Share

ภัยอันตราย

Author: Dragon Author
last update Last Updated: 2024-11-15 14:01:10

เวลาเริ่มดึกคนต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านเริ่มมีนักท่องเที่ยวแน่นและเยอะกว่าทุกวันหรือนี่อาจจะเป็นวันศุกร์ของสิ้นเดือนนักท่องเที่ยวเลยเยอะมากกว่าปกติ

สามสาวนั่งดื่มค๊อกเทลบนโต๊ะจนเริ่ม หร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ตลอดการนั่งดื่มของสามสาวต่างมีหนุ่ม ๆ ค่อยแวะเวียนมาขอชนแก้วไม่ขาดสาย

ยิ่งดึกเสียงเพลงยิ่งเป็นจังหวะที่สนุกสนามสองสาวอย่างนิสากับปานดาวลุกขึ้นอวดลวดลายโชว์สเต็ปการเต้นข้างโต๊ะที่หญิงสาวนั่งแบบไม่มีใครยอมใครและขาดไม่ได้เลยที่จะมีหนุ่ม ๆ ขยับมาเต้นใกล้ ๆ เพื่อนทั้งสอง

ฉันมองแล้วกับยิ้มที่นาน ๆ ทีจะเห็นเพื่อนทั้งสองสนุกขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาเป็นเพราะปวดฉี่ อยากจะเข้าห้องน้ำก็แหมจะไม่ปวดได้อย่างไรในเมื่อฉันดื่มค๊อกเทลด้านหน้าหมดไปแล้วไม่รู้กี่แก้วแต่ที่รู้คือค๊อกเทลที่สองสาวสั่งมาเราสามคนต่างช่วยกันดื่ม

"นี่แกฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"ฉันบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายที่ด้านในมีโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ติดตัวไปด้วย

"อืม รีบไปรีบมานะ กระเป๋าก็ว่างที่โต๊ะแหละไม่หายหรอก"

"ว่าจะไปโทรศัพท์หาพี่ออกัสด้วยตั้งแต่มายังไม่ได้บอกพี่ออกัสเลยว่าอยู่ร้านไหน"

"อืม"เพื่อนทั้งสองรับคำและเป็นอันเข้าใจว่าพี่ชายของเพื่อนนั่นก็ห่วงน้องสาวยิ่งกว่าอะไรดี

หลังจากบอกเพื่อนทั้งสองเป็นที่เข้าใจแล้วฉันรีบสาวเท้าออกจากโต๊ะที่เบียดเสียดนักท่องราตรีทั้งหลายออกมาเข้าห้องน้ำและโทรหาพี่ชายแต่เมื่อฉันพยายามโทรหาพี่ชายอยู่หลายสายกับไม่มีทีท่าว่าพี่ออกัสจะรับสายเมื่อเป็นเช่นนั้นหลังจากที่จะให้พี่ชายมารับที่ผับเลยถูกพับไปก่อนที่ฉันจึงเดินออกจากห้องน้ำ

แต่ทว่าขณะฉันเดินออกพ้นประตูห้องน้ำกับมีฝ่ามือปริศนามากระชากที่ท่อนแขนฉันทำให้ร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัว ถลาไปตาแรงกระชากของใครบ้างคน

"อุ้ย"เสียงหวานร้องออกมาด้วยความตกใจมองไปยังรอบข้างที่ถูกกระชากมาในมุมอับแต่ก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาแต่ไม่ได้เยอะเท่าไหร่

"มาคนเดียวเหรอครับ"คนตัวสูงหน้าเข้มแบบไทยเอ่ยถามฉันด้วยท่าทีจาบจ้วงและไม่น่าไว้ใจ

"ฉันมากับเพื่อน แล้วก็กรุณาปล่อยมือฉันด้วยเพราะเราไม่รู้จักกัน"ฉันพยายามสะบัดแขนออกจากมือของผู้ชายตรงหน้า แต่พยายามเท่าไหร่ชายตรงหน้ากับจับท่อนแขนฉันไว้แน่น

"พี่ชื่อคิวนะครับ รู้ไหมพี่มองน้องตั้งแต่โต๊ะที่น้องนั่งกับเพื่อนแล้ว"เสียงทุ้มบอกฉันในขณะที่ฉันไม่ต้องการฟังเลยสักนิด

ย้อนไปตอนที่อันนิกาเดินออกมาเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ แอบมองหญิงสาวตลอดและสังเกตุว่าถึงแม้จะมีหนุ่ม ๆ เข้ามาขอชนแก้วด้วยสาวสวยใบหน้าลูกครึ่งกับไม่สนใจต่างกับเพื่อนทั้งที่มาด้วยกัน เมื่อเห็นหญิงสาวลุกออกจากโต๊ะคาดว่าน่าจะมาเข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสเพื่อมาดักคุยทำความรู้จักหญิงสาวที่ตัวเองสนใจ

"โอเคคุณชื่อคิว ฉันรู้จักชื่อคุณแล้วคะเพราะฉะนั้นกรุณาปล่อยมือคุณจากแขนฉันได้แล้ว"ฉันมองไปยังมือของชายคนนั้นที่กำข้อมือฉันไว้แน่นก่อนกรอกตามองไปยังใบหน้าของชายผู้ไม่หวังดี พรางคิดหาทางออกที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์ด้านหน้าให้ไวที่สุด

"แต่พี่ยังไม่รู้จักหนูเลยนะ หนูชื่ออะไรเอ๋ย"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแบบกระลิ้มกระเลี่ยทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงอยากจะออกจากสถานการณ์เร็ว ๆ

"อันคะ รู้แล้วก็ปล่อย"ฉันพยายามแกะมือเขาออกจากแขนฉันออกอีกรอบเป็นจังหวะเดียวกันที่ชายคนนั้นยอมคลายมือออกทำให้ฉันเป็นอิสระจากการจับกุม

ฉันหมุ่นตัวและรีบสาวเท้าเร็ว ๆ ไปหาเพื่อนสนิทของฉัน แต่ยังมิวายชายคนนั้นกับเดินตามหลังฉันมาติด ๆ เอ่ยพูดคุยกับฉันตลอดทาง เมื่อถึงโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะที่ฉันนั่งมากนักเสียงทุ้มของเขาเอ่ยชวนฉันนั่งด้วย"น้องอันนั่งด้วยกันก่อนสิครับ"

ฉันไม่เอ่ยตอบแค่พยายามจะสาวเท้าเดินหนีจากผู้ชายน่ากลัวมายังโต๊ะของตัวเอง แต่ทว่าคนที่ชื่อคิวกับคว้าท่อนแขนฉันเอาไว้อีกรอบเพื่อที่จะดึงฉันให้นั่งที่โต๊ะของตัวเองให้ได้ ขณะที่ฉันพยายามฝืนสุดฤทธิ์

"ไม่นั่ง ปล่อย"

"โอเค ไม่นั่งก็ไม่นั่งครับ ถ้างั้นดื่มเหล้าเพื่อให้เกียรติพี่ที่เรารู้จักกันครั้งแรกนะครับแล้วพี่จะไม่กวนน้องอันอีกเลย"พูดจบผู้ชายที่ชื่อคิวส่งแก้วเหล้าสีชาทรงเตี้ยให้ฉัน สายตาคู่สวยของฉันมองแก้วเหล้าก่อนจะยอมยกดื่มโดยดีเพื่อตัดความรำคาญ

น้ำสีชาถูกส่งเข้าไปในลำคอบางถึงแม้จะมีกลิ่นที่เหม็นและรสชาติขมแต่ฉันก็ยอมฝืนที่จะดื่มเพราะอยากจะหลุดจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดตรงนี้สักที

"แล้วเจอกันนะครับ"เสียงทุ้มเอ่ยบอกขณะที่ฉันดื่มเหล้าในแก้วหมดแล้วก่อนจะวางลงที่โต๊ะแล้วรีบสาวเท้ามายังที่โต๊ะของตัวเอง

แต่ทว่าพอมาถึงที่โต๊ะแล้วเพื่อทั้งสองกับไม่รู้ว่านางหนีไปเต้นแร้งเต้นกาที่ไหนฉันนั่งรอเพื่อนทั้งสองยังไม่ถึงสิบนาทีเหมือนกับร่างกายร้อนวูบวาบแปลก ๆ และยังหายใจติด ๆ ขัดอีก

ฉันคงกินเหล้าไปเยอะแอลกอฮอล์คงน่าจะออกฤทธิ์ฉันคงต้องเมาแล้วแน่ ๆ เลย

ร่างบางของฉันลุกออกจากโต๊ะ จุดหมายว่าจะต้องรีบกลับบ้านได้แล้วถ้าตัวเองเมามาก ๆ อาจจะกลับไม่ไหวก็ได้ สองขาเรียวของฉันรีบเดินออกจากสถาบันเทิงทันที

ฉันรีบสาวเท้าออกมาเพื่อที่จะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เพราะก่อนหน้านี้ฉันพยายามโทรหาพี่ชายอยู่หลายสายแต่พี่ชายสุดที่รักก็ไม่ยอมรับสายสักที ไม่รู้ว่าไปแอบกกสาวอยู่ที่ไหนถึงไม่สนใจน้องสาวตัวเอง ถ้ากลับไปถึงสวีเดนจะฟ้องพ่อกับแม่ให้หมดว่าละเลยน้องสาวของตัวเอง

ฉันพยายามพยุงตัวเองมายังด้านหน้าสถานบันเทิงเพื่อตั้งใจว่าจะเรียกแท็กซี่แต่กับมีมือหนาของใครบ้างคนมากระชากท่อนแขนฉันเอาไว้ ทำให้ตัวของเซไปตามแรงจนชนเข้ากับแผงอกกำยำโดยไม่ได้ตั้งใจ

"อุ้ย"สายตามองไปตามแรงฉุดรั้งก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มของผู้ชายคนที่ตามตอแย่ฉันตอนอยู่ในผับ

"น้องอันครับเดี๋ยวพี่ไม่ส่งดีกว่า"เสียงทุ้มเอ่ยบอกเหมือนจะหวังดีพร้อมกับจับเรียวแขนไว้แน่นพยายามจะดึงลากฉันให้เดินตามเขาไปที่รถ

ขณะที่ฉันพยายามแกะมือเขาออกจากท่อนแขนฉันแต่ด้วยเรี่ยวแรงของเขานั้นช่างมีเยอะนักฉันพยายามแกะมือเขาออกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออก แต่ทว่าฉันกับเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลฉันมากนักฉันพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเขาแต่ดูท่าทางเขาจะไม่สนใจฉันสักเท่าไหร่

ด้านเจแปน ผมเดินออกมาจากภายในร้านด้วยอาการหัวเสียเพราะตัวเองได้นัดหมายเพื่อนสนิทอย่างน้ำเหนือและออกัสให้มาดื่มกันที่ร้านประจำ ตอนแรกเพื่อนทั้งสองตกลงเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมาดื่มด้วยกันแต่ที่ไหนกับโดนเพื่อนทั้งสองเท

สายตาคมของผมมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่ฉุดรั้งกันไปมาซึ่งคนทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ห่างจากผมสักเท่าไหร่ ผมมองด้วยความสงสัยก่อนจะคิดว่า ทั้งสองอาจจะเป็นแฟนกันและอาจจะทะเลาะกันอยู่ก็ได้และผมก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านด้วยสิเรื่องนี้จึงทำให้ผมยอมปล่อยผ่าน

แต่ทว่าขณะที่ผมกำลังจะหมุนตัวเองเพื่อเดินไปทิศทางของรถที่จอดอยู่กับมีมือเรียวของใครบ้างคนมากระชากท่อนแขนผมทำให้ผมต้องหันไปทิศทางตามแรงกระชาก

"ช่วยด้วยคะ ช่วยฉันด้วย"เสียงหวานของสาวใบหน้าลูกครึ่งเอ่ยบอกด้วยท่าทีหวาดกลัวพร้อมกับส่งสายตาเชิงขอร้องมายังผม

ผมมองไปยังใบหน้าหวานที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนจะสลับมองชายรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมเข้มแบบไทยเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านหน้าก่อนจะได้ยินเสียงของชายคนนั้นเอ่ยบอกผม

"แฟนผมเมาครับผมกำลังจะพาเธอกลับบ้าน"ชายคนนั้นบอกก่อนที่ผมจะมองไปยังใบหน้าหวานที่ดูหวาดกลัวผิดปกติของคนเป็นแฟนกันขณะมือเรียวกับเกาะท่อนแขนผมไว้แน่น

"ไม่ใช่"เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายใบหน้าหวานไปมาเป็นเชิงปฎิเสธ

เมื่อเห็นดังนั้นแล้วจากคนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอย่างผมแต่ด้วยมนุษย์สัมพันธ์ที่เห็นคนเดือดร้อนขอความช่วยเหลือจะไม่ให้ผมช่วยก็ไม่ได้

"ผมว่าไม่ใช่แล้วแหละน้องเป็นแฟนเขาจริงไหม"ผมเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยพร้อมหันไปถามน้องผู้หญิงเพื่อยืนยันคำตอบ

"ไม่คะ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน อยู่ดี ๆ เขาก็มาดึงหนูไว้ หนูกลัว ช่วยหนูด้วยนะคะพี่"เสียงหวานบอกผมขณะที่จับบีบท่อนแขนแน่นกว่าเดิมก่อนที่ผมจะมองผู้ชายคนนั้นจะมีท่าทีเลิกลักแต่ยังไม่ยอมที่จะปล่อยมือออกจากแขนน้องผู้หญิงคนนั้น

เมื่อผมเห็นดังนั้นดูท่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ยอมปล่อยน้องเขาง่าย ๆ แน่ ๆ มือผมล่วงเข้าชายเสื้อก่อนจะเปิดวัตถุบางอย่างเสียบอยู่ที่เอวก่อน ชายหนุ่มที่มีท่าทางไม่เชื่อใรตอนแรกแต่กับยอมเดินออกไปอย่างโดยดีด้วยท่าทีหัวเสียไม่น้อย

"ขอบคุณนะคะที่ช่วย"

น้องผู้หญิงเอ่ยขอบคุณผมพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้

"ไม่เป็นไหร่ครับว่าแต่บ้านคุณอยู่ไหนเดี๋ยวผมไปส่ง"ใบหน้าหวานพยักหน้าตอบรอบก่อนจะเดินตามผมมาขึ้นรถ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลุ้นรักแม่ของลูก   ลูกเผลอแล้วเจอกัน

    รุ่งเช้าของวัน ความบันเทิงก็เกิดขึ้นเมื่อฉันกำลังหลับอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นสามี แต่แล้วเหมือนได้ยินเสียงแหวกเข้ามาในโสตประสาทของหูแต่ก็ไม่ถึงกับดังมาก ฉันค่อย ๆ ลืมตาตื่นจับโฟกัสก่อนจะเห็นว่าคุุณพ่อกับคุณแม่พี่เจแปนยืนอยู่ข้างเตียง ฉันยกมือขึ้นไหว้ก่อนปลายนิ้วจะสะกิดลงที่ท่อนแขนของคนตัวสูงเรื่องของเรื่องคือ เมื่อคุณปู่คุณย่าทราบข่าวว่าลูกสะใภ้ให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยทั้งสองตั้งใจออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตั้งใจจะมาหลานสาวตัวน้อย แต่เมื่อเข้ามาด้านในห้องพักฟื้นก็ทำให้คุณย่าถึงปรี๊ดแตก จากอารมณ์ดีใจที่จะได้เห็นใบหน้าหลานสาวตัวเล็กแต่กับเห็นคนเป็นพ่อที่นอนหลับอยู่บนเตียงลูกสะใภ้ด้วยความว่าจะทำให้ลูกสะใภ้นอนหลับพักผ่อนไม่เต็มที่ เสียงกร่นด่าจึงลอยออกมาจากปากคุณย่าอย่างต่อเนื่องแต่ไอ้ลูกชายกับนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง คนเป็นย่าจึงใช้ฝ่ามืออรหันต์ฟาดลงต้นแขนจนเสียงดัง เปี๊ยะ!ฝ่ามือร้ายกาจทำให้คนเป็นลูกสะดุ้งตื่น พร้อมร้องออกมาจนเสียงดัง "โอ้ย" ก่อนจะยกมือลูบต้นแขนตัวเองปรอย ๆ ยังงงอยู่ว่าทำไม่แม่ตัวเองถึงส่งฝ่ามืออรหันต์ใส่ตัวเองก่อนจะบ่นออกมาไม่เต็มเสียง"เจ็บนะแม่""เจ็บสิดี มีอย่างที่ไหนแย่งเ

  • ลุ้นรักแม่ของลูก   น้องเจนนิกา

    ช่วงกลางดึกของคืนหนึ่งขณะสองสามีภรรยานอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงอยู่ ๆ ไอ้ก้อนกลม ๆ ที่อยู่ในท้องก็เริ่มแผลงฤทธิ์ ส่งสัญญาณให้คนเป็นแม่ว่าตัวเองอยากจะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว"พี่เจแปนอันปวดท้อง"มือบางสะกิดคนเป็นสามีที่นอนข้างกาย ขณะที่คนตัวสูงดีดลุกขึ้นนั่งก่อนจะประคองสติได้"อันจะคลอดแล้วเหรอ"ผมมองไปที่คนตัวเล็กที่ตอนนี้เริ่มมีเหงื่อไหลซึมออกมาเต็มดวงหน้าใสก่อนจะได้ยินเสียงหวานเอ่ยบอกด้วยความเจ็บปวด มือเรียวกุมหน้าท้องนูนป่องเอาไว้"อืม..น่าจะใช่...อันปวดท้อง"ผมเริ่มตั้งสติได้ก่อนจะวาดเท้าลงจากเตียงคว้าเอกสารสำคัญ ที่น้องอันจะวางไว้ที่หัวเตียงเพื่อมีเหตุฉุกเฉิน ก่อนจะยัดลงกระเป๋าขนาดย่อมที่คนตัวเล็กจัดของใช้บ้างส่วนที่เกี่ยวกับลูกสาวไว้ด้านใน มือหนาจับหูกระเป๋าคล้องลงบนไหล่ ก่อนจะสาวเท้ามาช้อนอุ้มร่างตุ้ยนุ้ยของคนเป็นภรรยาเดินออกจากห้องทั้งนั้นไม่ลืมที่จะบอกคนเป็นตากับยายถึงเหตุการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้นเสียงเข้มตะโกนเรียกพวกท่านอยู่บริเวณหน้าประตูห้องนอนของท่านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอนผมและคนตัวเล็กนึกถึงตอนนั้นที่พ่อตาแม่ยายสั่งให้ทั้งผมและคนตัวเล็กพาไอ้ต้าวตัวน้อยย้ายมาอยู่ด้วยกัน โดยท่

  • ลุ้นรักแม่ของลูก   พี่ซีนาย

    เวลารุ่งเช้าฉันที่ตื่นขึ้นมาก่อนจะนอนมองคนตัวสูงที่เล่นบทรักกับฉันเมื่อคืนณะตอนนี้กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ ขณะท่อนแขนแกร่งโอบกอดเอวฉันไว้ตลอดทั้งคืน มือเรียวสวยลูบไล้ใบหนาคมไล้ลงมาที่จมูกที่โด่งคมเป็นสันและมาหยุดที่ริมฝีปากหนา พลั้นก็รู้สึกชุมชื่นหัวใจอิ่มเอมกับความสุขให้กระชุ่มกระชวยจิตใจขณะดวงตาคู่คมกระพริบถี่ ๆ ก่อนจะเปิดม่านตาออกเพื่อรับแสงสว่าง"ตื่นแล้วเหรอ..." เสียงแหบพร่าของคนที่ตื่นนอนใหม่ ๆ ถามขณะที่ฉันดึงท่อนแขนออกก่อนคนตัวกับรวบเอวคอดฉันอยู่ในอ้อมกอดเหมือนเดิม"ลุกเถอะคะเช้าแล้ว"คนตัวสูงดีดตัวขึ้นเหมือนคิดอะไรบ้างอย่างได้"จริงสิ วันนี้พี่ต้องพาอันไปหาหมอ ไม่รู้ว่าลูกเราที่อยู่ในท้องอันจะเป็นอย่างไงบ้าง"พูดจบคนตัวสูงก็ช้อนอุ้มฉันเข้าไปอาบน้ำ ขณะที่ฉันเอ่ยปฎิเสธความหวังดีของคนตัวสูงแต่เหมือนคนตัวสูงกับไม่ยอมแค่บอกว่า"อาบน้ำพร้อมกันไวกว่าไม่เสียเวลา อีกอย่างพี่กลัวเราลื่นล้มในห้องน้ำด้วยพี่เป็นห่วงเรากับลูกในท้อง"ฉันจึงยอมจำใจให้คนตัวสูงอาบน้ำให้ ถึงแม้ฝ่ามือหนาจะเน้นย้ำถูลูบไล้จุดสงวนและหน้าอกคู่สวยของฉันเป็นพิเศษก็ตามทีกว่าจะเสร็จก็ร่วมชั่วโมงกว่าเราสองคนจะออกจากห้

  • ลุ้นรักแม่ของลูก   คืนส่งตัว

    พิธีการที่ผมรอมาเกือบจะทั้งวันก็ต้องเป็นพิธีการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นแหละ ทันทีที่แม่ผมมาบอกว่าถึงฤกษ์แล้ว ผมไม่รอช้ารีบสาวเท้าเข้าไปเรียกคนตัวเล็กที่ยืนคุยในกลุ่มเพื่อนของน้องด้วยความไว ถึงแม้จะโดนเพื่อนสนิทอย่างไอ้เหนือกับไอ้ออกัสฉุดรั้งผมไว้ก็ตาม ก่อนหน้านั้นก่อนที่ผมจะสาวเท้าเข้าไปหาเจ้าสาวแสนสวยของผม"มึงจะรีบไปไหน ไอ้น้องเขย"มือหนาของออกัสฉุดรั้งท่อนแขนของผมไว้ เมื่อมันเห็นว่าผมจะแยกตัวไป ตอนนี้มันเป็นพี่เขยผมเต็มตัวแล้ว พอผมได้เป็นน้องเขยมันแม่งเบ่งชิบหาย"แม่มาบอกว่าถึงฤกษ์ส่งตัวแล้วกูจะไปตามเจ้าสาว""เลทออกไปสัก 5 นาทีไม่เป็นไรหรอกมั่ง"ไอ้เหนือมันพูดบ้างผมรู้แหละว่ามันสองตัวแกล้งผม มันรู้ดีว่าโบราณเขาถือเรื่อง ฤกษ์ยามแค่ไหนใครเขาให้เลทกัน"ไอ้เหนือ ไอ้ออกัสมึงสองตัวแต่งงานอย่าแกล้งกู จริงไหมคุณลิตา"ผมที่อยากหลุดพ้นไอ้เพื่อนสองคนนี้จึงหันไปหาตัวช่วยที่ตอนนี้คุณลิตามีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ผมเพราะไอ้ออกัสผู้ไม่กลัวใครนอกจากเมียมันก็คือคุณลิตาที่ยืนอยู่ข้างมันแหละ"พี่ออกัสอย่าแกล้งคุณเจแปนสิคะ"ไม่นานคำขอผมก็เป็นผลเมื่อคุณลิตาเอ่ยปราบไอ้เพื่อนตัวดีที่ตอนนี้ขยับสถานะมาเป็นพี่เขยผมเ

  • ลุ้นรักแม่ของลูก   งานแต่ง

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมาพ่อแม่พี่เจแปนเดินทางมาพบพ่อแม่ฉันที่บ้าน เพื่อมาขอโทษแทนลูกชายและมาสู่ขอฉันตามประเพณี การเจรจาพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้เรียกสินสอดอะไรมากมายแต่ขอให้สมน้ำสมเนื้อในฐานะลูกสาวคนเดียวของบ้านและในฐานะลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ ทางคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่เจแปนก็ไม่ติดขัดอะไรพร้อมจัดสินสอดให้โดยที่ทางเราไม่เรียกร้องเห็นแต่สมควร"ผมดีใจนะครับที่ทางคุณยกโทษและให้อภัยลูกชายผม แต่ในเมื่อคุณไม่เรียกสินสอดทางเราจัดสินสอดให้เองแต่ถ้าคิดว่าน้อยไปเรียกเพิ่มเลยนะครับ"พ่อพี่เจแปนที่ทำหน้าเป็นเถ้าแก่มาสู่ขอเมียให้ลูกชายขณะแม่พี่เจแปนนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน"ใช่คะทางเราคุยกันแล้วว่าจะให้ เงิน 10 ล้าน ทอง 100 บาท เครื่องเพชร 1 ชุด และแหวนเพชร 10 กะรัต ทางคุณคิดว่าน้อยไปหรือเปล่า หรือจะเรียกเพิ่มเรียกได้ตามสบายเลยนะคะ"คุณแม่พี่เจแปนเอ่ยขึ้นฉันถึงกับตาเบิกกว้างไม่คิดว่าทั้งสองจะให้สินสอดฉันเยอะขนาดนี้"เราสองคนคุยกันแล้วว่าจะไม่เรียก แล้วแต่ทางคุณจะให้"แม่ฉันเอ่ยขึ้น"แม่คะไม่เยอะไปเหรอคะ"ฉันรีบแย้งขึ้นทันทีเพราะดูเหมือนสินสอดที่พ่อแม่พี่เจแปนให้มันเยอะไปจริง ๆ ขณะพี่เจแปนที่นั่งบนโ

  • ลุ้นรักแม่ของลูก   ขอขมา

    บ้านอันนิกาผมสั่งให้เลขาจัดหาพานดอกไม้ธูปเทียน เพื่อถือมาขอขมาท่านทั้งสองที่ได้ล่วงเกินคนตัวเล็กจนพลาดท้องขึ้นมา เมื่อก้าวท้าวเข้ามาในบ้าน คุณแม่ของคนตัวเล็กเอ่ยทักทายเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ขุ่นเคืองหัวใจ และยังยิ้มรับการมาของผมด้วย"สวัสดีครับคุณแม่""จ๊ะสวัสดีเข้ามาก่อน"ไม่น่าเชื่อว่าท่านยิ้มตอบรับไมตรีจากผม ขณะคุณพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟาชักสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อยสายตาคู่คมของคุณพ่อมองที่ผมแวบนึงก่อนจะหันไปสนใจน้องซีนาย"มาแล้วเหรอ คิดถึงจังเลยมาหาตาเร็ว"พ่อของคนตัวเล็กเรียกน้องซีนาย ไม่น่าเชือว่าท่านเป็นคนต่างชาติที่สามารถพูดภาษาไทยได้อย่างดีเลยทีเดียว ขณะที่น้องซีนายวิ่งเข้านั่งข้างคุณตา"สวัสดีครับคุณพ่อ"ผมทักทายท่านและอีกเช่นเคยพ่อน้องอันพยักหน้าเพียงเล็กใบหน้าช่างดูเรียบตึง จนทำให้ผมรู้สึกเกร็ง ๆ ขึ้นมา ขณะสายตาท่านมองมาที่ผมชั่วขณะหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจน้องซีนายต่อ คนตัวเล็กที่น่าจะเข้าใจสถานการณ์ดีเอื้อมมือบางมาบีบมือผมเบา ๆ เหมือนให้กำลังใจ"ได้ข่าวว่าไปเที่ยวทะเลสนุกไหมน้องซีนาย"เสียงทุ้มของคุณตาเอ่ยถามไอ้ต้าวตัวน้อยยิ้มก่อนที่เอ่ยเสียงใสเล่าเป็นฉาก ๆ ให้คุณตาฟัง"สนุกมาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status