3 ทำตัวพิลึก
โดย : wasin ××××× วันนั้นเองเพื่อน ๆ ได้นัดกันมาทำงานกลุ่มที่ห้องของซัน ก่อนมายังไม่ได้กินอะไรก็เลยรู้สึกหิว พอเห็นจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าประมาณสองสามเมนูทั้งสามก็ตาลุกวาว แจ็คจึงเอ่ยขึ้นว่า “โห ! ลาภปากของพวกกูแท้ ๆ มาถึงก็ได้กินพอดี พวกกูยังไม่ได้ยัดเหี้ยไรใส่ท้องเลย” “ใช่ ๆ กูโคตรจะหิว งั้นอาหารพวกนี้กูขอกินละกัน” ตาต้าจะเอื้อมมือไปจับจานอาหาร ทว่าโดนซันตีมืออย่างแรง “ไม่ได้ กูเป็นคนซื้อมากูยังไม่ได้แดกเลย เพราะฉะนั้นพวกมึงก็ยังแดกไม่ได้” “กูก็หิวนะเว้ยไอ้ซัน” อองตวนเอามือกุมท้อง “แล้วทำไมมึง มึง แล้วก็มึงไม่แดกอะไรก่อนมาทำงานกลุ่มวะ แล้วก็มานั่งบ่นว่าหิว อาหารพวกนี้อะกูยังไม่ได้แตะเลยสักนิด” “มึงก็แบ่งพวกกูกินหน่อยดิ สัส !” แจ็คว่า “มึงอย่าใจไม้ไส้ระกำกับพวกกูนักเลย นะไอ้ซัน” ตาต้าบอกอย่างขอร้อง อองตวนรีบคว้าจานข้าวมาตักกินอย่างไว ปล่อยให้เพื่อนทั้งสามเถียงกันต่อไป แต่ตอนนี้ตัวเองหิวมากกว่า “เฮ้ย ! ไอ้เชี้ยอองตวน นั่นมันข้าวของกูนะเว้ย” ซันรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “เหอะน่า แบ่งเพื่อนกินหน่อยจะเป็นไรไป ว่าแต่กับข้าวแม่งโคตรอร่อยเลยว่ะ มึงซื้อมาจากร้านไหนวะไอ้ซัน” “กูไม่บอกมึงหรอก” “อ้าว ไอ้นี่ ทำไมต้องทำเหมือนเป็นความลับด้วยวะ” “…” อีกฝ่ายไม่ตอบ แจ็คหันไปต่อว่าอองตวน “ไอ้เชี้ยนี่ก็ มือไวจริง ๆ นะมึง” “เป็นธรรมดา ไม่มีใครทันกูหรอก” เขายักไหล่พลางยิ้มน้อย ๆ “บางทีมึงก็ไวเกิ้น” ตาต้ากล่าวอย่างหมั่นไส้นิด ๆ “เออ ๆ กูยกข้าวให้มึงกินก็ได้ ท่าทางเหมือนมึงไม่ได้แดกข้าวมาเป็นสิบปี แดกเบา ๆ หน่อยไอ้อองตวน” สุดท้ายซันก็ยอมยกข้าวให้เพื่อนกิน อองตวนกินยังกับสวาปาม ซันนั่งมองเพื่อนกินข้าวพลางส่ายหน้าเบา ๆ แอบเสียดายอาหารที่มีคนให้มา แถมเป็นคนที่ ‘สำคัญ’ กับตัวเองมากด้วย โดยที่เขายังไม่ได้แตะต้องเลย “มึงแดกไปคนเดียวเหอะไอ้อองตวน ข้าวจานเดียวจะกินสามคนได้ไงวะ” แจ็คส่ายหัว “เออ นั่นดิ เชิญมึงฟาดข้าวไปคนเดียวเลย” ตาต้าเห็นด้วย ท่าทางอองตวนหิวมากแหละดูออก ! “โอ๊ย ! อาหารมื้อเที่ยงวันนี้ช่างอร่อยจังเลยเว้ย ไม่ต้องเสียเงินซื้อสักบาท ประหยัดไปอีกมื้อ” อองตวนตบท้องตัวเองเบา ๆ หลังจากกินข้าวเสร็จ พร้อมกับหัวเราะ “มึงประหยัด แต่กูเปลือง สัส !” ซันค้อนขวับ อีกฝ่ายตบไหล่ “เอาน่า นาน ๆ ทีกูจะมาฝากท้องกับมึง ไม่ได้มาทุกวันซะหน่อย บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปได้ หัวก็ยังไม่ทันล้าน” “แดกเสร็จก็ล้างจานให้กูด้วยละ แล้วก็มานั่งทำงานซะ” “รับทราบคร้าบ ไอ้คุณซัน เดี๋ยวกูจะล้างจานให้นะครับ ล้างแบบสะอาดเอี่ยมไปเลย” พูดประชด “มึงนี่ก็ประชดเก่งซะเหลือเกิน” ตาต้าว่า “ไป ๆ เก็บจานไปล้างซะ” เจ้าของห้องไล่ แล้วอองตวนก็รีบเก็บเอาจานชามไปล้างที่ห้องครัวทันที ส่วนซันกับเพื่อนอีกสองคนก็ได้แต่นั่งรอที่ห้องนั่งเล่น กดไถเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมวนไป ชายหนุ่มทำหน้าหงุดหงิดเมื่อไม่เห็น ‘ใครบางคน’ ออนเฟซในตอนนี้ “มึงทำอะไรอยู่วะ” เขาบ่นพึมพำ แจ็คได้ยินเข้าเลยคิดว่าอีกฝ่ายพูดกับตัวเองจึงตอบ “ก็นั่งอยู่กับมึงตรงนี้ไง” “เออ ใช่” ตาต้าผงกหัว “เอาเงินมาสามร้อย ค่าล้างจาน” อองตวนออกมาจากห้องครัวก็แบมือ “หน็อย ! ทีมึงกินข้าวกูหมด กูยังไม่คิดเงินเลย แล้วแบบนี้ยังมีหน้ามาทวงค่าล้างจานอีกเหรอวะ” ซันค้อนเข้าให้ “กูล้อเล่นน่า” ส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เพื่อน ซันหันไปทางแจ็ค “อ้อ แล้วที่กูพูดเมื่อกี้อะ กูไม่ได้ถามมึง กูแค่พูดลอย ๆ” “ไอ้ซัน มึงนี่ท่าจะเพี้ยนแฮะ พูดคนเดียวก็เป็น” “กูไม่ได้พูดคนเดียว แต่กูพูดกับ…” เกือบไปแล้ว ! เกือบพูดบางอย่างออกมา “กับใคร? มึงพูดกับใครฮึ” ตาต้าสงสัย “เอ่อ พวกมึงไม่ต้องรู้หรอก ทำงานกลุ่มได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันส่งอาจารย์ในวันจันทร์” ซันทำเป็นเฉไฉ คว้าโน๊ตบุ๊กมาเปิดทำรายงาน อองตวนแอบกระซิบกับเพื่อนทั้งสอง “กูว่าไอ้ซันมันมีพิรุธว่ะ ท่าทางแปลก ๆ เหมือนมีความลับบางอย่างกับพวกเรา มึงสองคนว่ามั้ย” “เออจริง” แจ็คพยักหน้าเห็นด้วย แต่ตาต้าบอกว่า “พวกมึงหยุดสงสัยได้แล้ว ช่วยกันทำงานกลุ่มเถอะ” ก่อนจะหันไปพูดกับซัน “มะ ช่วยกันทำดีกว่า” “เดี๋ยวพวกเรามาช่วยกันคิด ว่าจะทำรายงานออกมาในรูปแบบใด ให้ถูกใจอาจารย์ จะได้ผ่านฉลุยไง” ซันเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วทำท่าคิด “หัวข้อที่อาจารย์ให้ทำคือ ให้นักศึกษาทุกคนจับกลุ่มกัน แล้วช่วยกันคิดเรื่อง…” อองตวนเดินไปมาอย่างใช้ความคิด แต่ละคนสีหน้าเคร่งเครียดมาก เพราะต้องช่วยกันคิดว่าจะทำรายงานออกมาในรูปแบบใดให้เป็นที่สนใจของอาจารย์ในคณะ ซึ่งมันก็ยาก แต่ก็ต้องทำให้ได้เหมือนกัน ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ สำหรับเด็กนักศึกษาคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อย่างพวกเขา สี่หัวช่วยกันเดี๋ยวก็ได้ไอเดียเองแหละ เมื่อวายุได้เห็นภาพบางอย่างที่คุ้นตาในเฟซบุ๊ก ทำให้ชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมา ก่อนจะกดส่งข้อความหา ‘ใครคนหนึ่ง’ สักพักก็ตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปเพื่อนสนิทซึ่งอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์อีกแห่ง “อ้าว ! ไอ้วายุ” ตุลย์เอ่ยทักเมื่อเห็นอีกฝ่ายมาหา “ไอ้เพื่อนรัก วันนี้ลมอะไรหอบมึงมาหากูสองคนได้วะ” หาญทำหน้าแปลกใจ วายุนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ เพื่อนแล้วเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้กูอยากจะมาชวนพวกมึงเล่นเกมเว้ย เราสามคนไม่ได้ดวลเกมด้วยกันนานแล้ว” “จู่ ๆ ก็เกิดอยากเล่นเกมซะงั้น” ตุลย์ขำ “มึงขำเชี้ยไรวะ แปลกตรงไหน กูแค่อยากเล่นเกมเท่านั้นเอง” “ก็ไม่แปลกหรอก” “เออ แล้วมึงกินอะไรมาหรือยัง” หาญถาม คนถูกถามพยักหน้า “เรียบร้อยแล้วละ แต่กูว่าสั่งขนมมาไว้กินระหว่างเล่นเกมหน่อยก็ดี” “ได้ !” อีกฝ่ายตอบก่อนจะกดสั่งขนมผ่านแอพ “เล่นเกมไรดีวะ” ตุลย์ถามเพื่อน ๆ “Rov เป็นไงวะ” วายุออกความคิดเห็น “ก็ดีนะ” หาญเห็นด้วย “เอ้า เริ่ม !!” แล้วจากนั้นทั้งสามก็เล่นเกมด้วยกันอย่างสนุกสนาน วายุทำท่าประกอบราวกับเมามันมาก เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่งสลับกันอยู่แบบนั้น “ไอ้เชี้ย ฝั่งนั้นแม่งโหดว่ะ ยิงใส่พวกเรารัว ๆ เลย” “เออ นั่นดิวะ” “เชี้ยเอ๊ย อีกฝั่งกำลังบุกชาร์จพวกเราแล้ว เฮ้ย หลบเร็ว ๆ” “ไอ้วายุ ไอ้ตุลย์ ไปหลบอยู่ข้างกำแพง กูจะเป็นคนรับหน้าฝั่งนั้นเอง” “โอเค ๆ ได้ ๆ” ตุลย์บอก แค่ฟังเสียงของพวกเขาก็รู้เลยว่าเกมนี้สนุกและดุเดือดแค่ไหน แทบจะทะลุเข้าไปอยู่ในจอมือถือเลยทีเดียว ยิ่งเล่นก็ยิ่งมันส์ พอชนะก็กระโดด เรียกได้ว่าเข้าถึงอารมณ์สุด ๆ ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงมือถือของหาญก็ดังขึ้น เขารีบกดรับสายทันที “สวัสดีครับ อ๋อ ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลงไปนะครับ” “ใครวะ” วายุถาม “แกร๊บโทร. มาให้ลงไปรับเอาของน่ะ พวกมึงเล่นเกมไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูจะลงไปข้างล่างแป๊บ” หาญรีบลุกไปทันที ส่วนวายุกับตุลย์ก็เล่นเกมรอ ไม่นานนักหาญก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ที่มีขนมอยู่ในนั้นมากมาย แล้ววางไว้บนโต๊ะกระจก “ขนมมาแล้ว” “โห ไอ้หาญ มึงสั่งอะไรมาเยอะแยะวะเนี่ย แล้วทั้งหมดนี้กี่บาท” วายุถามอย่างอึ้ง ๆ “ก็ไม่หมดเยอะเท่าไหร่หรอก แค่สามใบแดงเท่านั้นเอง” “เนี่ยนะที่มึงว่าไม่หมดเยอะ” “ไม่เป็นไรหรอกไอ้วายุ ไอ้หาญอะใจป้ำ เลี้ยงคนทั้งอพาร์ทเมนท์ยังได้เลย” ตุลย์พูดพลางหัวเราะเบา ๆ แล้วก้มหน้าเล่นเกมต่อ “ใจป้ำเชี้ยไร” หาญส่งค้อนวงโตให้เพื่อน “เอ้า ๆ หยุดเล่นเกมก่อน มากินขนมก่อนเร็ว” “มึงสองคนกินไปก่อนเลย กูกำลังเล่นเกมสนุก ๆ” ปากพูดทว่าตากลับจ้องแต่หน้าจอมือถือ ใจจดใจจ่ออยู่กับเกมอย่างเดียว และไม่สนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น “ไอ้วายุ วันนี้ทำไมมึงเล่นเกมโหดจังวะ” อีกฝ่ายสงสัย “ช่วงนี้เรียนหนักกูก็อยากปลดปล่อยบ้างดิวะ” ชายหนุ่มตอบปัด แต่ความจริงคือเขากำลังน้อยใจ กำลังงอน ‘ใครบางคน’ อยู่ ที่เอาของกินที่ตัวเองให้เอาไปให้คนอื่นต่อ ทั้ง ๆ ที่เคยสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ให้ใครกินด้วย แต่สุดท้ายก็ผิดสัญญา ! “ก็จริงของมึง ช่วงนี้พวกเราเรียนหนัก เพราะใกล้จะจบแล้ว หนักก็ตรงโปรเจคจบนี่แหละ” ตุลย์ว่า “เออ ใช่” หาญเห็นด้วย “เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องปลดปล่อยมันออกมาบ้าง หลังจากเครียดมาเยอะแล้ว เราจงระบายกับเกมให้เต็มที่” “มะ มาเล่นต่อกันเถอะ” วายุชวนเพื่อน เวลาต่อจากนั้นทั้งสามก็ทุ่มเทให้กับการเล่นเกม ปลดปล่อยอารมณ์ในเกมยังกับเอาเป็นเอาตายทีเดียว คนที่ดูท่าจะมันส์กว่าเพื่อนก็เห็นจะเป็นวายุ เพราะเล่นโหดสุด ๆ เพียงเห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่าโหดระดับไหน แล้วยังเติมเงินในเกมเพื่อซื้อปืนยี่ห้อใหม่เอาไปต่อสู้กับอีกฝั่ง และซื้ออาวุธอื่น ๆ ไว้สลับกันใช้ ต่างหากหาญและตุลย์ที่แทบไม่ยอมลงทุนอะไรเลย แต่ก็ยังดีที่มีปืนและลูกกระสุนอยู่ ระหว่างที่วายุเล่นเกมติดต่อกันหลายชั่วโมงไม่หยุดก็มีแชทเข้ารัว ๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจ เล่นเกมต่อไปอย่างสบายใจเฉิบ สักพักก็มีสายโทร. เข้า แต่เขาก็ยังไม่ยอมกดรับอยู่ดี “เฮ้ย ! ไอ้วายุ ทำไมมึงไม่รับสายวะ” หาญถามขึ้น “กูไม่ว่างรับสายใคร เพราะกูกำลังเล่นเกมอยู่” เขาตอบ แล้วสายก็ตัดไป พอต้นสายเห็นว่าโทร. แล้ววายุไม่รับเลยส่งแชทมาอีก คราวนี้ชายหนุ่มรีบกดดู เขายิ้มเมื่อเห็นข้อความของ ‘ใครบางคน’ แล้วลุกขึ้นพร้อมบอกกับเพื่อนว่า “กูขอตัวก่อนนะเว้ย พวกมึงเล่นเกมกันสองคนไปเหอะ บาย !” แล้วเดินออกไปจากห้องของเพื่อนทันที ทำเอาหาญกับตุลย์มองตามอย่างงง ๆ ก่อนที่ฝ่ายแรกจะเอ่ยขึ้นว่า “ไอ้วายุนี่แปลก นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป ทำตัวพิลึก” “ใครแชทมาหามันวะ มันถึงรีบไปแบบปัจจุบันทันด่วน” ตุลย์สงสัยมาก “ก็คงจะเป็นแฟนมันแหละ” “แล้วแฟนมันเป็นใคร” “มึงถามกู แล้วกูจะรู้มั้ย หรือจะให้กูไปถามป้ามึงเหรอ” “ป้ากูตายเมื่อปีที่แล้ว” “สัส ! กูประชด” หาญว่าพลางส่ายหน้า ทั้งสองก็ทำได้แค่สงสัยเท่านั้น ว่าแฟนของวายุเป็นใคร เพราะไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลย เนื่องจากอีกฝ่ายยังไม่พามาเปิดตัวให้รู้จักสักที ชอบเก็บใครคนนั้นอยู่ใน ‘ความลับ’ ตลอด และแสดงพิรุธให้เห็นทีละนิด ทว่าก็ยังคาดเดาใจของวายุไม่ได้เลยสักครั้ง เพราะเจ้าตัวมักจะหาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจอยู่เสมอนั่นเอง !ครบรอบ 3 ปีที่วายุและซันคบกัน…วายุไปเดินห้างฯ คนเดียว ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ คอนโดฯ ซันไม่ได้มาด้วย เพราะชายหนุ่มโกหกว่ามีธุระต้องทำ แต่ความจริงคือจะมาซื้อของขวัญให้อีกฝ่ายเนื่องในวันครบรอบ 3 ปีที่คบกันนั่นเองเหตุผลที่ไม่ยอมบอกตามตรงนั่นเป็นเพราะว่าเขาตั้งใจจะซื้อของขวัญไปเซอร์ไพรส์ หากซันรู้แผนของเขาก็จะพังแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องอุบไว้ก่อนทว่าขณะเดินเลือกนาฬิกาอยู่ที่ร้าน จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“วายุ !”เมื่อได้ยินเสียงเรียกวายุจึงหันขวับ ทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่ายชายหนุ่มก็อึ้งไป“เจนจิรา !”เจนจิรา เคยเป็นแฟนเก่าของเขาเมื่อสมัยเรียนมัธยมปลาย ก่อนที่จะมาเจอกับซัน เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว ตอนคบกันแรก ๆ ก็ดูหวานชื่นแหละ แต่พอระยะเวลาผ่านไปสักพักทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงทีละนิด เมื่อเจนจิราพยายามตีตัวออกห่างจากวายุ ครั้นเค้นถามหาเหตุผลหนักเข้าเธอก็รำคาญจนสุดท้ายก็สืบจนรู้ว่าเธอแอบคบกับผู้ชายคนอื่น เขาเสียใจจนถึงขั้นประกาศว่า‘หากเธอไม่ได้รักกันแล้วเราก็ควรเลิกกัน เพราะฉันไม่อยากเป็นตัวสำรองของใคร’แต่วันนี้กลับเจอเธออีกครั้ง วายุเองก็ทำ
“นี่ กูถามมึงจริง ๆ นะ มึงไม่คิดจะกลับไปอยู่ห้องตัวเองบ้างหรือไง”เสียงถามที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยหน่าย กลับไม่ได้ทำให้คนที่กำลังกอดเอวของซันเอาไว้ระคายผิวได้แม้เพียงนิด ตรงกันข้ามวายุยังสามารถยิ้มหน้าระรื่นได้ดั่งเดิม พร้อมกับเอ่ยตอบกลับไปเหมือนกับตลอดหลายวันที่ผ่านมา“ถ้ากูกลับ มึงก็ต้องไปด้วย”ฟังคำตอบสิ่งที่ซันทำได้คือพ่นระบายลมหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วก็ล้มเลิกการไล่ทางอ้อมไปเหมือนกับตลอดเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยว่าระยะหลังมานี้วายุมักจะทำตัวติดกันกับเขาแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเข้าไปแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือหอบเอาเสื้อผ้ามานอนค้างกับเขา ซึ่งถ้าอยู่วันเดียวหรือแค่สองวันซันก็คงไม่ออกปากบ่นแบบนี้ หากแต่เจ้าตัวกลับปักกหลักอยู่แบบกึ่งถาวรเข้าไปแล้วพอโดนบ่นก็สวนกลับว่า...“งั้นมึงไปอยู่ห้องกู”สุดท้ายข้อพิพาทนี้ก็กลายเป็นเจ้าตัวที่ชนะไปทุกครา“แล้วเช้านี้มึงจะกินอะไรดี”“กินมึง…โอ๊ย! นี่! มันเจ็บนะเว้ย”ใบหน้าหล่อเข้าขั้นบึ้งตึงขึ้นมาทันที เมื่อแขนของตัวเองถูกฝ่ามือขาวฟาดเข้าให้จนเกิดรอยแดงจาง ๆ ในขณะที่คนกระทำกลับไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ ยังคงส่งสายตาน่ากลัวไปให้เหมือนเคย กลายเป็นฝ่ายของวายุที่ได้แต
หลังจากกิจกรรมในครั้งนั้นวายุกับซันก็ถูกถ่ายรูปลงโซเชียลและมีคนเห็นมากขึ้น ว่าทั้งคู่เข้าคอนโดฯ ด้วยกันบ่อย ๆ อีกทั้งรูปนั่งบนรถก็มี ที่ร้านอาหารก็มีเช่นกัน ทุกอิริยาบถหนีไม่พ้นสายตาของด้อมทั้งหลายที่คอยตามสอดส่องอยู่ทุกที่ทุกเวลา และเก็บทุกช็อตเด็ดไว้ในมือถือเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งคู่ไปรับไปส่งกันบ่อย ๆ จนด้อมของพวกเขากลับคืนมา ทุกคนเริ่มจิ้นตามและเกิดการปรองดองในที่สุด แล้วพากันอวยวายุกับซันฉ่ำฟินทุกครั้งเวลาเห็นวายุกับซันอยู่ด้วยกัน !ทว่าแฟนคลับส่วนใหญ่ก็ยังถกเถียงเรื่องที่ทั้งสองเป็นศัตรู แม้จะมีรูปสวีทหวานออกมาให้เห็น แต่บางคนก็ยังตั้งคำถามและสงสัยอยู่เสมอ มีกลุ่มหนึ่งที่อวยแบบไม่ลืมหูลืมตา แค่รู้ว่าวายุกับซันกิ๊กกั๊กกันก็ฟินแล้ว ถึงขั้นโพสต์ทวิตเตอร์แจกเงินหากทั้งคู่ประกาศคบกันจริง ๆเพื่อน ๆ ของวายุและซันก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก เพราะไม่ว่าใครเจอมักถามเรื่องของทั้งสองบ่อยทีเดียว เพียงแค่พวกเขาตอบไม่เต็มปากเท่านั้นเอง บางครั้งใบ้ไปก็ไม่มีใครเชื่อหาญกับตุลย์ได้นัดอองตวน แจ็ค ตาต้าไปนั่งดื่มและกินข้าวแบบชิล ๆ ที่บาร์ริมแม่น้ำ สั่งอาหารเต็มโต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“เดี๋ยว เราจะใช้ห้องนี้จริง ๆ เหรอ” เสียงสั่น ๆ เข้าขั้นประหม่าอดถามออกไปไม่ได้ ทั้งมือยังดึงเสื้อด้านหลังของคนตัวโตเอาไว้แน่น หวังจะช่วยทำให้อีกฝ่ายมีเวลาคิดดูอีกสักหน่อยด้วยว่าตอนนี้ตรงหน้าของซันคือห้องพักหนึ่งที่อยู่ด้านบนของไนต์คลับ และมันคงไม่ได้แปลกหรือสร้างความหวั่นใจให้แก่ตัวของซันได้เท่ากับการเห็นลักษณะของมันแบบเต็มตา ตัวห้องที่อยู่หลังบานประตูนั่นมันถูกตกแต่งไปด้วยสีแดงฉานสมกับชื่อที่เรียกกันปากต่อปากว่าห้องเชือดสีแดงในตำนาน !ซันเคยได้ยินเพื่อนนกลุ่มคุยกันถึงห้องเชือดตรงหน้านี้ว่าการจะเข้าไปใช้บริการได้นั้นใช่ว่าจะง่ายเหมือนคิด ด้วยว่าหนึ่งเลยคือต้องเงินถึงพอสมควร เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูงสำหับห้องที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา จนเรียกว่าสะดวกสบายและเร้าอารมณ์กว่าห้องทั่วไปหลายเท่า ทั้งการจะทำบัตรสมาชิกที่มีเพื่อเข้าใช้งานยังยากพอสมควร แต่ใครจะไปคิดว่าวายุจะแอบมาทำมันจนได้“กลัว?”คำถามของคนตัวโตไม่ได้รับการตอบมานอกจากริมฝีปากที่เม้มแน่น เพราะไม่รู้จะตอบไปยังไงดี ในเมื่อเขาไม่ได้กลัวเสียหน่อย ต้องเรียกว่าประหม่าสิถึงจะถูก“อะ อืม”ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบใดกลับมา ริมฝีปาก
ไนต์คลับชื่อดังกลางเมืองเวลานี้ไม่ต่างจากทุกวันเท่าไรนัก บรรยากาศโดยรอบพื้นที่หลายตารางเมตรยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายเพศเช่นเคย แต่ละกลุ่ม แต่ละคน ปลดปล่อยอารมณ์ที่ซุกซ่อนเอาไว้ในใจตามที่ตัวเองรู้สึก บ้างโยกย้ายไปตามจังหวะของเสียงเพลงเร้าใจที่ถูกเปิดขับกล่อม บ้างก็นั่งบริหารเสน่ห์ตัวเองไปเรื่อย ๆ หรือบ้างก็ปล่อยความเศร้าให้เหล้ารสดีเป็นตัวช่วยทว่า โต๊ะด้านในสุดนั้นดูเหมือนจะต่างออกไป แบบที่ต้องเรียกว่าออกแนวคล้ายกำลังจะมีเรื่องก็คงไม่ผิด“เฮ้ย มองหน้านี่หาเรื่องเหรอครับ อยากกินกับแกล้มแบบไม่ต้องสั่งเหรอ” เสียงของหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มวิศวะเอ่ยถามไปด้วยท่าทีกวน ๆ เรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกคนอื่นของกลุ่มขวาได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ทางซ้ายผู้ถูกทักทายมาแบบชนิดกระตุกต่อมโมโหนั้น กลับทำเพียงแค่ยิ้ม ๆ รักษามาดนิ่งเอาไว้ไม่ต่างจากเมื่อก่อน“ไม่ให้มองหน้าแล้วจะให้มอง...อะไรล่ะ”แม้จะเป็นคำตอบจากน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่กลุ่มฝั่งขวาก็รู้ได้ในทันที ว่านี่คือการโต้กลับแบบไม่ต้องสงสัย หากแต่เพราะไม่อยากให้เรื่องมันลุกลามใหญ่กว่านี้จนเสียบรรยากาศเลยจำต้องเก็บอารมณ์ไป แต่ไม่วายทิ้งความปากดีที่เป็
หลังกลับมาจากค่ายอาสาก็ติดกับเสาร์อาทิตย์พอดี วายุเอาแม่มาอ้างเพื่อให้ซันนอนที่บ้านนี้ต่อจนสำเร็จ บอกว่าแม่อยู่คนเดียวคงเหงาน่าดู ไหน ๆ เป็นวันหยุดแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนท่านซะเลยตั้งแต่เปิดตัววายุอ้อนเก่งมาก ชอบเอาแต่ใจทว่าไม่ได้ท็อกซิกแบบให้ซันตามใจ ถึงกระนั้นอีกคนก็ไม่ได้รำคาญเท่าไรนัก ตรงกันข้าม…ออกจะชอบใจด้วยซ้ำไป“วายุ ทำไมมึงถึงไม่อนุญาตให้กูไปหาเพื่อนอะ” ซันเอ่ยถามแฟนหนุ่มขณะนั่งพิงไหล่กว้างบนเตียงนอน เพราะเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแจ็คได้โทร. มานัดซันให้ออกไปเจอที่ผับ แต่วายุก็ไม่ให้ไป บอกผ่านมือถือเลยทีเดียววายุยิ้มกว้าง “ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะกูอยากนอนกอดมึงทั้งวันทั้งคืนไง ถ้ามึงไปแล้วกูจะกอดใครล่ะ จะให้กูกอดหมอนข้างหรือไง”“เหตุผลแค่นี้ ?”“แล้วจะเอาแค่ไหนล่ะ”ครืด ครืด !จู่ ๆ เสียงสั่นของมือถือก็ดังขัดจังหวะทั้งคู่ วายุกับซันหันมองหน้ากัน“มือถือของใครสั่นวะ”“ของมึงแหละวายุ เพราะมือถือกูตั้งเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงที่กูชอบ แต่มึงอะตั้งระบบสั่น” ซันบอกวายุจึงหยิบมือถือของตัวเองที่วางอยู่ข้างหมอนขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างแปลกใจกับเบอร์ที่โทร. เข้ามาเพราะไม่คุ้นเลย“เบอร์ใครวะเ