"หมาไม่เเดก ถุ้ย!!!"
"มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ! ไม่อร่อยก็บอกยิ้มดี ๆ สิ" "ถ้ามันไม่อร่อยเฉย ๆ กูก็ไม่ว่าหรอก แต่นี่อะไร รสชาติห่วยยิ่งกว่าอะไรดี มึงลองเอาไปให้หมากินดิ มันจะกระเดือกลงให้มึงป่ะ?" "ทำไมต้องขึ้นมึงขึ้นกูด้วยฮะ! ยิ้มก็ทำแบบนี้ทุกวัน" หญิงสาวสวมผ้ากันเปื้อน เนื้อตัวเปรอะเลอะเพราะเจ้าหล่อนตั้งใจทำงานบ้านและอาหารแสนอร่อยให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่า ‘แฟน’ ได้ทาน แต่สิ่งที่เขาเเสดงออกมากลับทำให้ใบหน้าที่มีคราบเหงื่อท่วมอยู่แล้ว ตอนนี้หยดน้ำใส ๆ ตั้งท่าจะไหลเเข่งกับเหงื่อ "ก็เพราะมึงทำทุกวันไง กูเลยไม่อยากกิน" "จะไปไหน กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง ฮึก!" คนที่ถูกต่อว่าอย่างไร้เหตุผลจนน้ำตาคลอ ซ้ำตอนนี้เธอยังต้องฉุดกระชากชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่มองเพียงเเวบเดียวก็ทำให้สาว ๆ ตาค้าง และยังพ่วงด้วยตำแหน่งเดือนคณะนิเทศศาสตร์ เขาคือ ‘กันต์’ แฟนเจ้าของร่างเล็กที่กำลังดึงตัวเขาไว้แน่นไม่ปล่อยอย่างเช่นตอนนี้ มันยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก "คุยส้นตีนอะไร มึงปล่อยกู กูรำคาญ!" คนตัวสูงพยายามแกะมือที่เกาะเขาเเน่นเป็นกาวตราช้าง ให้หลุดออกอย่างนึกรำคาญ เขาทั้งบีบทั้งแกะโดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะเจ็บมากน้อยแค่ไหน "ฮึก โอ้ย! ยิ้มเจ็บ ฮือ ๆ ๆ" "เรื่องของมึง!" "กันต์จะไปไหน?" หญิงสาวที่ร้องไห้กุมมือตนเองไว้เพราะความเจ็บปวดที่ชายผู้เป็นแฟนกระทำ แม้เขาจะหยาบคายกับเธอมากแค่ไหน เธอก็ยังคงพูดจาดีกับเขาเสมอ เพราะเธอรักผู้ชายตรงหน้ามาก ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่คบกันมาเธอคอยดูเเลและเป็นฝ่ายยอมเขามาตลอด เพราะนี่คือรักแรกที่เธอเฝ้าฝัน...? "ไปให้ไกลจากมึงไง น่าเบื่อ" "แล้วมึงไม่ต้องตามกูมานะ ไม่งั้นเจอดีแน่" . . . "มาแล้วเหรอวะไอ้กันต์" เสียงทักทายจากกลุ่มเพื่อนสนิทสามถึงสี่คนที่นั่งรอให้หนุ่มหล่อผู้มาใหม่เข้าสู่สนามเเข่ง "อือ" กันต์ตอบอย่างเซ็ง ๆ ก่อนที่จะเตรียมตัวเปลี่ยนชุดเพื่อลงแข่งรถ วัดความเร็วกับคู่เเข่งที่นัดกันไว้ ซึ่งเขายังไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง ช่วงนี้กันต์จะติดเที่ยว และการเเข่งรถเป็นพิเศษ เขาเป็นพวกประเภทชอบความท้าทาย อยากลองสิ่งใหม่ ๆ ไม่ชอบอะไรที่ซ้ำซากจำเจ "ทะเลาะกับยิ้มมาเหรอ?" เพื่อนที่คาดว่าจะสนิทกับกันต์มากที่สุด เรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมอย่าง ‘นิก’ ผู้ที่รู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างยิ้มและกันต์เป็นอย่างดี จึงเอ่ยถามขึ้น "อืม น่าเบื่อ" "แต่ก่อนมึงก็ไม่เห็นรำคาญยิ้มมันขนาดนั้นนี่ เดี๋ยวนี้อย่าบอกนะว่ามึงมีสาวใหม่?" นิกเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน เขารู้นิสัยเพื่อนดี และเห็นทุกการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองคน ไม่สิ...คนที่เปลี่ยนน่าจะมีแค่เพื่อนสุดหล่อเจ้าเสน่ห์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา ส่วนคนที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือยิ้ม ทั้งสองคบกันตั้งแต่สมัย ม.6 แต่เพียงแค่เเอบคบกันลับ ๆ มีเพียงแค่ครอบครัวทั้งสองฝ่าย และเขาเท่านั้นที่รู้ อีกทั้งกันต์เป็นคนหน้าตาดี มีคนเข้าหาอยู่ตลอด และชอบหลงตัวเอง รักสนุก ไม่ยอมเปิดตัวยิ้มแบบจริง ๆ จัง ๆ ส่วนแฟนสาวคนนั้น ใช่ว่าเธอไม่สวยหรือน่าเกลียดจนไม่กล้าเข้าใกล้ ยิ้มเป็นคนที่สวยมากคนหนึ่ง แถมน่ารักนิสัยดี ร่าเริงอีกต่างหาก เสียดายที่ต้องมาจมปลักอยู่กับผู้ชายที่ไม่เอาไหนแบบนี้... "ก็ไม่เชิง" "แสดงว่ามึงมีจริง ไอ้เหี้ยกันต์นี่มันคนที่สามของเดือนเลยนะเว้ย!" "กูก็เรื่อย ๆ ไม่จริงจังอยู่แล้วนี่" "แต่มึงมีแฟนเเล้วนะ ยิ้มจับได้ไม่ตายห่ากันพอดี" "แบบมันน่ะเหรอ จะทำอะไรกูได้วะ อย่างมากก็ร้องไห้กอดขากู ไม่ยอมให้กูทิ้งอยู่ดี ฮ่ะ ๆ" เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ แถมยังหัวเราะราวกลับว่ามันเป็นเรื่องน่าขบขัน ซึ่งคนฟังขำไม่ออกด้วยน่ะสิ... "มึงอย่ามั่นใจขนาดนั้น ผู้หญิงตอนรักมันก็หน้ามืดตามัวกันทั้งนั้น แต่ถ้าวันไหนหมดรักล่ะมึงเอ้ย! กูกลัวแม้แต่ชื่อมึงเขาก็ไม่อยากได้ยิน" "พอ ๆ เลิกพูดถึงมันเถอะ กูรำคาญจะเเย่ คนที่จะลงแข่งกับกูมันมายัง" "มานานแล้ว เตรียมพร้อมเเล้วด้วย" "แล้วถ้าชนะ?" กันต์เอ่ยถามคำถามเดิมทุกครั้ง หากรางวัลของผู้ชนะที่ได้เป็นเงินเหมือนปกติเขาก็คงจะเอาไปเที่ยวสังสรรค์อย่างเคย แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ "คนชนะขออะไรก็ได้" "มาแปลกว่ะ" "แต่ก็ช่างมันเหอะ กูไม่เคยแแพ้อยู่แล้ว""ยิ้มต้องมั่นใจในตัวเองนะ ยิ้มอย่าเอาแต่มองว่าตัวเองแย่ ไม่ดี ต่ำต้อย ไม่ควรค่าที่จะได้รับสิ่งดี ๆ"เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวย เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแฝงไปด้วยพลังบวกที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน จู่ ๆ ไบร์ทก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์มาสองกระป๋องก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม"ยิ้มออกจะน่ารัก ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านเก่ง เรียนก็เก่ง นิสัยดีอีกต่างหาก" เขาเอ่ยร่ายยาวพร้อมกับเปิดกระป๋องเบียร์ และยื่นมันมาให้เธอ"ให้ทำไม?" เธอทำหน้าสงสัยเล็กน้อย"มันช่วยให้หลับสบาย ลองดู""เราไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์" เธอไม่เคยดื่มจริง ๆ และไม่รู้เลยว่าถ้าเธอเกิดกระดกมันเข้าไปแล้วสภาพหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร"ลองดูสักครั้งเถอะ ไม่เสียหายหรอก เราอยากให้ยิ้มหัดลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง""งั้นก็ได้" ทำไมเธอถึงตกลงง่ายขนาดนั้นน่ะเหรอ สั้น ๆ เลยคือ...อยากลอง"อึก อึก อึก" เธอกระดกเครื่องดื่มในกระป๋องลงคออย่างฝืดเคือง และนั่งกระพริบตารอดูสิ่งที่จะตามมา พอผ่านไปได้เพียงสามนาที...ฟุบ! เอาเป็นว่าสาวเจ้าของกายของไบร์ท หลับคอพับในท่านั่งท่าเดิมจนเขาขำปอดโยก เบียร์แค่สามอึกทำเอาเธอน็อคกลางอากาศได้ขนาดนี้เลยเหรอ? น่าทึ่งเกินไปแล
"โถ่เว้ย!""เป็นห่าอะไรอีกล่ะเนี่ย"นิกที่ถูกบังคับให้มาอยู่เป็นเพื่อนคอยรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของคนที่กำลังโวยวาย และตะโกนเสียงดัง บ้างก็โยนข้าวของเกลื่อนห้องราวกับคนบ้าหลุดออกจากโรงพยาบาล จนอีกคนต้องกุมขมับ"หงุดหงิดเว้ย!"กันต์ตะโกนก้องอย่างคนหัวเสียขั้นสุด ยิ่งนึกถึงตอนที่เห็นสองคนนั่นไปไหนมาไหนด้วยกันเขายิ่งโกรธจนต้องหาที่ระบายแบบนี้"มึงนี่เนอะ ยิ้มทนอยู่กับคนแบบมึงได้ยังไงวะ""มึงพูดอะไรไอ้นิก คนแบบกูมันทำไม"คนที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าอารมณ์ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น และจิตใจโลเลอย่างไรเล่า... นิกอยากจะบอกถึงข้อเสียทั้งหมดของผู้เป็นเพื่อนแต่ก็รู้ดีว่าไร้ประโยชน์ คนแบบนี้ต่อให้พูดจนปากฉีกถึงรู้หูก็ไม่สำนึก หากไม่เจอกับความผิดหวังและคิดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น"ช่างเหอะ ๆ กูขี้เกียจพูดแล้ว กูกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะ""คืนนี้กูจะไปกินเหล้า มึงต้องไปกับกู""โอเค ๆ เดี๋ยวเจอกัน" นิกตอบปัด ๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา ถ้าลองไม่ไปดูสิคนแบบมันจะยอมรามือง่าย ๆเมื่อเพื่อนออกจากห้องไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น มองไปรอบกายก็ล้วนแต่เจอสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำให้นึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมา ยิ
เมื่อร่างสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อ โดยทุกการก้าวเดินของเขามักจะตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนอยู่เสมอ แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใครต่อใครที่มองมา ปกติก็ไม่สนโลกอยู่แล้ว ไม่แม้จะออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้เลยสักครั้ง เขาเป็นประเภทโลกส่วนตัวสูง ยิ่งการมาต่อแถวซื้อของยิ่งแล้วใหญ่แต่เพียงเพราะว่า ครั้งนี้เขามากับใครบางคนที่พิเศษจนเขาอยากเอาใจเธอมากกว่าผู้ใด จึงเลือกทำสิ่งที่ตัวเองไม่คิดจะทำเลยสักครั้งในชีวิตแปลกที่ไม่รู้สึกฝืนใจ กลับเต็มใจมากต่างหาก...แต่ว่า...พรึ่บ / พรึ่บ/ พรึ่บ/ พรึ่บ/ พรึ่บ"..."ผู้คนที่ก่อนหน้ายืนต่อคิวกันอยู่ ทว่าเพียงแค่หันมาพบกับชายหนุ่มยืนทำหน้าทมึนเป็นกิจวัตร พอเจอเข้าก็รีบถอยกรูกันทั้งแถว หนำซ้ำลูกน้องสองคนที่เอาของไปเก็บเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ดันมายืนขึงขังอยู่ด้านหลังเขาอีก เอาเป็นว่าใครเห็นถ้าไม่วิ่งกระเจิงก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว"อะ เอ่อ... ระ รับ รับกี่แก้วดีคะ"พนักงานถึงกับเอ่ยติด ๆ ขัด ๆ คงนึกว่าพวกเขาเป็นโจร หรือไม่ก็อัธพาลสินะ... เฮ้อ~หล่อขนาดนี้จะกลัวอะไรกันนักกันหนา..."20 แก้ว" เจ้าของใบหน้านิ่งตอบกลับเสียงเรียบ ถึงแม้เขาจะบอกให้คนที่ถอยกรูกันออกไปนั้นเป็นฝ่
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ไบร์ทก็พาเธอมายังห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ กับคอนโด โดยวันนี้ทั้งเขาและเธอตกลงกันว่าจะมาซื้อพวกของกิน ของใช้ และอาหารสดไว้สำหรับเวลาที่เธออยากทำอาหารอีกทั้งพวกของใช้เสื้อผ้าต่าง ๆ เธอก็ไม่อยากกลับไปเอาที่ห้อง เพราะตอนนี้ยังไม่พร้อมเจอเขาคนนั้น ขอให้จิตใจแข็งแกร่งได้มากกว่านี้ สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้โดยที่ไบร์ทไม่ต้องยืนประกบหลัง หรือยืนพยุงอยู่ข้าง ๆ ก็เพียงพอที่จะเจอกัน"เอาอันนี้ด้วยไหม""มันคืออะไรเหรอ?" เธอดูไม่ค่อยออกเท่าไรนัก ว่ากล่องที่ไบร์ทถือมาให้เธอนั้น คืออะไร?"ซิลิโคนแปะจุก เวลาใส่เสื้อสายเดี่ยว หรือชุดโชว์หลังอะไรแบบนี้มันจะได้สวย""..."ไม่เพียงแค่เธอที่เงียบ ลูกค้าและพนักงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็เงียบกริบ และหันมามองทั้งสองคนเป็นตาเดียว"ทำไมเหรอ?"เขาถามแบบนั้นเพราะเห็นเธอนิ่งอึ้งไป แก้มขาวตอนนี้เริ่มเเดงระเรื่อ จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน นอกจากเขาจะเดินเลือกเสื้อผ้าให้เธออยู่เนือง ๆ ตัวนั้นก็สวยตัวนี้ก็เหมาะแล้วพวกของใช้บางอย่างที่เธอไม่เคยนึกถึงเขายังหามาจนได้ซะขนาดนี้"เปล่า ๆ เอาไปก็ได้ "เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบเออออไปกับเขา พอ
เช้าวันถัดมา...ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องที่อยู่ข้างกัน ยิ้มตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อมาทำความสะอาดห้อง แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดไม่มีเรียนก็ตาม แต่เพราะเธอคุ้นชินกับการตื่นขึ้นมาทำงานบ้านแต่เช้า ตั้งแต่เด็กตอนอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดยายก็จะพาตื่นตั้งแต่เช้ามืด เธอจึงติดเป็นนิสัยที่แก้ไม่เคยหายสักทีหลังจากที่เธอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว แต่ห้องนอนข้าง ๆ ยังไม่เปิดประตูออกมาสักที เธอจึงเกิดความสงสัย และเคาะประตูเรียกเขาอยู่นานกว่าเจ้าของห้องจะเปิด"ไบร์ท ตื่นหรือยัง?""ไบร์ท ฮัลโหล"แกร๊ก ประตูห้องถูกเปิดออกตามด้วยร่างของคนตัวโตซึ่งสวมเพียงกางเกงนอนตัวจิ๋วเพียงแค่ตัวเดียว ด้านบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นหุ่นล่ำสันที่เต็มไปด้วยรอยสักสุดเท่ ซึ่งตอนเเรกเธอมองว่ามันน่ากลัว แต่ไป ๆ มา ๆ กลับมองว่ามันคือศิลปะบนร่างกาย ดูมีสไตล์ไปอีกแบบและอีกอย่างที่เธอได้เรียนรู้นั่นก็คือ ‘รอยสัก’ ไม่ได้วัดคุณค่าและนิสัยของคน..."มีอะไรเหรอ?"ท่าทางงัวเงียบวกกับผมเผ้ากระเซอะกระเซิงนั่น ไม่ได้ทำให้เขาดูหล่อน้อยลงเลยสักนิด ขนาดหน้าสดตอนตื่นนอนยังกร้าวใจขนาดนี้ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!"เปล่า เราแค่เห็นไบร์ทไม่ออกมาสัก
"ไปอยู่กับมันไม่กี่วัน โดนมันล้างสมองขนาดนี้เลยเหรอวะ?"กันต์เอ่ยด้วยท่าทีแปลกใจระคนตัดพ้อ เขาแอบดูตั้งแต่ที่เห็นยิ้มเดินเข้ามา เขานั่งดื่มอยู่นานเเล้ว กะว่าวันนี้จะดื่มให้หายเครียดสักหน่อย เมื่อตอนกลางวันเชอรี่ได้เข้ามาเล่าเรื่องราว บอกว่ายิ้มตกลงคบกับไอ้ลูกครึ่งหน้าโหดนั่น แถมมันยังเป็นคนเอ่ยปากพูดว่าเป็นผัวคนใหม่ของยิ้มตอนนั้นเขาโมโหมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรยิ่งนึกถึงตอนที่สองนั้นคงจะ...คงจะทำเรื่องอย่างว่ากัน จนกล้าเรียกว่าผัวเมียเขายิ่งไม่พอใจ"ไปกับมันกี่ชั่วโมงล่ะ ถึงเอากัน" คำพูดสิ้นคิดหลุดออกมาจากปากเขาอีกแล้วยิ้มกัดฟันกรอด มือเล็กกำเข้าหากันแน่นอย่างข่มกลั้น เธอทนอยู่กับคนแบบนี้มาได้ยังไงตั้งสี่ปีนะ คนที่เอาแต่พูดจาดูถูกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ยอมออกไปจากชีวิตเธอสักที!"จะกี่ชั่วโมงมันก็ไม่เกี่ยวกับคนนอก"เธอตั้งใจเน้นเสียงในประโยคนั้น ให้เขาได้ยินชัด ๆ ก่อนที่จะยื่นมือไปคว้าแขนแกร่งของชายหนุ่มที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าเป็นแฟนใหม่ของเธอมากอดไว้เพื่อก่อกวนคนตรงหน้า เอาสิ! เธอก็เหนื่อยที่จะเป็นยิ้มที่เเสนดีคนนั้นแล้วเหมือนกัน ลองเป็นยิ้มในเวอร์ชั่นร้าย ๆ แบบที่ไบร์ทสอนหน่อยเป็นไง?"