ด้านอันนิกา ฉันดีใจมากที่มีผลเมืองดีมาช่วยฉันไว้ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเขาน่าไว้ใจและดูปลอดภัยกว่าผู้ชายคนนั้น
ดีเท่าไหร่แล้วที่เมื่อครู่ฉันรวบรวมแรงที่มีอยู่สะบัดท่อนแขนออกจากการจับกุมจากผู้ชายที่อันตรายคนนั้นได้
คิดถึงช่วงเวลานั้นฉันยังกลัวไม่หาย เมื่อได้ยินคนใจดีเอ่ยชวนฉันว่าจะไปส่ง
ฉันจึงไม่คิดที่ปฎิเสธเลย ยอมก้าวเดินตามชายรูปร่างสูงไปยังรถอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านในรถฝั่งข้างคนขับ
รถยนต์คันหรูถูกขับออกจากผับที่มี รถสัญจรไม่หนาแน่นเท่าช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอาจเป็นเพราะเวลานี้เป็นเวลาที่ดึกและเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลาย ๆ คน
แต่เมื่อรถถูกขับไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งฉันกับมีอาการบ้างอย่างแล่นเข้ามาภายในร่างกายความรู้สึกร้อนวูบวาบจากภายใน จิตใจเริ่มสั่นไหว
"น้องยังไม่บอกพี่เลยว่าบ้านอยู่ไหน"ฉันได้ยินเสียงทุ้มของคนที่นั่งด้านข้างเอ่ยถามฉัน ขนาดที่สมองกับอื้ออึงคิดอะไรไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันเริ่มจะทนอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว
"..."
"น้องไม่ได้ยินที่พี่ถามเหรอ พี่ถามว่าจะให้พี่ไปส่งที่ไหน"เสียงทุ้มเอ่ยถามฉันอีกรอบ ก่อนที่พี่ชายใจดีจะหันมามองฉัน เขาชักสีหน้าตกใจ
"น้องเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมเหงื่ิอถึงออกเยอะแบบนี้"คำถามถึงความห่วงใยก่อนที่มือหนาจะหยิบกระดาษทิชชู่แผ่นบางส่งให้ฉัน
ฉันรับไว้อย่างว่าง่ายก่อนจะใช้กระดาษแผ่นบ้างเช็ดลงรอบกรอบใบหน้าที่ตอนนี้เริ่มมีเม็ดเหงื่อสีใสผุดออกมาเต็มใบหน้าสวย
"ร้อนคะ ร้อน แอร์รถพี่เสียหรือเปล่า"ฉันบอกขณะที่มือฉันเริ่มดึงเสื้อคลุมออกวางลงข้างตัวเผลยให้เห็นเสื้อสายเดียวตัวจิ๋วที่ปกปิดผิวขาวเนียนที่ตอนนี้ผิวสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจากฤทธิ์บางอย่าง
เรียวมือบางโบกพัดวีเพื่อให้ไอเย็นจากแอร์กระทบผิวบางแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย
"แอร์รถพี่ก็ปกตินะ น้องไม่สบายหรือเปล่า"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเร่งความแรงของแอร์ให้แรงกว่าเก่า
"ร้อนคะ ร้อนไม่ไหวแล้ว"ฉันพยายามสะกดอารมณ์ที่ร้อนวูบวาบจากภายในกายสาว อีกทั้งพยายามบดเบียดต้นขาอ่อนเข้าหากัน แต่ทว่ามือเรียวของฉันกับทำอะไรที่ตรงกันข้าม
"พี่ช่วยหนูด้วย หนูเป็นอะไรไม่รู้"เสียงหวานของฉันเอ่ยขึ้นขอความช่วยเหลือในทันที ขนาดผู้ชายพลเมืองดีเห็นฉันมีอาการแปลก ๆ ถึงกับเบี่ยงรถจอดเข้าข้างทางพร้อมกับสบถคำหยาบคายจนเสียงดัง
"เชี่ย เอ๋ย"หลังจากนั้นสติของฉันก็เริ่มพล่ามัวจำอะไรไม่ค่อยได้
ด้านเจแปน ผมงงตั้งแต่สาวใบหน้าหวานบอกผมว่าร้อนแล้วผมจึงพยายามเร่งแอร์ให้แรงกว่าเก่า น้องถอดเสื้อสูทที่คลุมออกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็คงร้อนแหละสงสัยคงดื่มเหล้าไปเยอะแอลกอฮอล์คงออกฤทธิ์
ผมมองไปยังทิศทางของคนใบหน้าหวานอีกรอบแต่ก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นด้านหน้าเมื่อคนตัวเล็กถอดเสื้อตัวจิ๋วออกเหลือแต่ บราเซียร์สีดำสุดเซ็กซี่ที่ปกปิดอกอันอวบอิ่มเอาไว้ ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นบีบเค้นเนินอกอันอวบอิ่มจนเนื้อปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้วมือบาง
ผมรีบจอดรถยนต์คันหรูข้างทางทันที ที่มีรถขับผ่านไม่ค่อยเยอะกว่าช่วงกลางวันหรืออาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่ดึกสงัดและอาจจะเป็นเวลานอนของใครหลาย ๆ คน
"เชี่ย เอ๋ย ไปโดนตัวไหนมาเนี่ย"ภาพตรงหน้าอย่าในพูดเลยว่าน้องสาวคนสวยกำลังทำอะไรอยู่หรือน้องจะโดนวางยาจากผู้ชายคนนั้นแหละดูจากอาการ
สายตาคมไล่มองผิวขาวเนียนละเอียดที่ครั้งหนึ่งมีเสื้อสายเดียวปกปิดอยู่ตอนนี้เสื้อตัวบางไม่รู้ปลิวหายไปตอนไหน อีกทั้งฝ่ามือบางเริ่มขย้ำก้อนกลมนุ่มนิ่มผ่านเนื้อผ้าลายลูกไม้สีดำของบราเซียร์ตัวจิ๋ว ส่วนอีกข้างล่วงเข้าชายกระโปรงยีนส์ตัวสั้นพร้อมทั้งลูบไล้เนินเนื้อนางผ้าแพทตี้สีดำ
น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคออย่างฝืดเคียง กับเหตุการณ์ด้านหน้า ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ท่อนเอ็นลำใหญ่ที่อยู่ภายใต้กางเกงเริ่มแข็งขืน อีกทั้งยังปวดหนึบเมื่อเจอเหตุการณ์ที่รัญจวนใจ
"น้อง ไหวไหมเดี๋ยวพี่พาไปโรงพยาบาลดีกว่า"ผมเอ่ยถามขณะที่ตอนนี้สาวสวยใบหน้าลูกครึ่งกำลังลูบวนที่ใจกลางความสาวของตัวเอง ขณะที่มืออีกข้างบีบเค้นที่ก้อนเนื้อคู่สวย ผมถึงกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พยายามระงับอารมณ์ที่อยู่ด้านหน้า
"พี่...ช่วย...หนูด้วย"เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะร่างบอบบางโน้มองศาเข้ามาหาผมพร้อมกับแนบชิดริมฝีปากบางกระซิบลงใบหูหนาอีกทั้งมือเรียวสวยถูกยกลงมาคลึงแก่นกายของผมผ่านกางเกงยีนส์ตัวเก่ง อารมณ์ปราถนาพุงเข้ามากลางใจทันที เมื่อเจอสาวด้านข้างปลุกอารมณ์อีกทั้งท่อนเอ็นลำใหญ่ที่ปวดหนึบเริ่มเพิ่มทวีคูณอยากจะเข้าไปช่วงชิมความหอมหวานของร่างบอบบางที่เข้ามาปลุกกำหนักผม
ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดไปไกล ผมจึงรวบร่วมสติขึ้นมามือหนายกขึ้นจับมือเรียวสวยให้หยุดการกระทำนั้นก่อน เพราะตอนนี้แก่นกายของผมมันเหยียดตัวขยายใหญ่ขึ้นและยังรู้สึกถึงความปวดหนึบขึ้นไปทั้งกายลำใหญ่
"อย่าทำแบบนี้เลย พี่ว่าพี่ไปส่งหนูที่โรงพยาบาลดีกว่านะ"ผมเอ่ยหว่านล้อมแม้ในร่างกายของผมจะมีความต้องการมากขนาดไหนก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากทำคนที่ไม่มีสติกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลัง
แต่ในช่วงเวลาที่ผมเอ่ยห้ามไม่คิดเลยว่าสาวน้อยใบหน้าลูกครึ่งกับยืนใบหน้าหวานเข้ามาใกล้ ก่อนจะส่งริมฝีปากอวบอิ่มจะทาบทับลงบนริมฝีปากหนาของผม
จากที่คิดว่าจะห้ามปรามกับโอนอ่อนไปตามแรงปรารถนา มือหนาขยับเบาะให้เอนต่ำก่อนจะใช้สองมือช้อนสะโพกงามให้ลอยขึ้นมาพลาดทับที่หน้าขาแกร่งกระโปรงยีนส์ตัวสั้นขยับร่นขึ้นมาอยู่เกือบถึงช่วงเอวเผยให้เห็นแพทตี้สีดำสุดเซ็กซี่ที่เริ่มมีน้ำซึมออกมาให้เห็น
"ถ้าพี่ทำน้องจะไม่เสียใจเหรอครับ"ผมถามก่อนเพราะผมต้องการรู้ว่าผลลัพธ์ในภายภาคหน้าจะเป็นเช่นไร
ขณะคนตัวเล็กร่างบางกับส่ายหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับพร้อมกับยกท่อนแขนเรียบโอบรอบลำคอหนาบดเบียดอกนุ่มนิ่มแนบชิดแผงอกแกร่งพร้อมกับส่งสายตาคู่สวยสบตาคมอย่างหยาดเยิ้ม
รุ่งเช้าของวัน ความบันเทิงก็เกิดขึ้นเมื่อฉันกำลังหลับอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นสามี แต่แล้วเหมือนได้ยินเสียงแหวกเข้ามาในโสตประสาทของหูแต่ก็ไม่ถึงกับดังมาก ฉันค่อย ๆ ลืมตาตื่นจับโฟกัสก่อนจะเห็นว่าคุุณพ่อกับคุณแม่พี่เจแปนยืนอยู่ข้างเตียง ฉันยกมือขึ้นไหว้ก่อนปลายนิ้วจะสะกิดลงที่ท่อนแขนของคนตัวสูงเรื่องของเรื่องคือ เมื่อคุณปู่คุณย่าทราบข่าวว่าลูกสะใภ้ให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยทั้งสองตั้งใจออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตั้งใจจะมาหลานสาวตัวน้อย แต่เมื่อเข้ามาด้านในห้องพักฟื้นก็ทำให้คุณย่าถึงปรี๊ดแตก จากอารมณ์ดีใจที่จะได้เห็นใบหน้าหลานสาวตัวเล็กแต่กับเห็นคนเป็นพ่อที่นอนหลับอยู่บนเตียงลูกสะใภ้ด้วยความว่าจะทำให้ลูกสะใภ้นอนหลับพักผ่อนไม่เต็มที่ เสียงกร่นด่าจึงลอยออกมาจากปากคุณย่าอย่างต่อเนื่องแต่ไอ้ลูกชายกับนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง คนเป็นย่าจึงใช้ฝ่ามืออรหันต์ฟาดลงต้นแขนจนเสียงดัง เปี๊ยะ!ฝ่ามือร้ายกาจทำให้คนเป็นลูกสะดุ้งตื่น พร้อมร้องออกมาจนเสียงดัง "โอ้ย" ก่อนจะยกมือลูบต้นแขนตัวเองปรอย ๆ ยังงงอยู่ว่าทำไม่แม่ตัวเองถึงส่งฝ่ามืออรหันต์ใส่ตัวเองก่อนจะบ่นออกมาไม่เต็มเสียง"เจ็บนะแม่""เจ็บสิดี มีอย่างที่ไหนแย่งเ
ช่วงกลางดึกของคืนหนึ่งขณะสองสามีภรรยานอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงอยู่ ๆ ไอ้ก้อนกลม ๆ ที่อยู่ในท้องก็เริ่มแผลงฤทธิ์ ส่งสัญญาณให้คนเป็นแม่ว่าตัวเองอยากจะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว"พี่เจแปนอันปวดท้อง"มือบางสะกิดคนเป็นสามีที่นอนข้างกาย ขณะที่คนตัวสูงดีดลุกขึ้นนั่งก่อนจะประคองสติได้"อันจะคลอดแล้วเหรอ"ผมมองไปที่คนตัวเล็กที่ตอนนี้เริ่มมีเหงื่อไหลซึมออกมาเต็มดวงหน้าใสก่อนจะได้ยินเสียงหวานเอ่ยบอกด้วยความเจ็บปวด มือเรียวกุมหน้าท้องนูนป่องเอาไว้"อืม..น่าจะใช่...อันปวดท้อง"ผมเริ่มตั้งสติได้ก่อนจะวาดเท้าลงจากเตียงคว้าเอกสารสำคัญ ที่น้องอันจะวางไว้ที่หัวเตียงเพื่อมีเหตุฉุกเฉิน ก่อนจะยัดลงกระเป๋าขนาดย่อมที่คนตัวเล็กจัดของใช้บ้างส่วนที่เกี่ยวกับลูกสาวไว้ด้านใน มือหนาจับหูกระเป๋าคล้องลงบนไหล่ ก่อนจะสาวเท้ามาช้อนอุ้มร่างตุ้ยนุ้ยของคนเป็นภรรยาเดินออกจากห้องทั้งนั้นไม่ลืมที่จะบอกคนเป็นตากับยายถึงเหตุการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้นเสียงเข้มตะโกนเรียกพวกท่านอยู่บริเวณหน้าประตูห้องนอนของท่านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอนผมและคนตัวเล็กนึกถึงตอนนั้นที่พ่อตาแม่ยายสั่งให้ทั้งผมและคนตัวเล็กพาไอ้ต้าวตัวน้อยย้ายมาอยู่ด้วยกัน โดยท่
เวลารุ่งเช้าฉันที่ตื่นขึ้นมาก่อนจะนอนมองคนตัวสูงที่เล่นบทรักกับฉันเมื่อคืนณะตอนนี้กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ ขณะท่อนแขนแกร่งโอบกอดเอวฉันไว้ตลอดทั้งคืน มือเรียวสวยลูบไล้ใบหนาคมไล้ลงมาที่จมูกที่โด่งคมเป็นสันและมาหยุดที่ริมฝีปากหนา พลั้นก็รู้สึกชุมชื่นหัวใจอิ่มเอมกับความสุขให้กระชุ่มกระชวยจิตใจขณะดวงตาคู่คมกระพริบถี่ ๆ ก่อนจะเปิดม่านตาออกเพื่อรับแสงสว่าง"ตื่นแล้วเหรอ..." เสียงแหบพร่าของคนที่ตื่นนอนใหม่ ๆ ถามขณะที่ฉันดึงท่อนแขนออกก่อนคนตัวกับรวบเอวคอดฉันอยู่ในอ้อมกอดเหมือนเดิม"ลุกเถอะคะเช้าแล้ว"คนตัวสูงดีดตัวขึ้นเหมือนคิดอะไรบ้างอย่างได้"จริงสิ วันนี้พี่ต้องพาอันไปหาหมอ ไม่รู้ว่าลูกเราที่อยู่ในท้องอันจะเป็นอย่างไงบ้าง"พูดจบคนตัวสูงก็ช้อนอุ้มฉันเข้าไปอาบน้ำ ขณะที่ฉันเอ่ยปฎิเสธความหวังดีของคนตัวสูงแต่เหมือนคนตัวสูงกับไม่ยอมแค่บอกว่า"อาบน้ำพร้อมกันไวกว่าไม่เสียเวลา อีกอย่างพี่กลัวเราลื่นล้มในห้องน้ำด้วยพี่เป็นห่วงเรากับลูกในท้อง"ฉันจึงยอมจำใจให้คนตัวสูงอาบน้ำให้ ถึงแม้ฝ่ามือหนาจะเน้นย้ำถูลูบไล้จุดสงวนและหน้าอกคู่สวยของฉันเป็นพิเศษก็ตามทีกว่าจะเสร็จก็ร่วมชั่วโมงกว่าเราสองคนจะออกจากห้
พิธีการที่ผมรอมาเกือบจะทั้งวันก็ต้องเป็นพิธีการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นแหละ ทันทีที่แม่ผมมาบอกว่าถึงฤกษ์แล้ว ผมไม่รอช้ารีบสาวเท้าเข้าไปเรียกคนตัวเล็กที่ยืนคุยในกลุ่มเพื่อนของน้องด้วยความไว ถึงแม้จะโดนเพื่อนสนิทอย่างไอ้เหนือกับไอ้ออกัสฉุดรั้งผมไว้ก็ตาม ก่อนหน้านั้นก่อนที่ผมจะสาวเท้าเข้าไปหาเจ้าสาวแสนสวยของผม"มึงจะรีบไปไหน ไอ้น้องเขย"มือหนาของออกัสฉุดรั้งท่อนแขนของผมไว้ เมื่อมันเห็นว่าผมจะแยกตัวไป ตอนนี้มันเป็นพี่เขยผมเต็มตัวแล้ว พอผมได้เป็นน้องเขยมันแม่งเบ่งชิบหาย"แม่มาบอกว่าถึงฤกษ์ส่งตัวแล้วกูจะไปตามเจ้าสาว""เลทออกไปสัก 5 นาทีไม่เป็นไรหรอกมั่ง"ไอ้เหนือมันพูดบ้างผมรู้แหละว่ามันสองตัวแกล้งผม มันรู้ดีว่าโบราณเขาถือเรื่อง ฤกษ์ยามแค่ไหนใครเขาให้เลทกัน"ไอ้เหนือ ไอ้ออกัสมึงสองตัวแต่งงานอย่าแกล้งกู จริงไหมคุณลิตา"ผมที่อยากหลุดพ้นไอ้เพื่อนสองคนนี้จึงหันไปหาตัวช่วยที่ตอนนี้คุณลิตามีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ผมเพราะไอ้ออกัสผู้ไม่กลัวใครนอกจากเมียมันก็คือคุณลิตาที่ยืนอยู่ข้างมันแหละ"พี่ออกัสอย่าแกล้งคุณเจแปนสิคะ"ไม่นานคำขอผมก็เป็นผลเมื่อคุณลิตาเอ่ยปราบไอ้เพื่อนตัวดีที่ตอนนี้ขยับสถานะมาเป็นพี่เขยผมเ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาพ่อแม่พี่เจแปนเดินทางมาพบพ่อแม่ฉันที่บ้าน เพื่อมาขอโทษแทนลูกชายและมาสู่ขอฉันตามประเพณี การเจรจาพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้เรียกสินสอดอะไรมากมายแต่ขอให้สมน้ำสมเนื้อในฐานะลูกสาวคนเดียวของบ้านและในฐานะลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ ทางคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่เจแปนก็ไม่ติดขัดอะไรพร้อมจัดสินสอดให้โดยที่ทางเราไม่เรียกร้องเห็นแต่สมควร"ผมดีใจนะครับที่ทางคุณยกโทษและให้อภัยลูกชายผม แต่ในเมื่อคุณไม่เรียกสินสอดทางเราจัดสินสอดให้เองแต่ถ้าคิดว่าน้อยไปเรียกเพิ่มเลยนะครับ"พ่อพี่เจแปนที่ทำหน้าเป็นเถ้าแก่มาสู่ขอเมียให้ลูกชายขณะแม่พี่เจแปนนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน"ใช่คะทางเราคุยกันแล้วว่าจะให้ เงิน 10 ล้าน ทอง 100 บาท เครื่องเพชร 1 ชุด และแหวนเพชร 10 กะรัต ทางคุณคิดว่าน้อยไปหรือเปล่า หรือจะเรียกเพิ่มเรียกได้ตามสบายเลยนะคะ"คุณแม่พี่เจแปนเอ่ยขึ้นฉันถึงกับตาเบิกกว้างไม่คิดว่าทั้งสองจะให้สินสอดฉันเยอะขนาดนี้"เราสองคนคุยกันแล้วว่าจะไม่เรียก แล้วแต่ทางคุณจะให้"แม่ฉันเอ่ยขึ้น"แม่คะไม่เยอะไปเหรอคะ"ฉันรีบแย้งขึ้นทันทีเพราะดูเหมือนสินสอดที่พ่อแม่พี่เจแปนให้มันเยอะไปจริง ๆ ขณะพี่เจแปนที่นั่งบนโ
บ้านอันนิกาผมสั่งให้เลขาจัดหาพานดอกไม้ธูปเทียน เพื่อถือมาขอขมาท่านทั้งสองที่ได้ล่วงเกินคนตัวเล็กจนพลาดท้องขึ้นมา เมื่อก้าวท้าวเข้ามาในบ้าน คุณแม่ของคนตัวเล็กเอ่ยทักทายเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ขุ่นเคืองหัวใจ และยังยิ้มรับการมาของผมด้วย"สวัสดีครับคุณแม่""จ๊ะสวัสดีเข้ามาก่อน"ไม่น่าเชื่อว่าท่านยิ้มตอบรับไมตรีจากผม ขณะคุณพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟาชักสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อยสายตาคู่คมของคุณพ่อมองที่ผมแวบนึงก่อนจะหันไปสนใจน้องซีนาย"มาแล้วเหรอ คิดถึงจังเลยมาหาตาเร็ว"พ่อของคนตัวเล็กเรียกน้องซีนาย ไม่น่าเชือว่าท่านเป็นคนต่างชาติที่สามารถพูดภาษาไทยได้อย่างดีเลยทีเดียว ขณะที่น้องซีนายวิ่งเข้านั่งข้างคุณตา"สวัสดีครับคุณพ่อ"ผมทักทายท่านและอีกเช่นเคยพ่อน้องอันพยักหน้าเพียงเล็กใบหน้าช่างดูเรียบตึง จนทำให้ผมรู้สึกเกร็ง ๆ ขึ้นมา ขณะสายตาท่านมองมาที่ผมชั่วขณะหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจน้องซีนายต่อ คนตัวเล็กที่น่าจะเข้าใจสถานการณ์ดีเอื้อมมือบางมาบีบมือผมเบา ๆ เหมือนให้กำลังใจ"ได้ข่าวว่าไปเที่ยวทะเลสนุกไหมน้องซีนาย"เสียงทุ้มของคุณตาเอ่ยถามไอ้ต้าวตัวน้อยยิ้มก่อนที่เอ่ยเสียงใสเล่าเป็นฉาก ๆ ให้คุณตาฟัง"สนุกมาก