ตอนที่เจ็ด ทำขนมเป็นเหตุ
หลังจากจินขึ้นไปนอนพักในช่วงเช้า เมื่อจินตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนบ่ายจึงเริ่มรู้สึกหิว เขาหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงเขาจึงเพิ่งจะรู้ว่าตนเองเผลอนอนหลับนานมาก เขาตั้งใจว่าจะนอนงีบเพียงครู่เดียวเท่านั้นเอง
เมื่อเขาเดินลงมาชั้นล่างก็เจอกับป้าแนนซี่ที่กำลังทำความสะอาดห้องนั่งเล่นพอดี
"คุณจินคะ หิวรึยังคะ ป้าทำสปาเก็ตตีไว้ให้ค่ะ ถ้าหิวแล้วป้าจะไปอุ่นให้เลยค่ะ" ป้าแนนซี่ถามเมื่อเห็นจินเดินลงบันไดมาชั้นล่าง
เมื่อจินได้ยินดังนั้นจึงรีบพยักหน้าหงึกหงักด้วยดวงตาเป็นประกาย
"ขอบคุณครับ ป้าแนนซี่ใจดีที่สุดเลยครับ" ว่าแล้วจินก็เดินตามป้าแนนซี่เข้าไปในห้องอาหาร
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จจินสังเกตเห็นว่าบ้านค่อนข้างเงียบ จึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อถามป้าแนนซี่ที่กำลังล้านจานอยู่
"ป้าครับ ทำไมบ้านเงียบจังเลยครับ พี่ชุนไปไหนล่ะครับ ปกติผมเห็นพี่ชุนทำงานที่ห้องนั่งเล่นนี่ครับ" จินเอ่ยถามหลังจากเขาไม่เห็นชุน
"อ๋อ.. คุณชุนกำลังช่วยงานคุณมาร์ตินที่ห้องทำงานค่ะ คุณจินมีอะไรรึเปล่าคะ" ป้าแนนซี่หันมาตอบจินขณะที่เธอกำลังเช็ดจานอยู่ในมือ
"ปะ.. เปล่าครับ นี่คุณมาร์ตินยังไม่กลับอีกเหรอครับ ผมคิดว่าเขาจะกลับไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ" จินถามด้วยความแปลกใจ
"ค่ะ เห็นว่าคุณมาร์ตินจะมาพักอยู่ที่นี่สองสามวันนะคะ" ป้าแนนซี่บอก หลังจากชุนได้แจ้งเธอไว้ว่าทำอาหารให้มาร์ตินด้วย
"อ๋อ.. ครับ" จินตอบรับสั้นๆ ด้วยความสงสัย
"ป้าแนนซี่มีอะไรก็ไปทำต่อเถอะครับ ผมตั้งใจว่าจะลองทำเค้กเนยสดดูครับ ของที่ซื้อมาเมื่อวานยังเหลืออยู่ผมเลยอยากจะทำขนมแบบอื่นอีกครับ" หลังจากจินบอกป้าแนนซี่ เธอก็พยักหน้าเข้าใจ เธอจึงเดินออกไปทำความสะอาดที่ห้องนั่งเล่นต่อ
กลิ่นหอมของเค้กเนยสดตลบอบอวลไปทั่วบ้าน ทำเอาคนที่เพิ่งเสร็จจากงานทำความสะอาดอย่างป้าแนนซี่รีบเดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง
"หืม.. หอมจังเลยค่ะคุณจิน เดี๋ยวนี้เก่งใหญ่เลยนะคะ ทำขนมคนเดียวด้วย" ก็เมื่อวานกว่าจะเสร็จช่วยกันทำตั้งหลายคน
"ผมว่าบางทีการทำคนเดียวก็ทำให้เรามีสมาธิและจดจ่อกับการทำมากกว่านะครับ" จินว่าพลางตัดชิ้นขนมเค้กเนยสดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าออกมาจากถาดขนมที่เพิ่งจะอบเสร็จใส่จาน
ก่อนจะส่งจานขนมให้ป้าแนนซี่ "นี่ครับ ป้าลองชิมดูนะครับว่ารสชาติใช้ได้รึยังครับ"
แนนซี่รับมายังไม่ทันจะชิม จินก็เดินไปรินน้ำส้มคั้นในตู้เย็นมาส่งให้เธอ
" นี่ครับ กินขนมเดี๋ยวจะติดคอผมเลยคั้นน้ำส้มสดๆ แช่ตู้เย็นไว้ด้วย จะได้เย็นชื่นใจครับ" จินส่งแก้วน้ำส้มคั้นให้ป้าแนนซี่พร้อมรอยยิ้ม
"ขอบคุณค่ะ" ป้าแนนซี่รับแก้วน้ำส้มมาก่อนลงมือตักขนมเข้าปาก
จินได้แต่ส่งสายตาลุ้นอยู่ข้างๆ ป้าแนนซี่จึงได้แต่อมยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะยกน้ำส้มขึ้นจิบตามขนมที่กลืนลงท้องไป
"อืม.. อร่อยมากเลยค่ะคุณจิน ทำขายได้เลยนะเนี่ย" ป้าแนนซี่เอ่ยชมจึงทำให้จินยิ้มจนแก้มปริ
"แหมป้าก็ คงยังไม่ถึงขั้นนั้นมั้งครับ ผมเพิ่งจะหัดทำเองครับ" จินพูดด้วยอาการเขินอาย
"ป้าครับผมขอถาดหน่อยครับ ผมจะเอาไปให้พี่ชุนและคุณมาร์ตินที่ห้องทำงานครับ" ว่าแล้วก็มีเด็กอยากจะอวดผลงาน จินจึงรีบตัดเค้ก และรินน้ำส้มคั้นเย็นๆ สองแก้วก่อนจะนำไปให้มาร์ตินและชุน
"คุณจินคะ เดี๋ยวป้าเอาไปให้เองก็ได้ค่ะ ลำบากคุณจินเปล่าๆ มาค่ะ" ป้าแนนซี่พูดก่อนจะยื่นมือไปรับถาดมาจากจิน แต่จินกลับยกถาดหลบมือของป้าแนนซี่ไปด้านข้างอย่างช้าๆ
"ไม่เป็นไรครับ ป้าทำงานบ้านมาเหนื่อยทั้งวันแล้ว งานแค่นี้เองให้ผมยกไปเถอะครับ อีกอย่างผมอยากจะอวดพี่ชุนด้วย ว่าผมทำคนเดียว..คิก คิก" จินหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยกถาดเดินออกไปจากห้องครัว
“เดี๋ยวค่ะคุณจิน” ป้าแนนซี่เรียกตามหลังจินที่รีบร้อนเดินออกไป
เธอได้แต่มองตามหลังจินที่เดินหายออกไปจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว เธอบอกจินไม่ทันว่าจินควรจะไปล้างหน้าก่อน แป้งขนมติดหน้าและผมของจินเต็มไปหมด เฮ้อ.. ป้าแนนซี่ได้แต่ถอนหายใจตามหลังจินที่เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ก๊อก.. ก๊อก.. เสียงเคาะห้องประตูทำงานของมาร์ตินดังขึ้น ซึ่งชุนนั่งตรวจเอกสารอยู่ตรงโซฟาจึงลุกเดินออกไปเปิดประตูให้แทน ส่วนมาร์ตินกำลังนั่งทำงานบนโต๊ะด้านใน
"อ้าวจินเองเหรอ" ทันทีที่ชุนเดินไปเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าตื่นตะลึงก่อนจะแอบกลั้นขำไว้ในใจ หลังจากเขาพบจินยืนอยู่หน้าห้อง
“ครับ พอดีวันนี้จินว่างเลยทำขนมเค้กเนยสดครับ พี่ชุนและคุณมาร์ตินมาลองชิมดูนะครับ" จินพูดขึ้นหลังจากที่ชุนเปิดประตูให้ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง แล้วยกถาดขนมมาวางบนโต๊ะที่ชุนวางเอกสารไว้
เมื่อมาร์ตินเห็นสภาพของจินซึ่งมีใบหน้าที่ขาวไปด้วยแป้งขนมและมีบางส่วนของเส้นผมที่ถูกแป้งขนม มาร์ตินเองก็กลั้นขำเช่นกัน เพราะเขาเห็นใบหน้าใสซื่อและไร้เดียงสาของจินแล้วไม่กล้าหัวเราะออกมา
จินได้จัดการยกขนมและน้ำส้มคั้นออกมาจากถาด ในส่วนของชุนจินนำมาวางไว้ให้บนโต๊ะที่ชุนกองงานเอกสารค้างอยู่
ในส่วนของมาร์ตินนั้น จินได้ยกไปวางไว้ให้บนโต๊ะทำงาน เมื่อมาร์ตินเห็นจินยกมาให้ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เขาจึงมองจินอย่างนึกเอ็นดู
"นี่ครับคุณมาร์ติน ผมทำขนมนี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ผมชิมแล้วอร่อยใช้ได้ ยิ่งทานคู่กับน้ำส้มคั้นสดๆ ยิ่งเย็นชื่นใจดีครับ ลองชิมดูนะครับ" จินพูดขณะเลื่อนจานขนมไปตรงหน้ามาร์ตินด้วยน้ำเสียงสดใส
มาร์ตินจ้องมองใบหน้าไร้เดียงสาของจินที่กำลังลุ้นรอคำตอบอยู่จึงลองตักชิมก่อนจะเอ่ยชม
"อืม.. อร่อยใช้ได้ ขอบใจนะ" มาร์ตินเอ่ยออกมาหลังจากยกน้ำส้มคั้นขึ้นดื่ม
จินได้ยินดังนั้นก็ยิ้มจนตาหยี ส่วนชุนได้แต่ยืนนิ่งมองมาร์ติน ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างมาร์ตินก็ชื่นชมคนอื่นเป็นเหมือนกัน
มาร์ตินเห็นจินยืนมองตนนิ่งจึงกวักมือเรียกจินเข้ามาหา เมื่อจินเดินมาด้วยความงุนงงมาร์ตินจึงกระซิบบอกจิน "ขยับเข้ามาใกล้ๆ อีก" จิน จึงขยับเข้ามาใกล้ๆ มาร์ติน
มาร์ตินล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาเช็ดใบหน้าให้จินซึ่งเต็มไปด้วยแป้ง จินได้แต่ตกตะลึงยืนนิ่งให้มาร์ตินเช็ดหน้าให้ หัวใจที่เคยเต้นโครมครามเพิ่งจะสงบไปเมื่อตอนฟ้าใกล้สางนี่เอง บัดนี้กลับมาเต้นเสียงดังอีกครั้ง จินรู้สึกว่าใบหน้าตนเองเริ่มจะร้อนผ่าวเฉกเช่นเมื่อคืนนี้
มาร์ตินค่อยๆ เช็ดใบหน้าให้จินช้าๆ พลางสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากรูปภาพที่แจ๊คพ่อของจินเอามาให้
โดยเฉพาะดวงตา ดวงตาของจินนั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนเด็กไร้เดียงสา แววตาของจินเต็มไปด้วยความใสซื่อและบริสุทธิ์ ต่างจากดวงตาที่เขาเห็นในภาพ เด็กคนนั้นมีแต่ความดื้อรั้น เมื่อทั้งสองต่างประสานสายตากันอยู่นั้นต่างคนต่างก็จมอยู่ในความคิดของตนเอง
ชุนยืนมองภาพของทั้งสองคนพลางครุ่นคิด ตั้งแต่ที่จินเดินเข้ามาจนกระทั่งถึงตอนนี้ที่มาร์ตินเช็ดใบหน้าให้จินอย่างนิ่มนวลนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกแปลกใจในท่าทีของมาร์ตินที่มีต่อจิน
ในตอนแรกมาร์ตินค่อนข้างจะคัดค้านเรื่องของจิน แม้ไม่เคยเห็นหน้าจินมาก่อนแต่มาร์ตินก็หาทางปฏิเสธจินในทุกทาง ซึ่งต่างจากวันนี้อย่างสิ้นเชิง
เอ๊ะ.. หรือว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท่าทางของมาร์ตินที่มีต่อจินจึงเปลี่ยนไปอีกคน เมื่อคิดได้ดังนั้นชุนจึงกระแอมไอขึ้น
"แฮ่ม.. คุณมาร์ตินครับ ผมว่าให้จินไปล้างหน้าดีกว่านะครับ แป้งเลอะเต็มหน้าแบบนั้นคุณมาร์ตินเช็ดให้ไม่หมดหรอกนะครับ" ชุนพูดขึ้นมาจึงทำให้ทั้งสองคนซึ่งต่างก็จมอยู่ในความคิดของตนเองได้สติขึ้นมา
"อ๊ะ.. จริงหรือครับ" จินรีบยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดใบหน้าของตนอีกที
"สงสัยจินดีใจไปหน่อย เพราะจินอยากให้พี่ชุนและคุณมาร์ตินได้ชิมขนมเลยรีบยกมาให้ งั้นจินขอตัวก่อนนะครับ" พูดจบจินก็รีบหันหลังกลับวิ่งหนีออกไปด้วยความเขินอาย
ทิ้งให้มาร์ตินและชุนได้แต่อมยิ้มมองตามหลังคนทำขนมวิ่งหนีออกไป
"เอ่อ.. ปกติผมไม่เคยเห็นคุณมาร์ตินทานขนมเลยนะครับ ทำไมวันนี้ถึงทานละครับ ทานจนหมดจานเลยด้วยครับ" ชุนเอ่ยแซวเจ้านายของตนเองทันที เพราะเขารู้ว่ามาร์ตินไม่ชอบทานขนมหวาน แต่ชอบทานผลไม้มากกว่า
"ฉันเห็นเด็กนั่นตั้งใจทำขนาดนี้เลยชิมให้เขาเสียหน่อย เดี๋ยวเขาจะเสียความตั้งใจ" มาร์ตินกล่าวด้วยใบหน้าที่ตึงขึ้นมาในทันทีที่ชุนทักเขา จากนั้นเขาจึงแสร้งดูงานจากแล็ปท็อปต่อ เขาได้แต่นั่งอมยิ้มคนเดียวเมื่อนึกไปถึงใบหน้าของจิน เด็กคนนี้ช่างไร้เดียงสาจริงๆ
ชุนเห็นดังนั้นจึงกลับลงไปนั่งที่เดิม แล้วลงมือตักขนมที่จินทำมาให้ชิม อืม.. ก็อร่อยใช้ได้อยู่นะ เขาเอ่ยชมจินในใจเบาๆ
จินเมื่อวิ่งหนีออกมาจากห้องทำงานของมาร์ติน เขาก็กลับเข้าห้องของตนทันที และเมื่อกลับถึงห้องจินก็รีบเข้าห้องน้ำไปสำรวจใบหน้าตนเอง แล้วเขาก็พบว่าใบหน้าของตนนั้นเต็มไปด้วยแป้งทำขนม และเส้นผมสีขาวที่แป้งปลิวมาติดขณะทำขนม เขาอดจะสมเพชตนเองไม่ได้อยากจะอวดขนมแต่ลืมสำรวจความเรียบร้อยของตนเอง
ยิ่งคิดยิ่งอับอายเมื่อนึกไปถึงตอนที่มาร์ตินเช็ดหน้าให้ ใบหน้าของเขากลับมาร้อนผ่าวอีกครั้ง หัวใจที่เพิ่งจะสงบกลับมาเต้นโครมครามเหมือนตีกลองรบอีกรอบ
ใบหน้าคมเข้มของมาร์ตินจ้องมองจินตอนเช็ดใบหน้าให้เขานั้นทำให้หัวใจของจินเริ่มสั่นไหว ยิ่งได้สบตาคมยิ่งใจเต้นแรงตกลงมาร์ตินเป็นคนยังไงกันแน่นะ ไหนบอกว่าไม่อยากแต่งงานกับเขายังไงล่ะ แต่ไหงตอนนี้กลับมาทำดีกับเขาจัง จินค่อยๆ ใช้มือจับหัวใจที่เต้นโครมครามเสียงดัง ตึกตัก ตึกตัก เมื่ออยู่กับมาร์ตินนั้นเขาไม่เข้าใจ ความรู้สึกนี้คืออะไรกันนะ จินคิดยังไงก็คิดไม่ออก