ฉันที่ยืนค้างเพราะความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ฉันไม่ได้คิดว่าจะเจอมัน
คือฉันรู้ว่ามันจะมา แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะมาเร็วแบบนี้
หรือฉันฟังเพื่อนไม่เข้าใจ
ไอ้ควายยิมมันลุกจากโซฟา แล้วมันก็เดินมาหาฉัน ท่าทางการเดินของมันดูแบดบอยมาก แต่สายตาที่มันมองฉันดูเฉยชา
ความตกใจของฉันทำให้ฉันก้าวขาไม่ออก ทำตัวไม่ถูก หัวใจเต้นจนแทบจะทะลุ
แล้ว ณ จุดนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากฉันกับมัน
ไอ้ควายยิมมันเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน สองมือของมันเหน็บที่กระเป๋ากางเกง สายตาของมันมองมาที่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมันก็ค่อย ๆ เอนตัวเข้ามาใกล้ฉัน
มันทำเหมือนจะจูบฉันเลย ฉันไม่ได้มโนไปใช่ไหม ก็ฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดใบหน้าฉัน
ถ้ามันจะจูบฉัน แสดงว่ามันไม่ได้เกลียดฉันแล้วใช่ไหม
และที่สำคัญถ้ามันทำจริง ฉันใจง่าย ฉันยินยอม ยอมพลีกายเลยนะ ถึงแม้ร่างกายมันจะมีรอยสักมากมาย
แต่นิสัยมันอาจจะเป็นเหมือนเดิมก็ได้!
"เหอะ! เคยเป็นยังไงก็เป็นแบบเดิมมาจนถึงทุกวันนี้เนอะมึงอ่ะ ดูสภาพสิ"
เดี๋ยวนะ เดี๋ยว ๆ เมื่อกี๊ฉันขอเปลี่ยนคำพูด ที่ว่าจะยอมมัน เพราะมันกำลังเบะปากมองฉันอย่างสมเพช
"ได้ข่าวว่าเมาโดนเอาจนท้อง จำหน้าพ่อของลูกไม่ได้ เหอะ! น่าสงสารลูกมึงเนอะ ที่มีแม่มั่ว ๆ อย่างมึง" ทุกคำที่มันพูดดังก้องเข้ามาในหูของฉันเน้น ๆ
มันพูดจบก็ส่ายหัวก่อนจะเบะปากมองฉันอย่างรังเกียจกัน
'ไอ้ควายนี่ ไอ้คนที่เอากูก็มึงนั่นแหละ' ฉันได้แต่จ้องมันแล้วด่าในใจ
"แล้วจะเสือกอะไร ห_ก็ห_กูไหม ลูกกูก็เบ่งออกมาเอง บ้านกูรวย กูมีปัญญาเลี้ยงของกู คนอื่นอย่าเสร่อ ไม่มีพ่อลูกกูก็โตมาได้" ฉันตอกกลับทันที
คิดว่าคนอย่างอีแจงจะร้องไห้กับประโยคที่มันด่าเหรอ
ฮึ! ทำไมจะไม่ร้องล่ะ แต่เอากลับไปร้องที่บ้าน อีแจงจะไม่อ่อนแอให้มันเห็น
"เพราะมึงคิดได้แค่นี้ไง" มันมองฉันแล้วยกยิ้มที่เหนือกว่า
"คิดได้แค่นี้แล้วจะทำไม มึงเสือกอะไร" ฉันจ้องมันอย่างหาเรื่อง ตอนนี้ฉันพร้อมบวกเลยล่ะ
มันมองฉันนิ่ง ๆ ด้วยสายตาที่ร้าย ๆ ก่อนจะ...
"ก็ไม่ทำไม ก็แค่จะบอกว่านี่แหละเหตุผลที่กูไม่รักมึง เพราะเป็นมึง ต่อให้สวยแค่ไหนกูก็ไม่มีวันรัก รักไม่ลงว่ะ แต่ถ้าอยากได้แค่ร่างกายแบบต่างคนต่างสนุกชั่วคราว กูก็ให้ได้นะ ถ้ามึงอยากเอากับกู" มันกระซิบที่ข้างหูฉันเบา ๆ ทุกประโยค แต่มันดังก้องเข้าไปในโสตประสาทของฉันทุกคำ
มันพูดจบมันก็ทำเหมือนจะหอมที่แก้มฉัน
"หอมไม่ลงว่ะ เหม็นเหล้า นอนก็ยังน้ำลายเน่า" ไอ้ควายยิมมันพูดเสร็จมันก็จูบลงที่ต้นคอของฉันแทน
หัวใจฉันกำลังทำงานหนัก มันเต้นโครมครามจนแทบทะลุ
"เหอะ! ห้ามใจตัวเองบ้างนะ เต้นจนแทบจะทะลุออกมาละ อ่อนจริง ๆ " มันพูดพลางเอามือมาทาบที่หน้าอกข้างซ้ายของฉัน
"มึง..."
"คิดจะต่อปากต่อคำกับกู ก็เลิกรักกูก่อนเถอะ คนอย่างมึงแค่กูอยู่ใกล้ จับนิดจับหน่อย หัวใจมึงก็ทำงานหนักละ" มันพูดแทรกขณะที่ฉันยังคิดคำเถียงไม่ออก
น้ำเสียงของมันฟังดูก็รู้ว่าเยาะเย้ยฉัน
"หลงตัวเอง คิดว่ากูจะโง่รักควายอย่างมึงอีกหรือไง ที่กูใจเต้นกูก็แค่ตกใจ กูเลิกรักคนแบบมึงแล้วเถอะ คนแบบมึง..." ฉันหยุดพูดแล้วมองมันตั้งแต่หัวจรดเท้า
"คนอย่างกูทำไม"
"ไม่เห็นมีตรงไหนให้อยากรักเลย ตอนนั้นกูเด็ก แค่แยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร" ฉันเบะปากคืน
"งั้นเหรอ งั้น...เอา กัน ไหม" มันขยับเข้าใกล้มากกว่าเดิม
"อะ อะไรนะ" ฉันถามย้ำ
"เหอะ แค่นี้ถึงกับหูอื้อเลยเหรอ ก็แค่ถามว่า... กล้าเอากับยิมไหมแจง" มันโน้มมากระซิบข้างหูฉันอีกแล้ว
แล้วดูสรรพนามที่มันแทนตัวสิ มันตั้งใจ ไอ้ควายยิมมันตั้งใจยั่วความรู้สึกฉัน
ไอ้บ้านี่มันทำใจฉันเต้นอีกแล้ว
"แม่แจงจ๋า มาแล้วจ้า" เสียงของจัสมินตะโกนมาก่อนตัว ฉันจึงขยับออกจากไอ้ควายยิม
และในเวลาต่อมาจัสมินก็วิ่งมาหาฉัน ตามด้วยแม่ของไอ้ควายยิมที่เดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"เจอกันแล้วเหรอแจง ดูสิ ดูสภาพมัน แม่ด่ามันเท่าไหร่มันก็ทำหูทวนลม" แม่ของไอ้ควายยิมบ่นและมองสภาพลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน
"แม่ไม่เข้าใจศิลปะไง ยิมไปข้างนอกดีกว่า" ไอ้ควายยิมมันหันไปพูดกับแม่ของมัน แล้วก็เดินออกไป
"อ้อ! เกือบลืมแน่ะ อย่าลืมนะแจง กล้าไหม" มันหันมาพูดกับฉัน และทำท่าเหมือนมันชนะ
มันรู้จักฉันดีว่าฉันไม่ชอบคนท้า เพราะฉันจะบ้าเดินตามเกม
ไอ้ควายยิมมันกลับมารอบนี้ มันเลี้ยงหมาไว้ในปากด้วย
มันตั้งใจ มันตั้งใจจะท้าฉัน ไอ้ควายยิมปากหมามันตั้งใจหาเรื่องอีแจงแสนสวยคนนี้
ฉันจะแพ้มันไม่ได้ ถ้าฉันแพ้ นั่นแปลว่าฉันยอมรับว่ายังรักมัน ฉันต้องห้ามรักมัน ห้ามแสดงความรู้สึกให้มันเห็น
ฉันต้องทำให้ได้
และฉันจะไม่ไปนอนกับมันแน่นอน!
“มากันแล้ว มา ๆ ลูกเข้าบ้านเร็ว” แม่ของผมกวักมือเรียกผมและภามเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่เมื่อคืนผมโดนจัดชุดใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจเก็บเรื่องไร้สาระของภามไปฝันเป็นตุเป็นตะ พอตื่นมาก็งี่เง่าเง้างอนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาบ้านแล้วโดนกระหน่ำแทงเช้ามาภามมันเลยลากผมมาทานข้าวเช้าที่บ้านของผม เนื่องจากเมื่อคืนมันบังคับให้ผมโทรนัดครอบครัวซึ่งตลอดการเดินทางมาที่บ้านแม่ของผมนั้น ผมเกร็งมากครับ เกร็งกลัวไปหมด กลัวครอบครัวจะรับเรื่องของผมกับภามไม่ได้กลัวพวกท่านจะกีดกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงทนไม่ได้แน่นอน“พ่อแม่สวัสดีครับ” ภามยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของผม ซึ่งพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหาร ส่วนแม่ท่านเพิ่งจะเดินไปนั่งที่ข้างกายพ่อ“นั่ง ๆ ภาม แล้วนี่นึกอะไรถึงพากันมาแต่เช้า” พ่อยิ้มรับและชวนให้นั่ง ต้องขยายความก่อนนะครับว่าภามมาที่บ้านของผมบ่อย มาในฐานะเพื่อนในความเข้าใจของครอบครัวผม“มีเรื่องจะพูดคุยกับพ่อแม่ครับ” ภามเป็นคนตอบ ส่วนผมยังยืนเกร็งเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นานที่จะถึง“ดูท่าจะซีเรียส งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยคุยกันนะ นั่งทานลงทานข้าวสิเค” แม่ของผมบอกแล้วยิ้ม ผมจึงนั่ง
“เค เค เคด่วย ไอ้เค!!!” เสียงแว่วมาของไอ้ภามมันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับแรงเขย่าแรง ๆ“ไอ้ภาม!!!” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ“เป็นบ้าอะไรของมึง เห็นกูทำไมต้องตกใจ มึงมีความผิดอะไร พูดมา” ไอ้ภามมันเดินมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่และนั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาดึงจับที่ตัวผม“อย่ามาจับกู ไอ้เหี้ย มึงมันเลว ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกู ที่ทำทุกอย่างก็แค่สงสารกู มึงไม่เคยรักกูเลย” ผมขยับตัวหนีออกจากมันปัก!ไอ้ภามมันตบที่หัวของผม“ไอ้เค รอบนี้อะไรพูดมา กูงอนเรื่องที่บ้านของมึง มึงถึงขั้นเก็บเอาไปฝันคิดว่ากูนอกใจใช่ไหม มึงถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้”เวรแล้วครับ“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเพราะกูฝันเป็นตุเป็นตะ” ผมมองไอ้ภามแล้วทำหน้าอึ้งรอครับ เพราะรู้สึกเหมือนจะรู้คำตอบแล้ว“เออดิ กูเนี่ยนะจะนอกใจมึง ไอ้เหี้ย เรื่องนี้นี่คิดไม่เลิกสักทีเนอะ แล้วนี่ยังไง”“ยังไงอะไรภาม” เมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างคือความฝันที่ผมสรรค์สร้างมันขึ้นมา ผมก็รีบขยับตัวนอนหนุนที่ตักของคนที่ผมเรียกว่าแฟน รีบเตรียมแผนอ้อนมันเลยครับ“มึงให้ลูกค้าในร้านกอดทำไม”แต่เดี๋ยวนะ!!!เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ผมจะนอนท่านี้ไม่ได้เหมือนจะไม่ทัน ผมรู้ตัวช
สามวันผ่านไป...สามวันผ่านไปแล้ว ชีวิตของผมก็ยังจมอยู่กับความเมา ผมเช่าห้องพักรายวันแล้วซื้อเหล้าเข้ามากินแบบไม่คิดอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องราวที่ผ่านมาของผมกับไอ้ภาม ผมคิดซ้ำ ๆ วกไปวนมา คิดแล้วคิดอีกและเมาหลับไปผมโคตรเสียศูนย์ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แต่วันนี้มันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับใช้ชีวิตของผมแล้วครับเรื่องร้านที่ทำร่วมกันมา ถ้าหากว่ามันจะเอาคนรักของมันมาทำ ผมก็พร้อมจะเดินออกมาพร้อมเงินทุนและกำไรที่ผมสมควรได้เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกทีให้เข้าใจแต่ที่แน่ ๆ คือผมจะไม่กลับไปอยู่ในจุดที่มันสงสารผมแน่นอนครับสองชั่วโมงต่อมา...ณ ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณเค” พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเหมือนที่เคยทำตลอด แต่วันนี้มันแปลกไปตรงที่ผมไม่ยิ้มครับ คนที่ตกอยู่ในอารมณ์แบบผมคงไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มหรอกใช่ไหมครับ ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นผมเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึม ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เปิดร้านมา จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ เพราะผมก็หายไปสามวันเต็ม ๆผมเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วนั่งดูยอดบัญชีการซื้อของเข้า และเมนูอาหารที่ขายออกไป ผมตรวจผมเช็กแบบที่ผมเคยทำ เพื่อ
ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิด ๆ ครับ ผมกลับมาบ้านของภาม บ้านที่ภามมันซื้อไว้ก่อนที่เราจะรู้จักกัน เราอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนาน ๆ ครั้งเพื่อนจะมาปาร์ตี้ โดยที่มีแจงเป็นสายเมาที่ชอบเต้นจนสุดเหวี่ยง และสุดท้ายก็น็อกกลางอากาศ ตั้งแต่ที่แจงมีลูกคนที่สอง การเที่ยวเตร่เมาแล้วเลื้อยของแจงก็น้อยลง หรือเพราะมีความเป็นแม่ที่มากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แจงถึงได้ดูกลายเป็นคนดีแต่กว่าจะดีได้ กว่าจะลงตัวกับคนที่เป็นผัวอย่างยิมก็ยากเอาเรื่องนะครับ ไหนจะเรื่องของจัสมินที่แจงปกปิดแม้กระทั่งเพื่อนว่าใครคือพ่อ ไหนจะผู้ชายที่ตามจีบ และยังเมียเก่าของยิมที่ยิมเคยรักมาก แต่ละปัญหาของทั้งคู่มันทำให้ผมเหนื่อยและท้อแทนเลยครับ“เฮ้อ” ผมถอดถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อขวดเหล้ามันกระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด แล้วก็ต้องเป็นผมที่ต้องเก็บเป็นประจำตอนนี้คนเมาคงอยู่ในห้องนอนแต่เดี๋ยวนะ!!!ทำไมมีแก้วสองใบ ใครมาดื่มกับมันวะสองเท้าของผมรีบเดินมาที่ห้องนอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจแต่ผมแค่อยากพิสูจน์ และไม่อยากให้เป็นแบบที่ผมคิดแต่แม่ง...ไม่ใช่ไง มันไม่ใช่เมื่อเสียงที่ดังแว่วมาจากห้องนอน ตามทางเดินที่ผมกำลังก้าวไป ยิ่งผมเฉียดใกล้
สวัสดีครับ เรียกผมว่า ‘เค’ อย่างที่แจงเรียกก็แล้วกันนะครับผมมีแฟนครับ ชื่อ ‘ภาม’ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เราสองคนร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงชีพของเราทั้งสอง กิจการร้านอาหารของเราดำเนินไปได้ด้วยดีครับคงจะเพราะเจ้าของร้านทั้งสองคนหล่อกันทั้งคู่ จะว่าผมหลงตัวเองไม่ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานอาหารร้านผมนั้นเป็นสาว ๆ กันซะมากกว่าคงไม่ต้องบอกพวกคุณที่ตามแจงมาก็คงจะรู้ว่าผมกับภามเป็นคู่รักร่วมเพศ เป็นคู่เกย์กันขอสารภาพตามตรงนะครับว่าตอนแรกผมก็ไม่คิดที่จะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาผมชอบผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วจู่ ๆ ชีวิตที่เจอแต่ความผิดหวังก็ทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป อาจจะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการประชดชีวิตที่คบใครก็มีแต่โดนทิ้ง โดนหักหลังมาตลอดผมก็เลยลองมองหาผู้ชายดู เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับความเสียใจ เหมือนตอนที่คบกับผู้หญิงจุดเปลี่ยน จุดแปลกใหม่ในชีวิตของผมเกิดขึ้นเมื่อผมต้องมากลายเป็นฝ่ายรับจากผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน ตอนนั้นขอเรียกเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกันนะครับที่เรียกวันไนท์สแตนด์ก็เพราะอยากจะทดลองก่อนที่จะเริ่มมีคนรักที่เรียกว่าเพศเดียวกันและผู้ชายคนแรกที่ไ
“พวกแกจะบ้ากันหรือไง ทำอะไรกันอยู่ กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!!!” แม่พูดเสียงสั่นดวงตากำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ท่านกำลังมองฉันและพี่ชาย“แค่เรารักกัน ทำไมแม่ไม่เข้าใจ”“รักกันฉันเข้าใจ แต่พวกแกจะรักกันแบบนี้ไม่ได้ พี่น้องจะรักกันแบบนี้ไม่ได้”“แม่…”“หยุดเรื่องน่ารังเกียจนี้ซะยัยแพท แกเป็นถึงครู แกไม่ควรให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” แม่หยิบยาดมขึ้นมาสูดดม“เรารักกันครับแม่ ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันได้เหรอครับ แม่ครับ…”“เงียบปากไปเลยพีค นี่พวกแกเป็นบ้ากันหรือไง กำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจฉันบ้าง” แม่ของฉันเริ่มหลั่งน้ำตาฉันกับพี่ชายกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าเสียใจ เพราะเราทั้งสองตัดสินใจกลับมาบ้านและบอกเรื่องราวที่เราสองคนได้แอบทำร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อแม่ได้ยินเรื่องที่พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเริ่มเล่า ท่านก็เริ่มหน้าซีด และหลั่งน้ำตาน้ำตาของแม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และคงต้องยอมรับความจริงซึ่งมันดูเหมือนเราทั้งคู่บีบบังคับให้แม่ยอมรับเรื่องของเราเรื่องระยำที่เราแอบทำ“แม่คะ แพทขอโทษ แต่