Share

บทที่ 5

เมื่อพวกเขาได้สบสายตากัน ชาร์มินก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างของเธอ รู้สึกราวกับว่าเธอได้กลับมาพบกับคนที่เธอรักมากอีกครั้ง คริส เบลีย์ เด็กผู้ชายคนนั้นจับชาร์มินไว้พลางกอดเธอไว้แน่น

“ผมวิ่งไล่ตามลูกแมวมาก่อนที่ผมจะบังเอิญมาเจอคุณแม่เข้า แต่ตอนนี้ผมหามันไม่เจอแล้ว” เด็กชายบ่นพึมพำ “แต่ตอนนี้ผมมีความสุขจังเลยครับ เพราะผมได้เจอคุณแม่อีกครั้ง!”

ในขณะที่สิ่งนี้ทำให้ชาร์มินรู้สึกแปลกใจ ภายในเวลาไม่นานเธอก็หายจากอาการตกใจ เธอจับคอปกเสื้อของเด็กชายอย่างแผ่วเบาพลางผลักเขาออกห่าง “ฉันไม่ใช่แม่ของหนูจ้ะ พ่อแม่หนูอยู่ไหนเหรอจ๊ะ? ฉันจะพาหนูไปส่งให้พวกเขาเอง”

สีหน้าร่าเริงของเด็กชายในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวด ทันใดนั้นเอง เด็กชายก็สะอื้นไห้ขึ้นมา “โอ๊ย… ผมเจ็บหน้าอก...”

ชาร์มินชักมือออกจากคอปกเสื้อของเด็กชายด้วยความรู้สึกผิด ทว่าก่อนที่เธอจะทันได้พูดออกไป เด็กชายก็โผกลับเข้าหาอ้อมแขนของเธอทันที

“ผมเจ็บหน้าอกครับ... กอดหน่อย… คุณแม่ กอดผมหน่อย...” เด็กชายซุกเข้าหาอ้อมกอดของเธอ

ชาร์มินทั้งตกใจและประหลาดใจมาก ทำไมพ่อแม่ถึงทิ้งเด็กชายน่ารักแบบนี้เอาไว้?

ในขณะที่เธอกำลังจะพูด งูตัวหนาเท่าข้อมือของเธอก็เลื้อยเข้ามา และดูเหมือนว่ามันจะเล็งไปที่ข้อเท้าของเด็กชาย เกล็ดของงูตัวนั้นเป็นสีเข้มราวกับสีหมึก เขี้ยวอันแหลมคมของมันมองเห็นได้ชัด แน่นอนว่ามันคืองูจงอาจ ซึ่งเป็นงูที่อันตรายถึงชีวิต!

“หนูระวัง!”

ชาร์มินใช้มือข้างหนึ่งคว้าเด็กชายเอาไว้ และจับงูเอาไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ด้วยความตกใจจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันจึงหันไปหาชาร์มินและฉกเธอแทน เมื่อถูกงูฉกทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ทว่าเธอก็ยังสู้กับมัน ขณะที่เธอปิดตาของเด็กชายเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ชาร์มินจึงเหวี่ยงงูในมือและกระแทกมันเข้ากับถ้ำ

ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

เสียงงูกระแทกกับผนังถ้ำดังก้อง และหลังจากนั้นไม่นานนัก งูก็อ่อนปวกเปียกเพราะมันตายแล้ว เมื่อชาร์มินขว้างงูจงอางให้ไกลออกไป ร่างกายของเธอก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองกับพิษงู เธออ่อนแรงและทรุดตัวลงพิงผนังถ้ำอีกครั้ง

ขณะที่มือของเธอซึ่งปิดตาของเด็กชายเอาไว้ตกลง เด็กชายก็ร้องออกมา “คุณแม่ครับ คุณแม่! อย่าทำให้โมโม่กลัว...! ได้โปรด อย่าทำให้โมโม่กลัวสิครับ! รอที่นี่นะครับ โมโม่จะไปพาคุณพ่อมา!” ด้วยความตกใจ เด็กชายวิ่งออกไปจากถ้ำเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อเขาออกจากถ้ำ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและกดเข้าไปยังห้องสนทนา เมื่อเขาส่งสถานที่ที่เขาอยู่ไปแล้ว เขาก็กดปุ่มบันทึกเสียงและร้องไห้คร่ำครวญ “คุณพ่อครับ ผมอยู่ที่นี่! ผมเจอคุณแม่ แต่งูฉกคุณแม่! คุณแม่ต้องการความช่วยเหลือ!”

แอนโทนี่ เบลีย์ กำลังค้นหาคฤหาสน์ของตระกูลจอร์แดนพร้อมกับบอดี้การ์ดนับร้อยของเขา จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็แจ้งเตือนขึ้น เขาอ่านข้อความและขมวดคิ้ว ‘ลูกไปไกลเป็นสิบไมล์! เขาต้องต้องถูกสั่งสอน! แล้วใครคือแม่ที่เขาพูดถึงกัน?’ เขาคิดกับตัวเอง

เขาขึ้นรถและรีบโทรคนรู้จักของเขา “ไนอัล ช่วยเอาเซรุ่มต้านพิษงูมาที่สถานที่ที่ฉันส่งให้นายเดี๋ยวนี้”

เมื่อแอนโทนี่มาถึงที่ถ้ำ เขาก็พบคริสร้องไห้อยู่ข้าง ๆ หญิงสาวที่หมดสติอยู่

“คุณแม่... คุณแม่ครับ! อย่าทำให้โมโม่กลัว..!” คริสร้องคร่ำครวญขณะที่น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มราวกับน้ำตก

‘เธอคนนี้เป็นใครกัน? คริสถึงดูผูกพันมากถึงขนาดนั้น ดูแล้วเธอก็เป็นคนแปลกหน้า...’ แอนโทนี่พินิจมองชาร์มินที่นอนหมดสติอยู่ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และไม่รู้สึกตัว รูปหน้าของเธอสวยชวนตะลึงจนยากที่จะละสายตาไปจากเธอได้ ‘นั่นคือเธอ ลูกสาวบุญธรรมที่ชื่อ ชาร์มิน จอร์แดน’

คริสที่เห็นพ่อของเขาจึงวิ่งมาหา “คุณพ่อครับ ได้โปรดช่วยคุณแม่ด้วยครับ!” เขาร้องไห้ “คุณแม่กำลังจะตายครับ! ผมไม่อยากให้คุณแม่ต้องตาย...!”

“ใจเย็น ๆ ก่อนนะลูก พ่อขอให้อาไนอัลเอาเซรุ่มมาให้แล้ว” แอนโทนี่ทำให้ลูกมั่นใจมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

ทว่าก็ไม่อาจห้ามน้ำตาของเด็กชายเอาไว้ได้ “สายเกินไปแล้ว... สายเกินไปแล้วครับ! คุณแม่ถูกฉกมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว และคุณแม่จะตายในไม่ช้า เราต้องดูดพิษออกจากเลือดของคุณแม่ครับ!” คริสสะอึกสะอื้นในขณะที่เขาส่ายหน้าอย่างแรง

เมื่อเขาตรวจดูร่างกายของชาร์มิน เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอถูกงูฉกที่ต้นขาของเธอ ถ้าจะดูดพิษออกจากเลือด ก็ต้องถอดกางเกงออก...

“โมโม่ ฟังคุณพ่อ มีความแตกต่างกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง อาไนอัลจะมาที่นี่ในไม่ช้า”

คริสไม่ฟัง และดูเหมือนภายในจิตใจของเขาจะถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว “ช่วยคุณแม่! คุณพ่อช่วยคุณแม่! โมโม่เพิ่งได้เจอคุณแม่ โมโม่ไม่อยากให้คุณแม่ตาย โมโม่ไม่อยากไม่มีแม่... ผมไม่อยากถูกหัวเราะเยาะ! คุณพ่อครับ ช่วยเธอนะครับ! ได้โปรด ช่วยเธอ!” คำพูดของเด็กชายพรั่งพรูออกมาคำแล้วคำเล่า เขาดึงแอนโทนี่ไปหาชาร์มิน

“โมโม่ เลิกตีโพยตีพายสักที” แอนโทนี่เตือนลูกด้วยท่าทางเข้มงวด

“อ๊า!”

ทันใดนั้นเองดวงตาของเด็กชายก็เหลือกขึ้น จากนั้นเขาก็ล้มลงบนพื้นพร้อมกับน้ำลายฟูมปาก

สีหน้าของแอนโทนี่เปลี่ยนไปทันที เด็กชายร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เขารับอุปการะแกมา เมื่อใดก็ตามที่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ร่างกายของแกก็จะชักเกร็งขึ้นมา

ไนอัล เบลีย์ ซึ่งเป็นแพทย์… คอยเตือนเขาอยู่เสมอว่าอาการชักและเกร็งจะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของคริส นั่นคือเหตุผลที่ทำไมตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงระมัดระวังอยู่เสมอ และอนุญาตให้คริสทำตามใจตัวเองได้ตลอดเวลา ผ่านไปกว่าหนึ่งปีแล้วที่อาการเช่นนี้เคยเกิดขึ้น...

“ก็ได้” เขาตอบกลับอย่างยอมแพ้ “พ่อจะช่วยเธอ”

แอนโทนี่คุกเข่าลงที่ปลายเท้าของชาร์มิน และเอื้อมมือไปถอดกางเกงของเธอออก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status