แชร์

บทที่13

ผู้เขียน: มู​๋​สะเต๊ะ​
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 21:42:58

ฉันกำลังโดนนายนั่นล็อคแขนทั้งสองข้างด้วยมือหนาของเขาแล้วบังคับให้สบตามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเลี่ยงฉันก็โดนไล่ต้อนโดยการหอมแก้ม อันที่จริงฉันรีบเดินหนีเข้าห้องนอนมาเพราะรู้สึกหงุดหงิดกับข้อความนั่นจนไม่อยากอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ เลยเลือกมาสงบสติอารมณ์คนเดียวเงียบๆ แต่พอได้ยินเสียงเขาเรียกและบอกว่าจะออกไปข้างนอกมันก็ทำให้ฉันคิดไปต่างต่างนานาความรู้สึกน้อยใจก็เริ่มค่อยๆ เพิ่มขึ้น ความใกล้ชิดที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนหมั้นจนวันนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวง จนน้ำใสใสไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นานนับนาที จนเขาส่งข้อความมาให้หยิบเสื้อกับกางเกงให้ฉันจึงลุกไปหยิบและยื่นออกไปให้เขาโดยที่ตัวแอบอยู่ด้านหลังประตูไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นฉันร้องไห้ด้วย จนเขามาคุกเข่าอธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ฉ้นก็แอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก ใจฉันมันอดสั่นไหวเพราะเขาไม่ได้เลย

ฟอด

"แสบ"

"ไหนจะไปเที่ยว"

"รีบไปสิ"

"ไม่อยากไปแล้ว"

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ

เขาจูบฉันอยู่นานหลายนาทีก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปจูบข้างแก้ม ลากริมฝีกปากร้อนไปจูบที่ใบหูขาวของฉัน ไล่ลงมาตามลำคอแล้วหัวไหล่มน ฉันในตอนนี้ที่อยู่ในเสื้อกล้ามคอกว้าง ทำให้เขาสามารถลากริมฝีปากร้อนผ่านผิวขาวอมชมพูของฉันได้อย่างง่ายดายราวกับเชื้อชวนให้เขาได้สัมผัสให้มากขึ้น ฉันปล่อยตัวพาหัวใจไปกับเขา เขาที่กำลังล่อลวงฉันด้วยความเจ้าเล่ห์ มือหนาร้อนกำลังซุกซนค่อยๆ เลิกชายเสื้อกล้าวของฉันขึ้นแล้วตามไล่ไปจูบตั้งแต่หน้าท้องบาง แล้วไล่ขึ้นมาทีละนิดทีละนิด จนถึงก้อนกลมที่มีแค่ซิลิโคนปิดไว้ ทำเขาดูหงุดหงิดทันทีที่เห็นจนกัดเข้าที่ก้อนเนื้อของฉันอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บและรู้สึกถึงรอยฟันของเขา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ใช้ฟันดึงซิลิโคนแผ่นบางออกราวกับมันเกะกะจนสร้างความรำคาญให้ ก่อนจะใช้มือร้อนข้างหนึ่งมาบีบเคล้นไปมาและใช้ปากร้อนดูดกินก้อนนุ่มอีกข้างไม่ปล่อยให้มันว่างราวกับกลัวมันน้อยใจ จากสัมผัมที่นุ่มนวลค่อยๆ เปลี่ยนเป็นร้อนแรงจนฉันต้องใช้สองมือน้อยน้อยขยุ้มเข้าที่ผมของเขาระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ และเหมือนเขารับรู้จึงเลื่อนมาป้อนจูบที่รุนแรงกัดริมฝีปากบางของฉันจนรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในปาก ก่อนจะถอนริมฝีปากออกเพื่อถอดเสื้อทั้งเขาและฉันออกให้พ้นตัวและกลับมาจัดการขบเม้มที่ซอกคอของฉันอีกครั้ง

"อ๊ะ"

"นาย"

"หืม"

ผมยุ่งอยู่กับซอกคอหอมหอมอยู่นานหลายนาที และกลับมาจัดการก้อนกลมสองก้อนด้วยความหมันเขี้ยวอีกครั้ง มันทั้งนุ่มปากและก็ล้นมือใหญ่ของผมจนอยากจะขยำอยู่แบบนั้นไม่อยากไปไหน อยากจะใช้ปากและลิ้นร้อนของผมดูดกินยอดสีชมพูหวานไม่อยากห่าง แต่มือสากที่แสนซุกซนของผมก็อยากจะสัมผัมเธอให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามผิวเนียนลื่นจนไปหยุดที่ขอบกางเกงยีนส์ตัวสั้นจิ๋วด้านล่าง แล้วขยับมาปลดกระดุมเล็กแล้วรูดซิปลงดึงสิ่งกีดขวางออกทั้งหมดในทีเดียว แล้วตามไปกอบกุมเนินเนียนนิ่มที่ผมเคยใช้มือสัมผัสมาแล้ว และก็อยากจะสัมผัสอีกซ้ำๆ ใช้ปลายนิ้วร้อนลูบไล้ผ่านรอยแยกแล้วแหวกว่ายเข้าไปหาน้ำหวานที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนฉุ่มนิ้วผม ก่อนจะกดลงไปซ้ำๆ ให้เธอได้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับผมมากขึ้น จนเธอขยำมือจิกลงบนเส้นผมของเขาจนเกร็ง ผมเลยพานิ้วเรียวยาวเข้าไปนำในทางคับแคบแล้วค่อยๆ ขยับจนเธอครางเสียงหวานเรียกชื่อผม เธอคงไม่รู้ตัวว่าเสียงหวานหวานของเธอแบบนี้มันทำผมยิ่งได้ใจเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งนิ้วแล้วจัดการต่อทันทีเพื่อหวังจะแก้แค้นกับความแสบของเธอ

"ไม่ไหวแล้วหว่ะมาย"

"ขอมากกว่านิ้วนะ"

"อ๊ะ"

ผมไม่รอให้เธออนุญาตก็นำแท่นร้อนที่เด้งออกมารอพร้อมรบอยู่นานแล้วกดเข้าไปในช่องคับแคบจนสุดโดยไม่ให้เธอได้ทันตั้งตัว และค่อยๆ ขยับสะโพกสอบทีละนิดทีละนิดจนเพิ่มความเร็วและแรงพาตัวเธอสั่นครอนไปกับความแรงของผม สองมือเล็กจิกลงบนที่นอนราวกับมันจะช่วยระบายความรู้สึกที่มี สีหน้าอ้อนอ้อนของเธอตอนนี้ทำผมอดใจไม่ไหวก้มลงไปจูบปากเล็กเล็กแดงแดงและขบกัดอย่างหมันเขี้ยวที่ชอบทำปากแจ๋วเถียงผมไม่เว้นวัน ร่างกายของเธอบิดไปมาจนหน้าอกแอ่นขึ้นเล็กน้อยราวกับเชื้อเชิญให้ผมไปดูดกินก้อนกลมที่มีแต่รอยของผมและกำลังจะทำรอยเพิ่มไม่ให้ว่างสักตารางนิ้วและอดจะกัดลงไปอีกไม่ได้

"อ๊ะ นาย"

"เบานะ มายไม่ไหว"

"ปล่อยไปกับนายนะ"

"อื้อ อ๊ะ/อ่า"

ผมพาเธอปล่อยใจไปพร้อมกับผมจนพากันไปถึงสวรรค์ ก่อนจะก้มตัวลงไปอุ้มเธอขึ้นโดยที่อาวุธของผมยังอยู่ในตัวเธอจนเธอต้องใช้สองแขนกอดคอผมเอาไว้แล้วซบหน้าลงบนบ่าแกร่งปกปิดใบหน้าสีแดงระเรื่อ แล้วพาเธอเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเขื่องอยากจะนั่งพักเหนื่อยสักหน่อยโดยจับเธอที่นั่งคร่อมผมเอาไว้ใช้สองมือหนาจับสะโพกมนบังคับให้ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะอยู่นานพอเธอรู้งานผมถึงเลื่อนมือมากอบกุมก้อนภูเขาตรงหน้าเข้าปากอย่างมูมมามก่อนจะขยับสะโพกของผมสวนเธอขึ้นไป ทำเธอก้มลงมากัดที่ซอกคอของผมราวกับเอาคืนแต่กลับกระตุ้นความดิบเถื่อนในตัวผมให้พุ่งทยานแล้วพาเธอปลดปล่อยไปพร้อมกันอีกครั้งและอีกครั้ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่42

    ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่41

    "สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษ​คับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์​ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่40

    และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณ​ตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่39

    และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่38

    เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่37

    "ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status