Share

บทที่ 13

ซูไห่เฉาที่ถูกวางสายใส่รู้สึกหงุดหงิดมาก เขาขว้างโทรศัพท์ลงบนพื้นจนมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ

“ไอ้คนต่ำต้อย กล้าดียังไงมาวางสายใส่ฉัน!” ซูไห่เฉาพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

ซูกั๋วหลินรู้สึกเป็นกังวล ถ้าซูหยิงเซี่ยไม่ออกมารับหน้าแทน พวกเขาจบเห่แน่

“ไห่เฉาเกิดอะไรขึ้น ซูหยิงเซี่ยไม่ยอมช่วยเหรอ?” ซูกั๋วหลินถาม

ซูไห่เฉายิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า “หานซานเฉียนรับสายแทน มันบอกว่าซูหยิงเซี่ยป่วย”

“ป่วยอย่างนั้นเหรอ?” ซูกั๋วหลินถ่มน้ำลายลงพื้นและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “ฉันว่าเธอคงแกล้งป่วยน่ะสิและจงใจไม่ช่วยมากกว่า”

ถึงซูกั๋วหลินจะรู้สึกโกรธจัด แต่เขาก็ยังควบคุมอารมณ์ได้ ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องขอให้ซูหยิงเซี่ยออกมารับหน้าแทนให้ได้ การร่วมมือกับเธอคือเรื่องเล็ก แต่การถูกไล่ออกจากตระกูลซูนั้นคือเรื่องใหญ่

“ไห่เฉาไปกันเถอะ พ่อจะพาแกไปเอง” ซูกั๋วหลินกล่าว

ตั้งแต่ที่ซูไห่เฉาถูกหานซานเฉียนวางสายใส่ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาโกรธมากและแน่นอนว่าต้องไปจัดการกับหานซานเฉียน

เมื่อพวกเขามาถึงชุมชนที่ครอบครัวของซูหยิงเซี่ยอาศัยอยู่ ซูกั๋วหลินก็แสดงท่าทางรังเกียจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ครอบครัวซูต่ำต้อยที่สุดในตระกูลซูจริง ๆ อาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไงกัน”

“พ่อ พวกมันมีบ้านแบบสุนัขอยู่ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว เงินเดือนแค่ไม่กี่หมื่นหยวนจะให้พวกมันอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เขาหยุนติงหรือไงกัน?” ซูไห่เฉาพูดพลางหัวเราะเยาะเย้ยไปด้วย

การจะอาศัยอยู่ในโครงการคฤหาสน์เขาหยุนติงจะต้องเป็นคนที่มีอำนาจ และความปรารถนาสูงสุดของหญิงชราก็คือการที่ครอบครัวของตระกูลซูจะได้ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์บนภูเขาหยุนติง เพราะการอาศัยอยู่ที่นั่นเท่านั้นที่จะสามารถถือว่าได้ว่าเป็นพื้นฐานแรกของตระกูล

เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น หานซานเฉียนก็บอกให้ซูหยิงเซี่ยกลับเข้าไปในห้อง ในเมื่อจะแกล้งป่วย ก็ต้องแสดงให้แนบเนียน

เมื่อประตูถูกเปิดออก ซูไห่เฉามองไปที่หานซานเฉียนอย่างโกรธแค้น

“หานซานเฉียน เมื่อกี้แกกล้าวางสายใส่ฉันเหรอ?” ซูไห่เฉาพูด

“ใช่”

ซูไห่เฉายกกำปั้นขึ้นและเหวี่ยงไปที่ใบหน้าของหานซานเฉียนอย่างสุดกำลัง

“คนต่ำต้อยอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาวางสายใส่ฉัน”

ปั๊ก!

หานซานเฉียนเตะเข้าที่ท้องของซูไห่เฉาอย่างแรง

กำปั้นของซูไห่เฉายังไม่ทันโดนใบหน้าของหานซานเฉียน ตัวของเขาก็ลอยไปกระแทกกำแพงอย่างแรง

ซูไห่เฉารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ท้องอย่างรุนแรง ทำให้เขาตัวงอหมอบลงกับพื้น

“หานซานเฉียน แกกล้าทำร้ายลูกชายฉันเหรอ” ซูกั๋วหลินรู้สึกโกรธมากเมื่อเขาเห็นฉากนี้

หานซานเฉียนจ้องไปที่ซูกั๋วหลินด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า “ถ้าคุณพูดไร้สาระอะไรอีก คุณก็จะโดนด้วยเหมือนกัน”

ซูกั๋วหลินรู้สึกตกตะลึงกับสายตาของหานซานเฉียน จู่ ๆ สายตาของเจ้าคนไร้ค่านี่ก็ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมา

เขาเป็นคนอ่อนแอที่ถูกรังแกมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้เขาถึงได้แข็งข้อขึ้นมาแบบนี้

“หานซานเฉียน แกกล้าทำร้ายฉันเหรอ” ซูไห่เฉากัดฟันพูดด้วยความเจ็บปวดและเคียดแค้น

“ในเมื่อมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ ก็แสดงท่าทีให้เหมือนมาขอร้องคนหน่อย คุณย่าไม่ได้บอกจุดจบของพวกคุณให้รู้เหรอ หากพลาดโอกาสการเป็นหุ้นส่วนในครั้งนี้?” หานซานเฉียนกล่าว

ประโยคนี้ทำให้ความรู้สึกโกรธจัดของซูกั๋วหลินและซูไห่เฉาลดลงแทบทันที หากพวกเขาไม่สามารถแก้ไขปัญหาครั้งนี้ได้ พวกเขาจะต้องถูกไล่ออกจากตระกูลซู

“หานซานเฉียน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับแกด้วย? ให้ซูหยิงเซี่ยออกมาเดี๋ยวนี้” ซูกั๋วหลินกล่าว

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมอย่างงั้นเหรอ ซูหยิงเซี่ยเป็นภรรยาของผม และตอนนี้เธอก็ไม่สบาย ดังนั้นผมมีหน้าที่ดูแลกิจการครอบครัวแทนเธอชั่วคราว” หานซานเฉียนพูดตอบ

“ภรรยาเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของหานซานเฉียน ซูกั๋วหลินและซูไห่เฉาก็หัวเราะเยาะขึ้นพร้อมกัน

“หานซานเฉียน แกยังมีศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอยู่ไหม แกมันไร้ประโยชน์ เอาแต่เกาะผู้หญิงกิน แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้งั้นเหรอ?” ซูกั๋วหลินพูด

“ซูหยิงเซี่ยเห็นด้วยกับสิ่งที่แกพูดรึเปล่า? แกคงไม่รู้ว่าซูหยิงเซี่ยกำลังสวมเขาให้แกสินะ แกคิดว่าเธอไปขอเจรจาการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทลั่วเฉวได้ยังไงล่ะ?” ซูไห่เฉามองหานซานเฉียนอย่างเย้ยหยัน

หานซานเฉียนขมวดคิ้ว ซูหยิงเซี่ยขอเจรจาการเป็นหุ้นส่วนได้อย่างไร เขารู้อย่างแน่นอน และเขารู้สึกว่าซูไห่เฉากำลังพูดจาดูถูกซูหยิงเซี่ย

หานซานเฉียนเดินเข้าไปหาซูไห่เฉาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงเจตนาที่อยากจะฆ่าเขาให้ตาย

ซูไห่เฉาเอียงคอหลบด้วยความหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก เขาพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “แก...แกจะทำอะไร”

“ถ้าแกกล้าพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเธออีกล่ะก็ ฉันจะฆ่าแกแน่”

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status