เช้าตรู่วันใหม่
ซันตื่นขึ้นมาเพราะเสียงมือถือ โดยมีแฟนนอนอยู่ข้างกาย และซันจึงกดรับสายเมื่อพบว่าเป็นแจ็คที่โทร. เข้าพร้อมทั้งบอกว่าจะมาหารับไปที่มอ พอได้ยินดังนั้นเขารีบลุกจากเตียงด้วยความตกใจ พลันหันไปทางอีกคนแล้วบังคับให้ตื่น คนที่กำลังนอนฝันหวานกับโดนไล่ให้ออกจากห้อง นั่นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก จนทั้งคู่เกิดการทะเลาะกัน แต่ซันไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะด้วย อีกฝ่ายต้องไปให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เพื่อนทั้งสามมาเจอ เพราะไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ ซันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดี เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงมือถือที่อยู่บนเตียงนอนดังขึ้น เขาจึงคว้าเอามากดรับสายเพราะเป็นเบอร์ของเพื่อน “ว่าไง ไอ้แจ็ค กูแต่งตัวเสร็จแล้วเนี่ย อะไรนะ พวกมึงจะเข้ามาในห้องของกู เข้ามาทำเชี้ยไร เออ ๆ เดี๋ยวกูเปิดประตูให้” คนเป็นเจ้าของห้องรีบเดินไปเปิดประตูให้เพื่อนทันที เพราะตอนนี้ทั้งสามมายืนรออยู่หน้าห้องแล้ว “เชิญคุณมึงทั้งสามตัว เอ๊ย ทั้งสามคนเข้ามาในห้องกูได้เลยครับ” เชื้อเชิญแกมประชด เมื่ออองตวน ตาต้าและแจ็คเข้ามา สายตาของคนหลังเหลือบไปเจอถุงยางอนามัยหล่นอยู่ห้องนอน เพราะซันรีบเลยลืมเก็บไว้นั่นเอง “โห ไอ้ซัน มึงนี่ร้ายไม่เบาแฮะ แอบพาผู้หญิงมานอนด้วย” แจ็คเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสายตาล้อเลียน “มึงพูดอะไร กูไม่ได้พาใครมานอนด้วยทั้งนั้น กูนอนคนเดียวเว้ย” เขายังไม่รู้ตัวว่าเพื่อนเจอหลักฐานเข้าให้แล้ว “แล้วนั่นอะไรวะ” อีกฝ่ายชี้ไปที่ถุงยางอนามัยที่อยู่บนพื้นห้อง ทุกคนหันมองพร้อมกัน ซันตกใจมากจึงรีบเก็บขึ้นมาแล้วซ่อนไว้ด้านหลัง “เชี้ย !” “แหม ไอ้ซัน มึงไม่ต้องซ่อนพวกกูหรอก เพราะพวกกูเห็นหมดแล้ว มึงร้ายมากนะเนี่ย” ตาต้ายิ้มหน้าทะเล้นใส่ อองตวนถามว่า “มึงพาเขามานอนด้วยบ่อยใช่ปะ ดูท่าทางมึงก็น่าจะบ่อยอยู่” “ไอ้อองตวน มึงนี่ก็ช่างสังเกตซะเหลือเกินนะ” “อ้าว ไอ้ซัน สายตาของกูอะมองอะไรไม่เคยพลาดเว้ย” “ขี้โม้” “เรื่องจริงทั้งนั้น” เถียงอย่างไม่ลดละ “ว่าแต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในห้องปะ แล้วเธอเป็นใคร เป็นนักศึกษาในมหา’ ลัยเดียวกับพวกเราหรือเปล่า มึงพาเขาออกมาให้กูสามคนรู้จักหน่อยดิ” “เออ ใช่ ๆ” ตาต้าเห็นด้วย “เรียกออกมาด่วน” แจ็คบอก ซันส่ายหัว “เขาออกมาไม่ได้หรอก เพราะเขากลับไปบ้านแล้ว” “ฮะ กลับไปแล้วงั้นเหรอวะ โห งั้นกูสามคนก็อดเจออะดิ” อองตวนทำหน้าเซ็ง ๆ “ไม่เป็นไร ถึงวันนี้ไม่ได้เจอ แต่ก็ยังมีวันหน้า” แจ็คยังไม่ล้มเลิกความคิดที่อยากจะเจอผู้หญิงที่มานอนกับเพื่อน “จริง” ตาต้าก็ไม่ย่อท้อเหมือนกัน “แล้วจะมัวพูดมากอยู่ทำไมวะ ไปที่มอได้แล้ว มันสายแล้วนะเว้ย” ซันว่าทั้งสาม ก่อนจะเอาถุงยางอนามัยไปเก็บไว้ในห้องนอนแล้วเดินออกมา “ไป ๆ ไปได้แล้ว” “มึงไม่คิดจะเอาน้งเอาน้ำมาให้กูสามคนดื่มหน่อยเหรอวะ” แจ็คถาม ทว่าโดนอีกฝ่ายตบหัวไปหนึ่งที “สัส ! มาตั้งนานไม่พูด พอจะไปเสือกพูด ไม่ต้องดื่มหรอก ไปหาดื่มที่มอ ไป” “เชี้ยซัน ใจร้ายฉิบหายเลยว่ะ” บ่นอุบอิบ “มึงไม่ต้องบ่น ออกไป ๆ” ซันรุนหลังเพื่อน ๆ ให้ออกจากห้องแล้วปิดไฟให้เรียบร้อย ก่อนจะตามออกไปทันที “เออ ไอ้ซัน กูลืมบอกมึง ก่อนที่พวกกูจะขึ้นไปหามึงที่ห้อง พวกกูเห็นไอ้วายุที่หน้าลิฟต์แวบ ๆ สงสัยมันจะไปนอนกับผู้หญิง” แจ็คเล่าขณะจอดรถเสร็จ กำลังพากันเดินไปที่ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ “หา !” ซันถึงกับหน้าตื่น “ทำไมมึงต้องตกใจขนาดนั้นวะ” อีกฝ่ายสงสัย “เปล่า ไม่มีอะไร” ปากพูดขณะที่สายตาหลุบลงต่ำ เหมือนจะแสดงพิรุธบางอย่างออกมา อองตวนกล่าวว่า “ได้ยินเขาพูดต่อ ๆ กันว่าไอ้วายุมีคนเข้าหาเยอะ ไม่แปลกที่จะไปโผล่ที่คอนโดฯ คนอื่นแบบนี้” คำพูดของเพื่อนทำเอาซันยืนไม่นิ่งทีเดียว เพราะเกิดอาการหึงวายุขึ้นมา แม้จะรู้ว่าเมื่อคืนอีกฝ่ายไปนอนอยู่กับตนทั้งคืนก็เถอะ ความจริงก็คือวายุกับซันแอบคบกันตั้งแต่ปีสองแล้ว แต่ไม่แสดงออกให้เพื่อน ๆ จับได้ เพราะรู้ ๆ อยู่แล้วว่าทั้งสองกลุ่มเกลียดกันยังกับอะไรดี ขืนถ้ารู้แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งคู่จึงปิดบังความจริงเรื่อยมา และแอบคบกันลับ ๆ โดยที่วายุแอบไปนอนกับซันบ่อยครั้ง เมื่อคืนก็เหมือนกัน ทว่าทำแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ นั่นเป็นเพราะว่ายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยให้ใครรู้นั่นเอง มีเพียงแม่ของวายุเท่านั้นที่รู้อยู่คนเดียว แต่กว่าวายุกับซันจะตัดสินใจคบกันก็ใช้เวลานาน กลับมาทบทวนตัวเองจนมั่นใจว่าตกหลุมรักกันและตกลงเป็นแฟนในที่สุด เพราะวายุเลือกที่จะเปิดใจคุยกับซันเรื่องประกวด อธิบายเหตุผลต่าง ๆ นานาให้ฟัง วายุคิดว่าซันคงโกรธ แต่พอได้รู้ความจริงซันก็หายโกรธเรื่องนี้ทันที เวลาอยู่ต่อหน้ากลุ่มเพื่อนวายุและซันต้องแกล้งทำเป็นเกลียดกัน ด่ากันด้วยถ้อยคำหยาบ ๆ บ้าง เพื่อไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองฝ่ายจับผิดได้ ทุกอย่างล้วนทำเพราะความจำเป็นทั้งสิ้น ทั้งที่ใจไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้เลย “ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของไอ้วายุนักหรอก มึงก็รู้ว่ามันและพวกของมันเป็นอริของเรา เพราะฉะนั้นมันจะไปนอนกับใครก็ช่างมันเหอะ” ซันทำเป็นไม่สนใจวายุ “ไอ้ซัน ทำไมมึงต้องทำดูเหมือนหงุดหงิดด้วยวะ” อองตวนดูออกว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิดเลยถามแบบนั้น “กูเปล่าหงุดหงิดนี่ กูปกติดี” มีอาการเลิ่กลั่กขณะตอบนิดหน่อย “งั้นเหรอ” “เออดิ” พอมาถึงตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ทุกคนก็หยุดพูดและเดินเข้าไปด้านในทันที ! เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงวายุกับเพื่อน ๆ มานั่งกินข้าวที่โรงเย็น และมีเพื่อนผู้หญิงที่ได้ทำงานคู่กันมาขอนั่งด้วย เพราะโต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว แต่วายุก็นิ่งเงียบไม่สนใจ กระทั่งหาญชี้ไปที่กลุ่มของซันซึ่งกำลังเดินมา “นั่นมันไอ้ซันกับเพื่อนของมันนี่หว่า” “เออ จริงด้วย” ตุลย์หันมองตาม “รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้พวกมันจะมากินข้าวที่นี่บ่อย ๆ แฮะ ทำไมมันสามตัวไม่ไปกินที่โรงร้อนที่อยู่ติดกับคณะวิศวะ หรือว่าติดใจอะไรในนี้” ทางด้านซันก็เพิ่งหาที่นั่งได้ เขาเหลือบไปเห็นว่าในกลุ่มวายุมีผู้หญิงนั่งด้วย แล้วดูเหมือนเธอจะสนใจวายุไม่น้อยทีเดียว นั่นทำให้ซันเผลอโมโหขึ้นมา “โธ่เว้ย !” “ไอ้ซัน มึงเป็นอะไรวะ” ตาต้าถาม “ไอ้ตาต้า ไอ้อองตวน ไอ้แจ็ค พวกมึงไปหาผู้หญิงสวย ๆ มานั่งกับเราทีดิ๊ พามาหลาย ๆ คนเลยนะ” ขณะพูดสายตาก็หันไปมองวายุ วายุได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับถอนหายใจ เพราะเขาไม่เหมือนซัน ไม่ชอบทำให้อีกคนรู้สึกไม่ดีและไม่ชอบทำประชดเพื่อเอาคืน ซึ่งดูจะเป็นเรื่องไร้สาระซะมากกว่า ซันรู้ดีและเชื่อใจวายุมากที่สุด เพียงแต่ไม่ไว้ใจคนที่เข้าหา มีหลายครั้งที่เขากับวายุทะเลาะกัน มักจะเป็นเรื่องที่ซันงี่เง่า แต่อีกคนจะมีเหตุผลเสมอ ซันจึงกลัวว่าความสัมพันธ์ที่ต้องปิดบังแบบนี้จะทำให้วายุเลิกกับตัวเองในสักวัน ซันพยายามปรับตัวเองใหม่ จะลดความงี่เง่าลงบ้าง และจะเป็นคนมีเหตุผลให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้วายุเบื่อ และที่สำคัญ จะรักษาความสัมพันธ์ให้คงอยู่ตลอดไป ทว่าพอมาเห็นผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ วายุกลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เกิดความหวั่นไหวในทันทีทันใด แม้ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก แต่สุดท้ายก็อดที่จะหึงไม่ได้จริง ๆ ซันลุกยืนพร้อมบอกกับเพื่อนทั้งสามว่า “กูขอตัวก่อนนะเว้ย” “อ้าว ไอ้เชี้ยซัน มึงจะรีบไปไหนวะ ยังไม่ได้แดกอะไรเลยนะเว้ย” อองตวนทำหน้าแปลกใจ “กูไม่หิว” แล้วเขาก็เดินออกไป วายุเห็นซันเดินออกไปด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับก็บอกกับหาญและตุลย์ “กูอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะ ฝากจ่ายตังค์ค่าข้าวด้วย” ชายหนุ่มล้วงเอาเงินจากกระเป๋ากางเกงวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะลุกเดินตามซันไป “อ้าว ไอ้วายุ นั่นมึงจะไปไหนวะ” หาญตะโกนถาม “เออ ไอ้วายุนี่แปลกเว้ยเฮ้ย จู่ ๆ ก็ลุกไป โดยไม่บอกเพื่อนสักคำว่าจะไปไหน” ตุลย์ว่า “ฉันขอตัวก่อนนะ” หญิงสาวคนนั้นจะตามไป หาญรีบห้าม “เดี๋ยว ! ไม่ต้องตามไอ้วายุไป เธอก็เห็นว่าไอ้วายุทำหน้ายังกับเหม็นขี้ มันคงหงุดหงิดอะไรสักอย่าง” “ท่าทางมันแปลก ๆ นะวันนี้” ตุลย์สงสัย “เออ จริง” อีกฝ่ายเห็นด้วย “มึงพูดจากับผู้หญิงคนนั้นอย่างถูกคอเชียวนะ ทั้ง ๆ ที่เคยสัญญากับกูแล้วว่าจะไม่ให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับใครแบบออกหน้าออกตา แต่มึงก็…” ซันยืนล้างมือไปบ่นไปตรงอ่างล้างหน้าที่หน้าห้องน้ำโดยไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งถูกสวมกอดจากด้านหลังถึงรู้ว่าวายุตามมา เขาจึงแอบลอบยิ้มพอใจ ทว่ายังวางฟอร์มอยู่ “มึงตามกูมาทำไม ทำไมไม่นั่งอี๋อ๋อกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ” พูดโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย วายุผละจากตัวซันแล้วเอ่ยอย่างหงุดหงิด “เฮ้ย ! ไอ้ซัน มึงเป็นเชี้ยไรวะ แม่งงี่เง่าฉิบหาย” “อ๋อ ใช่สิ ถ้ารู้ว่ากูงี่เง่าก็ไปคบกับผู้หญิงคนนั้นเลยไป” รีบไล่ “กูจะไปคบกับคนอื่นได้ยังไง ในเมื่อหัวใจของกูเป็นของมึงแล้ว” พอได้ยินแบบนั้นซันก็รีบหันไปมองหน้าวายุทันที ทั้งสองสบตากันราวกับถูกมนต์สะกดไปชั่วขณะ และจ้องอย่างลึกซึ้งอยู่เนิ่นนานก่อนที่ฝ่ายหลังจะดึงซันเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง แล้วจูบแบบคลั่งไคล้ แม้อีกคนจะพยายามขัดขืนเพราะกำลังโมโหทว่าวายุก็ยังไม่ยอมหยุดง่าย ๆ เมื่อทำอย่างสมใจแล้ววายุก็ถอนริมฝีปากพร้อมยกยิ้มมุมปาก ก่อนออกจากห้องน้ำ ปล่อยให้อีกคนเดินหน้ามุ่ยตามหลังด้วยความหัวเสีย เพราะเมื่อกี้เพิ่งโดนวายุจูบมาหยก ๆ อองตวนกับแจ็คที่จะเดินมาเข้าห้องน้ำก็เห็นเพื่อนในสภาพปากเจ่อนิดหนึ่ง ฝ่ายแรกจึงอดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “ไอ้ซัน มึงเป็นอะไรวะ ทำไมถึงออกมาจากห้องน้ำในสภาพนี้” “นั่นดิ !” แจ็คก็แปลกใจ “ไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกมึงไม่ต้องอยากรู้หรอกเว้ย” ซันบอกอย่างหงุดหงิด ก่อนมองไปที่ฝั่งของวายุที่แอบยักคิ้วใส่อย่างกวน ๆ จนเพื่อนทั้งสองต้องมองตาม “หรือไอ้วายุมันทำอะไรมึง ใช่ป่าว” แจ็คถามต่อ ซันไม่ตอบ รีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที แจ็คกับอองตวนได้แต่มองตามหลังอย่างงง ๆ เพราะรู้สึกว่าวันนี้อีกฝ่ายดูแปลก ๆ พอหันไปยังจุดที่วายุยืนเมื่อสักครู่ก็ไม่เห็นเจ้าตัวแล้ว “กูว่าไม่ได้แปลกแค่ไอ้ซันคนเดียวแล้วละ ไอ้วายุก็แปลกเหมือนกัน” อองตวนว่า อีกคนพยักหน้าเห็นด้วย “เออ ใช่ กูก็คิดเหมือนมึง” แล้วทั้งสองก็เดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระส่วนตัว ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับวายุและซันที่ทำตัวมีพิลึก เหมือนมีลับลมคมในบางอย่างซึ่งก็มิอาจรู้ได้ครบรอบ 3 ปีที่วายุและซันคบกัน…วายุไปเดินห้างฯ คนเดียว ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ คอนโดฯ ซันไม่ได้มาด้วย เพราะชายหนุ่มโกหกว่ามีธุระต้องทำ แต่ความจริงคือจะมาซื้อของขวัญให้อีกฝ่ายเนื่องในวันครบรอบ 3 ปีที่คบกันนั่นเองเหตุผลที่ไม่ยอมบอกตามตรงนั่นเป็นเพราะว่าเขาตั้งใจจะซื้อของขวัญไปเซอร์ไพรส์ หากซันรู้แผนของเขาก็จะพังแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องอุบไว้ก่อนทว่าขณะเดินเลือกนาฬิกาอยู่ที่ร้าน จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“วายุ !”เมื่อได้ยินเสียงเรียกวายุจึงหันขวับ ทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่ายชายหนุ่มก็อึ้งไป“เจนจิรา !”เจนจิรา เคยเป็นแฟนเก่าของเขาเมื่อสมัยเรียนมัธยมปลาย ก่อนที่จะมาเจอกับซัน เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว ตอนคบกันแรก ๆ ก็ดูหวานชื่นแหละ แต่พอระยะเวลาผ่านไปสักพักทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงทีละนิด เมื่อเจนจิราพยายามตีตัวออกห่างจากวายุ ครั้นเค้นถามหาเหตุผลหนักเข้าเธอก็รำคาญจนสุดท้ายก็สืบจนรู้ว่าเธอแอบคบกับผู้ชายคนอื่น เขาเสียใจจนถึงขั้นประกาศว่า‘หากเธอไม่ได้รักกันแล้วเราก็ควรเลิกกัน เพราะฉันไม่อยากเป็นตัวสำรองของใคร’แต่วันนี้กลับเจอเธออีกครั้ง วายุเองก็ทำ
“นี่ กูถามมึงจริง ๆ นะ มึงไม่คิดจะกลับไปอยู่ห้องตัวเองบ้างหรือไง”เสียงถามที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยหน่าย กลับไม่ได้ทำให้คนที่กำลังกอดเอวของซันเอาไว้ระคายผิวได้แม้เพียงนิด ตรงกันข้ามวายุยังสามารถยิ้มหน้าระรื่นได้ดั่งเดิม พร้อมกับเอ่ยตอบกลับไปเหมือนกับตลอดหลายวันที่ผ่านมา“ถ้ากูกลับ มึงก็ต้องไปด้วย”ฟังคำตอบสิ่งที่ซันทำได้คือพ่นระบายลมหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วก็ล้มเลิกการไล่ทางอ้อมไปเหมือนกับตลอดเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยว่าระยะหลังมานี้วายุมักจะทำตัวติดกันกับเขาแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเข้าไปแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือหอบเอาเสื้อผ้ามานอนค้างกับเขา ซึ่งถ้าอยู่วันเดียวหรือแค่สองวันซันก็คงไม่ออกปากบ่นแบบนี้ หากแต่เจ้าตัวกลับปักกหลักอยู่แบบกึ่งถาวรเข้าไปแล้วพอโดนบ่นก็สวนกลับว่า...“งั้นมึงไปอยู่ห้องกู”สุดท้ายข้อพิพาทนี้ก็กลายเป็นเจ้าตัวที่ชนะไปทุกครา“แล้วเช้านี้มึงจะกินอะไรดี”“กินมึง…โอ๊ย! นี่! มันเจ็บนะเว้ย”ใบหน้าหล่อเข้าขั้นบึ้งตึงขึ้นมาทันที เมื่อแขนของตัวเองถูกฝ่ามือขาวฟาดเข้าให้จนเกิดรอยแดงจาง ๆ ในขณะที่คนกระทำกลับไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ ยังคงส่งสายตาน่ากลัวไปให้เหมือนเคย กลายเป็นฝ่ายของวายุที่ได้แต
หลังจากกิจกรรมในครั้งนั้นวายุกับซันก็ถูกถ่ายรูปลงโซเชียลและมีคนเห็นมากขึ้น ว่าทั้งคู่เข้าคอนโดฯ ด้วยกันบ่อย ๆ อีกทั้งรูปนั่งบนรถก็มี ที่ร้านอาหารก็มีเช่นกัน ทุกอิริยาบถหนีไม่พ้นสายตาของด้อมทั้งหลายที่คอยตามสอดส่องอยู่ทุกที่ทุกเวลา และเก็บทุกช็อตเด็ดไว้ในมือถือเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งคู่ไปรับไปส่งกันบ่อย ๆ จนด้อมของพวกเขากลับคืนมา ทุกคนเริ่มจิ้นตามและเกิดการปรองดองในที่สุด แล้วพากันอวยวายุกับซันฉ่ำฟินทุกครั้งเวลาเห็นวายุกับซันอยู่ด้วยกัน !ทว่าแฟนคลับส่วนใหญ่ก็ยังถกเถียงเรื่องที่ทั้งสองเป็นศัตรู แม้จะมีรูปสวีทหวานออกมาให้เห็น แต่บางคนก็ยังตั้งคำถามและสงสัยอยู่เสมอ มีกลุ่มหนึ่งที่อวยแบบไม่ลืมหูลืมตา แค่รู้ว่าวายุกับซันกิ๊กกั๊กกันก็ฟินแล้ว ถึงขั้นโพสต์ทวิตเตอร์แจกเงินหากทั้งคู่ประกาศคบกันจริง ๆเพื่อน ๆ ของวายุและซันก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก เพราะไม่ว่าใครเจอมักถามเรื่องของทั้งสองบ่อยทีเดียว เพียงแค่พวกเขาตอบไม่เต็มปากเท่านั้นเอง บางครั้งใบ้ไปก็ไม่มีใครเชื่อหาญกับตุลย์ได้นัดอองตวน แจ็ค ตาต้าไปนั่งดื่มและกินข้าวแบบชิล ๆ ที่บาร์ริมแม่น้ำ สั่งอาหารเต็มโต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“เดี๋ยว เราจะใช้ห้องนี้จริง ๆ เหรอ” เสียงสั่น ๆ เข้าขั้นประหม่าอดถามออกไปไม่ได้ ทั้งมือยังดึงเสื้อด้านหลังของคนตัวโตเอาไว้แน่น หวังจะช่วยทำให้อีกฝ่ายมีเวลาคิดดูอีกสักหน่อยด้วยว่าตอนนี้ตรงหน้าของซันคือห้องพักหนึ่งที่อยู่ด้านบนของไนต์คลับ และมันคงไม่ได้แปลกหรือสร้างความหวั่นใจให้แก่ตัวของซันได้เท่ากับการเห็นลักษณะของมันแบบเต็มตา ตัวห้องที่อยู่หลังบานประตูนั่นมันถูกตกแต่งไปด้วยสีแดงฉานสมกับชื่อที่เรียกกันปากต่อปากว่าห้องเชือดสีแดงในตำนาน !ซันเคยได้ยินเพื่อนนกลุ่มคุยกันถึงห้องเชือดตรงหน้านี้ว่าการจะเข้าไปใช้บริการได้นั้นใช่ว่าจะง่ายเหมือนคิด ด้วยว่าหนึ่งเลยคือต้องเงินถึงพอสมควร เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูงสำหับห้องที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา จนเรียกว่าสะดวกสบายและเร้าอารมณ์กว่าห้องทั่วไปหลายเท่า ทั้งการจะทำบัตรสมาชิกที่มีเพื่อเข้าใช้งานยังยากพอสมควร แต่ใครจะไปคิดว่าวายุจะแอบมาทำมันจนได้“กลัว?”คำถามของคนตัวโตไม่ได้รับการตอบมานอกจากริมฝีปากที่เม้มแน่น เพราะไม่รู้จะตอบไปยังไงดี ในเมื่อเขาไม่ได้กลัวเสียหน่อย ต้องเรียกว่าประหม่าสิถึงจะถูก“อะ อืม”ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบใดกลับมา ริมฝีปาก
ไนต์คลับชื่อดังกลางเมืองเวลานี้ไม่ต่างจากทุกวันเท่าไรนัก บรรยากาศโดยรอบพื้นที่หลายตารางเมตรยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายเพศเช่นเคย แต่ละกลุ่ม แต่ละคน ปลดปล่อยอารมณ์ที่ซุกซ่อนเอาไว้ในใจตามที่ตัวเองรู้สึก บ้างโยกย้ายไปตามจังหวะของเสียงเพลงเร้าใจที่ถูกเปิดขับกล่อม บ้างก็นั่งบริหารเสน่ห์ตัวเองไปเรื่อย ๆ หรือบ้างก็ปล่อยความเศร้าให้เหล้ารสดีเป็นตัวช่วยทว่า โต๊ะด้านในสุดนั้นดูเหมือนจะต่างออกไป แบบที่ต้องเรียกว่าออกแนวคล้ายกำลังจะมีเรื่องก็คงไม่ผิด“เฮ้ย มองหน้านี่หาเรื่องเหรอครับ อยากกินกับแกล้มแบบไม่ต้องสั่งเหรอ” เสียงของหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มวิศวะเอ่ยถามไปด้วยท่าทีกวน ๆ เรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกคนอื่นของกลุ่มขวาได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ทางซ้ายผู้ถูกทักทายมาแบบชนิดกระตุกต่อมโมโหนั้น กลับทำเพียงแค่ยิ้ม ๆ รักษามาดนิ่งเอาไว้ไม่ต่างจากเมื่อก่อน“ไม่ให้มองหน้าแล้วจะให้มอง...อะไรล่ะ”แม้จะเป็นคำตอบจากน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่กลุ่มฝั่งขวาก็รู้ได้ในทันที ว่านี่คือการโต้กลับแบบไม่ต้องสงสัย หากแต่เพราะไม่อยากให้เรื่องมันลุกลามใหญ่กว่านี้จนเสียบรรยากาศเลยจำต้องเก็บอารมณ์ไป แต่ไม่วายทิ้งความปากดีที่เป็
หลังกลับมาจากค่ายอาสาก็ติดกับเสาร์อาทิตย์พอดี วายุเอาแม่มาอ้างเพื่อให้ซันนอนที่บ้านนี้ต่อจนสำเร็จ บอกว่าแม่อยู่คนเดียวคงเหงาน่าดู ไหน ๆ เป็นวันหยุดแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนท่านซะเลยตั้งแต่เปิดตัววายุอ้อนเก่งมาก ชอบเอาแต่ใจทว่าไม่ได้ท็อกซิกแบบให้ซันตามใจ ถึงกระนั้นอีกคนก็ไม่ได้รำคาญเท่าไรนัก ตรงกันข้าม…ออกจะชอบใจด้วยซ้ำไป“วายุ ทำไมมึงถึงไม่อนุญาตให้กูไปหาเพื่อนอะ” ซันเอ่ยถามแฟนหนุ่มขณะนั่งพิงไหล่กว้างบนเตียงนอน เพราะเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแจ็คได้โทร. มานัดซันให้ออกไปเจอที่ผับ แต่วายุก็ไม่ให้ไป บอกผ่านมือถือเลยทีเดียววายุยิ้มกว้าง “ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะกูอยากนอนกอดมึงทั้งวันทั้งคืนไง ถ้ามึงไปแล้วกูจะกอดใครล่ะ จะให้กูกอดหมอนข้างหรือไง”“เหตุผลแค่นี้ ?”“แล้วจะเอาแค่ไหนล่ะ”ครืด ครืด !จู่ ๆ เสียงสั่นของมือถือก็ดังขัดจังหวะทั้งคู่ วายุกับซันหันมองหน้ากัน“มือถือของใครสั่นวะ”“ของมึงแหละวายุ เพราะมือถือกูตั้งเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงที่กูชอบ แต่มึงอะตั้งระบบสั่น” ซันบอกวายุจึงหยิบมือถือของตัวเองที่วางอยู่ข้างหมอนขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างแปลกใจกับเบอร์ที่โทร. เข้ามาเพราะไม่คุ้นเลย“เบอร์ใครวะเ