันอันตายแล้วจริง ๆ ผมจะทำยังไงดี?” ฟู่สือถิงเองก็ไม่กล้าตั้งสมมติฐานนี้ “คุณกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนเถอะ!” ไมค์มองตอเคราสีเขียวครึ้มที่คางของเขาที่โผล่ออกมา แล้วคิดว่าบางทีเขาอาจจะเจ็บปวดมากกว่าตัวเอง เพราะยังมีลูกที่ยู่ในท้องของฉินอันอันด้วยเขายืนอยู่ที่เดิม ท่าทางเหม่อลอย ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ไมค์พูด “คุณต้องกลับไปดูแลเด็กสองคนแล้วก็ยังมีอิ๋นอิ๋นอีก” ไมค์เพิ่มเสียงให้ดังขึ้น เขาถึงได้มีป
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมคะ? ฉันจะไปทำมื้อเที่ยงนะคะ” ป้าหงพูดพร้อมกับเดินไปที่ห้องครัว ฟู่สือถิงมองดูบ้าน ที่มีสไตล์การตกแต่งเป็นแบบมินิมอลและมีเค้าโครงที่ชัดเจนในการมองแค่แวบเดียว รุ่ยลาคิดว่าเขากำลังหาห้องอยู่ ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องรับแขกอย่างรวดเร็วแล้วชี้บอกทางเขา “คุณนอนในห้องนี้ค่ะ!” ฟู่สือถิงส่งเสียงตอบรับ แต่สายตาของเขากลับถูกกรอบรูปบนตู้ดึงดูด ในกรอบรูปคือภาพถ่ายครอบครัวทีมีจางหยุนและฉินอันอันนั่งอุ้มเด็กทารกด้วยกัน เขาเดินไปที่ตู้แล้วหยิบกรอบรูปขึ้นมาดูอย่างละเอียด มีคำว่า ‘พวกเราอายุครบหนึ่งขวบแล้ว’ เขียนไว้มุมขวาล่างของรูปภาพ เพราะฉะนั้น น่าจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตอนที่เด็กสองคนนี้อายุหนึ่งขวบ เด็กทารกอายุหนึ่งขวบสองคนนี้ คนหนึ่งสวมสูทจิ๋วสุดหล่อ อีกคนสวมชุดเจ้าหญิงสีขาว มีมงกุฎประดับบนศีรษะ… เห็นได้ชัดว่าเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ดังนั้น นี่คือเสี่ยวหานและรุ่ยลางั้นเหรอ? “คุณรีบมาเร็ว ๆ สิคะ!” รุ่ยลายืนอยู่ที่ประตูห้องรับแขกและตะโกนบอกฟู่สือถิง “มาดูเตียงที่หนูตกแต่งให้คุณสิคะ!” ฟู่สือถิงวางรูปถ่ายลงแล้วเดินหาไปรุ่ยลาทันที ห้องพักแขกที่อยู่ชั