เสิ่นอวี๋ตะลึง “???” น้ำที่เพิ่งดื่มลงไปแทบพุ่งออกมา! คายเงินทุกสตางค์ออกมานี่มันหมายถึงอะไร? เงินที่ฟู่สือถิงให้เธอมันเป็นของเธอแล้ว! จะให้คายมาจากไหน? “ฉินอันอัน ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณต้องการคืนเงินให้ฟู่สือถิง ดังนั้นคุณจึงต้องการเงินมาก” เสิ่นอวี๋กล่าวอย่างกังวล “แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะมาขอเงินจากฉัน! ฉันต้องใช้ความพยายามและเวลาเท่าไรในการรักษาอิ๋นอิ๋น…” “แต่คุณไม่ได้ทำการผ่าตัดให้อิ๋นอิ๋นนี่” ฉินอันอันพูดอย่างใจเย็น “ฉันแค่บอกให้คุณคายเงินสองพันล้านออกมา ไม่ได้บอกให้คุณคายดอกเบี้ยด้วย ผลประโยชน์เหล่านั้นถือได้ว่าเป็นผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนัก!” เสิ่นอวี๋ตกใจมากจนริมฝีปาแดงของเธอกระตุก แต่เธอก็พูดไม่ออก ‘น่าขัน!’ ‘ฉินอันอันไร้สาระมาก!’ “เสิ่นอวี๋ ไม่มีใครบอกคุณเหรอว่าไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ?” ฉินอันอันยิ้มเยาะ “ที่คุณโกงฟู่สือถิงนับว่ากล้ามาก แถมยังรับเงินจากเขาอีก คุณไม่กลัวตายเหรอ?” ดวงตาของเสิ่นอวี๋เบิกกว้าง เธอพูดด้วยความโกรธ “ฉินอันอัน อย่าพึ่งเอาความจริงที่ว่าคุณเป็นศิษย์คนสนิทของศาสตราจารย์ฟูชิงมาพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าฉัน! ยุคนี้เราให้ความสนใจกับหลักฐาน คุ
จินจือกรุ๊ป หลังจากที่เสิ่นอวี๋บอกหวังหว่านจือถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา หวังหว่านจือก็มีสีหน้าบูดบึ้งมาก “ฉันไม่มีเงินจะคืนเงินให้เธอมากขนาดนั้นหรอก!” หวังหว่านจือพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เงินหมดไปตั้งนานแล้ว ถ้าเธอไม่เชื่อก็ไปถามฝ่ายการเงินได้เลย! ดูสิว่าในบัญชีบริษัทยังมีสองพันล้านเหลือไหม!” เสิ่นอวี๋สูดลมหายใจ “หวังหว่านจือ มีดไม่ได้อยู่บนคอของป้า แน่นอนป้าต้องบอกว่าไม่มี! ถ้าป้าเป็นฉัน ป้าจะทำยังไง?” หวังหว่านจือหันมาต่อต้านเธอ “ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอ! ที่แม้กระทั่งเก็บเงินที่ตัวเองหามาได้ไว้ไม่อยู่! ถ้าเธอรู้ว่าตัวเองเก็บมันไว้ไม่ได้ เธอก็แค่หนีไปให้ไกล ๆ กับเงินสองพันล้านสิ!” “ตอนที่ป้าขอให้ฉันลงทุนกับป้า ป้าไม่ได้มีประพฤติแบบนี้นี่!” เสิ่นอวี๋รู้สึกราวกับมีไฟสุมขึ้นในใจ ฉินอันอันให้เวลาเธอเพียงสามวันเท่านั้น เธอต้องระดมเงินสองพันล้านให้ได้ภายในเวลาสามวัน! เธอไม่อยากให้ฟู่สือถิงรู้ความจริง ถ้าฟู่สือถิงรู้ความจริง เขาจะไม่ใช่แค่ทวงเงินธรรมดา ๆ! “แล้วเธอมาบอกฉันทำไม?! ถ้าฉันมีเงินมากขนาดนั้น ฉันคงคืนให้เธอไปแล้ว! เธอคิดว่าฉันจงใจสร้างเรื่องให้เธอเหรอ?” หวังหว่านจือ
ดวงตาของเธอแดงก่ำ ขณะที่กดหมายเลขที่ไม่ได้ติดต่อมานาน หลังจากต่อสายแล้ว ไม่ช้าก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาจากปลายสาย “คุณหมอเสิ่น คุณไม่ได้กดเบอร์ผิดใช่ไหม? คุณไม่ได้ติดต่อฉันมานานแล้ว ฉันนึกว่าคุณจำฉันไม่ได้แล้วเสียอีก! ฮ่า ๆ ๆ!” อีกด้านของโทรศัพท์คือเสียงหัวเราะอย่างภาคภูมิใจของถังเชี่ยน ถังเชี่ยนคือคนที่พาเธอมาที่นี่จากประเทศบีถังเชี่ยนบอกเธอว่า ตราบใดที่เธอเชื่อฟังเธอจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนมากกว่าประเทศบีแน่นอน! แต่ว่าเธอไม่เชื่อฟังถังเชี่ยน หลังจากที่เธอมีเบี้ยต่อรองกับฟู่สือถิง เธอก็เตะถังเชี่ยนออกไปทันที “ถังเชี่ยน คุณหัวเราะทำไม?!” “หัวเราะคุณไงล่ะ! คุณโดนเขี่ยทิ้งแล้ว” น้ำเสียงของถังเชี่ยนฟังดูมีความสุขเป็นพิเศษ “ตอนนี้ฉันบดขยี้คุณให้ตายเหมือนมดได้อย่างง่ายดาย แต่ฉันไม่อยากทำแบบนั้นเพราะว่าฉันไม่อยากให้มือที่สูงส่งของฉันต้องสกปรก” “จริงเหรอ?” เสิ่นอวี๋พึมพำ “แล้วคุณจะได้อะไรล่ะ? ฟู่สือถิงเป็นของฉินอันอัน! ไม่ใช่ของคุณ!” “ฮ่า ๆ ๆ! ฟู่สือถิงไม่ใช่ของฉันจริง ๆ นั่นแหละ แต่ตอนนี้คุณที่อยู่ข้างกายเขาไม่ใช่คุณแล้วก็ไม่ใช่ฉินอันอัน” ถังเชี่ยนพูดเน้นทีละคำ “เป็นฉัน คือฉั
เป็นข้อความจากธนาคาร บัตรธนาคารของเธอได้รับการเงินโอนจำนวนสองพันล้าน “อันอัน ฉันได้ยินว่าที่พวกเธอเลิกกันครั้งนี้เธอเป็นคนขอเลิก” หลีเสี่ยวเถียนคาดเดาว่า “เดาว่าเขาทำแบบนี้เพราะจงใจให้เธอโกรธ” ฉินอันอันได้รับเงินสองพันล้านแล้วรู้สึกอารมณ์ดี “เขามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้” เธอหยิบกล้วยออกมาจากชามผลไม้ ปอกเปลือกแล้วส่งให้หลีเสี่ยวเถียน หลีเสี่ยวเถียนไม่เต็มใจ “ยัยถังเชี่ยนนั่นหลอกหลอนไม่เลิกจริง ๆ! เธอเงียบไปปีกว่าแล้ว ฉันเกือบจะคิดว่าเธอไม่ได้ทำงานที่เอสทีกรุ๊ปอีกต่อไปแล้ว! เธอข่มอารมณ์ได้นิ่งมากจริง ๆ” ฉินอันอันมความประทับใจต่อถังเชี่ยนอย่างมาก ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้เจอกันมานานมากก็ตาม “ความรักที่ถังเชี่ยนมีต่อฟู่สือถิงนั้นยิ่งใหญ่กว่าฉันมาก” ฉินอันอันพูดทีละคำ “ฟู่สือถิงไม่ชอบเด็ก ดังนั้นเธอจึงเอามดลูกของเธอออกเพื่อให้ฟู่สือถิงวางใจ” หลีเสี่ยวเถียนตะลึงจนตาค้าง “ฟู่สือถิงกลับมาคบกับเธออีกครั้ง บางทีอาจเป็นเพราะเข้าใจแล้วว่าหาคนที่รักเขามากกว่าถึงจะเป็นทางเลือกที่ถูก” ฉินอันอันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก “แบบนี้ก็ดีแล้ว ชีวิตจะได้กลับสู่สภาพปกติ” ตอนที่เธอรู้จักกับฟู่
“พี่โจว ฟู่สือถิงยกเลิกบัตรธนาคารที่เขาใช้เป็นประจำหรือเปล่าคะ?” ฉินอันอันเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปทางโจวจื่ออี้ โจวจื่ออี้ผงะไปชั่วขณะ “เขาไม่เคยให้ผมจัดการเรื่องนี้ ดังนั้นผมเองก็ไม่ค่อยรู้ บัตรของเขาโอนเงินไม่ได้งั้นเหรอ?” ฉินอันอันพยักหน้า “พรุ่งนี้ผมไปทำงานแล้วจะไปถามให้นะ” โจวจื่ออี้พูดอย่างกระอักกระอ่วน “บางทีเขาอาจจะไม่อยากรับเงินจากคุณแล้ว!” “น่าสนใจจริง เขาอยากให้ฉินอันอันเป็นหนี้เขาไปตลอดชีวิตหรือไง?” หลีเสี่ยวเถียนพุ่งเป้าไปที่โจวจื่ออี้ “ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับถังเชี่ยนเป็นยังไงกันแน่? เฮ่อจุ่นจือบอกว่ากินข้าวด้วยกันครั้งก่อน เขาพาถังเชี่ยนไปด้วย” เหงื่อร้อนผะผ่าวแตกเม็ดบนหน้าผากโจวจื่ออี้ “…ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานไง! เขารู้จักกับถังเชี่ยนมานานแล้ว บางครั้งเขาก็เลยพาถังเชี่ยนไปทานข้าวด้วย” “คุณโกหก! เฮ่นจุ่นจือบอกว่าถังเชี่ยนตักอาหารให้เขา แล้วเขาก็กินมันด้วย… ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานในบริษัทของคุณเป็นแบบนี้งั้นเหรอ?” โจวจื่ออี้ตอบ “หลีเสี่ยวเถียน คุณไม่เห็นต้องพูดแบบนี้ต่อหน้าฉินอันอันกับเด็ก ๆ เลย” “คุณเองก็รู้สึกอายเหรอ?” แต่ไหนแต่ไรหลีเสี่ยว
หลังจากเงียบไปสองวินาที ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป เขาตะโกนเรียกชื่อเธอ “ฉินอันอัน!” เสียงของเขาปิดบังความห่วงใยและใส่ใจที่มีต่อเธอไม่อยู่ หลังจากเธออาเจียนอยู่สามสี่ครั้ง ความรู้สึกคลื่นไส้ก็หายไป อารมณ์ของเขาค่อย ๆ สงบลงและพูดเสียงแหบแห้ง “ฉินอันอัน ถ้าคุณไม่สบายก็ไปนอนบนเตียง” “ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมาสงสารฉัน!” เธอโกรธกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดถังเชี่ยนดีทุกอย่าง นั่นเขาไม่ต้องมาบอกเธอ! “ผมสงสารลูกของเรา!” เสียงของเขาตึงเครียด นิ้วจับโทรศัพท์แน่นขึ้น “คุณสงสารเขาทำไม?” เธอเย้ยหยัน “สงสารที่ไม่ถูกทำแท้งงั้นเหรอ?!” “ฉินอันอัน คุณจำเป็นต้องก้าวร้าวขนาดนี้ด้วยเหรอ?!” ฟู่สือถิงเกือบนึกสงสัยแล้วว่าตัวเองเป็นคนชั่วร้ายแบบที่เธอว่าจริง เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขมากกับการมาของลูก เฝ้ารอวันที่ลูกจะคลอดออกมาตอนที่เกิดอุบัติเหตุ เขาเจ็บปวดใจมากเช่นกัน “ใครก้าวร้าวก่อนล่ะ?” ฉินอันอันนั่งอยู่บนขอบเตียง ดวงตาของเธอแดงก่ำ นิ้วมือกำผ้าปูที่นอนแน่น “ถังเชี่ยนว่าง่าย พูดรู้เรื่อง… พูดคำที่คุณเพิ่งพูดอีกรอบสิ!” ริมฝีปากฟู่สือถิงขยับ แต่ไม่พูดออกสักคำ “อย่
“ฉันชอบความรู้สึกเวลาอยู่กับอิ๋นอิ๋นมาก มันให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ดังนั้นฉันจึงตอบตกลง” เว่ยเจินกล่าว “เขาแอบมอบเงินก้อนใหญ่ให้พ่อแม่ของฉันด้วย” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉินอันอัน “ในเมื่อเขาอยากให้ งั้นพวกพี่ก็รับไว้ได้ค่ะ” เว่ยเจินส่ายหน้า “ฉันให้พ่อกับแม่เอาเงินไปบริจาคแล้ว ฉันไม่ชอบความรู้สึกถูกให้ทาน เหมือนฉันน่าสงสารมาก ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสาร” ฉินอันอัน “พี่เว่ย บางทีเขาอาจไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ดวงตาของเว่ยเจินอบอุ่น น้ำเสียงสงบ “ฉันรู้ว่าเขาจิตใจดี อันอัน ในเมื่อตอนนี้เธอเกลี้ยกล่อมฉันได้ ทำไมตัวเธอถึงคิดไม่ออกล่ะ?” “มีอะไรคะ?” เธอหน้าแดงเล็กน้อย “มันไม่ฉลาดมาก ๆ เลยที่เธอเลิกกับฟู่สือถิง ตอนนี้เธอท้อง จำเป็นต้องมีคนดูแล” เว่ยเจินมองใบหน้าของเธอ น้ำเสียงจริงจังมากขึ้นเล็กน้อย “เธอมองไม่เห็นความรู้สึกของเขาจากเรื่องครั้งนี้งั้นเหรอ?” เธอลดคิ้วลงและรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น “เธอเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีเหตุผลเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่กลับเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจเฉพาะเขาคนเดียวเท่านั้น” เว่ยเจินกล่าว “ซึ่งเขาเคยชินกับมันแล้ว” “พี่เว่ย ทำไมพูดแบบนี้กับฉันล
การสัมภาษณ์นี้ถูกนักข่าวโพสต์ลงบนสื่อออนไลน์ ไม่ช้า การสัมภาษณ์นี้ได้รับความนิยมไปทั่วอินเตอร์เน็ต! เดิมทีเมื่อไม่นานมานี้ข่าวฉินอันอันโกงเงินฟู่สือถิงเป็นมูลค่าหมื่นล้านก็ได้รับความนิยมอย่างมาก! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินอันอันตอบกลับสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องโกงเงิน คิดไม่ถึงว่า เธอจะโกงเงินฟู่สือถิงจำนวนหมื่นล้านจริง ๆ และฟู่สือถิงไม่เพียงไม่ฟ้องร้องเธอ แต่เขายังไม่เรียกค่าชดเชยจากเธออีกด้วย! น่ามหัศจรรย์! ฟู่สือถิงหลอกง่ายขนาดนี้เลยเหรอ? เอสทีกรุ๊ป ฟู่สือถิงกลับมาที่ออฟฟิศหลังจากประชุมเสร็จ เขาเปิดโทรศัพท์ก็มองเห็นข้อความใหม่ ทุกข้อความล้วนเป็นวิดีโอสั้นคลิปเดียวกัน เขาขมวดคิ้วแล้วกดเปิดวิดีโอ - คุณฉิน ได้ยินว่าคุณโกงเงินฟู่สือถิงหนึ่งหมื่นล้าน ขอถามหน่อย เรื่องนี้เป็นความจริงหรือเปล่า?- เป็นความจริงค่ะ- คุณฉิน คุณกำลังพูดเล่นอยู่ใช่ไหม? ถ้าเป็นความจริง ทำไมเขาถึงไม่ฟ้องคุณล่ะ?- เพราะว่าประธานฟู่รวยมาก หมื่นล้านไม่นับว่ามีประโยชน์อะไรต่อเขา พวกคุณถ้าใครอยากรวยเร็ว ๆ ก็ไปหลอกเขาเลยค่ะ เขาหลอกง่ายมากใบหน้าฟู่สือถิงมืดครึ้มในทันที! หากเขาไม่เห็นหน้าเธอในวิดีโอด้