หน้าหลัก / โรแมนติก / วาตะทวงคืนรัก / ตอนที่ 7 ไม่เคยมีแฟนเก่า

แชร์

ตอนที่ 7 ไม่เคยมีแฟนเก่า

ผู้เขียน: ริตต้า619
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-15 15:39:37

ตอนที่ 7 ไม่เคยมีแฟนเก่า

ทางด้านของวาตะ

ในขณะที่เขากำลังให้ความสนใจเอมี่อยู่นั้นสายตาของเขายังคงลอบมองไปยังหนูยิ้ม ชายหนุ่มยอมรับเลยว่าเขาแทบจะจำหนูยิ้มไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอในวันนั้นจนถึงวันนี้กลับกลายเป็นคนที่สวยจนสามารถสะกดสายตาของทุกคนให้มองไปยังเธอได้ ซึ่งไม่เว้นแม้แต่วาตะ ผมสีน้ำตาลประกายทองนี่คงเป็นสีผมธรรมชาติของเธอ ที่หนูยิ้มเคยบอกไว้ว่าต้องย้อมผมสีดำไปโรงเรียน นัยย์ตาสีฟ้าอ่อนสดใสที่โดดเด่น ผิวขาวออร่าขึ้นอย่างชัดเจน

วาตะเห็นว่าหนูยิ้มกับเพื่อนของเธอเดินเลี่ยงออกไป เขาก็ดันให้เอมี่ถอยห่างจากตัวเอง แม้ว่าเขากับเอมี่จะรู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับเธอเลยสักครั้งเพราะเขาไม่ชอบมีอะไรกับคนที่รู้จัก และหากเขาต้องการสาวๆมักจะเป็นความสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวไม่เคยมีการซ้ำ

“ไปเรียนได้แล้วเอมี่” วาตะบอกให้เอมี่ออกไปกลายๆ

“แต่..พี่วาตะไปทานข้าวกับเอมี่ไหมคะ นะคะ”

ไม่มีคำตอบจากวาตะ มีเพียงสายตาที่นิ่งเฉยมองไปที่เอมี่ ซึ่งเธอรับรู้ได้ทันทีแต่ยังไม่อยากเดินจากไป

ซึ่งตอนนั้นเอมี่อยากจะรั้งอีกฝ่ายเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอถูกล้อมเอาไว้โดยเหล่ารุ่นพี่คนอื่น ๆ ที่อยากจะเข้ามาถ่ายรูปด้วย

เอมี่เป็นอินฟูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามมากกว่าล้านผู้ติดตาม หากจะว่าเรื่องการเรียน เอมีเป็นรุ่นน้องของวาตะเพียง 1 ปี แต่เพราะว่าซิ่วจากมหาวิทยาลัยที่อื่นมา จึงเข้ามาเรียนปี 1 ที่นี่อีกครั้ง

ทั้ง 4 หนุ่มเดินออกมาจากกลุ่มนักศึกษาและพูดคุยกันไปด้วย

“อะไรของมึงวะวาตะ ควงอีกคนแต่มองตามอีกคน” อคิณณ์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนสนิท

“มึงชอบน้องละสิ สเปคเลยนะน้องหนูยิ้ม ลูกครึ่ง หุ่นเพรียวบาง ผิวขาวออร่า นัยย์ตาสีฟ้าอีกต่างหาก ” โจฮันเอ่ยแซวไม่ต่างจากอคิณณ์ ซึ่งคำพูดของทั้งสองเรียกสายตาของคนที่มองตรงไปยังร่างระหงให้กลับมามองในทันที

“ผู้หญิงแบบนั้นกูชอบไม่ลงหรอก” วาตะพูดจบก็เดินหันหลังกับไปทางเดิม

“หมายความว่าไงว่ะ มึงพูดเหมือนรู้จักกันน้องมาก่อน” ธามรีบตรงมาหาวาตะพร้อมถามออกมา

“แฟนเก่ามึงเหรอวะ ใช่คนที่มึงเคยเล่าให้พวกกูฟังไหม” ไร้ซึ่งคำตอบจากวาตะ แต่โจฮันพอจะเดาออกว่าใช่

“กูไม่เคยมีแฟนเก่า พวกมึงเข้าใจซะใหม่” วาตะตอกย้ำว่าเขาไม่เคยให้สถานะใครเป็นแฟนมาก่อน

“เชี่ย ใช่แน่ งานนี้จบไม่สวยแน่ ๆ” โจฮันรู้จักนิสัยของวาตะดี ยิ่งหนูยิ้มทำเหมือนยังจำวาตะได้เรื่องระหว่างทั้งสองไม่จบลงง่าย ๆ แน่

วาตะไม่รอเพื่อนๆให้พูดต่อ เขาเดินออกจากตรงนั้นไปทันที

“มึงไม่เคยมีแฟนเก่าเพราะมึงไม่เคยมีแฟนใหม่หรือเปล่าวะวาตะ” เป็นธามที่บอกออกมา

เพื่อนทั้ง 3 คนมองหน้ากันอย่างเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมวาตะถึงเย็นชากับน้องใหม่ปี 1เหลือเกิน พวกเขาจะได้ยินวาตะเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจเมื่อครั้งโดนคนที่เขารู้สึกดีมากๆหักหลัง ทำให้คนในครอบครัวมองว่าไม่เอาไหนอีกครั้ง วาตะเล่าในช่วงที่ดื่มหนักจนเมาเสมอ หนังม้วนเดิมที่ถูกฉายซ้ำจนเพื่อนๆต่างอยากเห็นหน้าเด็กสาวคนนั้น

แล้วสิ่งที่วาตะย้ำเสมอตอนเมาเช่นกันคือ

‘อย่าให้มาเจอกันอีกเพราะกูจะเอาคืนให้สาสม’

‘ทำไมวะหนูยิ้ม ทำไมวะ’

ผ่านมา 3 วัน

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันรับน้องของคณะนิเทศศาสตร์ หนูยิ้มก็ถูกเหล่าเพื่อน ๆ และรุ่นพี่พากันพูดถึงเธอในทางไม่ดีเรื่องของวาตะ เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าวาตะเป็นตัวท๊อปของมหาวิทยาลัยเหมือนกับกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องที่จะรู้จักเป็นการส่วนตัวเป็นเรื่องยาก แต่หนูยิ้มกลับทำเหมือนรู้จักอีกฝ่ายมาก่อน

“ตกลงเรื่องเธอกับพี่วาตะเนี่ยเรื่องจริงไหม” น้อยหน่าที่กำลังเดินไปยังโรงอาหารพร้อมกับหนูยิ้มเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“ใช่ ตอนนั้นพี่วาตะย้ายไปอยู่กับยายที่สระแก้ว เราเลยได้รู้จักกัน แต่มันก็มีเรื่องที่ทำให้พี่เขาต้องกลับกรุงเทพฯกระทันหัน”

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ”

“ก็ไม่ได้ติดต่อกัน อีกอย่างเราก็ย้ายไปอยู่ที่น่านด้วย” หนูยิ้มเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม เธอรู้ว่าวันนั้นเรื่องทำให้วาตะโกรธ แต่ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วยเพราะยังเด็ก แต่พอโตขึ้นเธอก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ดี

“อ๋อ แต่อย่างว่าแหละเธอสวยขึ้นขนาดนี้ เราเป็นพี่วาตะเราก็จำไม่ได้” คำพูดของน้อยหน่าทำให้เพื่อนสาวของเธอยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกชม

“เรารู้นะน้อยหน่า พี่วาตะจำเราได้แต่เขาแค่ไม่อยากรู้จักเท่านั้นเอง” หนูยิ้มพูดออกมาอย่างที่ตัวเองคิดแต่จะให้เธอตัดใจจากเขาไปซะง่ายๆคงทำไม่ได้

ตอนนี้ในเมื่อเธอได้กลับมาเจอเขาแล้ว เธอจะเดินหน้าจีบเขาอย่างเป็นทางการ และการที่หนูยิ้มได้มาเรียนที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตแต่อย่างใด ทั้งหมดนี้เป็นหนูยิ้มที่ยังติดตามข่าวเขาและรู้ว่าวาตะเรียนอยู่ที่นี่ มหาวิทยาลัยอเบรนตัน หนูยิ้มจึงเลือกสมัครสอบเข้าเรียนที่นี่

‘แอมบาสเดอร์ที่แสนหล่อเหลาใครจะจำไม่ได้’

หลังจากทั้งสองทานอาหารเสร็จก็พากันกลับมารอเรียนอยู่หน้าคณะ

“หนูยิ้ม” เสียงทักทายที่ดังออกมาเรียกความสนใจของหนูยิ้มและเพื่อนของเธออย่างน้อยหน่าให้ไปมองยังคนที่เอ่ยทักทายทั้งสอง

“…” หนูยิ้มมองไปยังคนที่เดินเข้ามาทักทายตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

“เรา...ฝ้ายไง ฝ้ายเพื่อนเธอสมัย ม. ต้น ที่สระแก้วไง”

“อ๋อ”

“บังเอิญจัง เราก็คิดว่าจะไม่มีเพื่อนที่รู้จักมาเรียนที่นี่แล้ว” ฝ้ายบอกกับหนูยิ้ม

“ฝ้ายก็มาเรียนที่นี่ด้วยเหรอบังเอิญจริง ๆ” หนูยิ้มเอ่ยด้วยรอยยิ้มเธอแทบจะจำอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะตอนที่เรียนอยู่โรงเรียนเก่าหนูยิ้มไม่ค่อยมีเพื่อน

 “ใช่ ๆ เรานั่งด้วยได้ใช่ไหม” ฝ้ายเอ่ยถามเพราะสายตาของน้อยหน่าเหมือนไม่ค่อยชอบเธอ

“ได้สินั่งเลย”

“เป็นไงบาง เธอไม่ติดต่อกลับมาเลย” ฝ้ายยังคงเอ่ยถามต่อ เธอจำหนูยิ้มได้ตั้งแต่ที่วันแรกที่เจอ เพียงแต่ไม่มีโอกาสเข้าไปทักเท่านั้น

หลังจากที่ฝ้ายอยู่พูดคุยกับหนูยิ้มมาได้สักพักเธอก็ขอตัวเดินออกไป เพราะเพื่อนของเธอรออยู่ หลังจากพูดคุยกันจึงได้รู้ว่าฝ้ายเรียนต่างคณะกันกับหนูยิ้มนั่นเอง ทำให้หนู้ยิ้มไม่เคยเจอเธอมาก่อน

“หนูยิ้ม” น้อยหน่าที่นั่งเงียบมาได้สักพัก เอ่ยเรียกเพื่อนของตัวเองออกมา

“ห๊ะ” หนูยิ้มเงยใบหน้าละจากเอกสารประกอบการเรียนที่กำลังอ่านอยู่ มองอีกฝ่ายอย่างเป็นคำถาม

“เธอแน่ใจใช่ไหมว่าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ” น้อยหน่าเอ่ยถามขึ้นมาเพราะท่าทีของฝ้ายดูไม่เป็นมิตรสำหรับเธอเลย

“อืม เป็นเพื่อนโรงเรียนเก่าเรา นิสัยฝ้ายก็เป็นแบบนี้แหละ”

“ทำไมเรารู้สึกไม่เป็นมิตรเลย…รู้สึกออกจะติดแชะเธอเหมือนกันนะ ระวังเอาไว้หน่อยก็ดีนะ” น้อยหน่าเอ่ยอย่างระแวง เธอรู้ว่าตัวเองอาจจะคิดมากไป แต่ระวังเอาไวยอมดีกว่า

“อย่าคิดมากเลย ไปเรียนกันเถอะ” หนูยิ้มไม่เพียงแต่พูดเปล่าเพราะเธอยังเลือกที่จะเก็บเอกสารการเรียนลงกระเป๋า

หนูยิ้มใช้ชีวิตอยู่ที่มหาวิทยาลัยโดยมีเพื่อนสนิทอย่างน้อยหน่าค่อยอยู่เป็นเพื่อนตลอด แต่จะมีบางครั้งที่ฝ้ายเข้ามาหาเธอ ซึ่งชีวิตนักศึกษาของเธอก็เหมือนปกติ ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ

แต่มันแตกต่างจากใครอีกคน ตั้งแต่วันที่วาตะเจอกับหนูยิ้ม ชีวิตเขาก็ดูเปลี่ยนไปเยอะ ชายหนุ่มมักไปดื่มมากขึ้น แถมเวลารู้ว่ามีกิจกรรมประชุมน้องปี 1 เขาก็มักจะมาโผล่อยู่ที่ลานกิจกรรมรวมอยู่ตลอด

“พี่วาตะ” เอมี่หันไปเรียกคนที่ยืนอยู่เงียบ ๆ ในมุมที่เขาคิดว่าไม่มีใครเห็น

“...” ไม่มีการตอบกลับจากวาตะแต่อย่างใด

“มาได้ไงคะ มาหาเอมี่เหรอคะ” เอมมี่เข้าไปหาวาตะด้วยความรีบร้อน

“มาเรื่องงาน กลับไปที่แถวของเธอ”

หนูยิ้มที่กำลังอยู่ในแถวเพื่อทำกิจกรรมมองไปยังวาตะที่มีเอมี่วิ่งออกจากแถวไปหา โดยนักศึกษาทั้งหลายต่างส่งเสียงแซวอย่างเกรียวกราวเพราะทั้งคู่สวยหล่อเหมาะสมกัน แล้วเอมี่ก็เดินกลับมาที่แถวของตัวเองด้วยท่าทีเขินอาย

ตอนนั้นหนูยิ้มก็มองอีกฝ่ายแต่ไม่ได้คิดจะทักทายวาตะเหมือนครั้งแรกเพราะคิดว่าวาตะคงไม่อยากรู้จักตัวเอง

“วันนี้พี่วาตะ แอมบาสเดอร์ของมหา’ลัย 4 ปีซ้อนมาให้กำลังใจน้องใหม่ทุกคนนะครับ” เสียงรุ่นปีแนะนำวาตะที่กำลังยืนอยู่ข้างแถว

“เอาละน้องๆปีนี้เราจะมีการถ่ายทำโฆษณาและถ่ายภาพโปรโมตมหา’ลัย สามารถมาสมัครได้ ปีนี้คัดเลือก ชาย 1 คน หญิง 2 คน และน้องผู้หญิง 1 ใน 2 จะเป็นพี่วาตะคัดเลือกเพื่อขึ้นป้ายใหญ่คู่กับพี่วาตะ ทุกคนสามารถมารับใบสมัครได้ที่รุ่นพี่โต๊ะนั้นได้นะครับ”

เมื่อรุ่นพี่พูดจบ หนูยิ้มมองว่านี่จะเป็นโอกาสที่เธอจะได้เข้าใกล้วาตะ เมื่อทุกคนเลิกแถว หนูยิ้มจึงเดินเขาไปรับใบสมัครมา 2 ใบ เผื่อน้อยหน่าด้วย

“ไม่เอาหรอก เธอสมัครคนเดียวเลย ”

“เราจะสมัครคัดเลือกแอมบาสเดอร์และเราต้องทำให้ได้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วาตะทวงคืนรัก   ตอนพิเศษ 3 สมาชิกใหม่

    ตอนพิเศษ 3 สมาชิกใหม่นับตั้งแต่วันรับปริญญาผ่านมา 3 เดือน ชีวิตของหนูยิ้มกับวาตะยังคงเหมือนคู่รักคู่อื่น ๆ ไม่ผิดไป เพียงแต่ตอนนี้วาตะกลับติดหนูยิ้มไม่ทิ้งห่างหญิงสาว หนูยิ้มก็เริ่มทำงานที่สนามแงรถของสามีอย่างเต็มตัว ดูแลเกี่ยวกับการตลาดและงานโปรโมตต่างๆหนูยิ้มไปไหนวาตะต้องไปด้วย ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกหงุดหงิดบ้างในบางครั้ง แต่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะถ้าวาตะไม่อยู่ใกล้เธอ เขาก็จะเวียนหัว อาเจียนไม่หยุด อย่างเช่นวันนี้ที่ตั้งแต่เช้ามาวาตะยังคงอาเจียนไม่มีท่าทีว่าจะหยุด“พี่วาตะ ห่างกับหนูยิ้มหน่อยได้ไหมคะ” หนูยิ้มเอ่ยออกมาพร้อมมองใบหน้าของวาตะอย่างไม่ชอบใจ“ให้พี่นั่งกอดหนูยิ้มก่อนไม่ได้เหรอ” วาตะที่โอบกอดหนูยิ้มเอาไว้เอ่ยพร้อมซุกใบหน้าของตัวเองไปกับไหล่ของเธอ เขารู้สึกว่าช่วงนี้ชื่นชอบกลิ่นของหนูยิ้มเป็นพิเสษเพราะว่าเวลาห่างกันเขามักจะเวียนศีราะ คลื่นไส้ แต่พอได้อยู่กับหนูยิ้มได้โอบกอดคลอเคลียแล้ว อาการที่เขาเป็นกลับหายไป“ไม่ได้ค่ะ”“หนูยิ้มใจร้ายกับพี่จัง” วาตะเริ่มงอแงมากกว่าเดิม จนทำให้หนูยิ้มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“หนูยิ้มว่าการที่พี่วาตะมาซุกหนูยิ้มอยู่แบบนี้ไม่ทำให้พี่วาตะหายหรอกนะคะ

  • วาตะทวงคืนรัก   ตอนพิเศษ 2 สามีบุญทุ่ม NC

    ตอนพิเศษ 2 สามีบุญทุ่ม NCหลังจากหนูยิ้มเรียนจบก็มาถึงวันนี้ วันที่เป็นวันรับปริญญาของหนูยิ้มและเพื่อนสนิทอย่างน้อยหน่า ซึ่งการรับปริญาญาของหญิงสาวดูเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับหนูยิ้มมาก ๆ เลยก็ว่าได้ตลอดทั้งงานหนูยิ้มเอาแต่มองหาวาตะที่หายไป โทรก็ไม่รับหรือแม้แต่ส่งข้อความไปก็ไม่มีการตอบกลับมา จนกระทั่งช่วงถ่ายรูปคู่กับนักศึกษา หญิงสาวก็ยังไม่เจอวาตะ“พี่วาตะไปไหนก็ไม่รู้” หนูยิ้มเอ่ยด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ“อาจจะอยู่แถวนี้แหละ” น้อยหน่าเอ่ยอย่างปลอบใจเพื่อน ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่แน่ใจแต่แล้วอยู่ ๆ หนูยิ้มกับน้อยหน่าก็ต้องตกใจ เมื่อธาม โจฮัน และอคิณณ์เดินตรงเข้ามาหาหนูยิ้ม“ยินดีด้วยนะครับ” โจฮันพูดจับก็คล้องมาลัยเงินสดที่มีมูลค่ามากกว่า 2 แสนให้กับหนูยิ้ม โดยที่ธามก็ไม่ได้น้อยหน้าเพราะเขาได้ยื่นร่มให้กับหนูยิ้ม“พระเจ้า มาจากไหนกันเนี่ย” น้อยหน่าเอ่ยอย่างตื่นเต้น แต่ความตื่นเต้นของหนูยิ้มไม่ได้หมดแค่นั้น เมื่อมีมาสคอสหมีตัวใหญ่เดินนำปีกนางฟ้าและช่อกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่มาให้กับหนูยิ้ม“พี่วาตะ” หนูยิ้มเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงที่ตื่นเต้น ซึ่งอีกฝ่ายที่ถูกจับได้ก็ถอกหัวหมีออกก่อนยิ้ม

  • วาตะทวงคืนรัก   ตอนพิเศษ 1 พี่หึงนะ NC

    ตอนพิเศษ 1 พี่หึงนะ NC หลังจากวาตะถูกจับเข้าพิธีผูกแขนหรืองานแต่งงานอย่างไม่รู้ตัวที่สระแก้ว ข่าวเรื่องการแต่งงานของเขากับหนูยิ้มได้ถึงหูเพื่อนสนิททำให้ทั้งสามต่างพากันลบเล้าอยากให้พาหนูยิ้มไปทำความรู้จักก็หนักขึ้นทุกวันเพราะหากจะว่าไปแล้วเพื่ออีก 3 คน ยังไม่ได้รู้จักหนูยิ้มอย่างเป็นทางการจนกระทั่งวันนี้ที่วาตะทนไม่ได้ยอมพาหนูยิ้มไปให้ทั้ง 3 คนรู้จัก แม้ว่าในใจไม่อยากจะพาไปแค่ไหนก็ตาม “เอาจริงหนูยิ้มสวยกว่าที่พวกเราเห็นแต่ก่อนอีก” ธามเอ่ยออกมาพร้อมอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ ด้วยเมื่อก่อนส่วนใหญ่เขาเห็นหนูยิ้มในชุดนักศึกษาส่วนใหญ่ และเห็นตอน ปี 1 แต่ตอนนี้หนูยิ้มเรียนจบแล้ว ทำให้อีกฝ่ายแตกต่างไปจากที่ตอนนั่นค่อนข้างมาก“ใช่สวยกว่าเดิมเยอะเลย” โจฮันเอ่ยเสริมทัพพร้อมยิ้มให้กับหนูยิ้ม“ขอบคุณมากนะคะ พวกพี่ ๆ ก็หน้าตาดี หล่อๆกันทั้งกลุ่มเลย” คำชมของหนูยิ้มทำเอาคนที่ได้ยินพากันยิ้มอย่างชอบใจ แต่มีหนึ่งคนที่เอาแต่นั่งหน้าตึงอยู่ตลอดเวลา ก็เพราะว่าเพื่อนของเขาหล่อกันทุกคนนี่แหละเขาถึงไม่อยากพาหนูยิ้มมาแนะนำ“มึงทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไงว่ะวาตะ แถมทำเหมือนอย่างกับจะสิงหนูยิ้มเข้าไปยังไงอย่างนั้น”

  • วาตะทวงคืนรัก   ตอนที่ 40 งานผูกแขน(ตอนจบ)

    ตอนที่ 40 งานผูกแขน(ตอนจบ)หลังจากวาตะเรียนจบ เขาเข้ามาดูแลกิจการของตัวเองอย่างเต็มตัว โดยที่ยังคงทำหน้าที่แฟนที่ดีของหนูยิ้มอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งการทำหน้าที่ของเขาทำให้ทุกคนที่เห็นต่างพากันอิจฉาหนูยิ้ม“ไง วันนี้สามีไม่มาส่ง แต่ขับรถมาเองหมายความว่าไง” น้อยหน่าเอ่ยถามอย่างสงสัย พร้อมมองเพื่อนอย่างต้องการคำตอบ“ก็แค่อยากขับมาเอง ทำไมเหรอต้องมีเหตุผลด้วยหรือไง” หนูยิ้มพูดด้วยรอยยิ้ม เธอรู้ว่าน้อยหนากำลังคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่น้อยหน่ากำลังคิดไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ“ไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหม” น้อยหน่าขยับใบหน้าเข้าไปหาหนูยิ้มก่อนเอ่ยกระซิบถามด้วยความสงสัย“เปล่า อยากบอกว่าวันนี้เธอลืมตารางงานนะ” หนูยิ้มมองใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างเป็นคำถาม“ลืม…จริง ๆ” น้อยหน่ายิ้มแห้งให้เพื่อน จากเดิมคิดว่าเพื่อนมามหาลัยเองเพราะมีปัญหากับแฟน แต่ไม่คิดว่าเพราะงาน“งั้นเอาเวลาที่เหลือไปเตรียมตัว แทนการมาแช่งเรากับพี่วาตะ” หนูยิ้มส่ายหัวไปมาให้กับน้อยหน่าอย่างเอือมระอาวันไหนหนูยิ้มต้องทำงานกลับดึก เธอจะขับรถมาเองด้วยเพราะต้องพาเพื่อนอย่างน้อยหน่าไปด้วย จึงไม่สะดวกถ้าจะให้วาตะไปส่งตลอด เหมือนอย่างเช่นวันนี้ซึ

  • วาตะทวงคืนรัก   ตอนที่ 39 ดูดาวกันไหม NC

    ตอนที่ 39 ดูดาวกันไหม NCวาตะและหนูยิ้มอยู่เที่ยวที่น่านอยู่หลายวัน ก่อนทั้งสองจะย้ายมาพักที่เชียงใหม่ โดยที่พักของทั้งสองเป็นบ้านพักส่วนตัว ซึ่งค่อนข้างห่างจากหลังอื่น ๆ และมีความเป็นส่วนตัวสูง“พี่วาตะใจเย็น ๆ สิคะ” หนูยิ้มเอ่ยปรามคนที่จับให้เธอพิงไปกับผนังข้างประตูห้องพัก หลังจากที่ประตูห้องได้ปิดลง“หนูยิ้มแต่งตัวขัดใจพี่มากเลยรู้ไหม” วาตะมองใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างคาดโทษ แม้ว่าวันนี้หนูยิ้มจะแต่งตัวง่าย ๆ ด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดแต่เปิดเว้าหลังลึกมาก ทำให้มีแต่คนมองจนทำให้คนข้างกายของหนูยิ้มออกอาการหึงหวงอย่างชัดเจน“เหรอคะ งั้นพี่วาตะก็ถอดออกเลยก็ได้นะคะ” หนูยิ้มเอ่ยอย่างท้าทายอีกฝ่าย ซึ่งท่าทีและคำพูดของเธอทำให้วาตะรู้ว่าไม่เพียงแค่ต้องการท้าทายเขาเท่านั้น แต่ต้องการให้เขาทำอย่างที่ปากพูด“จะให้ถอดส่วนไหนก่อนดีล่ะ” วาตะมองหนูยิ้มด้วยสายตาที่ลวนลามหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่เห็นแบบนั้นหายใจไม่ทั่วท้อง“แล้วแต่พี่วาตะเลยค่ะ” สิ้นเสียงของหนูยิ้ม เรียวปากสวยสีชมพูอ่อนก็ถูกวาตะประกบจูบลงทันที ซึ่งการจูบที่เร่าร้อนดุดันของวาตะถูกตอบสนองกับด้วยเรียวปากสวยที่ทั้งพยายามดูดึงและขบเม

  • วาตะทวงคืนรัก   ตอนที่ 38 สมัครเป็นลูกเขย

    ตอนที่ 38 สมัครเป็นลูกเขยช่วงเย็นวาตะมารับหนูยิ้มหลังเลิกเรียนเหมือนอย่างเช่นทุกวัน ซึ่งหนูยิ้มก็บ่นวาตะทุกวันเช่นกัน เพราะในเมื่อเขาซื้อรถให้กับหนูยิ้มแล้วทำไมถึงยังมารับมาส่งตลอดเวลาผ่านมาเดือนกว่าทั้งเอมี่และฝ้ายหายไปจากวงจรชีวิตของหนูยิ้มและวาตะ คนในมหาวิทยาลัยบ้างก็บอกว่า เอมี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ส่วนฝ้ายลาออกและกลับไปอยู่บ้านเกิด ซึ่งความจริงแล้วไม่มีใครรู้ได้“เอาจริง ๆ พี่วาตะไม่ต้องมารับมาส่งหนูยิ้มก็ได้นะคะ หนูยิ้มขับรถมาเรียนเองได้แล้วค่ะ” หนูยิ้มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ซึ่งคำพูดของหนูยิ้มทำให้คนที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลาก่อนหน้านี้หุบยิ้มลงทันที“ทำไมละครับ” วาตะมองใบหน้าของหนูยิ้มก่อนเอ่ยถามออกมา“ก็พี่วาตะซื้อรถให้หนูยิ้มแล้ว พี่วาตะจะมารับมาส่งหนูยิ้มเพื่ออะไรคะ ถ้าแบบนี้พี่วาตะไม่ต้องซื้อรถให้หนูยิ้มก็ได้นะคะ”“พี่อยากอยู่กับหนูยิ้มไง อีกอย่างพี่มารับมาส่งหนูยิ้มไม่ดีเหรอ” วาตะพูดอย่างอ้อน ๆ ท่าทีอ้อน ๆ ของเขาให้คนทีได้ยินยกยิ้มออกมาเล็กน้อย“มันก็ดีค่ะ แล้ววันนี้พี่วาตะอยากทานอะไรคะ”“อะไรก็ได้ขอแค่หนูยิ้มเป็นคนทำ” วาตะหันมามองใบหน้าหนูยิ้มอีกครั้งด้วยรอยยิ้มตอนนี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status