LOGINเรื่องนี้มีโซ่ แส้ กุญแจพร้อม เตรียมรับความฟินค่ะ เพลิง…ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยปมในอดีต ความเจ็บปวดจากภรรยาที่หนีตามชู้ยังไม่เคยจืดจางในใจเขา จนจิตใจของพ่อเลี้ยงหนุ่มด้านชา ไม่เคยมองเห็นหญิงสาวคนใดมีค่ามากไปกว่า ดอกไม้ประดับเตียง พอดอมดมจนพอใจก็โยนทิ้ง จนกระทั่งมาเจอเธอ ธันย์ณิชา ดอกไม้ดอกสวยที่ไม่ได้มีดีแค่ความสาว เธอยังมีเสน่ห์ปลายจวักอันยอดเยี่ยม และนั่นทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล “ฉันเตือนเธอแล้วนะว่าอย่าคิดไปร่านกับคนอื่น ฉันสนองให้เธอถึงอกถึงใจไม่พอหรือไง ถึงต้องไปนอนแบให้มันเอา เลวไม่มีสิ้นดี มักมากไม่รู้จักพอ” เสียงแข็งกระด้างห้วนจัดพูดจบ เสียงแส้ก็แหวกอากาศมากระทบกับที่นอนข้างกายเธอ ปลายแส้โดนผิวเนื้อนวลขาวจนเกิดรอยแดง “ฟิ้ว...โอ๊ย” ความเจ็บทำให้เธอร้องอุทาน เขยิบตัวออกห่างแส้เส้นนั้น แต่เธอจะหนีไปไหนพ้นเมื่อข้อมือทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้ด้วยกุญแจมือ “พราวไม่ได้ทำอย่างที่พ่อเลี้ยงคิดนะคะ พราวไม่ได้ไปนอนกับใคร ฮือ”
View MoreChapter1
อุณหภูมิภายนอกที่ต่ำกว่าสิบห้าองศาเซลเซียส ไม่ได้ทำให้สามชีวิตที่อยู่ในห้องนอนห้องหนึ่งเกิดความหนาวเหน็บเหมือนคนอื่นๆ ที่อาศัยใบบุญของพ่อเลี้ยงเพลิงเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามทั้งสามมีแต่ความร้อนและร้อน ความร้อนที่เกิดจากบทเพลงสวาทเร่าร้อนที่กินระยะเวลามากว่าสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ
“พ่อเลี้ยงขา...พ่อเลี้ยง”
เสียงหวานกระเส่าของนภา สาวบริการจากเมืองกรุงที่พ่อเลี้ยงเพลิงจ้างมาสร้างความสุขแบบรายสัปดาห์ที่มีอัตราค่าจ้างสูงถึงเจ็ดหมื่นบาท ยังไม่รวมเงินพิเศษที่จะได้รับเมื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ร้องครวญครางไม่หยุด เสียงครางแห่งความกระสันซ่าน เธอเสียวสะท้านไปทั้งกายยามขยับโยกเคลื่อนไหวบนร่างกายของพ่อเลี้ยงหนุ่ม ที่มีสาวบริการนามว่า เอมอรเพื่อนร่วมงานอีกคน ที่ถูกซื้อบริการมาด้วยจำนวนเงินเท่ากันกำลังใช้ปากและลิ้นไล้เลียยอดอกของเขา
“พ่อเลี้ยงดีไหมคะ อา...นภาทำถูกใจ...พ่อเลี้ยงรึปะ...เปล่าคะ...อ๊า”
นภาเอ่ยถามเจ้าของเงินที่จ่ายค่าตัวเสียงขาดห้วน ใบหน้าแดงก่ำจากพิษเสน่หาเล่นงาน โยกกายขึ้นสูงแล้วกระแทกร่างลงมาเต็มแรง จนเกิดเสียงดังของเนื้อกระทบเนื้อ บางจังหวะเธอก็เสยร่างไปข้างหน้า ทำทุกอย่างให้เขาพอใจ แต่ทว่าคำตอบก็ไม่ได้หลุดออกมาจากปากหนาได้รูปมีเสน่ห์ของเพลิง เนื่องจากเวลานี้ปากของเขาไม่ว่าง กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับเอมอรที่เลื่อนปากมาประกบปิด
นภาขย่มร่างอรชรของตนอยู่สักพัก ร่างของเธอก็เกร็ง ความสุขกำลังวิ่งเข้าใส่ นภาขยับร่างโยกตัวแรงขึ้นเพื่อนำพาตัวเองไปยังความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เป็นความสุขที่เธอวิ่งเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พ่อเลี้ยงเพลิงยังไม่ถึงสถานที่แห่งนั้นเลยสักครั้ง...เขาอึดจริงๆ
“เอมอร ไปเอาของในลิ้นชักมา”
เพลิงผลักใบหน้าของเอมอรให้ออกห่าง ส่งผลให้ปากของทั้งคู่แยกห่างกัน ก่อนที่เขาจะสั่งเอมอรให้ไปหยิบของบางอย่างในลิ้นชัก ที่เอมอรและนภาต่างรู้ดีว่าคืออะไร
“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรเดินไปหยิบของที่พ่อเลี้ยงต้องการ ซึ่งเธอกับเพื่อนร่วมงานได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้มาตั้งแต่วันแรกที่มาทำหน้าที่และไม่เกี่ยงงอนจะทำตามใจลูกค้า ยิ่งเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ผู้ร่ำรวย ให้ค่าบริการสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เธอกับเพื่อนต้องเผชิญ พวกเธอก็ยิ่งต้องเอาใจที่สุด
“นี่ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรวางอุปกรณ์ที่เพลิงต้องการลงบนที่นอนข้างร่างสูงใหญ่ เพลิงผลักร่างนภาที่หอบหายใจแรงบนตัวเขาให้ไปนอนบนที่นอน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นนั่ง ดึงถุงยางอนามัยที่สวมใส่ความเป็นชายของตนออก จากนั้นก็นำของใหม่มาสวมใส่แทนถึงสามชั้น
“แส้ไหมคะพ่อเลี้ยง” เอมอรถาม
“ไม่” เพลิงตอบสั้นๆ ขณะที่หยิบอวัยวะเทียมของเพศชายที่มีขนาดความใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของเขาเลย อีกทั้งยังมีความนุ่มหยุ่นคล้ายกันด้วยแบบสวมเอวมาคล้องไว้ที่เอวเตรียมการออกศึกรักกับสองสาว “เอากุญแจมือมาสองอันเลย”
เอมอรหยิบสิ่งของที่พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องการ แล้วยื่นให้เขารับมันไว้ในมือ พลางเอี้ยวตัวไปทางร่างของนภาที่รู้งานว่าต้องทำอย่างไร
นภาหยิบกุญแจมือที่เขาส่งมาให้มาคล้องข้อมือของตนทั้งสองข้าง แล้วล้มตัวลงนอนตรึงแขนเหนือศีรษะ ส่วนกุญแจมืออีกอันหนึ่งเพลิงส่งให้เอมอรที่ขยับตัวนำกุญแจมือที่อยู่ในมือมาคล้องไว้กับโซ่ระหว่างกุญแจมือที่นภาสวมอยู่ ปลายอีกด้านคล้องไว้กับหัวเตียงที่ทำจากเหล็กดัด
“ท่าเดิมนะ” เพลิงหันมาสั่งเอมอร
“ค่ะพ่อเลี้ยง”
เอมอรรับคำ จัดท่วงท่าที่เพลิงต้องการ ด้วยการคร่อมร่างนภาในลักษณะคุกเข่า มือของเธอเท้าวางลงบนที่นอนข้างหัวไหล่ของนภา
เพลิงขยับตัวมาอยู่ในกลางร่างของสองสาว กดบั้นท้ายขาวของเอมอรลงมาให้ร่างกายส่วนหน้าของเอมอรและนภาแนบชิดกัน จากนั้นก็สอดแทรกตัวตนทั้งของจริงและของปลอมเข้าสู่ความเป็นอิสตรีของทั้งคู่ กายแกร่งที่มีชีวิตดันลึกเข้าไปในรวงผึ้งของนภา ส่วนของเทียมสอดแทรกเข้าไปในร่างของนภา เพลิงกำลังมอบความสุขให้สองสาวพร้อมกัน
“อ๊า...อ๊า...พ่อเลี้ยงขา...อา”
นภาส่งเสียงครางรับพละกำลังแรงของเพลิงที่สาดใส่ พร้อมกันนี้เสียงครางของนภายังระบายความเจ็บจากกุญแจมือที่คล้องข้อมือของตน เพราะจากแรงโจนจ้วงของเขา และแรงเสียดสีระหว่างกุญแจมือกับผิวเนื้อของเธอก็จะเสียดทานกันตลอดเวลา ความเจ็บจึงบังเกิดขึ้นด้วย แต่พอนึกถึงเงินที่จะได้รับตอบแทนความเจ็บ เธอก็พร้อมจะฮึดสู้ เก็บงำความเจ็บเอาไว้
“โอ้...อา...พ่อเลี้ยง...อืม”
เอมอรแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสกับความแข็งแรงของเพลิง ทว่าอวัยวะเทียมก็สร้างความสุข เร้าใจให้กับเธอไม่น้อย เพลิงบีบแก้มก้นของเอมอร ขยำสุดแรงจนเกิดรอยมือซ้อนกัน บางครั้งก็ใช้มือฟาดราวกับว่าเขากำลังฟาดก้นอาชาไนยยามที่ควบขี่
จังหวะประสานกายของเพลิงเร่งเร้าขึ้นทุกขณะ ตามแรงอารมณ์ของเขาที่กำลังจะทะยานเข้าสู่เส้นชัย ยิ่งใกล้เพลิงยิ่งกระแทกสุดแรง จนช่องทางรักของสองสาวร้อนฉ่า เพลิงเร่งจังหวะแรงขึ้นและแรงขึ้นก่อนที่เขาจะคว้าเส้นชัยแค่มือเอื้อม
กว่าที่เพลิงจะสุขสม สองสาวก็เหนื่อยหอบ ร่างของเอมอรพลิกกายลงนอนบนเตียง หอบหายใจแรงและรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวกับการหนักมือของพ่อเลี้ยงสุดหล่อ เช่นเดียวกับนภาที่หายใจแรงไม่แพ้กัน เหนื่อยล้ากับบทรักที่กินระยะเวลาสองชั่วโมงกว่า
“ฉันจะไปต่อในห้องน้ำ” พ่อเลี้ยงเพลิงเอ่ยขึ้นขณะที่ก้าวลงจากเตียง ถอดเครื่องป้องกันออกจากตัวตนแล้วโยนลงไปในถังขยะ จากนั้นก็ถอดอวัยวะเพศปลอมออกจากเอว “นภา เธอกลับห้องไป ส่วนเอมอรตามฉันไปในห้องน้ำ”
“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรแม้ว่าจะเหนื่อยล้า แต่เมื่อนึกถึงเงินที่จะได้ แรงกำลังก็มีขึ้นมามากมาย “พ่อเลี้ยงจะให้เอมเอาอะไรเข้าไปในห้องน้ำมั่งคะ”
“เชือก” เพลิงตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินเปลือยกายเข้าไปในห้องน้ำ เอมอรทำตามคำสั่ง เธอพยุงกายลุกขึ้นนั่ง หยิบลูกกุญแจที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียงมาไขกุญแจมือที่คล้องอยู่บนข้อมือของเพื่อน จากนั้นก็หยิบเชือกตามคำสั่งแล้วเดินตามร่างสูงใหญ่เข้าไปในห้องน้ำ
เพลิง โยธาบดินทร์เจ้าของไร่เพลิงพยัคฆ์ ไร่ชา และไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเหนือ นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของรีสอร์ตสุดหรูบนเนินเขา ทว่าโดยนิสัยส่วนตัวเพลิงเป็นคนที่ป่าเถื่อน โหดเหี้ยม โมโหร้าย เป็นที่ยำเกรงต่อลูกน้องทั้งหลายและคนรอบข้าง
ครั้งหนึ่งเขามอบความรักและความไว้วางใจให้กับพิมพิไล มอบตำแหน่งแม่เลี้ยงให้ด้วยความเต็มใจ เธองดงามราวกับเทพธิดา วาจาไพเราะเพราะพริ้ง กริยามารยาทสมกับเป็นกุลสตรี แต่ทว่าเธอกลับมีใจสกปรก ชั่วช้า ตอบแทนความรัก ความไว้ใจด้วยการคบชู้สู่ชายไม่เลือกหน้า และสุดท้ายก็คบชู้กับเพื่อนของเขา นับตั้งแต่นั้นเพลิงไม่เคยมองสตรีคนไหนมากไปกว่าคู่นอน หญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเป็นเพียงเครื่องสนองอารมณ์ทางเพศ พอเสร็จสมก็ทางใครทางมัน ไม่มีค่าอะไรมากกว่านี้
หลังจากที่เอมอรเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเชือก ไม่นานเสียงครางครวญของเธอก็ดังลั่นห้องน้ำ โดยไม่มีเสียงครางของเพลิงเลยสักนิด เขาโหมกระหน่ำใส่ร่างเอมอรที่กรีดร้องด้วยความสุขระคนความเจ็บ เซ็กซ์ของเพลิงดุดัน ดิบเถื่อน พร้อมสรรพไปด้วยอุปกรณ์ทางด้านนี้ที่เขาสรรหามาสร้างความตื่นเต้น หญิงสาวทุกคนที่ผ่านมาอาจจะมองเขาว่า เถื่อน ซาดิสต์ แต่ในความเป็นจริงเขากำลังลบความรู้สึกบางอย่างในจิตใจ ที่ติดค้างไม่ยอมมลายหาย และหวังว่าสักวันหนึ่งความรู้สึกนี้จะหมดไปจากจิตใจ
สักวันหนึ่ง...
Chapter 9เธอขู่ไปอย่างนั้น โดยไม่ได้คิดอะไร อาจเป็นเพราะหมั่นไส้ท่าทางโอหังของเขาด้วยพยัคฆ์แม้ว่าจะนิ่งอึ้งกับคำพูดประโยคนี้ของเธอ แต่เขาก็อยากจะหัวเราะกับท่าทางขึงขังของเธอมากกว่า แถมยังคิดว่า ท่าทางของเธอน่ารักไม่หยอก“อ้าว นายเหมืองมีลูกมีเมียตอนไหนเนี่ย ทำไมฉันไม่รู้เรื่องล่ะ”ดารากานต์ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ในใจก็กลัวว่า เขาอาจจะรู้ว่า นายเหมืองพยัคฆ์เพลิงไม่มีครอบครัว ฉะนั้นเรื่องที่ตนบอกไปเขาก็ต้องคิดว่า ไม่เป็นความจริง“ว่าแต่คุณจะขอโทษฉันกับลูกไหม ที่คุณขับรถเหมือนขโมยใบขับขี่มา” เธอเปลี่ยนเรื่อง เกรงว่าเขาจะจับไต๋ได้“ฉันไม่ผิด ทำไมต้องขอโทษ ฉันขับรถของฉันมาดีๆ ความเร็วก็แค่หกสิบเอง เพราะฉันรู้ดีว่าถนนเส้นนี้ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่สัญจรไปมา ฉันระวังเรื่องการขับรถทุกครั้งที่นั่งหลังพวงมาลัย ลูกเธอจู่ๆก็วิ่งมาตัดหน้ารถฉันเองนะ อย่างนี้ใครจะผิด” พยัคฆ์พูดด้วยเหตุผล“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณทำลูกฉันตกใจ และคุณก็เป็นผู้ใหญ่จนสุนัขเลียก้นไม่ถึง คุณต้องขอโทษลูกฉัน” เธอเสียงแข็ง“ไม่ ฉันจะขอโทษเมื่อฉันคิดว่าตัวเองผิด” พยัคฆ์เสียงแข็งกลับ“คุณนิสัยแย่ที่สุด” ดารากานต์ต่อว่าเขาอีกครั้ง ก่
Chapter 8เหมืองพยัคฆ์เพลิงหญิงสาววัยยี่สิบห้าปีก้าวลงมาจากรถรับจ้างพร้อมกับเด็กชายวัยสามขวบ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินเข้าไปในอาณาจักรเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สถานที่ที่เปรียบเสมือนที่พักพิงใหม่ของสองแม่ลูก หลังจากที่ต้องอาศัยอยู่กับญาติของบิดาที่กดขี่เธอราวกับเป็นทาส ทว่าไม่เท่ากับที่เขาทำร้ายลูกชายของเธอ และนั่นทำให้ดารากานต์ตัดสินใจสมัครงานเป็นพนักงานบัญชีของเหมืองแห่งนี้ตามคำแนะนำของเพื่อน พรุ่งนี้คือวันเริ่มทำงานวันแรกระหว่างทางที่ดารากานต์เดินจูงมือลูกชายอยู่นั้น ตุ๊กตาหุ่นยนต์ที่ณดลถือเล่นอยู่เกิดหลุดมือเด็กชาย มันกระทบบนพื้นก่อนจะกระเด้งไปกลางถนน เจ้าของหุ่นยนต์สะบัดมือจากมือมารดา แล้วเดินไปกลางถนนเพื่อหยิบของเล่นตัวโปรด“เฮ้ย! เอี๊ยดดดด” เสียงร้องตกใจของเจ้าของรถจี๊ปดังพร้อมกับเสียงห้ามล้อ“กรี๊ดดดด” ดารากานต์กรีดร้องสุดเสียง เธอใจหายวาบ รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังตกไปอยู่บนพื้น เธอรีบถลาไปหาลูกชายที่นั่งอยู่บนพื้น สีหน้าไร้เดียงสาตกใจไม่แพ้ผู้ใหญ่ทั้งสอง นั่งมองหน้ารถยนต์ที่อยู่ห่างกับตนไม่ถึงหนึ่งเมตรตาค้าง“เป็นไงบ้างครับตาม เจ็บตรงไหนหรือเปล่าลูก”ดารากานต์ตรวจดูร่า
Chapter 7“แม่คงทำตามที่วุ้นต้องการไม่ได้ ไม่มีแม่คนไหนหรอกนะที่จะให้ลูกตัวเองขายตัว แม้ว่าแม่จะมีอาชีพเป็นมาม่าซังก็ตาม” วรนุชปฏิเสธความหวังดีของบุตรสาวบุญธรรม“แต่มันเป็นความต้องการของวุ้น ที่วุ้นมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแม่ ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีวุ้น ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้ให้กำเนิด แต่แม่ให้ชีวิต ทำไมวุ้นจะเอาความสาวมอบเพื่อใช้หนี้ให้แม่ไม่ได้คะ ชีวิตของวุ้น วุ้นก็ให้แม่ได้” สำหรับธันย์ณิชา ความบริสุทธิ์เป็นเรื่องรอง ชีวิตของบุพการีที่ชุบเลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิดต่างหากที่เป็นเรื่องหลัก ความกตัญญูเป็นเรื่องสำคัญที่เธอต้องยึดมั่นปฏิบัติ แล้วตอนนี้เธอมีโอกาสทดแทนบุญคุณ หญิงสาวจึงไม่ลังเลที่จะทำ“แม่หาทางอื่นก่อนดีกว่า แม่ทำใจไม่ได้ที่ให้วุ้นทำอย่างนั้น” วรนุชยังคงความตั้งใจเดิม“ถ้าแม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ แม่คงไม่มานั่งปรับทุกข์กับพี่อร พี่ภาหรอกค่ะ ที่แม่กลุ้มเพราะแม่ไม่มีทางออก ตอนนี้วุ้นหาทางออกให้แม่แล้ว แม่รับไว้เถอะค่ะ วุ้นเต็มใจขายตัวเพื่อแม่”น้ำตาของผู้พูดไหลริน ทั้งที่พยายามเก็บกักมันไว้เต็มกำลัง สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทว่าน้ำตาที่รินไหลแม้ว่าจะมาจากความเสียใจที่ตนต้องพลีกายให้ชายที
Chapter 6“แล้วพ่อกับศักช่วยอะไรแม่ได้ไหม” เอมอรถามถึงสามีและลูกชายของวรนุช“จะช่วยอะไรได้ล่ะ แกสองตัวก็รู้ๆ อยู่ แค่ไม่เอาปัญหาใหม่มาให้ฉันก็ถือว่าดีมากแล้ว”พอพูดถึงเดชดวงกับศักรินทร์ สามีและลูกชายของวรนุช สีหน้าของนางก็หมองเศร้าลง เพราะทั้งคู่ดีแต่สร้างปัญหาให้นางไม่หยุดหย่อน เดี๋ยวเรื่องนั้น เดี๋ยวเรื่องนี้ ทว่าพักหลังทั้งคู่ทำตัวดีขึ้น ไม่นำความเดือดร้อนมาให้นาง แต่ถึงกระนั้นก็วางใจไม่ได้ นางยังกลัวๆ อยู่ว่า อาจจะนำเรื่องปวดหัวมาให้นางสักวัน“ถ้าอย่างนั้นก็มีทางเดียวนะแม่คือ แม่ต้องหาสาวพรหมจรรย์ให้พ่อเลี้ยง ถ้าแม่ไม่หาแต่ไปหาหนี้สินก้อนใหม่ มันก็จะดินพอกหางหมูไปกันใหญ่ หนี้ไม่ลดแต่กลับเพิ่มขึ้นมา”ธันย์ณิชาที่ยืนแอบฟังอยู่ใจเต้นแรง เธอไม่คิดว่าวรนุชจะมีปัญหาทางด้านการเงินหนักมากถึงเพียงนี้ อีกทั้งหนี้สินยังเร่งรัดจนหายใจหายคอไม่ออก ระหว่างที่กำลังยืนอึ้งกับการสนทนาที่ได้ยิน สุเมธ พนักงานในลานจอดรถได้เดินมาอีกทางหนึ่ง เขาผลักประตูเข้าไปโดยไม่เคาะ ในมือถือกล่องหนึ่งมาด้วย“แม่ มีคนฝากกล่องนี้มาให้” สุเมธบอกเจ้าของห้อง“มึงนี่ไอ้เมธ มึงไม่เคาะประตูห้องอีกแล้วนะ” วรนุชตวาดแว้ดใส่“โ





