ตอนที่หก
ชายสูงวัย
เถาหลี่น่าลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อสายมากแล้ว เมื่อคืนนางจำแทบไม่ได้ว่าแตะสวรรค์ไปกี่ครา หัวหน้าเถาโจวหย่งช่างแข็งแรงทรงพลังจนนางสั่นเกร็งแทบขาดใจตาย
ถึงยามนี้ร่างบางจึงปวดท้องจากความเกร็งเสียวต่อเนื่องและปวดร้าวไปทั่วร่างด้วยไม่คุ้นเคยกับการร่วมรักอย่างหนักหน่วงมาก่อน
สาวน้อยก้มลงมองร่องดอกไม้ซึ่งแดงช้ำอย่างน่าสงสาร น้ำขุ่นขาวยังหลงเหลือเป็นคราบทั้งในร่องน้ำและหว่างขา ร่องรอยแดงของถูกขยำทั้งนิ้วและฟันถูกประทับไว้จนทั่วทรวงอวบอิ่มและไหล่บาง
เฮ้อ...คงต้องพักอีกหลายวัน
เถาหลี่น่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าด้วยโดนเคี่ยวกรำอยู่ทั้งคืน นางยังเยาว์วัยนักและไม่เคยได้รับความเสียวซ่านเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ลลินาเองก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้รับการเติมเต็มความกระสันอย่างสุขล้นเท่านี้มาก่อนเช่นกัน
ยังดีที่ร่างนี้อายุน้อย แข็งแรง จึงฟื้นฟูได้เร็ว
หัวหน้าเถานำอาหารมาให้ลูกศิษย์สาวถึงเตียงนอนและเฝ้าดูแลเช็ดตัว ทายา ประคบร่องให้อยู่ตลอดทั้งวัน
“เป็นอย่างไร ดีขึ้นแล้วหรือไม่”
“ดีขึ้นบ้าง ท่านช่างร้อนแรงนัก เล่นงานจนข้าแทบลุกไม่ขึ้นทีเดียว”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าเตือนแล้วว่าเจ้าจะร้องไม่ออก เป็นอย่างไรท่อนกายอันใหญ่โตอวบอ้วนของข้าแข็งแกร่งดีหรือไม่”
“ทั้งแข็งแน่น ทั้งเปี่ยมด้วยกำลัง ไม่น่าเชื่อว่าชายสูงวัยอย่างท่านยังมีเรี่ยวแรงมากเพียงนี้”
“เจ้าเด็กน้อยนี่ มาว่าข้าเป็นชายสูงวัย ข้ายังอายุไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ ยังห่างไกลจากคำว่าสูงวัยมากนัก”
“แต่ท่านเลี้ยงดูข้ามาเกือบสิบปี ย่อมต้องเป็นชายสูงวัยสำหรับข้า”
“พี่ชายเลี้ยงน้องสาวก็ได้ เหตุใดต้องเอ่ยกระทบกระเทือนจิตใจเช่นนี้”
“ฮ่า ฮ่า หัวหน้า ท่านเป็นชายหนุ่มทั้งแท่งยังจะแง่งอนเช่นหญิงสาวอีกหรือ ท่านไม่ใช่ทั้งพ่อ ไม่ใช่ทั้งพี่ชายข้าแน่ พวกเรากระแทกสอดใส่กันดุเดือดเช่นนี้ ย่อมต้องเป็นเพียงหัวหน้าเท่านั้น”
“ใช่ ข้าเป็นเพียงหัวหน้าที่ต้องคอยดูแลสั่งสอนเจ้าเท่านั้น เอาล่ะ พักให้ดี อีกไม่กี่วันต้องออกไปทำงานใหม่แล้ว อย่าได้ริลองของใหญ่อีก มิเช่นนั้นร่องรูของเจ้าอาจไม่คับแน่นดังเดิม” เถาโจวหย่งจำต้องยอมรับความจริง
“ข้าบอกแล้วว่ามีวิธี ของทั้งใหญ่ทั้งแน่นสร้างความสนุกสนานได้มากเพียงนั้น หัวหน้าจะตัดใจไม่ให้ข้าลิ้มลองอีกได้หรือ”
“เจ้าเด็กนี่ หากติดใจแล้วจะมาร้องงอแงหาข้าทุกคืนไม่ได้นะ ข้าต้องทำงานอื่น ไม่มีเวลามาเอาอกเอาใจเจ้า”
“ข้าไม่งอแงหรอกน่า ท่านไม่ว่างข้าไปหาท่อนเนื้อลำอื่นแก้ขัดก่อนก็ได้”
“เถาหลี่น่า เจ้าช่างน่าไม่อายนัก เพียงได้สอดใส่ไม่กี่ครา ถึงกับเรียกร้องมากเพียงนี้”
“ท่านเป็นคนทำให้ข้าติดใจ ย่อมต้องเป็นความผิดของท่านหัวหน้า”
“เจ้าเด็กเหลือขอ รู้เช่นนี้ไม่น่าส่งเจ้าไปฝึกที่หอคณิกานั่นเลย” ในใจของเถาโจวหย่งย่อมรู้สึกได้ว่าสาวน้อยตรงหน้าผิดแปลกไปจากเดิม ก่อนหน้านี้แม้เขาจะพูดหรือดุว่าอย่างไร นางมักเงียบเฉยไม่โต้เถียง อีกทั้งยังมีความกลัวเกรงในฐานะที่เขาเป็นผู้มีพระคุณ
แต่นับจากเจอหน้าในวันที่ไปรับตัวจากหอคณิกา เถาหลี่น่านางนี้กลับเถียงคำไม่ตกฟาก อีกทั้งยังไม่ให้ความเคารพเกรงใจเขาสักเท่าใด ชายหนุ่มใหญ่จึงได้แต่โทษการสั่งสอนของแม่เล้าใหญ่โดยไม่กล้าคิดเป็นเรื่องอื่น
“หากไม่ส่งไปฝึกฝนข้าจะเก่งกาจจนท่านเสียวซ่านร้องดังเพียงนั้นหรือ” เด็กสาวยังคงต่อล้อต่อเถียงไม่หยุดซึ่งเป็นนิสัยของลลินา จนหัวหน้าหนุ่มจำต้องยั้งความลำพองใจเอาไว้บ้าง
“อย่าได้ย่ามใจไป หากพบชายที่ช่ำชองมาก เจ้าอาจโดนหลอกล่อจนไม่อาจปืนขึ้นจากหลุมสวาทที่ขุดเอาไว้ได้”
“ข้าอยากพบชายผู้นั้นเร็วๆ อยากรู้นักว่าความสุขที่ไม่อาจลืมเลือนเป็นเช่นไร”
“เช่นนั้นมาลองความสุขในตอนนี้ก่อนเถิด นังหญิงร่าน”
“ฮ่า ฮ่า เหตุใดหัวหน้ามากล่าวหาข้าเช่นนั้น แรกเริ่มก็เป็นท่านที่อยากทิ่มแทงข้าจนตัวสั่น”
“ข้าจะแทงจนเจ้าร้องไม่ออก บอกผู้ใดไม่ได้ทีเดียว”
เถาโจวหย่งลงมือดูดกลืนเล้าโลมร่างเปลือยไม่นาน แล้วเร่งส่งแท่งทวนเข้าทิ่มแทงร่องน้ำอุ่นเพื่อทำเวลา สองร่างใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนโยกกายตอกกระแทกขย่มบดกันอีกหลายครา กว่าจะชุ่มฉ่ำจนพออกพอใจก็ผ่านไปกว่าสามวัน
เถาหลี่น่าใช้เวลาที่เหลือเร่งฟื้นฟูดูแลร่างกายและร่องรูของตนเองด้วยวิธีการที่แม่เล้าใหญ่แห่งหอคณิกาสั่งสอน ยางเถาวัลย์พรหมจรรย์ถูกนำมาเผารมควันส่งขึ้นไปยังร่องกลีบขณะสาวน้อยย่อกายเพื่อให้ส่วนล้ำค่าของตนเองได้อบร่ำรมควันไม้จนฟื้นคืนสภาพความคับแน่นคล้ายดั่งหญิงสาววัยแรกแย้ม
แม้ไม่อาจหลั่งเลือดพรหมจรรย์ได้เช่นสาวน้อยซึ่งเพิ่งโดนเปิดบริสุทธิ์ครั้งแรก แต่ท่านแม่บอกว่าวิธีการนี้สามารถล่อหลอกชายหนุ่มซึ่งอยู่ในอารมณ์กำหนัดจนไม่ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยได้มาหลายคราแล้ว
หญิงสาวใช้ขี้ผึ้งสมานผิวทาร่องรอยแผลซึ่งโดนบีบขยำและขบกัดและทาน้ำมันผสมน้ำผึ้งบำรุงจนผิวเนียนนุ่มขาวผ่องน่าสัมผัสไปทั่วร่าง
วันสุดท้ายเถาหลี่น่ายังชโลมสมุนไพรสีแดงเข้มเพื่อเรียกให้ส่วนกลางกายมีสีชมพูแดงน่าจับต้องอย่างเย้ายวน
ลลินายืนเปลือยร่างมองสำรวจดูตัวเอง
แหม ถ้าเธอรู้เคล็ดลับพวกนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในร่างเดิม คงหาเงินได้มากโดยไม่ต้องระวังว่าร่องรูจะหลวมโพรกหรือผิวกายจะเป็นรอยแผลเป็นเลยทีเดียว
ไม่น่าเชื่อว่าในยุคซึ่งดูโบราณเช่นนี้กลับมีกลวิธีที่เป็นเคล็ดลับอย่างน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้
ด้วยร่างน้อยยังคงอวบอิ่มเต่งตึงสมวัยสาว เพียงได้บำรุงดูแลอย่างดีไม่กี่วัน เถาหลี่น่าก็เผยโฉมปรากฎร่างอันงดงามเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งหญิงสาววัยแรกแย้มจนหัวหน้าหนุ่มอดจ้องมองอย่างหื่นกระหายไม่ได้
“อย่าได้มองเยี่ยงนั้น วันนี้หัวหน้าคงมองได้แค่ตา ไม่อาจจับต้องแล้ว”
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังออกมาจากลูกศิษย์สาวซึ่งแสร้งเดินเยื้องย่างชดช้อยอย่างจงใจยั่วยวนด้วยรู้ดีว่าหัวหน้าหนุ่มกำลังมองด้วยสายตาหิวโหย
“ไม่เพียงข้าต้องอดอยาก เจ้าเองก็คงต้องอดอยากปากแห้งไปอีกนาน”
เถาโจวหย่งมองใบหน้าหงิกงอของเถาหลี่น่าด้วยความสะใจ
“เชอะ ข้ายังเยาว์วัย ทั้งร่องกลีบยังสดใหม่ มีเวลาให้เล่นอีกนาน ท่านหัวหน้านั่นสิ ท่อนลำใช้งานมานานปี อีกทั้งยังอายุมากขึ้นทุกวัน คงเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว หากมีโอกาสก็รีบกอบโกยเข้าล่ะ”
“เจ้าเด็กปากเหม็น หน้าตาอ่อนหวานท่าทีไร้เดียงสาของเจ้าช่างลวงโลกเสียจริง เหตุใดไปอยู่ที่หอคณิกาเพียงไม่นาน ปากเล็กๆนี่จึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้”
“นั่นด้วยข้าได้เห็นได้ยินมาไม่น้อย จึงสะสมความรู้เอาไว้มากกว่าตอนที่อยู่กับท่านอย่างไรเล่า”
“ความรู้ไร้สาระพวกนี้ไม่ต้องเก็บไว้ให้เปลืองหัวเล็กๆของเจ้าหรอก”
“ที่หอคณิกามีผู้คนมากนัก ทั้งพี่หญิงทั้งหลายและบรรดาแขกเหรื่อ พวกเขาล้วนพูดคุยแต่เรื่องน่าสนใจ หัวหน้าจะกล่าวหาว่าไร้สาระได้อย่างไร”
“เอาเถอะ ข้าไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเด็กน้อยอย่างเจ้าแล้ว มาฟังงานใหม่กันดีกว่า”
“เชอะ หาว่าข้าคือเด็กน้อย ผู้ใดกันที่โยกขย่มเด็กน้อยอย่างข้าทั้งคืนจนหมดเรี่ยวหมดแรง” เสียงเล็กๆบ่นพึมพำขณะหาที่นั่งเพื่อรับฟังงานซึ่งต้องทำต่อไป
ตอนพิเศษสามถึงเวลาต้องเลือกชายาสามเดินเยื้องย่างเข้าไปหยุดที่ด้านหน้านางกำนัลของตนเองซึ่งยังยืนเปลือยร่างอ่อนเปลี้ยอยู่คนเดียว “ชายาสาม” เสียงตกใจร้องดังออกมาก่อนร่างเปลือยจะทรุดลงด้วยหมดแรงจริงๆ “พวกเจ้าทำเช่นนี้กันกี่คราแล้ว” ฮัวหลี่น่าย่อมรู้จักชายหนุ่มผู้นั้นด้วยเขาเป็นคนสนิทของหัวหน้าเถาโจวหย่งซึ่งเดินทางมาช่วยงาน เขาเป็นชายรูปงามอีกทั้งคารมดีจึงมีหญิงคณิกาติดใจทอดร่างให้เชยชมอยู่บ่อยๆ แต่นางไม่คิดว่าเขาจะล่อลวงนางกำนัลน้อยในยามที่นางมาช่วยดูแลบุตรสาวที่นี่ แล้วยังกล้าพาตัวออกมาสอดใส่ในที่ลับตาโดยทิ้งเด็กหญิงน้อยไว้คนเดียว “เขา... เขา...บอกว่าชอบหม่อมฉัน และมีของจากต่างเมืองมาฝาก หม่อมฉันคิดว่าจ
ตอนพิเศษสามถึงเวลาต้องเลือก“ท่านแม่เจ้าขา พี่ถิงถิงหายไปแล้วเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตัวอ้วนกลมน่ารักเดินเต๊าะแต๊ะมาตามหานางกำนัลซึ่งเป็นพี่เลี้ยงถึงยังห้องทำงานของฮัวหลี่น่า ชายาสามขององค์ชายฮุ่ยหมิงกำลังนั่งตรวจสอบบัญชีอยู่ที่ชั้นบนของหอคณิกาซึ่งเป็นกิจวัตรซึ่งนางต้องทำเพื่อไม่ให้การเงินรั่วไหลและคอยควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดี นางพาบุตรชายหญิงทั้งสองมาด้วยเช่นทุกครา โดยให้องครักษ์คนสนิทพาบุตรชายซึ่งอยู่ในวัย5ขวบปีไปหาผู้เป็นบิดาที่ด้านหลัง ส่วนบุตรสาวนางกำชับให้นางกำนัลพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ที่สวนด้านข้าง แล้วเหตุใดบุตรสาวตัวน้อยของนางจึงเดินขึ้นมาถึงชั้นบนด้วยตัวคนเดียวโดยไร้เงาของนางกำนัลสาว “ถิงถิงนี่เหลวไหลใหญ่แล้ว คงต้องลงโทษให้หลาบจำ
ตอนพิเศษสองหอคณิกาของชายาสาม“เช่นนั้นข้าจะพาท่านแม่ไปชมทำเลดีดี องค์ชายฮุ่ยหมิงมีทำเลการค้าอยู่ในมือหลายแห่ง ข้าได้ขอเขาไว้แล้วเจ้าค่ะ”“อืม...มีสามีทั้งมีเงิน มีอำนาจ อีกทั้งดีกับเรา ย่อมมีชัยแก่ชีวิต หลี่น่าเอ๊ย เจ้าช่างโชคดีนัก”“ด้วยการสั่งสอนจากท่านแม่ ทำให้เขาไม่อาจตัดใจจากข้าได้ จึงทำให้ข้าโชคดีเจ้าค่ะ”“ไม่ใช่เรื่องนั้นเรื่องเดียวหรอก มิเช่นนั้นหญิงคณิกาในหอของข้าคงมีผู้พาไปเลี้ยงดูอย่างสุขสบายกันทุกคนแล้ว”ฮัวหลี่น่าพยักหน้าอย่างยอมรับเมื่อคิดตาม“แต่เรื่องนั้นย่อมสำคัญเช่นกัน ครานี้แม่นำของสำคัญที่จะช่วยเจ้าได้มามอบให้อีกหลายอย่าง รับรองว่าองค์ชายผู้นี้จะไม่อาจมีหญิงอื่นได้อีกนานทีเดียว” แม่เล้าใหญ่ส่งมอบถุงผ้าขนาดใหญ่ให้สาวน้อยซึ่งรีบขอบคุณอย่างซึ้งในน้ำใจสองสาวต่างวัยพากันออกไปเดินเลือกทำเลการค้าแล้วนั่งลงปรึกษากันอย่างคร่ำเคร่ง ด้วยมีหอคณิกาอยู่แล้วหลายแห่งในเมืองหลวง สองสาวจึงเลือกตั้งหอคณิกาแห่งใหม่ในทำเลที่ไม่ได้อยู่
ท่อนเนื้ออวบถูกนางดูดกลืนเข้าออกสลับกับเลียวนไล่ขึ้นๆลงๆจนกายแกร่งเกร็งเสียวร้องเสียงแหบพร่า“อ้า...เจ้าช่างเก่งจริง ชายารัก ยิ่งกลืนกินเจ้ายิ่งสร้างความสุขให้ข้ามากขึ้นทุกที แล้วอย่างนี้ข้าจะไม่คอยให้ท้ายเจ้าได้อย่างไร โอ้ววว”“หากอยากมีความสุขย่อมต้องให้ท้ายข้า” สาวน้อยยังคงได้ทีด้วยแท่งสวาทอยู่ในกำมือนางปากบางรูดเข้ารูดออกรัวเร็วจนหน้าหล่อเหลาขององค์ชายหนุ่มแหยเกด้วยความซ่านเสียวก่อนจะทนไม่ไหวปล่อยน้ำรักออกมาจนเต็มปากบาง“เจ้าเก่งมากเพียงนี้ ข้าคงต้องยอมตายคาปากของเจ้าเสียแล้ว” เมื่อสุขสมใจคำของชายหนุ่มจึงเอ่ยออกมาโดยไม่คิดมาก“เชอะ ก่อนท่านจะตายข้าต่างหากที่ต้องตายเสียก่อนหากยังโดนท่านใช้งานอย่างหนักทุกคืนเช่นนี้”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หนักที่ใดกัน เจ้าเองเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ข้าดุเดือดรุนแรงเอง บางคราวยังขย่มจนข้าแทบแย่”“นั่นเพราะท่านชื่นชอบเช่นนั้น ข้าจึงอยากให้ท่านพอใจ”“เอาเป็นว่าพวกเราต่างเติมเต็มให้กันอย่างดี คราวนี้เจ้าหันก้นขาวๆมาได้แล้ว มัง
ตอนพิเศษหนึ่งกินของอร่อย ฮัวหลี่น่าได้รับการเติมเต็มอย่างสุขสันต์จากท่อนกายใหญ่ล่ำเกือบทุกค่ำคืน หญิงสาวเคยเฝ้าฝันว่าจะได้ความแข็งแกร่งมาสอดใส่ร่องดอกไม้อันคับแน่น อีกทั้งยังคิดถึงชายหนุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างความเสียดเสียวอย่างที่เคยเห็นมาจากเหล่าพี่สาวคณิกาทั้งหลาย ไม่น่าเชื่อว่านางช่างโชคดีที่สุดท้ายแล้วได้ใช้ชีวิตอยู่กับองค์ชายหนุ่มรูปงามและยังมีแท่งเนื้อทั้งใหญ่แน่น ทั้งยาวอวบ ทั้งแข็งแรง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเชี่ยวชาญด้านกามาจนพลิกแพลงได้ทุกท่วงท่า ลีลารักของเขาสร้างความสุขสมแก่นางจนติดอกติดใจร่ำร้องหาอยู่มิวาย องค์ชายหนุ่มเองย่อมติดใจในร่องดอกไม้แดงอันตอดรัดดีเช่นกัน เขารู้ว่าหญิงสาวมีเคล็ดลับเพื่อรักษาความคับแน่นและการตอดรัดถี่อั
ตอนพิเศษสองชิงอ้ายเหม่ยส่ายหัวให้กับความกระสันอยากซึ่งไม่เคยลดน้อยลงของสามีหนุ่ม เมื่อเขาสอดแทงท่อนลำใหญ่โตเข้ามาจนจุกแน่น หญิงสาวจึงยืนนิ่งรองรับการกระแทกที่กำลังจะตามมา นางยืนรอรับท่อนลำอวบใหญ่ยาวซึ่งสอดเข้าดึงออกในช่องทางคับแน่นอย่างฮึกเหิม ด้วยท่วงท่ายืนกระแทกกระทั้น ชายหนุ่มยิ่งส่งพลังสะท้านสะเทือนจนหญิงสาวต้องใช้มือยันก้อนหินเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้โดนกระแทกจนล้มลงท่อนลำยักษ์ตอกกระแทกเข้ามาชนกับส่วนลึกสุดด้านในอย่างคึกคัก ทั้งยามแทงเข้าและยามถอนออก ส่วนอวบแน่นครูดกับส่วนเสียดเสียวภายในโพรงรักเรียกความกระสันอยากจนสาวน้อยส่งเสียงดังก้องป่า“ซี้ดดดด อ้า...พี่หยาง ข้าเสียวเหลือเกิน”“จงร้องให้ดัง อีกเดี๋ยวจะเสียวยิ่งกว่านี้ อูววว ร่องรูของเจ้ารัดแท่งเนื้อของพี่แน่นเหลือเกิน”ภายในร่องรักแม้จะโดนกระหน่ำมาหลายคราแต่ยังคงดูดกระชับเข้ากันดีกับแก่นกายใหญ่โต เอวอันแข็งแกร่งขยับเข้าออกเป็นจังหวะส่งเสียงดังป๊าบ ป๊าบ ราวดนตรีอันมีท่วงทำนอง&n