บทที่ 11
หลังจากที่ลุงกลับออกไปสายตาของเขากวาดมองจ้องเธอและปล่อยมือออกจากผมของเธอ การกระทำของเขายิ่งรุนแรงขึ้นและน่ากลัว แต่อันนาไม่มีอะไรที่จะเสียไปมากกว่านี้เเล้ว เธอทั้งเจ็บทั้งอยากตายอยากหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้สักที
"หมอสั่งไว้ว่าให้กินข้าว" มือหนาคว้าหยิบถ้วยข้าวต้มจับช้อนและตักข้าวต้มนั้นไปจ่อที่ปากของอันนา แต่เธอไม่อ้าปากมีเพียงแต่น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นจับจ้องมองชายใจร้ายตรงหน้าทั้งโกรธและเกลียดจนอยากจะจับถ้วยข้าวต้มในมือของเขาสาดใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ
"กูบอกให้อ้าปาก ปากมันอ้าออกยากมากหรือไงอยากตายใช่ไหม" เขาวางถ้วยข้าวต้มลงและจับปลายคางของเธอบีบเพื่อที่ให้อ้าปากและทันใดนั้นช้อนข้าวต้มยัดเข้าไปในปากน้อยเรือนร่างบางสะดุ้งเพราะข้าวต้มยังร้อนอยู่ เธอคายออกหลังจากที่เขาวางช้อนเพียงไม่นาน
คนใจร้ายคิดว่าเธอนั้นพ่นข้าวทิ้งทำท่าทียกมือจะตบแต่หยุดชะงักเพราะไม่กล้าที่จะทำเธอใบหน้าน้อยเอียงหน้าหนีในใจคิดว่าตนเองนั้นจะโดนตบไปแล้วแต่พอลืมตาขึ้นหันกลับไปมองฝ่ามือยังยกค้างไว้อยู่บนอากาศ
"กูให้เวลากินข้าว 10 นาที ถ้ายังกินไม่หมดถ้วย เตรียมแก้ผ้าแล้วอ้าขาได้เลย" เขาวางถ้วยข้าวลงเสียงดังตรงช่วงหัวเตียงและหันหลังเดินออกไปด้วยอารมณ์โมโหแถมยังทิ้งท้ายด้วยคำขู่ ถ้ากลับเข้ามาในครั้งนี้เธอยังไม่ยอมกินข้าวเขาคงจัดการเธออย่างที่พูด
เมื่อเดินออกมาด้านนอกเหมราชคว้าหยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาดูดเพื่อระบายความเครียด
"ทำไมกูถึงไม่มีความสุข" ในขณะที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวเหมราชกุมมือเข้าหากันและก้มหน้าลงทำไมเขาถึงไม่มีความสุขกับการแก้แค้นให้น้องสาว
ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามานั่งข้างๆ ของเจ้านายตัวเอง
"ที่ไม่มีความสุขในการแก้แค้นคือนายกำลังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่" เหมราชหันรีบหันหน้าไปมองหน้าลูกน้องหลังจากที่พูดจบประโยคอย่างไว
"มึงจำเอาไว้เลยนะ ว่ากูไม่มีวันรักผู้หญิงฆาตกรคนนั้น ไม่มีวันที่กูจะรักผู้หญิงที่ฆ่าน้องสาวของตัวเองไม่มีวันจำเอาไว้ ว่าไม่มีวันกูเกลียดเธอ"
เหมราชลุกขึ้นด้วยความหัวเสียถึงกำหนดเวลาที่ตนเองจะเข้าไปดูว่าอันนากินข้าวหรือเปล่าเขาจึงผลักประตูเข้ามา
เมื่อเปิดประตูเข้ามายังเห็นถ้วยข้าวอยู่ที่เดิมและอันนานั้นนอนลงเธอไม่อยากกินอะไรพร้อมทั้งกำลังดื้อรั้นใส่คนใจร้าย เรือนร่างหนาพุ่งตรงเข้ามาหาถ้วยข้าวหยิบขึ้นและทุ่มลงที่พื้นจนถ้วยแตกกระจายข้าวต้มเปรอะเปื้อนไปทั่ว
"คิดว่าตัวเองเก่งเหรอ คิดว่าจะเรียกร้องความสนใจจากฉันได้หรือยังไง ได้ในเมื่อไม่กินคนอย่างฉันไม่เคยพูดขู่" ร่างบางถูกจับแขนกระชากลงมาจากเตียงเธอถูกเหวี่ยงไปยังโซฟาด้านข้าง
"ฉันจะตายอยู่แล้วคุณยังจะข่มขืนฉันก็เชิญ! ฉันจะได้กลั้นใจตายไปเลย" สายตาคู่น้อยแดงก่ำจับจ้องมองด้วยความเกลียดในเมื่อเขาต้องการที่จะทำร้ายตัวเธอ เธอก็ต้องการที่จะตายเพื่อชดใช้ให้เขาให้มันจบๆ กันไป
เขาไม่สนใจในคำพูดที่ขู่ว่าตัวเองจะได้ตายๆ ไป เรือนร่างหนาพุ่งตัวเข้ามาจับแขนของเธอกดลงบนโซฟาและใบหน้าซุกไซ้เข้าซอกคอทั้งซ้ายและขวา
เขาใช้ความรุนแรงกับเธอจนกระทั่งประตูเปิดเข้าไปโดยที่มีการไม่เคาะก่อน
เมื่อเหมราชเงยหน้าขึ้นมองกลับเป็นเพื่อนสนิทตนเองที่คลาสผลักประตูเข้ามาต่อให้หัวเสียก็ไม่กล้าที่จะโวยวายใส่ เขาดีดตนเองออกจากเธอแล้วลุกขึ้นยืน
มือน้อยทั้งสองข้างจัดแจงเสื้อผ้าชุดโรงพยาบาลปิดหน้าอกเอาไว้
"เธอจะตายขนาดนี้แล้วมึงยังทำเธอลงอีกเหรอ ถ้าตั้งใจจะฆ่าก็ฆ่าไปเลยอย่าไปทรมานให้มันเป็นเวรกรรม" คลาสถึงแม้ว่าจะโกรธเกลียดอันนาและครอบครัวของเธอแต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนทรมานใคร
"แล้วในสิ่งที่มันทำกับน้องกูล่ะ"
"ก็บอกแล้วไงว่า ถ้าโกรธเกลียดมากก็ฆ่าเธอทิ้งไปเลยทุกอย่างมันจะได้จบจะเอามาทรมานทำไมไม่ใช่ว่าไม่ทำ ทำมาตั้งหลายครั้งแล้ว"
เหมราชเดินตรงมาหาเพื่อนสนิทตนเองและจับแขนเดินออกมาจากห้องอยากคุยอะไรบางอย่างกับเพื่อนโดยที่ไม่ให้อันนาได้ยิน
หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปเรือนร่างบางพยุงตนเองนั่งอยู่บนโซฟามือน้อยทั้งสองลูบเข้าใบหน้าด้วยความเจ็บปวดหลังมือของเธอเต็มไปด้วยเลือดเพราะสายน้ำเกลือถูกกระชากออก
"เมื่อไร…ฉันจะหลุดจากเวรกรรมนี้สักที" ใครๆ ก็อยากหลุดพ้นจากความเจ็บปวดความทรมานด้วยความตายกันทั้งนั้นเพราะเธอหมดหนทางที่จะรอดพ้นจากคนใจร้ายด้วยความตายแล้ว
เพียงไม่นานพยาบาลและหมอเข้ามาทำแผลให้เหมือนเดิม เธอต้องแทงสายน้ำเกลือถึง 3-4 ครั้ง เพราะสายน้ำเกลือนั้นหลุดออกมาเป็นครั้งที่ 3
เรือนร่างบางนอนลงไปกับเตียงหลังจากพยาบาลทำความสะอาดแล้ว
ในขณะที่อันนานอนอยู่บนเตียง เธอหันหน้าไปทางอื่นและได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาคงจะเป็นคนใจร้ายที่เข้ามากระทำเธอเรือนร่างบางนอนร้องไห้หลั่งไหลน้ำตาจนเปียกหมอน
"อย่างที่เขาพูด คุณควรฆ่าฉันทุกอย่างจะจบความแค้นและความโกรธเกลียดที่คุณมี คุณฆ่าฉันเลยเพราะคุณทรมานฉันมานานแล้ว ฉันไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว" อันนาเธอเอ่ยพูดเพราะคิดว่าเป็นเหมราชที่เดินเข้ามาแต่คนที่เข้ามาคือเพื่อนของเขาต่างหาก
สายตาจับจ้องมองเรือนร่างบางนอนอยู่บนเตียง เขาเริ่มสงสารและรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นหน้าอันนาเหมือนกับเขาเห็นหน้าใครบางคน
"ฉันไม่ใช่เหมราช" ร่างบางหันกลับไปมองเสียงทุ้มนั้นพูดขึ้นจากทางด้านหลังในแววตาของเขาที่จับจ้องมองเธอเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างเหมือนกับใครบางคนที่อันนาเคยรู้จัก
คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันยิ่งเขาเดินขยับเข้าไปใกล้ๆ เธอยิ่งรู้สึกแปลกๆ จนหัวใจเธอสั่นไม่ใช่เพราะเขาหล่อหรือน่าหลงใหลแต่เธอรู้สึกเหมือนใครบางคนที่หายไปนั้นกลับมาเจอกันอีกครั้ง
"ฉันขอถามเธอหน่อยในตอนที่เธอทำเพลงพิณ เธอตั้งใจหรือเปล่า" ถ้าเธอปฏิเสธว่าไม่ตั้งใจยังไงก็ฟังไม่ขึ้น อันนาเธอได้เพียงแต่ก้มหน้าลงและไม่ตอบคำถามเขา
"ทำไมฉันถามเธอถึงไม่ตอบ ฉันดูออกนะว่าแววตาของเธอไม่ใช่คนใจร้าย" เขาเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ มือหนาจับปลายคางของเธอเสยขึ้นมองในดวงตาคู่นั้นผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะใช่คนใจร้าย
"ที่เธอไม่ตอบ เธอไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหม" อันนารีบส่ายหน้าทันที เธอไม่อยากปฏิเสธเขา
"ฉันเป็นคนทำ ฉันแค่พลาดแล้วไม่รู้ว่าเพลงพิณมีโรคประจำตัวและเกิดอาการช็อก"
"เหรอ แล้วเธอพร้อมตายหรือยังเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ทำ" ในหัวใจสั่นสะท้านหวาดกลัวในคำพูดของเขาดวงตาคู่น้อยหลั่งไหลน้ำตาออกมาเธอพยักหน้าให้กับคนที่เอ่ยถาม
"ฉันพร้อมที่จะชดใช้ทุกอย่าง"
และในขณะนั้นเขาควักปืนออกมาจากทางด้านหลังวางไว้บนขาของอันนา ร่างบางตกใจจนเนื้อตัวสะท้านเมื่อเห็นปืนวางบนขาตัวเอง
"ปืนนี้มันจะทำให้เธอเจ็บและตายแต่เพียงแค่ชั่วแว๊บเดียว ถ้าเธอไม่อยากถูกเพื่อนของฉันทรมานก็ควรที่จะเอาปืนเจาะหัวและลั่นไก"
เขาก้าวขาถอยหลังหนียักไหล่ให้กับอันนา เพราะคิดว่าเธอนั้นไม่กล้าพอที่จะจับปืน ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นมือน้อยสั่นเครือค่อยๆ จับปืนอันนั้น
"แค่ยกใส่หัวและลั่นไกทุกอย่างก็จบ" คลาสทำท่าทียกนิ้วตนเองใส่ที่หัว ชี้ทางให้กับอันนา
ร่างบางค่อยๆ ยกปืนขึ้นมาอย่างที่เขาต้องการและยังทันใดประตูก็ถูกเปิดเข้ามาพรวดพราด เหมราชตกใจในการกระทำของอันนาเขาจึงพุ่งตัวเข้ามาจับมือของเธอ
"ทำบ้าอะไรอะ" ปืนอันนั้นถูกเขวี้ยงลงด้านล่างสายตาของเหมราชมองอันนาด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะกวาดตามองคลาสเพื่อนสนิทของตนเอง
"กูก็แค่จะช่วยให้ฆาตกรที่มึงเกลียดได้ตายไวๆ" เขาก้มหยิบปืนอันนั้นขึ้นมาแต่เหมราชยืนบังอันนา
"กูว่าเรื่องนี้มึงไม่เกี่ยวออกไปก่อน กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ทรมานจนกว่ากูจะพอใจ แล้วค่อยฆ่าทิ้งแต่มึงทำไมไม่ฟังกูออกไปก่อน กูไม่อยากเสียงดังใส่" เขาเผยรอยยิ้มที่เห็นเพื่อนตนเองนั้นปกป้องคนที่บอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา
"ระวังนะ ความเจ็บปวดพวกนั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเอง กูอยู่เคียงข้างมึงเสมอเหมราช" เสียงดังแกร๊ก ปืนที่คลาสตั้งใจยื่นให้อันนาไม่มีลูกเขาจึงยิงโชว์ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
"ฮื่อๆ"
บทที่ 43เด็กชายตัวเล็กนั้นยังไม่หายจากอาการป่วยเพราะว่าบาดแผลยังไม่หายดีแต่หมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เหมราชพาอัคคีและอันนามาที่ห้างเพราะอันนาจะมาซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับลูกและจะพาลูกมาทานไอศกรีมด้วย ระหว่างที่อยู่ในร้านไอศกรีมแสดงเหมือนครอบครัวที่อบอุ่นต่อหน้าลูกทั้งคุยกันและหัวเราะหยอกกันอย่างกับว่าสามีภรรยาที่รักกันมากแต่จริงๆ แล้วอันนาเธอแกล้งแสดงต่อหน้าลูกเพียงเท่านั้น"อัคคีดีใจดีใจมากๆ ที่คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อัคคีอยู่กับคุณแม่ 2 คน ไม่สนุกเลย" "อัคคีครับคุณพ่อซื้อบ้านให้อัคคีหลังอย่างใหญ่เลยนะ วันนี้เราไปดูกันไหมครับ" มือหนาลูบหัวของลูกชายเบาๆ บ้านหลังนั้นเหมราชตั้งใจซื้อให้อันนากับอัคคีตั้งแต่วันคลอดแต่เธอกลับพาลูกหนีไปซะก่อนจึงไม่ได้เข้าไปอยู่ส่วนเหมราชให้คนดูแลแต่ไม่เคยเข้าไปอยู่เลยสักครั้ง"คุณพ่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้เลยเหรอครับ""ใช่แล้วครับ จริงๆ คุณพ่อตั้งใจซื้อให้อัคคีตั้งแต่อัคคีคลอดเลยนะ""คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงาน" "คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงานเหรอครับ" เหมราชยิ้มด้วยความดีใจที่แท้แล้วอันนาไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพ่อเลยสักนิด"ขอบคุณนะที่ไม่ทำ
บทที่ 42 อันนานั่งกุมมือของลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงเฝ้ารอให้ลูกชายฟื้นตื่นขึ้นมานั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกคนกลับบ้านเหลือเพียงแต่เหมราชที่ยังไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ที่โซฟากังวลใจและก็รอลูกชายตื่นด้วยเช่นเดียวกัน"ตื่นมาสิครับเดี๋ยวคุณแม่จะพาไปกินไอศกรีมนะ คุณแม่ไม่อยากให้อัคคีนอนหลับนานแบบนี้เลย" น้ำเสียงสั่นเอ่ยบอกกับลูกชายที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงในแววตาคู่น้อยกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ยิ่งเห็นลูกเจ็บเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่า ถ้าเป็นไปได้คนเป็นแม่ขอยอมเจ็บแทนเหมราชลุกขึ้น เขาเดินไปอยู่อีกฝั่งของเตียงตรงข้ามกับอันนามือหนากุมจับมือน้อยของลูกชาย"พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้มีโอกาสดูแลลูกเลยตื่นขึ้นมานะครับ" ใบหน้าของลูกชายช่างคล้ายกับเขาในวัยเด็กสายตาของผู้เป็นพ่อจับจ้องมองหัวใจดวงน้อยที่พลัดพรากหายไป 2 ปี"หิวน้ำ" ทั้งคู่สายตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้น อันนาเธอยิ้มทั้งน้ำตาลูกชายของเธอตื่นขึ้นมาแล้ว"น้ำเหรอเดี๋ยวคุณแม่เอาน้ำให้นะครับ' ดวงตาคู่น้อยมองหน้าเหมราชในระยะใกล้ชิดซึ่งเขาตกใจและแปลกใจทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มาอยู่ตรงนี้"คุณลุงคุณลุงมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงครับ" เหมราชยกมือลูบ
บทที่ 41 เหมราชไม่ได้ใช้ความรุนแรงอย่างเช่นเคยเขาจับเธอเข้ามาในบ้านก็จริงแต่เป็นการกระทำที่อ่อนโยน เรือนร่างน้อยถูกโอบกอดด้วยแขนหนาทั้งสองข้างด้วยความคิดถึงและความโหยหาของเหมราชมากเกินกว่าจะยับยั้งใจ"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" มือน้อยทั้งสองทั้งผลักหน้าอกและทุบตีแต่เหมราชไม่ปล่อย เขากระชับกอดแน่นมากกว่าเดิมยิ่งเธอดิ้นแขนหนาทั้งสองยิ่งรัดแน่น"ฉันคิดถึงเธอนะ…คิดถึงเธอกับลูกมากตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาฉันตามหาเธอทุกวันอย่าไปไหนนะ" อันนาผลักหน้าอกของเขาออกจนสำเร็จใบหน้าน้อยจ้องมองเพียงไม่นาน ฝ่ามือฟาดตบเข้าที่ใบหน้าของเหมราชสายตาของเขามองกลับมาหาอันนาด้วยแววตาจำนนและยอมทุกอย่าง"ฉันไม่เคยมีความสงสารคุณเลยและฉันก็ไม่ได้สมเพชคุณด้วยแต่ที่ฉันไป ฉันสะใจและรู้สึกดีที่เห็นคุณเป็นแบบนี้เป็นยังไงล่ะลิ้มรสกับความเจ็บปวด" "รู้สึกหมดทุกอย่างแล้วและเจ็บปวดมาเกือบ 2 ปี ฉันไม่รู้หรอกนะว่าผู้ชายข้างนอกเป็นใครหรือว่าเป็นคนใหม่ของเธอจริงๆ ฉันอยากขอโอกาสได้ดูแลลูกได้ใกล้ชิดกับลูกบ้าง" "ผัวใหม่คุณคิดถูกแล้วผู้ชายข้างนอกคือผัวใหม่ของฉันและเขาก็ใจกว้างพอที่ให้ฉันมาคุยกับคนแบบคุณ ที่ฉันมาในวันนี้ฉันต้องการของข
บทที่ 40 เหมราชดีใจมากจนเขาทำอะไรไม่ถูกได้เห็นหน้าลูกชายตัวเล็ก เขาช่างเหมือนกับตัวเองอย่างกับฝาแฝดใบหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มกลับบ้านมาด้วยความดีใจ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเหมราชไม่เคยหยุดตามหาอันนากับลูกเลย แต่เขานั้นจนปัญญาแล้วจริงๆ ให้ผู้มีอำนาจช่วยตามก็ไร้วี่เเววที่จะตามหาเธอเจอ จนกระทั่งวันนี้เธอปรากฏตัวอยู่ที่บริษัทของเธอเองและเธอตั้งใจที่จะมาขอบริษัทคืน "นายครับแล้วจะทำยังไงต่อไป" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาใกล้เหมราชเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิท เขายกยิ้มด้วยมุมปากหัวใจที่เหี่ยวเฉามา 2 ปี เต็มเริ่มพองโตขึ้นมีความหวังอีกครั้งจนกลายเป็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าร้าย"มึงคิดเหรอวะ ว่ากูจะยอมปล่อยเมียกับลูกไปได้อีก กูต้องเอาอันนากลับมาเป็นเมียกูเหมือนเดิมให้ได้" "แล้วนายจะทำยังไงเหรอครับ ดูเหมือนว่าการกลับมาของคุณอันนาครั้งนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ และอยู่ๆ ทำไมถึงไปหานายที่บริษัท ถ้าตั้งใจไปขอบริษัทคืนจริงๆ เธอต้องมีข้อต่อรองแต่นี่ดูเหมือนว่าจะไปของ่ายๆ มันต้องมีอะไรสักอย่าง" เหมราชลุกขึ้นจากโซฟามือถือแก้วไวน์กระดกดื่มจนหมดแก้ว ลูกน้องคนสนิทพูดก็ถูกทำไมอยู่ๆ อันนาถึงไปที่บริษัทและตั้งใจเอาลู
บทที่ 392 ปีผ่านไป กาลเวลาหมุนเวียนตามเข็มนาฬิกา วันเวลาที่ผ่านไปนั้นล้วนมีทั้งความสุขและความทุกข์ ทว่าชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกุมมืออยู่บนโซฟาตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน การรอคอยและตามหานั้นช่างทรมานสำหรับเขาเหลือเกิน มีทุกอย่างยกเว้นความสุขเหมราชใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยความหวังที่จะได้เจอลูกชายและอันนาอีกครั้งเสียงถอนหายใจดังขึ้นชายหนุ่มร่างโตลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเปิดประตูห้องเดินออกมาพรวดพราดไม่ทันจะได้ตั้งตัว ทว่ามือของเขานั้นจึงคว้าเด็กตัวเล็กที่วิ่งมาด้วยความซุกซนชนกับเขาจนจะล้ม"มือหนาทั้งสองข้างประคองเด็กผู้ชายไว้ เด็กวัยสองขวบที่กำลังวิ่งซุกซนสายตาของเขาจ้องมองหน้าเด็กชายคนนั้นเพียงแค่ไม่นานหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นรู้สึกหวั่นไหว"ใครเอาลูกมาทำงาน" เหมราชกวาดสายตามองเลขาหน้าห้องตนเองสายตาของเลขามองไปยังด้านข้าง "คุณแม่" มือน้อยของเด็กชายตัวเล็กชี้ไปทางด้านหลัง เขาจึงเงยมอง เหมราชแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเขาลุกขึ้นยืนจับจ้องมองหญิงสาวเดินเข้ามาอย่างสง่า ลมหายใจแผ่วเบาผายออกเบาๆ อันนาเดินเข้ามาใกล้ๆ และเด็กผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปหา"อันนา" ยิ่งกว่าฟ้าผ่าลงกลาง
บทที่ 38เหมราชเดินออกมาจากบ้านของคลาสด้วยความว่างเปล่าเขาไม่ได้คำตอบจากแม่ของคลาส แต่รู้อยู่ในใจว่ายังไงต้องเป็นเขาที่ช่วยอันนาหนีไป"มึงส่งคนไปดูทีว่าคลาสไปจังหวัดไหน" ในขณะที่นั่งรถกลับเหมราชสั่งกับลูกน้องคนสนิทให้จัดการส่งคนไปดูว่าคลาสไปอยู่ที่ไหน เขาพยายามทำทุกทางและตามหาทุกที่จนกว่าจะเจอเมียกับลูก "ได้ครับนาย" ใช้เวลาเพียงไม่นานไมถึง 10 นาที ด้วยซ้ำภาพของคลาสและที่อยู่นั้นปรากฏขึ้นบนหน้าจอช่องแชทในไลน์ของมือถือเหมราช คลาสอยู่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งอยู่บ้านพักตากอากาศแต่ไม่ได้อยู่กับอันนาคนที่อยู่ด้วยนั้นคือนิตาเหมราชคิ้วขมวดเข้าหากันทำไมเพื่อนสนิทของตัวเองถึงอยู่กับผู้หญิงฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของเขา"หมายความว่ายังไงวะ…ทำไมคลาสถึงอยู่กับนิตา?"เหมราชเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิทที่ไร้คำตอบเช่นเคยเขาได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา"แล้วอันนากับลูกอยู่ไหน" เหมราชไม่ยอมหยุดที่จะตามหาภรรยาและลูกอย่างแน่นอน เขาส่งข้อความไปบอกกับท่านรองให้ช่วยตามหาอันนากับลูกให้เขา ไม่ว่าจะเสียเงินสักเท่าไรเขายอมเสียเพื่อที่จะได้เจอเมียกับลูก มือหนาทั้งสองข้างกุมเข้าหากัน เขานั่งอยู่โซฟากลางบ้านใบหน้าที่เหม่อลอยห