เอี๊ยด!!!!!!!
เสียงล้อของรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสุดขีด เหยียบเบรคเมื่อเข้าถึงเส้นชัยจนเกิดรอยล้อลากเป็นทางยาว และตามมาด้วยรถคันอื่นที่วิ่งเข้าเส้นชัยตามหลังมาติด ๆ หนึ่งในนั้นก็คือรถของกันต์ ที่โมโหเป็นฟืนเป็นไปเพราะนี่เป็นครั้งเเรกที่เขาสัมผัสกับคำว่า ‘พ่ายแพ้’ ปัง!! เสียงกระเเทกปิดประตูรถอย่างเเรง ตามอารมณ์ที่พุ่งสูง ก่อนจะก้าวอาด ๆ เดินเข้าหารถที่ขับเข้าเส้นชัยมาก่อน เพื่อดูหน้าคนที่บังอาจชนะเขา! แต่แล้ว… ตุบ!! ก่อนที่จะถึงตัวรถ ชายหนุ่มก็โดนลูกน้องของฝั่งนั้นถีบกระเด็น ทั้ง ๆ ที่ยังไม่พูดคุยอะไรเลยด้วยซ้ำ "เฮ้ย! ๆ ใจเย็น" เสียงร้องปรามจากนิก ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งเข้ามาพยุงเพื่อนที่ล้มก้นจ้ำพื้นดินให้ลุกขึ้น "แม่งเอ้ย!!!" "ใจเย็น มึงแพ้เเล้วอย่าพาลดิวะ เดี๋ยวลูกน้องมันก็รุมกระทืบมึงหรอก" "มันเป็นใคร?" กันต์ที่ตอนนี้กัดฟันถาม หายใจฟึดฟัด พร้อมกับยืนจ้องมองว่าคนที่เดินลงจากรถมานั้น เป็นใครกันแน่ "อะ เอ่อ..." เพื่อนอีกคนเอ่ยอึกอัก แค่มองรถและกลุ่มลูกน้องที่คอยตามดูแลนั่นแล้วคงเดาได้ไม่ยาก ถ้าบอกมันไปตรง ๆ ว่าคนที่ชนะมันคือเจ้าของสนามเเข่งที่นาน ๆ ทีจะปรากฏตัวสักครั้ง ก็กลัวว่าเพื่อนจอมหยิ่งของตัวเองจะรับไม่ได้ จึงทำได้เพียงปล่อยให้มันได้เห็นกับตาตัวเอง ว่าคนที่ลงจากรถมาเป็นใคร... “......../......../........” เมื่อประตูรถคันที่ชนะเปิดออก ตามด้วยร่างของชายหนุ่มตัวโต บวกกับความสูงเกิน 190 เซนติเมตร ตามแบบฉบับหนุ่มลูกครึ่ง ทำให้ร่างนั้นดูสะดุดตาและน่ากลัวเมื่อเเรกเห็น ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นจากพระเจ้า จมูกโด่งยังมีจิวขนาดเล็ก เสริมความเท่ ขับลุคให้เจ้าตัวดูอันธพาลเข้าไปอีก "กูชนะ" น้ำเสียงเรียบเฉยจากชายหนุ่มหน้านิ่ง ราวกับที่บ้านเป็นโรงงานทำน้ำเเข็ง เขาคือ ‘ไบร์ท’ ผู้ที่ครอบครองฉายานิ่งอันตราย ภายนอกก็ว่าน่ากลัวเเล้ว ทั้งหน้าตาบุคลิก บวกกับรอยสักมากมายที่เจ้าตัวตั้งใจสักทับผิวที่ขาวออร่าจนเเสบตานั่นเเล้ว นิสัยของเขาก็ไม่ได้ต่างจากบุคลิกมากนัก แถมยังพ่วงฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลผู้มีอิทธิพล ยิ่งไม่มีใครอยากเข้าใกล้ และมีปัญหากับคนแบบเขา... "เหอะ ๆ แค่ชนะครั้งแรก ก็ทำเท่แล้วเหรอวะ? เหอะ!" "มึงพูดกับเขาดี ๆ ไอ้กันต์" "กูชนะ" อีกคนยังคงพูดประโยคเดิมซ้ำ "เออ!! กูรู้แล้วว่ามึงชนะ มึงจะย้ำทำซากอะไร!!" "ก็กูชนะ" คล้ายกับอีกคนจงใจยั่วโมโห หรือเเท้จริงเเล้วเขามีนิสัยการพูดแบบนี้เป็นปกติ แต่ตอนนี้ลักษณะการพูดจาของเขา กำลังทำให้ใครอีกคนอารมณ์เดือด และพุ่งตัวหมายจะต่อยเขาให้ได้! "มึงกวนตีนเหรอวะ!" "ไอ้กันต์ มึงหยุด! มึงตั้งสติ!" นิกที่วิ่งมาล็อคตัวไม่ให้เพื่อนของตนรนหาที่ตายก่อนวัยอันควร และอีกอย่างการกระทำของมัน คือการกระทำของพวก ‘แพ้แล้วพาล’แพ้แล้วไม่รู้จักยอมรับ แถมตอนนี้เริ่มมีกลุ่มคนที่เคยนั่งเชียร์รีบวิ่งมามองดูเหตุการณ์ พร้อมกับโฮ่ร้องเย้ยหยันคนแพ้นิสัยเสียกันยกใหญ่ ยิ่งทำให้กันต์โมโหหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว! "กันต์!!" เสียงเรียกจากหญิงสาวที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ เธอยืนทำตาแดงก่ำอยู่ด้านหลังของเขา เธอสวมเพียงเสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าเเตะธรรมดา แต่ใบหน้าหวานนั่นกลับไม่ได้ทำให้เธอดูธรรมดาเลยสักนิด เธอยืนกำหมัดตัวสั่น ก่อนจะพุ่งไปคว้าปกคอเสื้อของผู้เป็นแฟน และตะคอกถามอย่างคนเหลืออด! "ทำแบบนี้กับยิ้มได้ยังไงฮะ!? แอบไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง!" "มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย" "นี่มันอะไรหา! " เพียะ! เสียงฝ่ามือกระทบเข้ากับใบหน้าหล่อจนเป็นรอยแดงเด่นชัด เมื่อสะบัดตัวหลุดได้เธอก็ซัดเข้าที่ใบหน้าหล่ออย่างจัง! ฝ่ามือเล็กที่ฟาดเข้าเต็มเเรงจนชายหนุ่มหน้าหัน ตั้งแต่คบกันมาสี่ปีนี่เป็นครั้งแรกที่เธอลงมือกับเขา เธอสุดจะทนแล้วจริง ๆ มันเกินที่เธอจะรับไหวอีกต่อไป! "มึงกล้าตบกูเหรอฮะ!?" กรามหนาขบเข้าหากันเเน่น ดวงตาแดงก่ำ พร้อมที่จะปะทะสุด ๆ "เออ! ฮึก~แค่ตบมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับสิ่งที่กันต์ทำกับเรา เราเป็นคนนะเว่ย เรายอมแกทุกอย่าง แม้แกจะไม่เคยบอกใครต่อใครว่าเราเป็นแฟน หรือแกจะด่าจะว่าเรายังไงก็ได้ ฮือ ๆ ๆ " "แต่นี่มันเกินไปแล้ว แกเห็นเราเป็นควายหรือไงหา!" หญิงสาวตะโกนอย่างเหลืออด ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้ากระชากปกเสื้อฝ่ายนั้นอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูง ทั้งเจ็บปวด ผิดหวัง และเสียใจ เธอไม่อายสายตาใครไหนเลยสักนิด แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับตรงกันข้าม เขาอาย! และกำลังโมโห! จนทำเรื่องระยำต่ำตมในวินาทีต่อมา เพียะ!! "ไอ้กันต์! มึงตบยิ้มทำเหี้ยไร!!"เสียงตะโกนดังลั่นเมื่อเพื่อนสนิทซัดฝ่ามือใหญ่เข้าใส่แฟนสาว จนเธอฟุบหมอบลงกับพื้น หน้ามืดไปทันที ผวั่ะ!!! แต่ทว่า!ต่อมา หมัดหนักก็ตามมาติด ๆ หมัดนั้นซัดเข้าทันทีที่ร่างของสาวน้อยที่ชื่อยิ้มล้มลง ทำเอาคนที่ถูกซัดเปรี้ยงเข้าเต็ม ๆ ถึงกับเซถลาไปอีกทาง! "สันดาน" ชายหนุ่มร่างโต เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องตาเเข็งกร้าว แม้จะเอ่ยเพียงสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา กลับทำให้ทั่วทั้งบริเวณเงียบกริบ ราวกับต้องมนต์…"ยิ้มต้องมั่นใจในตัวเองนะ ยิ้มอย่าเอาแต่มองว่าตัวเองแย่ ไม่ดี ต่ำต้อย ไม่ควรค่าที่จะได้รับสิ่งดี ๆ"เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวย เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแฝงไปด้วยพลังบวกที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน จู่ ๆ ไบร์ทก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์มาสองกระป๋องก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม"ยิ้มออกจะน่ารัก ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านเก่ง เรียนก็เก่ง นิสัยดีอีกต่างหาก" เขาเอ่ยร่ายยาวพร้อมกับเปิดกระป๋องเบียร์ และยื่นมันมาให้เธอ"ให้ทำไม?" เธอทำหน้าสงสัยเล็กน้อย"มันช่วยให้หลับสบาย ลองดู""เราไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์" เธอไม่เคยดื่มจริง ๆ และไม่รู้เลยว่าถ้าเธอเกิดกระดกมันเข้าไปแล้วสภาพหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร"ลองดูสักครั้งเถอะ ไม่เสียหายหรอก เราอยากให้ยิ้มหัดลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง""งั้นก็ได้" ทำไมเธอถึงตกลงง่ายขนาดนั้นน่ะเหรอ สั้น ๆ เลยคือ...อยากลอง"อึก อึก อึก" เธอกระดกเครื่องดื่มในกระป๋องลงคออย่างฝืดเคือง และนั่งกระพริบตารอดูสิ่งที่จะตามมา พอผ่านไปได้เพียงสามนาที...ฟุบ! เอาเป็นว่าสาวเจ้าของกายของไบร์ท หลับคอพับในท่านั่งท่าเดิมจนเขาขำปอดโยก เบียร์แค่สามอึกทำเอาเธอน็อคกลางอากาศได้ขนาดนี้เลยเหรอ? น่าทึ่งเกินไปแล
"โถ่เว้ย!""เป็นห่าอะไรอีกล่ะเนี่ย"นิกที่ถูกบังคับให้มาอยู่เป็นเพื่อนคอยรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของคนที่กำลังโวยวาย และตะโกนเสียงดัง บ้างก็โยนข้าวของเกลื่อนห้องราวกับคนบ้าหลุดออกจากโรงพยาบาล จนอีกคนต้องกุมขมับ"หงุดหงิดเว้ย!"กันต์ตะโกนก้องอย่างคนหัวเสียขั้นสุด ยิ่งนึกถึงตอนที่เห็นสองคนนั่นไปไหนมาไหนด้วยกันเขายิ่งโกรธจนต้องหาที่ระบายแบบนี้"มึงนี่เนอะ ยิ้มทนอยู่กับคนแบบมึงได้ยังไงวะ""มึงพูดอะไรไอ้นิก คนแบบกูมันทำไม"คนที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าอารมณ์ ชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น และจิตใจโลเลอย่างไรเล่า... นิกอยากจะบอกถึงข้อเสียทั้งหมดของผู้เป็นเพื่อนแต่ก็รู้ดีว่าไร้ประโยชน์ คนแบบนี้ต่อให้พูดจนปากฉีกถึงรู้หูก็ไม่สำนึก หากไม่เจอกับความผิดหวังและคิดได้ด้วยตัวเองเท่านั้น"ช่างเหอะ ๆ กูขี้เกียจพูดแล้ว กูกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะ""คืนนี้กูจะไปกินเหล้า มึงต้องไปกับกู""โอเค ๆ เดี๋ยวเจอกัน" นิกตอบปัด ๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา ถ้าลองไม่ไปดูสิคนแบบมันจะยอมรามือง่าย ๆเมื่อเพื่อนออกจากห้องไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น มองไปรอบกายก็ล้วนแต่เจอสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำให้นึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมา ยิ
เมื่อร่างสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อ โดยทุกการก้าวเดินของเขามักจะตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนอยู่เสมอ แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใครต่อใครที่มองมา ปกติก็ไม่สนโลกอยู่แล้ว ไม่แม้จะออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้เลยสักครั้ง เขาเป็นประเภทโลกส่วนตัวสูง ยิ่งการมาต่อแถวซื้อของยิ่งแล้วใหญ่แต่เพียงเพราะว่า ครั้งนี้เขามากับใครบางคนที่พิเศษจนเขาอยากเอาใจเธอมากกว่าผู้ใด จึงเลือกทำสิ่งที่ตัวเองไม่คิดจะทำเลยสักครั้งในชีวิตแปลกที่ไม่รู้สึกฝืนใจ กลับเต็มใจมากต่างหาก...แต่ว่า...พรึ่บ / พรึ่บ/ พรึ่บ/ พรึ่บ/ พรึ่บ"..."ผู้คนที่ก่อนหน้ายืนต่อคิวกันอยู่ ทว่าเพียงแค่หันมาพบกับชายหนุ่มยืนทำหน้าทมึนเป็นกิจวัตร พอเจอเข้าก็รีบถอยกรูกันทั้งแถว หนำซ้ำลูกน้องสองคนที่เอาของไปเก็บเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ดันมายืนขึงขังอยู่ด้านหลังเขาอีก เอาเป็นว่าใครเห็นถ้าไม่วิ่งกระเจิงก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว"อะ เอ่อ... ระ รับ รับกี่แก้วดีคะ"พนักงานถึงกับเอ่ยติด ๆ ขัด ๆ คงนึกว่าพวกเขาเป็นโจร หรือไม่ก็อัธพาลสินะ... เฮ้อ~หล่อขนาดนี้จะกลัวอะไรกันนักกันหนา..."20 แก้ว" เจ้าของใบหน้านิ่งตอบกลับเสียงเรียบ ถึงแม้เขาจะบอกให้คนที่ถอยกรูกันออกไปนั้นเป็นฝ่
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ไบร์ทก็พาเธอมายังห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ กับคอนโด โดยวันนี้ทั้งเขาและเธอตกลงกันว่าจะมาซื้อพวกของกิน ของใช้ และอาหารสดไว้สำหรับเวลาที่เธออยากทำอาหารอีกทั้งพวกของใช้เสื้อผ้าต่าง ๆ เธอก็ไม่อยากกลับไปเอาที่ห้อง เพราะตอนนี้ยังไม่พร้อมเจอเขาคนนั้น ขอให้จิตใจแข็งแกร่งได้มากกว่านี้ สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้โดยที่ไบร์ทไม่ต้องยืนประกบหลัง หรือยืนพยุงอยู่ข้าง ๆ ก็เพียงพอที่จะเจอกัน"เอาอันนี้ด้วยไหม""มันคืออะไรเหรอ?" เธอดูไม่ค่อยออกเท่าไรนัก ว่ากล่องที่ไบร์ทถือมาให้เธอนั้น คืออะไร?"ซิลิโคนแปะจุก เวลาใส่เสื้อสายเดี่ยว หรือชุดโชว์หลังอะไรแบบนี้มันจะได้สวย""..."ไม่เพียงแค่เธอที่เงียบ ลูกค้าและพนักงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็เงียบกริบ และหันมามองทั้งสองคนเป็นตาเดียว"ทำไมเหรอ?"เขาถามแบบนั้นเพราะเห็นเธอนิ่งอึ้งไป แก้มขาวตอนนี้เริ่มเเดงระเรื่อ จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน นอกจากเขาจะเดินเลือกเสื้อผ้าให้เธออยู่เนือง ๆ ตัวนั้นก็สวยตัวนี้ก็เหมาะแล้วพวกของใช้บางอย่างที่เธอไม่เคยนึกถึงเขายังหามาจนได้ซะขนาดนี้"เปล่า ๆ เอาไปก็ได้ "เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบเออออไปกับเขา พอ
เช้าวันถัดมา...ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องที่อยู่ข้างกัน ยิ้มตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อมาทำความสะอาดห้อง แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดไม่มีเรียนก็ตาม แต่เพราะเธอคุ้นชินกับการตื่นขึ้นมาทำงานบ้านแต่เช้า ตั้งแต่เด็กตอนอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดยายก็จะพาตื่นตั้งแต่เช้ามืด เธอจึงติดเป็นนิสัยที่แก้ไม่เคยหายสักทีหลังจากที่เธอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว แต่ห้องนอนข้าง ๆ ยังไม่เปิดประตูออกมาสักที เธอจึงเกิดความสงสัย และเคาะประตูเรียกเขาอยู่นานกว่าเจ้าของห้องจะเปิด"ไบร์ท ตื่นหรือยัง?""ไบร์ท ฮัลโหล"แกร๊ก ประตูห้องถูกเปิดออกตามด้วยร่างของคนตัวโตซึ่งสวมเพียงกางเกงนอนตัวจิ๋วเพียงแค่ตัวเดียว ด้านบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นหุ่นล่ำสันที่เต็มไปด้วยรอยสักสุดเท่ ซึ่งตอนเเรกเธอมองว่ามันน่ากลัว แต่ไป ๆ มา ๆ กลับมองว่ามันคือศิลปะบนร่างกาย ดูมีสไตล์ไปอีกแบบและอีกอย่างที่เธอได้เรียนรู้นั่นก็คือ ‘รอยสัก’ ไม่ได้วัดคุณค่าและนิสัยของคน..."มีอะไรเหรอ?"ท่าทางงัวเงียบวกกับผมเผ้ากระเซอะกระเซิงนั่น ไม่ได้ทำให้เขาดูหล่อน้อยลงเลยสักนิด ขนาดหน้าสดตอนตื่นนอนยังกร้าวใจขนาดนี้ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!"เปล่า เราแค่เห็นไบร์ทไม่ออกมาสัก
"ไปอยู่กับมันไม่กี่วัน โดนมันล้างสมองขนาดนี้เลยเหรอวะ?"กันต์เอ่ยด้วยท่าทีแปลกใจระคนตัดพ้อ เขาแอบดูตั้งแต่ที่เห็นยิ้มเดินเข้ามา เขานั่งดื่มอยู่นานเเล้ว กะว่าวันนี้จะดื่มให้หายเครียดสักหน่อย เมื่อตอนกลางวันเชอรี่ได้เข้ามาเล่าเรื่องราว บอกว่ายิ้มตกลงคบกับไอ้ลูกครึ่งหน้าโหดนั่น แถมมันยังเป็นคนเอ่ยปากพูดว่าเป็นผัวคนใหม่ของยิ้มตอนนั้นเขาโมโหมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรยิ่งนึกถึงตอนที่สองนั้นคงจะ...คงจะทำเรื่องอย่างว่ากัน จนกล้าเรียกว่าผัวเมียเขายิ่งไม่พอใจ"ไปกับมันกี่ชั่วโมงล่ะ ถึงเอากัน" คำพูดสิ้นคิดหลุดออกมาจากปากเขาอีกแล้วยิ้มกัดฟันกรอด มือเล็กกำเข้าหากันแน่นอย่างข่มกลั้น เธอทนอยู่กับคนแบบนี้มาได้ยังไงตั้งสี่ปีนะ คนที่เอาแต่พูดจาดูถูกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ยอมออกไปจากชีวิตเธอสักที!"จะกี่ชั่วโมงมันก็ไม่เกี่ยวกับคนนอก"เธอตั้งใจเน้นเสียงในประโยคนั้น ให้เขาได้ยินชัด ๆ ก่อนที่จะยื่นมือไปคว้าแขนแกร่งของชายหนุ่มที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าเป็นแฟนใหม่ของเธอมากอดไว้เพื่อก่อกวนคนตรงหน้า เอาสิ! เธอก็เหนื่อยที่จะเป็นยิ้มที่เเสนดีคนนั้นแล้วเหมือนกัน ลองเป็นยิ้มในเวอร์ชั่นร้าย ๆ แบบที่ไบร์ทสอนหน่อยเป็นไง?"