Home / รักโบราณ / ลมหายใจมังกร / Chapter 10.สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน

Share

Chapter 10.สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน

last update Last Updated: 2025-01-06 23:25:10

          “ตอนนี้ซิ่นหลิงถอดแบบท่านมาจนแทบจะเรียกได้ว่าพิมพ์เดียวกัน คงใส่ชุดสตรีทำอะไรพิเรนทร์ตามใจซิ่นฮวาไม่ได้อีกแล้ว”

          สองสามีภรรยาหัวเราะให้กัน เขาเป็นคนรักลูกมาก ใครก็ดูออก และเขาไม่ปิดบังความรักที่มีต่อลูกๆ เลย ในวัยเด็กที่บิดาผู้เป็นถึงฮ่องเต้หมางเมินต่อเขาที่เป็นลูกชายของผู้หญิงที่บิดาไม่รักใคร่ แทบจำความรู้สึกที่บิดาจับมือจูงเดินไม่ได้เลย เมื่อถึงเวลาที่เขาได้กลายเป็นบิดา เขาไม่ลังเลหรือเกรงคำติฉินนินทาของผู้ใด อุ้มเจ้าตัวเล็กไว้ในวงแขน ถ้าลูกร้องอยากขี่คอเขาก็ยอมให้ขี่คอ ลูกป่วยไข้ไม่สบาย เขาก็คอยเฝ้าช่วยเช็ดตัวให้ลูกด้วยสองมือของตนเอง จูงมือพวกเขาเดิน จับมือพวกเขาฝึกเขียนชื่อตัวเอง จดจำได้แม้กระทั่งวันที่ลูกๆ เปล่งเสียงเรียก ‘พ่อ’ ‘แม่’ ครั้งแรก

          ทั้งสองพึงพอใจที่ให้เด็กๆ เรียก ‘ท่านพ่อ’ ‘ท่านแม่’ ใช่ชีวิตครอบครัวแสนธรรมดา ละทิ้งคำว่าเชื้อพระวงศ์และยศศักดิ์ไว้เบื้องหลัง กินอาหารมื้อเย็นร่วมกัน และมักมีเสียงหัวเราะทุกครั้ง

          มือเรียวยื่นไปแตะแก้มของชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่มองมีความหมายลึกซึ้ง “หม่อมฉันทำความดีใดไว้หนอจึงได้ครองคู่กับท่านอ๋อง ได้มีครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้”

          เขายังจำช่วงที่ภรรยาเจ็บท้องจะคลอดเจ้าเด็กแฝด นางเจ็บครรภ์อยู่ถึงสองวันสองคืน เช้าวันที่สามเสียงเด็กสองคนร้องไห้แข่งกัน แม้คลอดครั้งนั้นจะคลอดยากพอควร แต่นางก็ยังอุ้มท้องลูกคนที่สามให้เขาอีก แต่คลอดซิ่นสือครั้งนี้คลอดได้ง่ายนัก ทำให้เขาแอบหวังว่านางจะมีลูกให้เขาอีก แต่นางก็ไม่ตั้งครรภ์อีก เขาเองก็ไม่บีบบังคับและไม่คิดรับหญิงอื่นมาเป็นอนุ เขาเพียงต้องการลูกที่เกิดจากหญิงที่เขารักเท่านั้น

           “เป็นข้าที่ควรขอบคุณเจ้า มอบลูกชายลูกสาวน่ารักให้ถึงสามคน”

เฟยเทียนยกมือจับฝ่ามือของนางที่แนบแก้มของเขาเลื่อนมาจุมพิตที่กลางฝ่ามือ “ตอนนี้เด็กๆ ก็เติบโตกันหมดแล้ว เห็นทีว่าตักของเจ้าคงมีแต่ข้าเท่านั้นที่จะหนุนนอน”

          “สิบเจ็ดปีแล้วนะเพคะ ท่านอ๋องไม่เบื่อหม่อมฉันหรือ?” นางถามสะกดเสียงไม่ให้สั่นไหว นางย่อมโรยราลงทุกวันแต่เขายังคงดูเป็นบุรุษงามสง่าขึ้นทุกวัน

          “ฮืม...” เขาแสร้งทำสีหน้าครุ่นคิด แต่พอเห็นอีกฝ่ายมีรอยกังวลในแววตาก็อดยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ได้ “ไม่ละ ข้ามีเจ้าก็พอแล้ว”

          “จริงหรือเพคะ”

          “จริงสิ”

          “ท่านอ๋องจะมีหญิงอื่นอีกก็ย่อมได้ เหตุใดถึงยอมตามใจหม่อมฉันเช่นนี้” แน่นอนว่า นางเคยใช้ตำแหน่งพระชายา ‘เก็บกวาด’ ฮาเร็มของสามีมาแล้ว ความปวดใจครั้งนั้นยังคงทิ้งรอยไว้ถึงวันนี้

          “ก็ข้าไม่อยากถูกลูกๆ เกลียดอย่างไรเล่า” เขาถึงกับแหงนหน้าหัวเราะ แค่คิดว่า ถ้าเขารับอนุหรือมีสนมกำนัลมาปรนบัติบนเตียง ลูกทั้งสามคงไม่ยอมพูดคุยกับเขาเป็นแน่ แต่ละคนล้วนปราดเปรื่องเรื่องกลั่นแกล้งผู้อื่นเสียด้วย เห็นทีว่าทั้งตัวเขาหรือหญิงอื่นอาจไร้ความสงบสุขเป็นแน่

          “อ้อ! ถ้าไม่ใช่เพราะลูกๆ ท่านก็คงมีหญิงอื่นไปแล้วสิเพคะ” นางขึงตาใส่แล้วพลิกตัวหลบสัมผัสของอีกฝ่าย ทำแง่งอนราวกับเป็นเด็กสาว

          มือใหญ่รวบร่างเล็กเข้ามากอดไว้ก่อนที่นางจะลุกขึ้นเดินหนี ยื่นปากไปประทับที่ลำคอขาวผ่องระรานอย่างเกเรทั้งที่ตัวเองหัวเราะเบาๆ กับท่าทางกระเง้ากระงอดของภรรยา

          “ข้าอายุมากกว่าเจ้าเสียอีก ข้าควรกังวลที่เจ้าจะไปเหลือบแลมองชายอื่นมิใช่หรือ แต่เจ้าอย่าได้หวังไปเลย เพราะเห็นทีว่าเจ้าคงต้องทนเห็นสามีผู้นี้ไปจนแก่เฒ่า และต่อให้เจ้าผมขาวทั้งศีรษะข้าก็ไม่ยอมให้ได้นอกใจข้าเป็นแน่”

          “ท่านนี่ พูดจาน่าเกลียดจริงๆ” นางไม่รู้ว่าควรโกรธ โมโห หรือหัวเราะกับสิ่งที่เขาพูดได้หน้าตาเฉยเช่นนี้ดี แต่ร่างของนางถูกประคองลงบนเตียงนอน ดวงตาคมที่จ้องมองนางมีความนัยลึกซึ้ง

          “เหมยเอ๋อร์ ถ้าอยากได้ยินข้าบอกรักเจ้า เห็นทีว่าข้าต้องพิสูจน์ด้วยการ

กระทำเพื่อให้เจ้าเชื่อในคำพูดของข้าแล้ว”

          เสียงหอบครวญดังแว่วหวานจากห้องบรรทม ราวกับเป็นการยืนยันคำพูดของบุรุษที่ให้คำสัตย์สัญญาจะมั่นรักในหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว...

…..

          เพียงบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามา เสียงสนทนาที่มีอยู่ก่อนนั้นพลันเงียบหาย ทุกสายตาจับจ้องไปยังร่างสูงโปร่ง เส้นผมสีเงินยวงและใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มอยู่เสมอนั้น น้อยครั้งที่จะเห็นรอยยิ้มเต็มปาก แต่กระนั้นก็มีใบหน้าที่ชวนมอง ทำให้เหล่าปวงเทพทั้งชายหญิงหันไปมองและส่งเสียงทักทาย

          ฮวงหลงเพียงแค่ทักทายกลับเล็กน้อยตามมารยาท ขณะก้าวเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าเฝ้าเทพหนี่วา สายตาของเขาอดมองไปด้านข้างไม่ได้ หัวคิ้วขมวดมุ่น ปกติทุกครั้งที่มาเข้าเฝ้าเทพหนี่วาเขาต้องเห็นดอกโม่ลี่ฮวาน้อยๆ สีขาวพิสุทธิ์ส่งกลิ่นหอมจางอยู่ที่บริเวณทางเข้าตำหนักเสมอ แต่ยามนี้ไม่เห็นสิ่งใด แม้จะแปลกใจแต่ก็มิได้เอ่ยถามกับผู้ใด เขาเดินเข้าไปในสวนแสนรมรื่นย์ซึ่งเทพหนี่วาประทับอยู่ก่อนแล้ว

          “มาแล้วรึ ฮวงหลง” เทพหนี่วาเอ่ยทักทายทันทีที่เห็นเทพมังกรหนุ่มเดินเข้ามา

          เทพมังกรทำความเคารพกำลังอ้าปากจะเอ่ยถ้อยคำแต่อีกฝ่ายกลับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

          “ตามสบายเถิด ที่ข้าเรียกเจ้ามาเพียงสนทนากันเล็กน้อยเท่านั้น” เทพ

หนี่วาแย้มยิ้มอ่อนโยน ปรายตามองบรรดาเทพธิดาที่ยืนเอียงอายอยู่ไม่ไกลนัก ทรงยกพระหัตถ์โบกไปมาทำให้เทพธิดาเหล่านั้นเร้นกายหายไปสิ้น

          “มีสิ่งใดต้องการเรียกใช้กระหม่อม โปรดบัญชามาได้พะย่ะค่ะ”

          “เจ้าไม่เชื่อหรือไรว่าข้าแค่เรียกเจ้ามาสนทนาเล่นเท่านั้น” เทพหนี่วา

หัวเราะน้อยๆ “เจ้าเองก็เพิ่งเสร็จสิ้นผนึกช่องโหว่งไตรภูมิเสร็จสิ้น ยังมิได้พักผ่อนเลยมิใช่หรือ?”

          ฮวงหลงเพียงอ้าปากเล็กน้อยแล้วตัดสินใจไม่เอ่ยสิ่งใด เขาจึงยิ้มบางๆ อย่างเหนื่อยล้า มารร้ายสร้างความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน พื้นพสุธาเสมือนจุดเชื่อมโยงทั้งสามโลก มนุษย์ สวรรค์ นรก เขาผู้เป็นเทพมังกรดินปกป้องสรรพสิ่งบนพื้นพิภพยอมต้องดูแลจัดการให้เรียบร้อย ทว่าเขาเองชาชินกับภารกิจที่แบกรับเหล่านี้แล้ว

          นานเท่าใดแล้วที่เขาชินชากับเรื่องเหล่านี้

          พันปี สองพันปี หรือมากกว่านั้น

          เห็นความเหม่อลอยของเทพมังกรดินแล้ว เทพหนี่วาเพียงหัวเราะเบาๆ ด้วยความที่เห็นเขาเป็นเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว

          “ข้าได้ชาดีมาจากเทพบุปผา ลิ้มรสแล้วดียิ่งนัก จึงจะมอบให้เจ้า”

          “ขอบพระทัย”

          “เจ้าอยู่เพียงผู้เดียวเช่นนี้มานานเท่าใดแล้ว”

          บุรุษหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจเหตุใดเทพหนี่วาเอ่ยถามเช่นนี้ หากแต่ปรายตามองใบชาที่อยู่ในกล่องไม้สลักลายสวยงามแล้ว เขาพลันเข้าใจความหมาย ทำให้ไม่กล้ายื่นมือไปรับกล่องใส่ใบชานั้นมา

          “ฮวงหลง หากเจ้าปรารถนาจะอยู่เดียวดาย ข้าคงมิอาจขัดขวาง แต่นั่นใช่หนทางที่เจ้าเลือกหรือ?”

          บุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวงเผยรอยยิ้มที่เห็นได้น้อยครั้งนัก เพียงเท่านี้เทพหนี่วาไม่เอ่ยปากถามสิ่งใดอีก เมื่อสิ่งที่ต้องพูดก็ได้กล่าวไปแล้ว เทพหนี่วาจึงยื่นกล่องใส่ใบชาส่งให้ ฮวงหลงยื่นมือไปรับไว้แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ถวายความเคารพหมุนตัวเดินกลับออกมา ระหว่างทางพบเหล่าเทพธิดา ใบหน้างดงามของเหล่าเทพธิดาประดับรอยยิ้ม ทว่าในดวงตานั้นมีรอยหม่นเศร้า เขาเดินผ่านอย่างไม่ใคร่ใส่ใจแต่เมื่อเดินลงมาที่บันได สายตาอดมองหาดอกโม่ลี่ฮวาไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 92.   จบ.

    ยังไม่ทันเอ่ยถามสิ่งใด นางรู้สึกว่าร่างของตนถูกส่งขึ้นบนหลังม้า คล้ายได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของซาโม่ ตามด้วยเสียงของซิ่นหลิงห้ามไม่ให้ติดตามนางมา ม้าควบทะยานไปในความมืดมีแสงจันทราเต็มดวงส่องนำทาง สายลมปะทะร่างของนางแต่ไม่ได้ทำให้นางเหน็บหนาวเพราะผู้ที่บังคับม้านั้นกระชับเสื้อคลุมห่อหุ้มนางไว้มิดชิด นางแนบหน้ากับอกอุ่นวางความไว้ใจไว้ในอุ้งมือของชายที่ตนรัก ไม่ถึงครึ่งชั่วยามม้าก็ชะลอฝีเท้าลงจนหยุดนิ่ง ร่างของนางถูกประคองลงจากหลังม้าแล้วจึงแกะผ้าผูกตาของนางออก ซิ่นฮวาประหลาดใจกับภาพกระโจมเบื้องหน้า นางกวาดตามองไปรอบๆ กระโจมหลังใหญ่ตั้งใกล้สระน้ำขนาดใหญ่คล้ายจันทร์เสี้ยวที่ยามนี้ผิวน้ำสะท้อนแสงจันทรางดงาม “อ๊ะ!” ซิ่นฮวาหลุดปากหวีดร้องด้วยความตกใจที่จู่ๆ ร่างของนางก็ถูกแบกขึ้นบ่า นางเห็นรอยยิ้มและเสียงอวยพรของผู้คนที่ก้มศีรษะให้ระหว่างที่บุรุษหนุ่มแบกร่างเจ้าสาวเข้ากระโจมที่ถูกเตรียมไว้ ใบหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมรอยยิ้มแห่งความสุข เขาพานางเข้ามาด้านในแล้ววางนางลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าไหมเรียบรื่น ภายนอกเป็นกระโจมที่แลดูเรียบง่ายแต่ด้านในมีเครื่องใช้หรูหราและอบอุ่

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 91.   ความปรารถนาของเจ้าสาว

    “ข้าไม่ปรารถนาพิธีใหญ่โต ขอแค่ท่านพ่อท่านแม่ยอมรับก็พอ” ความปรารถนาของเจ้าสาวคือพิธีแต่งงานอย่างเรียบง่าย ทว่าในเวลาเพียงเจ็ดวันตระกูลได้แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งร่ำรวยจัดงานแต่งงานขึ้นที่ตุนหวงตามคำร้องขอของบิดาเจ้าสาว เมื่อเสร็จพิธีจึงเดินทางกลับแคว้นหาน เจ็ดวันที่ตระเตรียมงานมงคล หญิงสาวไม่ได้รับอนุญาตให้พบหน้าบุรุษที่จะเป็นสามีในอนาคต ซิ่นหลิง ซิ่นสือ กันอี๋ และซาโม่ที่คอยส่งข่าวให้นางรู้ว่าเขาสบายดี ว่านหนิงเหมยมองดูบุตรสาวที่ยามนี้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงมงคล หากจะกล่าวว่านางเตรียมชุดมงคลนี้ไว้ให้บุตรสาวนานแล้วก็เกรงว่าจะเป็นที่หัวเราะ คนเป็นมารดาหวังเพียงเห็นลูกๆ มีความสุขในชีวิตคู่ ครั้งที่นางแต่งงานนั้นเป็นสมรสพระราชทาน มารดาของนางไม่ได้ช่วยเหลือใดๆ ไม่มีสินเดิมให้ติดตัวมากนัก เมื่อถึงคราวลูกสาวของตนแต่งงาน นางจัดเตรียมไว้เต็มที่ มิใช่เพื่ออวดความร่ำรวยแต่เพื่อให้ลูกสาวไม่ลำบากในภายภาคหน้า ทว่านางมั่นใจว่าเจ้าบ่าวหรือว่าที่ลูกเขยคนนี้จะรักและดูแลแก้วตาดวงใจนางอย่างดียิ่ง นางเชื่อใจว่าเพราะคนผู้นั้นได้ยอมสละลมหายใจของตนเองเพื่อรักษาชีวิตของซิ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 90.   สามีกอดภรรยาจะเป็นอะไรไป

    “อย่ากลัว มันจะปกป้องเจ้า” ดวงตางดงามเบิกตากว้าง น้ำตาที่เหือดแห้งไปหลั่งออกมาอีกระลอก “เป็นท่าน” ซิ่นฮวาจ้องมองเขา ระหว่างที่นางคลุกคลีในบ้านตระกูลเยี่ยน นางลอบถามบรรดาบ่าวไพร่ รับรู้มาว่าเยี่ยนหรงเหยาหมดสติไปนานห้าวัน ท่านหมอไม่อาจรั้งชีวิตได้ พลันจู่ๆ เขาก็ฟื้นขึ้นมา และร่างกายเกือบจะแข็งแรงดี ห้าวันที่เขาหมดสติไปคือวันที่เทพมังกรดินสูญสลายกลายเป็นหมอกสีเงินสลายมนตร์ดำที่ปกคลุมแคว้นหาน “ใจร้าย!” นางต่อว่าแล้วทำมือทุบแผ่นอกของเขาหลายครั้ง “ไยท่านไม่บอกข้าตั้งแต่แรก” ฮวงหลงเพิ่งรู้ว่ามือเรียวของนางมีน้ำหนักไม่น้อย แต่เขายอมให้นางทุบตีอยู่เช่นนั้นโดยไม่ปัดป้อง “สภาพข้าเช่นนี้ เจ้ายอมรับได้หรือ?” “ข้าเคยพูดแล้ว” นางฝืนกลั้นเสียงสะอื้น “ข้ารักท่านไม่ว่าท่านจะเป็นอย่างไรก็ตาม ข้ารักที่จิตใจของท่าน...แต่ท่าน...ท่านอยู่ตรงหน้าข้าแท้ๆ แต่ไม่ยอมเปิดเผยตัวเองแก่ข้า” “ฮวาเอ๋อร์ เขาเรียกนางอย่างอ่อนโยน รวบมือน้อยๆ ของนางไว้แล้วถอนหายใจแผ่วเบา “ข้ากำลังรับเคราะห์กรรมที่ทำไว้กับเจ้า ข้าเห็นเจ้า จดจำเจ้าได้ แต่เจ้ามองข

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 89.   ไม่มีวันลืม

    “ข้าจะไม่วันลืม” “อืม” ซ่งซีเหมยพยักหน้าและยิ้มรับถ้อยคำของเขา หัวใจเด็กหญิงพองโตอย่างน่าประหลาดใจ นางกลอกตาไปมาแล้วคิดได้ว่าเสร็จสิ้นภารกิจของตนแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกมา แต่เดินจากมาได้ไม่กี่ก้าว นางก็นึกได้ว่าลืมกล่าวลาเขาจึงหมุนตัวกลับไปโบกไม้โบกมือ แล้วรีบหมุนตัวกลับออกวิ่งทันที กันอี๋ลุกขึ้นยืนช้าๆ มองร่างเล็กวิ่งไปจนสุดสายตา เขากังวลว่านางจะหกล้มอีก แต่ครั้งนี้นางวิ่งไปทางบุรุษผู้หนึ่งที่เหมือนจะยืนรออยู่นานแล้ว แม้จะเห็นไกลๆ แต่กันอี๋ก็เห็นสายตาของซ่งเหว่ยหนานจ้องมองมาทางเขา ก่อนจะยื่นมือไปรับน้องสาวให้เดินไปพร้อมกัน เด็กคนนั้นอายุเท่าไรกันนะ อายุสิบสองใช่ไหม? อายุน้อยกว่าเขาตั้งห้าปี เขาตบอกตัวเองเบาๆ ปิ่นหยกธรรมดาแต่เมื่อคนที่มอบให้เขานั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย หรือว่าเขาควรจะสมัครเป็นองครักษ์ของเด็กน้อยคนนั้นดีนะ “เราไม่ได้เดินเล่นกันแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ” ซ่งซีเหมยส่งเสียงเจื้อยแจ้วถามซ่งเหว่ยหนานที่จูงมือนางเดินดูโคมไฟหลากสีสันและน่าตาแปลกประหลาด “นั่นสินะ นานเพียงใดกันหนอ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “พี่ช่างเป็นพี่ชายที่ไม่

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 88.  ไฉนกลับรู้สึกอาลัยอาวรณ์

    “พบสหายรู้ใจถือเป็นวาสนา” ฮวงหลงยิ้มบางๆ เขาไม่กล้าหาญพอที่จะเอ่ยกับนางว่าเขาคือ ‘ฮวงหลง’ และด้วยสภาพร่างกายที่อาศัยอยู่นี้ เส้นผมสีขาวโพลนเหมือนคนแก่ชรา ร่างกายยังอ่อนแอ และฐานะด้อยกว่านางมาก แม้รู้ว่านางไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเหล่านี้ ทว่า นางคิดว่าเขาจากนางไปแล้ว นางมีคนให้เลือกเคียงข้างมากนัก เขาได้แต่หวังว่าจะ...มีเยื่อใยใดบ้างที่นางจะสัมผัสถึงตัวเขาได้ ซ่งซีเหมยนั่งใกล้ๆ ซิ่นฮวา นางจิบน้ำชาและกินของว่างอย่างเพลิดเพลิน ช่วงเวลาที่นางป่วยอยู่นั้นกินอะไรไม่ค่อยได้มากนัก ซ้ำยังรู้สึกขมปลายลิ้นตลอดเวลาทำให้เบื่ออาหารไปด้วย แต่หลังจากปีศาจงูดำตายไป ร่างกายของนางก็ดีขึ้นหลายส่วน นางกลับมากินอาหารได้ปกติ อีกไม่นานร่างกายผ่ายผอมเหมือนเด็กโตไม่เต็มวัยนั้นคงสมบูรณ์ดีแลเป็นหญิงสาวกับคนอื่นบ้างกระมัง เด็กหญิงคิดในใจแอบลอบมองทางองครักษ์ของซิ่นฮวาหลายครั้ง เมื่อครู่นางแย่งปิ่นที่ซื้อมาจากมือแม่นมเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างดี หวังใจว่าตัวเองจะมีความกล้าพอที่จะมอบให้... ซ่งเหวยหนานเดินเข้ามา สีหน้าอิดโรยอยู่บ้างแต่ยังคงประดับรอยยิ้ม ในฐานะผู้ปกครองแคว้นหาน แม้รับหน้า

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 87. สีหน้าเขินอายของเด็กหญิง

    “หายตกใจแล้วหรือไม่” กันอี๋เอ่ยขึ้นแต่ยังยืนนิ่ง ใบหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉย เขาคว้าเอวบางของเด็กหญิงไว้ได้ทันก่อนที่หน้าคว่ำลงพื้นไป “อืม” ซ่งซีเหมยพยักหน้าหงึกหงัก คำตอบของนางทำให้สองมือที่จับเอวของนางอยู่นั้นยกตัวนางให้ปลายเท้ายืนบนพื้นดินแล้วค่อยคลายมือออก แต่ยังคงรอจนนางยืนได้มั่นคงแล้วจึงถอยออกไป เด็กหญิงทำตาปริบๆ นอกจากพี่ชายและท่านพ่อแล้ว นางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษใดเช่นนี้มาก่อน กันอี๋ถอยห่างออกมารอจนเด็กหญิงตัวน้อยยืนได้มั่นคง ทว่าดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองเขาและตามด้วยพวงแก้มที่แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช้าๆ ทำให้เขาเผลอขมวดคิ้ว ‘นางบาดเจ็บหรือไร?’ ขยับตัวเข้าไปใกล้หมายจะเอ่ยถาม แต่เด็กหญิงถอยหลังแล้ววิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของซิ่นฮวา ทำให้เขาได้แต่อ้าปากค้างอย่างงุนงง “เป็นอะไรไปรึซีเหม่ย” ซิ่นฮวากลั้นหัวเราะ เข้าใจว่าเด็กน้อยคงเขินอายที่ตัวเองซุ่มซ่ามต่อหน้าผู้อื่น “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าไปมาเร็วๆ ไม่กล้ามองไปทางองครักษ์ของซิ่นฮวา “ได้ยินว่าพี่สาวจะไปงานเลี้ยง ข้าจึงมาขอติดตามไปด้วย” “พี่ชายเจ้ารู้หรือไม่ที่จะไปกับข้า”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status