‘พูดแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน พี่ดินพามาบ้าน มาหาย่า นั่นหมายถึง ไม่มั้ง’ หญิงสาวอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ วันนี้คณิศรทำดีกับเธอ ให้ความสนิทสนมแบบคนที่น่าไว้ใจ อีกอย่างเขาโปรยเสน่ห์ให้เธออย่างรุนแรง จนเธอหัวใจจะระเบิดไปหลายรอบ
ความเป็นจริงชนิษฐาไม่รู้ว่าเขาหลอกใช้ ตอนนี้คณิศรกำลังโปรยหว่านให้เธอรักให้เธอหลงเขา ดวงตาที่พร่างพราวนั่นทำให้เธอตกบ่วงรักลงไปอย่างง่ายดายความชอบที่มีมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่
เธอกวาดสายตามองไปรอบบ้านของคุณย่า เพื่อลดความกังวล แต่ยิ่งเห็นว่าเขาร่ำรวย และฐานะที่แตกต่าง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่ มือเย็นมาก
คณิศรจับมือของเธอแล้วบีบ หญิงสาวจึงยกหน้ามองเขา
“เมี่ยงไม่กังวล และไม่ต้องกลัวนะ ย่าของพี่ใจดีมากครับ”
“ค่ะ ค่ะ คือเมี่ยงยังไม่เคยไปบ้านเพื่อนคนไหนเลยนะคะ พี่ดินเป็นคนแรกที่เมี่ยงมาเยี่ยมบ้านค่ะ”
“พี่ใช่เพื่อนของเมี่ยงที่ไหนกัน” เขายิ้มให้อย่างกรุ่มกริ่ม เสน่ห์ของคณิศรมีเยอะแยะ สำหรับชนิษฐาเขาขยิบตาจ้องแบบหวานๆ ทำท่าทียักคิ้วลิ่วตาเล็กๆ น้อยๆ เธอต้องก็ติดกับดักเขาเสียแล้ว
สายพิณยกทุกอย่างมาตั้งที่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่คุณย่าออกมาจากห้องน้ำ ท่านตรงมายังทั้งสองหนุ่มสาว
คณิศรลุกขึ้นไปสวมกอดท่าน แล้วทำท่าออดอ้อน เขาหอมแก้มเหี่่ยวๆ ของคุณยายอย่างแสนรัก
“ไม่ต้องมาทำดีเอาตอนนี้นะ ชิ... ไม่กลับมานอนที่บ้านเมื่อคืน หายหัวไปเลย” พูดแล้วท่าก็หยิกเหน็บลงไปที่ผิวหนังเนื้อแขนของเขา
“โอ๊ย! ย่าครับ” คณิศรอุทานเบาๆ แล้วก็ทำปากปุ้ยใบ้ให้ย่ามองมาทางชนิษฐา
หญิงสาวยกมือไหว้ท่าน ทันทีที่ได้สบสายตา
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
กิริยาที่อ่อนหวานแช่มช้อย ใบหน้าที่หมดจด แถมยังรอยยิ้มที่พิมพ์ใจ รวมถึงการแต่งเนื้อแต่งตัว ทำให้คุณย่าถึงกับยิ้มออกมาทั้งสายตาอย่างพึงพอใจ
ท่านตีเผียะไปที่แขนของหลานชาย
“ทำไมไม่บอกว่าจะพาน้องมาเที่ยวที่บ้าน”
“น้องชื่อเมี่ยงครับย่า ถ้าผมบอกย่า ก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ”
ย่ามณีดีใจมากๆ ที่เห็นเห็นหลานชายควงสาวสวยมาเจอ และเป็นผู้หญิงที่น่ามองไปทุกระเบียบนิ้ว ผิดจากสาวๆ ที่คุณย่าเคยเห็นๆมา เอาที่คณิศรควงมาให้เจอโดยบังเอิญ ไม่นับรวมที่สายสืบที่รอบตัวของคณิศรได้แอบส่งรูปถ่ายมาให้
“เมี่ยงเป็นรุ่นน้องที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันครับ แต่คนละคณะ เธอเรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ”
“ดีใจจังเลยที่ได้เจอหนูเมี่ยงนะ”
ได้รับการต้อนรับแบบนี้เธอก็ยิ้มนวล คุณย่าเดินเข้ามาหา และจับเนื้อจับตัว สายตาของท่านก็เพ่งพิจารณาไปทั่วร่างของชนิษฐา
ความอุ่นใจเกิดขึ้นมาอย่างประหลาด เธอรับรู้ได้ถึงความใจดีของคุณย่ามณี
“เป็นแฟนกันนานแล้วเหรอ คบกันนานหรือยัง ไม่เห็นพี่ดินเคยพูดถึงเลย ฮึ... น่าตีนัก” ไม่พูดเปล่า หันไปตีหลานชายอีกครั้ง
ชนิษฐาไม่พูดอะไรเ พราะเธอไม่ได้คบกับคณิศรแบบแฟน แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะเกรงจะเป็นการหักหน้าของท่าน
“ผมก็อยากขอเมี่ยงเป็นแฟนเหมือนกันครับ”
ชนิษฐาถึงกับตะลึง เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ปีนี้น้องก็จะเรียนจบแล้วครับคุณย่า เหลือแค่สอบไฟนัล”
“จริงเหรอ” หันไปถามเอากับชนิษฐา
“ค่ะ” เธอตอบออกไปอย่างไว สายตามองสลับใบหน้าของคุณย่าและคณิศร
ที่จริงชนิษฐาเพราะไม่รู้จะพูดอะไร จริงๆ มันไม่ตั้งตัวที่จะได้เยินคำพูดอย่างนี้จากเขา คณิศรยังไม่ได้บอกชอบเธอสักคำ แต่บอกคุณย่าว่าเขาอยากเป็นแฟนกับเธอ
“กิจการงานบ้านเรามีเยอะแยะ หนูเมี่ยงจบแล้ว ก็แต่งงานกับพี่ดินเลยนะลูก ย่าจะจัดงานให้อย่างใหญ่โต”
“คุณย่าคะ คือว่า...” ชักจะเลยเถิด เธอกำลังจะขวาง
แต่คณิศรกับพูดขัด...
“ขอบคุณมากครับคุณย่า” คณิศรรีบยกมือไหว้ แล้วกอดประจบคุณย่า ท่านเลยใช้มืออีกข้างหนึ่งดึ่งร่างของหญิงสาวเข้ามากอดอีกคน
“รู้ไหมวันนี้เป็นวันที่ย่าดีใจที่สุดเลย คงกินข้าวได้อร่อยแน่ๆ พิณตักข้าวเลยนะ”
“ค่ะ”
ทุกคนหันมามองหน้าชนิษฐาอย่างยินดีต้อนรับเธอเข้ามาสู่ครอบครัวดี
คณิศรยิ้มเต็มใบหน้าให้กับชนิษฐา เธอส่ายหัวนิดๆ แต่เขากลับพยักหน้าหน่อยๆ เป็นอันรู้กัน เหมือนกับคณิศรจะบอกกับเธอว่าเขาตั้งใจจริง
ชนิษฐาเครียดจนคิ้วขมวด เขาชอบเธอตรงไหน เมื่อไร? ซึ่งมันหาคำตอบไม่ได้
คณิศรทำมือวาดในอากาศเป็นรูปหัวใจ บอกกับเธอนัยๆ ว่า เขาและเธอหัวใจตรงกัน
ทั้งสองหนุ่มสาวอยู่คุยกับคุณย่าเกือบสองชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะขอตัวกลับ
“วันมะรืน ย่าจะไปสู่ขอหนูกับคุณป้านะ”
‘ไวมาก’ เธอยังไม่รู้จะเกริ่นบอกป้าช่อม่วงอย่างไรเลย ทุกอย่างกะทันหันไปหดม ชนิษฐายังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ อีกอย่างคณิศรยังไม่ได้บอกรักเธอเลย...
แต่ความรักที่เธอมีให้กับเขามากมายก่ายกอง ความชอบที่มากจนล้นหัวใจ ที่มอบให้กับคณิศร ทำให้เธอไม่ปฏิเสธกับเรื่องนี้
“เมี่ยง” คณิศรตกใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียว ยังคงเล่นบทคนเศร้าง้อภรรยาอยู่“เมี่ยงไม่ได้อยากให้พี่ตายใช่ไหมครับ เมี่ยงจ๋า...อภัยให้พี่นะ นะครับคนดี”ไม่พูดอย่างเดียว คนที่ยอมทำตัวพิการง่อยเปลี้ยอยู่บนเตียงตั้งนานสองนาน คราวนี้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่น“พี่รักเมี่ยงจริงๆ รู้ตัวแล้วว่าขาดเมี่ยงไม่ได้ พี่ต้องตายแน่ๆ”ชนิษฐารีบยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา การที่ไม่ได้อยู่ใกล้คณิศร เธอเองก็แย่ไปเหมือนกันใจที่โกรธขึ้งเรื่องที่เขาทำลงไป สายพิณเล่าแล้วว่าทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัย และสุธาวีนั้นรุกหนัก เจ้าหล่อนเล่นกับอารมณ์ใคร่ สัญชาตญาณดิบของผู้ชายฤดีรัตน์ก็ช่วยหาข่าวเหมือนกัน เพื่อนเล่าว่าสุธาวีกินกับผู้ชายเกือบทั้งสาขา ล้วนเป็นคนรอบตัวคณิศรทั้งนั้นเขาช่างโง่...โง่มากเหลือเกิน นอกจากนั้นคุณย่ามณียังให้พนักงานที่แพมายืนยัน คณิศรออกคำสั่งไล่สุธาวี ห้ามมาเหยียบทุกพื้นที่ของเขาเด็ดขาดคณิศรทำแล้วสิ่งที่ควรทำ...แล้วชนิษฐาล่ะ เธอควรทำอะไรต่อดี“อย่าพูดคำว่าตายอีกนะ เพราะยังไงพี่ดินก็ต้องอยู่ดูหน้าลูกก่อน”ชนิษฐาตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น เลือกจะให้ครอบครัวได้ไปต่อ“เมี่ยง...”คณิศรคราง แม
พีรพัฒน์เข้ามาแบบมีข้าวของเต็มสองมือ“คุณเมี่ยงไม่อยู่ค่ะ” สายพิณรายงาน“อ้าวเหรอครับ มิน่าล่ะ โทรหาก็ไม่รับ แล้วยังไม่อ่านไลน์ผมอีก สวัสดีครับคุณย่า”คนแก่ลอบถอนหายใจ แต่ก็พยายามปั้นยิ้ม หากชนิษฐาจะตีจากจากคณิศร แล้วไปซบอกผู้ชายคนนี้ มันก็เหมาะสมอยู่พีรพัฒน์มีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนมั่นคงพึ่งพาได้ แม้เป็นพ่อหม้าย แต่การเลิกร้างนั้นจบลงด้วยดี ไม่มีข่าวลือเสียหายตามหลังเลย แต่ส่วนลึกในใจ...คุณย่ามณีไม่อยากให้ชนิษฐากับคณิศรหย่ากันอยู่ดี“คุณพีได้นัดกับคุณเมี่ยงเอาไว้หรือเปล่าคะ” สายพิณเข้าไปรับเอาข้าวของ ไม่ปล่อยให้เขายืนเก้อเขิน“เปล่าครับ พอดีผ่านมา”“แหม... แค่ผ่านเหรอคะ จอมทองกับเชียงใหม่ มันไม่น่าผ่านกันได้เนอะ”อดที่จะแซวแบบเหน็บๆ ในความพยายามทุ่มสุดตัวของชายหนุ่มไม่ได้“เสียเวลาแย่เลยพ่อพี มาเสียเที่ยวไม่ได้เจอน้อง”คุณย่ามณีเห็นใจ มองออกว่าชนิษฐาไม่เล่นด้วยกับพ่อหม้ายคนนี้ มิเช่นนั้นหลานจะหลบเลี่ยงการพบเจอทำไม“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณย่าอาการเป็นไงบ้างครับ”พีรพัฒน์นั่งลงใกล้ เขาเป็นคนที่โอบอ้อมอารี เอาใจใส่ทุกคน“ก็งั้นๆ แหละจ้ะ สุขภาพทรง ๆ ทรุด ๆ ตามประสาคนแก่ ขาหนึ่งก็ก้า
ที่ห้องพักของคุณย่ามณี ทุกคนได้ยินเสียงโอ้กอ้ากของชนิษฐาดั่งลั่นออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเมื่อครู่ออกมาแบบหมดไส้หมดพุงคุณย่าที่อยู่บนเตียงสบตาคุณช่อม่วงที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้เป็นป้ามองอาการหลานด้วยความกังวล สายพิณเป็นคนลูบหลังให้“ไม่สบายหนักเลยนะเมี่ยง ทำไมกินอะไรถึงได้อ้วกออกมาหมด”“พิณว่าพาคุณเมี่ยงไปตรวจเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็ใกล้หมอ อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่สินไปโทรเรียกให้คนเอารถเข็นมารับคุณเมี่ยงสิ”“จ้ะๆ ได้จ้ะ ได้” สินเดินไปที่โทรศัพท์ ก่อนจะยกหูไปยังโอเปอร์เรเตอร์ เขาขอรถเข็นมารับผู้ป่วย เพื่อไปตรวจดูเหมือนชนิษฐาจะหมดแรงแล้ว หน้าซีดจางขาวราวกระดาษ อ่อนเพลียร่างอยากจะนอนพักมากๆ“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องเกิดราวเอาตอนนี้นะ ดวงราหูจะเข้าแล้วแน่ๆ”คุณช่อม่วงเพิ่งผ่านตาคลิปหมอดูทักจากยูทูป ยามเปิดเล่นแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่เฝ้าคุณย่ามณี“พาไปหาหมอซะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร” คุณย่าสั่งด้วยใจห่วงใยปนกังวลไม่นานนักบุรุษพยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็น แล้วพาชนิษฐาเข้าลิฟต์ไปยังห้องตรวจด้านล่างในเวลาต่อมา“หมอว่าเป็นอะไรคะ” ทั้งสายพิณและสินตั้งหน้าตั้งตารอฟังผลที่หน้าห้องตรวจ“หมอว
เมื่อสองป้าหลานไปถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เห็นสายพิณนั่งร้องไห้น้ำตานอง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงของคุณย่ามณี“เกิดอะไรขึ้นหรือคะพี่พิน”“พี่พิณกับคุณย่าไปที่วัด ว่าจะอยู่วิปัสนาที่นั่นสักสองสามคืน แต่ตอนที่กินข้าวกันอยู่ สินโทรเข้ามาว่าคุณดินประสบอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เท่านั้นแหละค่ะ... คุณย่าก็สำลักข้าวค่ะ อาหารติดคอ ดีนะคะที่ตรงนั้นมีคุณหมอมาวิปัสนาที่วัดอยู่ด้วย เลยเข้ามาปฐมพยาบาลทัน แล้วก็พามาที่นี่แหละค่ะ”“แล้วอาการหนักไหมคะ” คุณช่อม่วงเอ่ยถาม“ดีนะคะหมอบอกว่าสมองไม่ขาดออกซิเจน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ อาจจะกลายเป็น...” สายพิณยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องไห้“คุณเมี่ยงคะ พี่พิณรับไม่ไหวแล้วนะคะ ไหนจะคุณย่า ไหนจะคุณดิน”“แล้วตอนนี้ดินอยู่ไหน” คุณช่อม่วงอีกนั่นแหละที่เป็นคนถามใบหน้าหลานสาวซีดเผือก ตาแดงก่ำราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วชนิษฐาจับมือของคุณย่าและบีบเบา“คุณดินออกจากห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ มาพักอยู่ที่ห้องพิเศษค่ะ”สายพิณรายงานหันไปหาชนิษฐาทั้งตัว“ฮือ... คุณดินน่ะไปทำอะไรมาก็ไม่รู้ค่ะ เห็นว่าประสบอุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างที่ไปทำตกแต่งสวนนั่นแหละ พิณไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ถามใค
ชนิษฐายืนฟังการสนทนานี้มาตั้งนานแล้ว เธอได้ยินทุกอย่าง“ไปกันได้แล้วค่ะเจ้านาย” เธอแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้เป็นวันเกิดของคณิศร เธอกับเขาเคยคุยกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสามคน คุณย่า เขาและก็เธอ แต่ดันมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วเมี่ยงจะกลับมากินข้าวเย็นหรือเปล่า”“ป้าไม่ต้องห่วงเมี่ยงค่ะ กินไปก่อนได้เลย”“อ้อ ตอนเย็นๆ ป้าไม่อยากกินอะไรหนักๆ นะ ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากให้เปลืองเงิน”ชนิษฐายิ้มยกมือโบกบ้ายบาย แล้วตามพีรพัฒน์ไปขึ้นรถในรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดคันใหญ่ที่หรูหราจอดไม่ไกลจากตรงนั้นนัก คุณย่ามณีอยู่กับสายพิณและนายสิน ตั้งใจจะมาชวนชนิษฐาไปทำบุญ แต่ได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าเสียก่อน คุณย่าถึงกับหน้าหงอย“เฮ้อ...หมดหวังแล้วใช่ไหมสายพิณ”“ยังหรอกค่ะ อย่าตัดสินกับแค่ภาพแบบนี้สิคะ มันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้”แต่สินมือไว ยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพ แล้วส่งไปให้อีกคน คณิศรใช้ให้สินมาเป็นสายสืบติดตามชีวิตของภรรยา“ถ้าอย่างนั้นสิน”“ครับ”“ขับไปวัดเถอะ ไปวัดวิปัสนานะ จะไปอยู่สักสองสามวัน”“ครับ”คุณย่ามณีหลับตาลง ตอนนี้เหนื่อยล้าเหลือเกิน คณิศรกอดขวดเหล้าเมาหยำเปทุกวัน ท่านภาว
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน นึกว่าเห็นแก่คนแก่ เอาที่หนูเมี่ยงสบายใจ แต่ย่าบอกแล้วเมื่อรับเป็นหลานอีกคนก็จะไม่ผลักไสไล่หนี เมี่ยงอยู่ที่นี่จนกว่าสบายใจ ไม่อยากกลับไปอยู่กับดินก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่แหละ ใช้ชีวิตของตัวเอง ดูแลคุณป้า...”จ้องสบตากับคุณช่อม่วงที่ตอนนี้หลบสายตาของคุณย่ามณีแล้ว“อยากทำอะไรก็ทำ ไปหางานทำก็ได้ แต่ย่าจะให้คนของย่าโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เงินจากกงสีนั่นแหละ ถือว่าเป็นหลานสาวแล้ว เป็นคนในครอบครัว และถ้าวันไหนเจอคนที่ถูกใจ อยากจะแต่งงานด้วย ค่อยไปบอกย่าก็แล้วกัน หาคนที่ดูแลกันได้ แล้วย่าจะให้ดินหย่าให้”ดูเหมือนคุณย่ามณีจะไม่รบเร้าอีกต่อไป น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ขวางไป เรือลำใหญ่แค่ไหนก็ล่มได้“สายพิณกลับเถอะ”กลายเป็นว่าคนที่ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าคือสายพิณเสียเอง“พี่พิณก็ไม่เคยมีผัว หรือว่ามีความรักหรอกนะคะ แต่เห็นอยู่หลายคู่ การให้อภัยกันต่างหากค่ะที่มันควรจะเริ่มจากคนในครอบครัว เหมือนที่คุณย่าพูดค่ะคุณเมี่ยง ใครก็ทำผิดพลาดกันได้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราญยังรู้พลั้ง ถ้าไม่รักคุณดิน ก็รักคุณย่านะคะ ถ้าคิดว่ายังเป็นหลานคุณย่าก็กลับบ้านเรา” สายพิณเข้ามาประคองคุณย่า อ