LOGINน้ำขิง ชลนิภา ไอยภา อายุ 23 ปี อยู่กับแม่เลี้ยงที่ติดหนี้ติดพนันทุกอย่าง เธอทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงครอบครัวมีดีมีไม่ดีบ้าง แต่ทุกอย่างล้วนเพื่อปากท้องทั้งนั้น…แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายเธอได้พลัดตกน้ำเสียชีวิต แต่โชคดีชะตาเล่นตลกเหมือนเล่นเกมส์ พาเธอมายังโลกอีกโลกและเจอกับเธออีกคนที่อยู่ในโลกคู่ขนานนี้ น้ำขิง:"แล้วหนูจะได้ไปสวรรค์หรือนรกล่ะท่านลุง" ผู้นำดวงวิญญาณ:"คิดว่าที่ผ่านมาเจ้าใช้ชีวิตมาแบบไหนล่ะ ตกปลาในเขตวัด หรือเล่นไพ่ในงานศพกัน" น้ำขิง:"เอ่อ เรื่องนั้นหนูว่าเราสามารถประนีประนอมกันได้นะ เรื่องดี ๆ หนูก็ดีเช่นทำงานหาเลี้ยงครอบครัว หนูทำงานร้านอาหาร ทำงานเป็นเด็กเข็นผักในตลาด อาชีพที่ทำก็สุจริตทั้งนั้น" ผู้นำดวงวิญญาณ:"ชีวิตเจ้านั้นน่าสงสารเจ้าใช้ชีวิตใหม่ที่เจ้าจะได้รับให้คุ้มค่า" น้ำขิง:"ชีวิตใหม่หรือจะให้หนูตายแล้วฟื้นเหรอคะ" ผู้นำดวงวิญญาณ:"เจ้านั้นตายแล้ว แต่เจ้าในอีกภพหนึ่งยังไม่ตายข้าจะพาเจ้าไปดู"
View Moreหมู่บ้านซานซานเป็นหมู่บ้านขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ในหมู่บ้านจะมีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือมีผัวเดียวเมียเดียว หากผัวตายเมียตายและเป็นหม้ายก็ไม่ผิดที่จะมีผัวหรือเมียใหม่ได้ไม่ผิด ยังไม่เคยมีครอบครัวใดที่แต่งเมียเข้าบ้านพร้อมกันคนสองคนเพราะจะเป็นการประจานครอบครัวตนเองและเป็นขี้ปากชาวบ้าน
ไม่มีใครอยากตกเป็นของขี้ปากคนอื่นที่พูดคุยในวงสนทนายามพักเที่ยงนั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องชาวบ้านที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน แต่ไม่ใช่กับครอบครัวซุนที่ตกเป็นจำเลยในวงสนทนาอยู่
ตระกูลซุน
ซุนกวางหวาที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแต่บัดนี้ร่างกายของเขาเริ่มเสื่อมสภาพลงไปทุกทื่ เพราะความที่ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก "จ่างลี่เจ้าจะมารับพี่ใช่หรือไม่"ซุนกวางหวานอนเพ้อถึงซุนจ่างลี่ที่เป็นภรรยาคนแรกที่เสียไปได้นานหลายปีแล้ว แต่ในใจไม่เคยลืมนางได้เลย
"คนมันตายไปแล้วพี่จะเพ้อถึงมันอีกทำไม"ซุนอีเหยียนนางแต่งเข้าตระกูลซุนมาเป็นภรรยารองต่อจากนางจ่างลี่ที่ตายไป นางเองไม่ได้มีทางเลือกมากนักเพราะนางเองเป็นสตรีผ่านการแต่งงานมาแล้วแต่ก็หย่าร้างกับสามีไป แถมนางยังมีลูกกับสามีเก่าติดมาอีก ที่บ้านไม่ได้ให้ความสำคัญกับนางเท่าไหร่การแต่งงานออกเรือนคือสิ่งที่นางต้องการมากที่สุด
เพราะจะได้ไม่ต้องอดทนอยู่บ้านที่ทำเหมือนนางเป็นขี้ข้าค่อยรับใช้คนในครอบครัว แต่ท่านแม่ก็จะคอยบอกว่ามันคือหน้าที่ของสตรีซึ่งเป็นสิ่งที่นางเกลียดที่สุด
"พี่กวางหวา พี่มันไม่ได้เรื่อง!!"ซุนอีเหยียนไม่ชอบซุนจ่างลี่ถึงจะไม่เคยเห็นน่าค่าตากันมาก่อน แต่ชื่อเสียงของซุนจ่างลี่ไม่เคยจางไปจากใบหูของนางเลย ซุนกวางหวามักจะเพ้อละเมอพูดเพ้อฝันถึงซุนจ่างลี่อยู่บ่อย ๆ เห็นจะมากอยู่ในตอนนี้ที่กำลังป่วยหนักอยู่ เป็นโรคที่หาสาเหตุไม่ได้และนางเองก็รักษาตามมีตามเกิดไม่ได้มีเงินมากมายขนาดที่จะไปหาหมอดี ๆ ในเมืองหลวงขนาดหมอในหมู่บ้านก็หลายอีแปะอยู่
ซุนกวางหวาเหมือนได้ยินเสียงซุนอีเหยียนอยู่ใกล้ ๆ แต่เขาไม่สามารถที่จะลืมตาตื่นได้จริง ๆ ร่างกายที่หนักอึ้งขยับตัวไม่ได้ปวดร้าวไปหมดทำได้แค่นอนนิ่ง ๆ เท่านั้น
"ท่านแม่เล็กข้าทำข้าวต้มกุ๊ยมาให้ท่านพ่อเจ้าคะ"ซุนจือหลินในวัย 18 ปี จะเข้า 19 แต่ยังไม่ได้ออกเรือน เหมือนหญิงสาวในหมู่บ้านอายุ 15 ก็พากันออกเรือนแล้ว แต่ซุนจือหลินนางต่างออกไปนางเป็นห่วงทุกคนในครอบครัวตอนนี้ท่านพ่อก็ล้มป่วยหนัก ท่านแม่เล็กเองก็ต้องดูแลท่านพ่อเงินในบ้านก็เริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ
"มีแต่ข้าวต้มกุ๊ยหรือเจ้าทำได้แค่นี้เองหรือซุนจือหลิน"ซุนอีเหยียนถึงจะไม่ได้ชอบซุนจ่างลี่ แต่นางไม่ได้โกรธเกลียดซุนจือหลินที่เป็นลูกของซุนจ่างลี่ ซุนจือหลินนางแตกต่างจากเด็กทั่วไปทำให้นางเองมองเด็กคนนี้ต่างออกไปในทางที่ดีขึ้น แต่จะมาดีกว่าลูกสาวของนางได้อย่างไร แต่นางเองก็ไม่ใช่แม่เลี้ยงใจร้ายทำร้ายตบตีลูกเลี้ยง เพียงแต่นางขี้เกียจทำงานบ้านก็เท่านั้นเองหน้าที่นี้จึงตกเป็นของซุนจือหลิน
"ช่างมันไปเตรียมยามาให้ท่านพ่อเจ้าด้วย"
"เจ้าค่ะแม่เล็ก"ซุนจือหลินมองท่านพ่อของตนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ทำนางอ่อนใจ ที่บ้านไม่ค่อยมีเงินท่านพ่อป่วยมาจะเข้า 2 เดือน แล้วเงินเก็บที่บ้านแม่เล็กก็เอาออกมาใช้ ๆ จ่ายในบ้านในทุก ๆ วันก็ต้องมีวันหมดเป็นธรรมดา แต่จะหมดมากหน่อยช่วงที่ซุนเพ่ยหนิงยามที่นางออกเรือนไปแล้ว เพราะต้องมีเงินให้นางได้ติดตัวไปบ้างจะได้ไม่น้อยหน้าฝ่ายสามีแม่เล็กบอกแบบนั้น
ตั้งแต่ที่ซุนเพ่ยหนิงแต่งออกไปก็เกือบจะ 1 ปี เต็มนางยังไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านอีกเลยและก็ไม่ได้ส่งข่าวคราวมาที่บ้านแม่เล็กบอกเพียงนางสบายดีเท่านั้น ถึงนางจะไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกันซุนเพ่ยหนิงเป็นลูกของท่านแม่เล็กท่านพ่อกับท่านแม่เล็กไม่ได้มีลูกด้วยกันอยู่กันฉันสามีภรรยา ถึงท่านแม่เล็กจะขี้เกียจทำงานแต่ก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรือเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายอะไรขนาดนั้น
แม่เล็กก็มีมุมที่ดีอยู่เยอะเพียงเป็นคนพูดเก่งและเสียงดังเลยอาจดูจะน่ากลัวไปหน่อย อีกอย่างตอนนาง 3 ขวบ แม่เล็กก็เป็นคนที่ช่วยท่านพ่อดูแลพร้อมกับเลี้ยงซุนเพ่ยหนิงไปด้วยนางกับซุนเพ่ยหนิงห่างกัน 3 ปี นิสัยซุนเพ่ยหนิงก็ออกคล้าย ๆ ท่านแม่เล็กเอาแต่ใจ ชอบเอาชนะต้องเป็นที่หนึ่ง และชอบความสบายย แต่เป็นคนเข้มแข็งความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้องก็มีทั้งดีและไม่ดีตามประสาพี่น้องทั่วไป
"ยาได้แล้วเจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"
"เจ้าออกไปรอข้างนอกข้ามีเรื่องจะคุยด้วย"ซุนอีเหยียนเองก็ลำบากใจที่จะพูด เมื่อหลายวันก่อนบ้านมู่มาพูดคุยเรื่องสัญญาของซุนกวางหวากับบ้านมู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่นางนั้นไม่เคยรู้มาก่อนน่าจะเป็นช่วงที่ซุนจ่างลี่ยังมีชีวิตอยู่สัญญาของสองครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดยากในสถานการณ์ในตอนนี้
ดูก็รู้ว่าบ้านมู่พยายามจะสลัดลูกชายคนที่สามทิ้งเพราะไม่มีประโยชน์ เห็นว่าไปเป็นทหารในช่วงสงครามนานหลายปี แต่ได้ข่าวมาว่าบาดเจ็บสาหัสเลยต้องกลับบ้านเห็นชาวบ้านพูดคุยกันว่าคงจะพิการทางหน่วยที่มู่ซงหยวนสังกัดอยู่ส่งจดหมายมาหาบ้านมู่
เคยได้ยินแต่ขายลูกกิน ซึ่งเป็นแม่ของฝ่ายหญิงเสียมากกว่า ไม่คิดไม่ฝันว่านางจะเจอกับตัวนังมู่น่าหลิงกำลังขายลูกชายตัวเองที่กำลังจะพิการนังสารเลวนี่มันร้ายจริง ๆ
"อีเหยียน…"
"น้องรู้เจ้าค่ะเดี๋ยวจะออกไปคุยกับจือหลินอายุนางก็สมควรที่จะออกเรือนได้ตั้งนานแล้ว"
"พี่ไม่คิดว่าบ้านมู่จะมาทวงสัญญา"ซุนกวางหวาคิดว่าบ้านมู่คงจะลืมไปแล้ว เพราะบ้านมู่ มีลูกชายสามคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตกับคนรองก็แต่งงานแล้ว เหลือคนที่สามมู่ซงหยวนที่ไปเป็นทหารหลายปีแล้ว
"น้องว่านังมู่น่าหลิงนั่นจะขายลูกชายกินต่างหากท่านพี่ไม่ทันคนบ้านนั้น"
"พูดจาเหลวไหลอีเหยียนบ้านมู่มาทวงสัญญาก็ถูกแล้ว"
"พี่กวางหวาจะว่าถูกก็ถูก แต่สถานการณ์ในตอนนี้ควรหรือพี่ มู่ซงหยวนบาดแผลอาจจะพิการบ้านมู่เลยให้รีบแต่งจะได้ผลักภาระการดูแลมาให้บ้านเรามากกว่า"
ซุนกวางหวาคิดตามที่ซุนอีเหยียนพูดก็ถูก แต่จะให้ปฏิเสธไปก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะสัญญาที่ให้กันสองครอบครัวถือว่าเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แสดงความซื่อสัตย์
"น้องรู้พี่เองก็ลำบากใจ จะปฏิเสธไปก็ทำไม่ได้อีก"ซุนอีเหยียนเองก็ไม่อยากให้ซุนจือหลินแต่งกับคนบ้านมู่ โดยรู้ทั่วกันว่าบ้านมู่นั้นมีเงินเพราะลูกเป็นทหาร แต่ก็มู่น่าหลิงเป็นคนขี้งก และปากจัด นิสัยเสีย รักลูกไม่เท่ากันเป็นที่สุดเห็นได้จากงานแต่งงานของลูกชายคนโตกับคนรองที่ต่างกันจนน่าเห็นใจคนโตอย่างซุนฉวนที่เกิดมาเจอแม่เช่นนี้
เหมือนมู่น่าหลิงจะให้ความสำคัญกับมู่จื่อชิวที่เป็นบุตรคนรองและมู่จื่อเหมยที่เป็นน้องเล็กสุดของบ้าน วัน ๆ ไม่เห็นนางจะทำอะไรเลยแต่งตัวสวยคอยจับผู้ชายบ้านรวยไปวัน ๆ สงสารก็แต่คนโตกับคนที่สามอย่างมู่ซงหยวนได้เงินมาส่งให้ที่บ้านหมดไม่รู้ตนเองจะได้ใช้หรือไม่
3 วันต่อมาผ่านมาแล้วสามวันมู่จื่อชิวถึงรับรู้ข่าวการเสียชีวิตของมู่ซินอี๋ผู้เป็นภรรยา เพราะที่บ้านมาไม่ได้กลับมาบ้านเลยจึงไม่ได้รับรู้ข่าวอะไรทั้งนั้น"ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาถึงได้มาเอาป่านนี้ศพนางถูกฝังไปแล้ว"มู่ต๋าไม่ได้เอาศพไว้นานเขาจัดการเสร็จพร้อมทำพิธีต่าง ๆ ให้นางอย่างดี"ท่านพ่อทำไมพูดกับข้าเช่นนี้ข้าพึ่งรู้วันนี้เองขอรับ""ไปอยู่ที่ไหนมา…หรือไปกกสตรีที่ไหนอยู่"มู่ต๋าเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออดเขาได้กลิ่นน้ำอบน้ำปรุงจากร่างกายของมู่จื่อชิวเพียงเท่านี้ทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว"ท่านพ่อกำลังพูดถึงเรื่องอันใดขอรับ""นางเป็นใครสตรีที่นอนกกจนไม่รู้ว่าเมียตาย""เจ้ารอง รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ทำมันผิดเจ้ามีเมียมีลูกแล้วทำไมถึงยังทำเรื่องผิด ๆ แบบนั้นได้""ข้าไม่ได้กกใครทั้งนั้นท่านพ่อกำลังใส่ร้ายข้าอยู่ มีคนไม่ชอบข้าเลยกุเรื่องขึ้นมาเท่านั้นท่านพ่อ ท่านแม่ข้าไม่ได้เป็นคนเช่นนั้นนะขอรับ""แล้วสตรีที่ยืนอยู่ข้างนอกบ้านเป็นใครกัน"มู่ต๋าเองก็ไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่ที่มู่จื่อชิวเข้ามาในบ้านเขาก็เห็นสตรีแปลกหน้ายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน"เจียวจู"มู่จื่อชิวเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบ
มู่ซงหยวนเห็นซุนจือหลินเข้าห้องไปนานแล้วคิดว่านางจะเอาของไปเก็บ แต่นานจนเขาคิดว่านางอาจจะนอนหรือเปล่าแต่เห็นนางนั่งพูดคนเดียวจนเกิดความสงสัยขึ้นมา"นางมีเรื่องเครียดอันใดถึงได้นั่งพูดคนเดียวหรือว่านางเหงา""…""ข้าไม่ได้จะแอบมองเจ้านะ ช่วงนี้เจ้าเครียดเรื่องอันใดหรือไม่ถึงได้นั่งคุยคนเดียวเช่นนี้""ข้าปกติเจ้าค่ะช่วงนี้มู่จื่อเหมยไม่อยู่บ้านข้าแค่ไม่มีเพื่อนคุยเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินเองก็ตกใจที่หันไปเจอมู่ซงหยวนทำให้นางจำใจต้องโกหกเอาตัวรอดออกไป"ใช่ ช่วงนี้นางไปอยู่ที่ไร่เสียส่วนใหญ่""พี่มีอันใดหรือเปล่าเข้ามาหาข้า""พี่เห็นเจ้าเข้าไปนานแล้วจึงตามเข้ามาดูเท่านั้น""พี่ซงหยวนท่านยังอยากให้ขากลับมาเป็นปกติหรือไม่""พี่รู้ว่าเจ้ากำลังจะพูดอันใด แต่ขาพี่นั้นไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้แล้ว""แต่ท่านพ่อข้ายังสามารถหายจากอาการป่วยได้เลยเพียงกินผลสุกของต้นกล้วย""เจ้าจะให้พี่กินกล้วยหรือแต่ท่านพ่อซุนก็กินอยู่ทุกวัน"มู่ซงหยวนไม่ใช่ไม่อยากลองดู แต่เพราะท่านพ่อซุนก็ยังต้องกินกล้วยอยู่อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ"ไม่เจ้าค่ะมีหัวปลีกล้วยอยู่เจ้าค่ะข้าว่าจะนำมากับอาหารให้พี่กินดูเจ้าค่ะใช้วัตถุดิบจากต้นกล้ว
ฝูอี้เทาพามู่ซงหยวนมาที่ห้องทำงานส่วนตัวของตนเองที่อยู่ในสำนักงานใหญ่ฝู รู้ว่าสหายโกรธแต่เขามีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดออกไป"มีอันใดจะพูดก็รีบพูดมา""ข้าแต่งงานแล้วมีลูกชายสามคน""เช่นนี้หยุดทำตัวเกี้ยวภรรยาข้าได้แล้วเจ้าอี้เทานิสัยเจ้าชู้ของเจ้าหยุดใช้มันได้แล้ว""ใจเย็น ๆ สหายข้าไม่ได้แต่งกับนางและข้าเพียงหยอกเจ้าเล่นด้วย""แล้วเจ้ามาบอกข้าทำไมข้าไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วตอนนี้ข้ามีภรรยาแล้วรักแล้วหวงแหนนางมากด้วย""หึหึ ข้าได้ข่าวว่าเจ้าขึ้นแท่นเป็นผู้บังคับบัญชาการหัวหน้าทหารหรือไม่คิดว่าเจ้าจะมีมุมแบบนี้ด้วย"ผู้ชายแข็งกระด้างอย่างมู่ซงหยวนจะเกี้ยวสตรีอย่างไรนะถึงได้ภรรยาทั้งสวยและเก่งเช่นนี้ เพราะครั้งนั้นเจ้านี่เกี้ยวสตรีได้แข็งกระด้างและน่ากลัวมาก"ข้าไม่ได้เป็นแล้ว""เจ้ารู้อยู่แก่ใจซงหยวนตอนนี้เจ้าอยู่ในช่วงพักและที่สำคัญคนมีฝีมือเช่นเจ้าทางวังหลวงไม่ปล่อยให้เจ้าอิสระอย่างแน่นอนตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าไปได้อีกไกลมู่ซงหยวน""เรื่องนั้นข้าจะคุยเองไม่ใช่เรื่องของเจ้า""แต่องค์รัชทายาทอยากเจอเจ้าและทุกคนนะ""ข้ายังไม่พร้อมในตอนนี้""องค์รัชทายาทรอเจ้าได้เสมอเจ้าเองก็รู้""หากถึงวันนั้
ติ่ง!"ซุนจือหลินทำภารกิจที่สามสำเร็จรับเงิน 100 อีแปะ โปรดกดยืนยันการรับเงินเข้าระบบโฮสต์""ซุนจือหลินรับเงินจากระบบโฮสต์ ยอดเงินสะสมทั้งหมด 370 อีแปะ""ภารกิจที่สี่ขายฟักทองให้ได้ 20 ลูก ภายในหนึ่งวัน รับเงิน 100 อีแปะ""โปรดยืนยันการรับทำภารกิจเพื่อรับเงิน 10 อีแปะ""ซุนจือหลินรับทำภารกิจที่สี่ ยอดเงินสะสม 380 อีแปะ"ซุนจือหลินที่กลับมาถึงบ้านนางก็รีบเข้าห้องอาบน้ำทันที เพราะระบบโฮสต์แจ้งเตือนนางมา นางทำภารกิจที่สามสำเร็จและก็ได้รับเงินรางวัลและมีภารกิจที่สี่ที่ต้องทำให้สำเร็จภายในหนึ่งวัน คือขายฟักทองให้ได้ 20 ลูก อันนี้ไม่ยากเพราะมั่นใจว่าทำสำเร็จอยู่แล้ว"พี่ว่าไปขายพรุ่งนี้เลยก็ได้นะผักดูโตเต็มที่แล้ว""เอาแบบนั้นก็ได้เจ้า"ซุนจือหลินเองก็เห็นด้วยเพราะวันนี้นางลองเด็ดฟักทองมาทดลองทำอาหารหนึ่งลูกกำลังกินเลยมันดีด้วย"ได้เดี๋ยวพี่จัดเตรียมอุปกรณ์ใส่ผักจะได้ไม่ต้องเตรียมพรุ่งนี้"ผักในรอบนี้จะเป็นแครอท มะเขือเทศ เจี๊ยบขาว ฟักทอง ผักพวกนี้น่าจะคิดเป็นชั่งไม่ได้ให้ราคาเป็นกำ ๆ เหมือนที่ผ่านมา"ได้เจ้าค่ะเดี๋ยวข้าจะทำกับข้าวก่อนเจ้าค่ะ"วันนี้มีฟักทองผัดใส่ไข่แล้วหนึ่งอย่างและผัดกะเพราเ
ซุนจือหลินและทุกคนใช้เวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ในการกำจัดวัชพืชและเตียมหน้าดินพร้อมขึ้นแปลงปลูกผักที่ดินสามหมู่ไม่ใช่เล็ก ๆ การปลูกผักนั้นจะต้องหลากหลายแต่จะไม่หลายชนิดมากเกินไปจนทำให้ดูแลยากเกินไป"พรุ่งนี้จะปลูกผักกาดขาว ผักกาดหอม ต้นโหระพา สะระแหน่ เจ้าค่ะ"ผักสองอย่างหลังซุนจือหลินยังไม่กล้าที่จะปลูกมาก เพราะไม่รู้ว่าที่นี่มีผักทั้งสองชนิดหรือไม่กลัวว่าปลูกมากแล้วจะขายไม่ออก"พี่ว่าเอาฟักทอง มะเขือเทศ แครอท กระเจี๊ยบขาวมาปลูกด้วยดีหรือไม่พื้นที่เหลือเยอะ""ข้าก็คิดว่าจะนำมาปลูกเช่นกันเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินตั้งใจว่าจะแยกฝั่งเป็นสองแบบคือฝั่งที่ผักใช้เวลาเก็บเกี่ยวสองสัปดาห์และการเก็บเกี่ยวหนึ่งเดือนแยกฝั่งปลูกกันไปจะได้สะดวกในการดูแลและเก็บเกี่ยว"หากปลูกผักมากขึ้นและการขนส่งนั้นก็ต้องเพิ่มกำลังการขนส่งมากขึ้นเกวียนก็อาจจะเพิ่มขึ้นด้วย"มู่ซงหยวนเองคิดว่าการซื้อเกวียนเพิ่มนั้นคือทางออกที่ดีในการส่งผักครั้งต่อไปยังพอได้อยู่ แต่หลังจากนั้นต่อไปอาจจะไม่ได้แล้วเพราะผักที่มากขึ้นรอบเดียวไม่สามารถขนไปหมดได้นอกเสียจากเพิ่มเกวียนวันในการขนส่งผัก"จริงด้วยเจ้าค่ะค่อยซื้อจากที่ส่งผักรอบนี้เสร็จก่อนเจ้า
6 โมงเช้าซุนจือหลินอยู่ในเมืองเพราะวันนี้นางมาขายผักชีกับผักบุ้งนางมากับมู่ซงหยวนกันแค่สองคนวันนี้ผักชีมีทั้งหมด 200 กำ และผักบุ้ง 75 กำ แต่ราคาผักบุ้งต้องไปดูหน้าร้านอีกที"แม่นางครั้งหน้าขอเพิ่มจำนวนผักได้หรือไม่ผักบุ้งรับไม่จำกัด แต่ผักชีขอรับห้าร้อยขึ้นได้หรือไม่ผักชีต้องส่งไปทั่วเมืองร้านหม้อไฟในเมืองก็ต้องการอยู่มาก""ได้เจ้าค่ะแต่ช่วงนี้อาจจะมาส่งผักเดือนละสองครั้งเท่านั้นนะเจ้าค่ะ พื้นที่บริเวณบ้านข้าไม่สามารถปลูกได้มากหากจะมาส่งทุกวันเจ้าค่ะ""หน้าเสียดายแต่ไม่เป็นไรผักของแม่นางดูสดมาก นี่เงินขอรับนับดูได้ว่าครบไหมขอรับ"ซุนจือหลินนับเงินได้ทั้งหมด 625 อีแปะ ผักบุ้งที่ร้านให้นางกำละ 3 อีแปะ ผักชีกำละ 2 อีแปะ ครั้งหน้ามาขายน่าจะได้เยอะกว่านี้ผักชีกับผักบุ้งก็ต้องปลูกมากขึ้น"ครบเจ้าค่ะเช่นนั้นข้าต้องขอตัวลาก่อนเจ้าค่ะ""เดินทางปลอดภัยขอรับ"ซุนจือหลินถึงจะดีใจที่ได้เงินเยอะแต่นางก็มีเรื่องเครียดอยู่ดีและยังหาทางแก้ไขไม่ได้ด้วยใจก็อยากได้เงินเยอะ แต่พื้นที่ไม่อำนวยเท่าไหร่"ไม่ดีใจหรือขายได้ตั้งเยอะ""ดีใจเจ้าค่ะ""ดีใจเเล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะเจ้าเครียดเรื่องอันใดบอกพี่ได้ไหม






Comments