“อีวอนน์เหรอ?” เฮนรี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยปลายสายส่งเสียงตอบรับ"มีอะไร?"“ฉันได้ยินมาว่าคุณอยู่ที่โรงพยาบาล คุณไม่สบายเหรอ?” อีวอนน์จับชายเสื้อของตัวเองพลสงเอ่ยถามขึ้นในตอนนั้นเอง เฮนรี่ก็เหลือบมองไปทางด้านข้างเตียงในโรงพยาบาล สายตาของเขาดูจริงจังไม่น้อย "ใช่"“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?” อีวอนน์ยืดหลังตรงและส่งเสียงดังขึ้น เธอรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย “แล้วคุณอยู่โรงพยาบาลไหนล่ะ? เดี๋ยวฉันไปหา!”"ไม่ต้อง!" ใบหน้าอันหล่อเหลาของเฮนรี่มืดลง “คุณทำงานเสร็จแล้วรึยัง?”ทันใดนั้น คำตอบพลันติดอยู่ในปลายลิ้นของอีวอนน์“ถ้ายังทำไม่เสร็จ ก็รีบทำให้เสร็จ ผมต้องการเอกสารทั้งหมดหลังจากกลับไป!”หลังจากพูดจบ เฮนรี่ก็วางสายไป“เฮนรี่ นั่นใครน่ะ?” เสียงผู้หญิงขี้สงสัยและอ่อนแอดังขึ้นข้างหลังเขาเมื่อเฮนรี่ได้ยินเสียง สีหน้าเย็นชาของเขาก็มืดลงทันที“ผมปลุกคุณรึเปล่า?” เขาหันกลับมา“ไม่ใช่ ยาชาเพิ่งหมดฤทธิ์ไปน่ะ คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ” ผู้หญิงคนนั้นจับหลังมือของตัวเอง เฮนรี่สัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่ฝ่ามือของเธอ ดังนั้น เขาจึงดึงมือของตัวเองออกมาและห่มผ้าให้เธอ “ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล”“ง
ก่อนหน้านี้ แจ็คกี้ก็มองเขาด้วยสายตาเป็นประกาย เขาคาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้จะมองเขาด้วยสายตาเป็นประกายเช่นนี้เหมือนกันผู้หญิงทั้งสองคนมองเขาด้วยสายตาเดียวกัน แต่กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันเหลือเกิน เขามองเห็นการดิ้นร้นและกระเสือกกระสนในแววตาแจ็คกี้ แต่ในแววตาผู้หญิงคนนี้เปล่งประกายดังคริสตัลใสซึ่งตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่สามารถทนต่อสายตาแบบนี้ได้เลยเมื่อเฮนรี่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลก ๆ ของตัวเอง ดวงตาของเขากลับมาเย็นชาอีกครั้ง เฮนรี่มองไปทางอื่นและพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง หลังจากนั้น เขาหยิบเอกสารขึ้นมาและพยายามค้นหาข้อผิดพลาดอีวอนน์มั่นใจมากว่าคราวนี้เธอไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดแล้ว เพราะฉะนั้น เธอจึงมองดูเฮนรี่ตรวจเอกสารอย่างสงบ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ว่าแต่ คุณกลับมาเมื่อไหร่เหรอคะ? ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมคะ?"เฮนรี่ปิดแฟ้มเอกสารด้วยสีหน้าไม่น่าพอใจ “เวลาอยู่ที่บริษัท ช่วยเรียกผมว่าประธานแลงคาสเตอร์ด้วย"ใบหน้าของอีวอนน์แข็งทื่อ แต่ทว่า เธอก็พลันกลับมามีสติได้อย่างรวดเร็ว เธอฝืนยิ้มออกมาและพยายามปกปิดความเจ็บปวดในใจของตัวเอง “ท่านประธานแลงคาสเตอ
ลินเนตต์ชำเลืองมองอีวอนน์ “ถ้าไม่มีอะไรจริง ๆ ก็ไม่ต้องปิดบังหรอกน่า! เธอทำตัวน่าสงสัยเหมือนกันนะ! เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ!""ไม่นะ!" อีวอนน์ส่ายศีรษะลินเนตต์ไม่ได้สนใจอีวอนน์เลย เธอเพียงแค่คว้ากระดาษมาจากโต๊ะเท่านั้น “รายงานทบทวนตนเอง?”อีวอนน์ลูบคอ "เกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมเธอต้องเขียนรายงานการทบทวนตนเองด้วยล่ะ?”"คือว่า..."ไหน ๆ ลินเนตต์ก็คว้าไปอ่านแล้ว อีวอนน์จึงไม่มีประโยชน์ที่จะปิดปังอะไรอีกต่อไป ด้วยเหตุนั้น เธอจึงเล่าทุกอย่างให้ลินเนตต์ฟังลินเนตต์มองอีวอนน์ด้วยความชื่นชมและยกนิ้วให้ "ให้ตายสิ! เธอเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการส่วนตัวและโดนประธานแลงคาสเตอร์จับได้ว่าหลับในที่ทำงาน! เธอโชคดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ไล่เธอออกน่ะ งั้นเขียนต่อไปก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะขอตัวลงไปข้างล่างก่อน”ด้วยความกังวลว่าตัวเองจะถูกจับได้ที่โผล่มาห้องทำงานของอีวอนน์ ลินเนตต์จึงผลักกระดาษกลับคืนให้อีวอนน์และรีบหนีออกไปจากห้องทำงานอย่างรวดเร็วอีวอนน์ค่อย ๆ รีดรอยยับบนกระดาษก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาเขียนต่อ เมื่อทำเสร็จแล้ว เธอจึงอ่านอีกรอบก่อนที่จะส่งให้เฮนรี่"ท่านประธานแลงคาสเตอร์คะ ฉันทำรายงาน
เฮนรี่วางกระเป๋าเอกสารลงและเดินเข้าไปในครัว เมื่อเดินไปถึงประตูห้องครัว เขาพลันหยุดและจ้องไปยังคนที่อยู่ข้างในด้วยความประหลาดใจมันกลับกลายเป็นว่าอีวอนน์กำลังทำอาหารอยู่!อีวอนน์สวมผ้ากันเปื้อนและกำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมส่วนผสมอยู่ข้างเตา แถมเธอยังใช้มีดหั่นหมูอยู่ด้วย อีวอนน์ก้มศีรษะลงจนเผยให้เห็นต้นคอที่เรียวยาว ผิวซีดของเธอเปล่งประกายออกมา เฮนรี่จ้องมองอีวอนน์อยู่ครู่หนึ่ง เขาถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอไปหนึ่งอึกนี่เป็นครั้งที่สามที่เฮนรี่รู้สึกอะไรบางอย่างกับผู้หญิงคนนี้!เขาไม่สามารถหาสาเหตุได้เลย หลังจากนั้น เฮนรี่คลายเนคไทรอบคอออกมาอย่างหงุดหงิดและตะโกนเรียกผู้หญิงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ “อีวอนน์ เฟรย์”ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก อีวอนน์ตกใจมากเสียจนเกือบตัดนิ้วตัวเองแต่ถึงอย่างไร เธอก็ไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลย เธอหันศีรษะกลับมาด้วยความประหลาดใจ “คุณกลับมาแล้ว!”เธอคิดว่าเฮนรี่จะไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ!เฮนรี่พลันกล่าวคำพูดออกมาอย่างเย็นชาในระหว่างที่กำลังจ้องมองแผ่นหลังของเธออยู่ “คุณทำอาหารอะไรอยู่น่ะ?”“บะหมี่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย” อีวอนน์เช็ดมือบนผ้ากันเป
ดูเหมือนผู้ช่วยโจจะเข้าใจสถาการณ์ทันที เขาเหลือบมองเฮนรี่ แล้วผลักประตูออกมาอีวอนน์ยืนอยู่หน้าประตูโดยก้มศีรษะต่ำ ร่างกายของเธอกำลังสั่นสะท้าน“อีวอนน์ เฟร... ไม่สิ คุณผู้หญิงครับ ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?" ผู้ช่วยโจแสร้งยิ้มออกมาด้วยความเคอะเขิน อีวอนน์ไม่ได้สนใจเขาเลย เธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอนั้นซีดและเต็มไปด้วยน้ำตา นั่นทำให้ผู้ชายที่อยู่ในห้องหน้าเสียไม่น้อยทันทีที่เห็นอีวอนน์ เฮนรี่พลันรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองในทันที“นายออกไปก่อน" เฮนรี่โบกมือให้ผู้ช่วย อันที่จริง ผู้ช่วยโจพร้อมที่จะออกไปนานแล้ว เขาหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมาแล้วรีบจากไปเฮนรี่เดินไปหาอีวอนน์และเหลือบมองลงไปดูสิ่งที่กระจัดกระจายกบนพื้น เขากะพริบตา “คุณได้ยินทุกอย่างแล้วเหรอ?”อีวอนน์กำมือและสำลัก “ทำไม... ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ด้วยล่ะ...?”"ผมขอโทษ" เฮนรี่หรี่ตาลงทว่า คำขอโทษของเฮนรี่ทำให้อีวอนน์รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม เธอคุกเข่าลงบนพื้นและเริ่มร้องไห้เสียงดังเฮนรี่เอื้อมมือออกไปและอยากจะดึงเธอขึ้นมา แต่ทว่า ความคิดนั้นพลันสลายไปเมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้หนักมาก เฮนรี่กำมือแน่นแล้วล้วงเข้าไปในกระเป
อีวอนน์เดินออกมาจากห้องหนังสือและลงไปชั้นล่างเพื่อหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด เธอต้องการทำความสะอาดเศษแก้วกาแฟหน้าของหนังสือก่อนที่จะกลับไปที่ห้องในวันรุ่งขึ้น เธอกลับมาทำงานพร้อมกับขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้า ลินเนตต์ตกใจทันทีที่เห็นเธอ “ให้ตายสิ! เมื่อคืนเธอไปทำอะไรมาน่ะ? เล่นจ้ำจี้กับใครอยู่รึเปล่า?”“อย่านั่งตรงนั้นนะ ถ้ามีคนมาเห็นเข้า เดี๋ยวเธอจะเดือดร้อนเอา” อีวอนน์ผลักลินเนตต์ออกจากโต๊ะ “ไม่ได้เล่นอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันก็แค่ฝันร้ายทั้งคืนเท่านั้น”"ฝันร้ายทั้งคืน?""ใช่ ฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทรมานมากเลย” อีวอนน์หาวและมองเพื่อนรักด้วยความกระสับกระส่ายด้วยดวงตาที่แดงก่ำ อีวอนน์นอนไม่หลับเกือบทั้งคืน ทันทีที่หลับตา เธอก็มักจะฝันว่าเฮนรี่ไปขอไขกระดูกจากคนอื่นแทน หากเธอปฏิเสธที่จะเป็นผู้บริจาคความฝันนั้นเหมือนจริงและน่ากลัวมากเสียจนอีวอนน์สงสัยว่าเฮนรี่จะทำอย่างนั้นกับเธอจริง ๆ รึเปล่า หากเธอไม่ตกลงที่จะเป็นผู้บริจาค“แล้วเธอฝันร้ายแบบไหนกันล่ะ?" ลินเนตต์ขยับเข้าไปใกล้อีวอนน์และถามด้วยความสงสัยอีวอนน์หรี่ตาลง “ช่างมันเถอะ ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาหาฉันเช้าขนาดนี้ล่ะ?" ลินเนตต์เลิกคิ้วและเ
“เดี๋ยวค่อยหาอย่างอื่นให้เธอแทนก็ได้” เฮนรี่โบกมืออย่างเฉยเมย น้ำเสียงของเขาสุดเย็นชาแจ็คกี้ในตอนนี้ยังเต้นไม่ได้ เธอจึงไม่สามารถเป็นดาวเด่นบนเวทีได้ แทนที่จะเก็บสร้อยคอเอาไว้กับตัว เฮนรี่ก็น่าจะมอบมันให้กับอีวอนน์ เฟรย์ดีกว่า“เข้าใจแล้วครับ” เนื่องจากเฮนรี่พูดเช่นนั้น ผู้ช่วยโจจึงไม่มีข้อโต้แย้งอะไร เขาดันแว่นขึ้นและยอมรับคำสั่งของหัวหน้าหลังจากเฮนรี่ทำงานเสร็จในตอนบ่าย เขาก็สวมเสื้อคลุมและกำลังจะไปที่โรงพยาบาลแต่ทว่า ผู้ช่วยโจกลับโผล่มาพร้อมกล่องของขวัญจำนวนมาก เหงื่อเต็มหน้าผากไปหมด "ท่านครับ!”"เกิดอะไรขึ้นกัน?" เฮนรี่จ้องมองผู้ช่วยโจวางกล่องของขวัญไว้บนโซฟา “คุณอีวอนน์ไม่ได้อยู่ที่บ้านครับ”"ไม่อยู่?" เฮนรี่ขมวดคิ้ว“ใช่ครับ แม่บ้านซูบอกผมว่าเธอออกไปซื้อของ”"ซื้อของ?" ใบหน้าของเฮนรี่เปลี่ยนเป็นสีเข้มเขาให้เวลาเธอพักร้อนครึ่งวันเพื่อพักผ่อน แต่เธอกลับออกไปซื้อของแทนเนี่ยนะ?เฮนรี่เม้มริมฝีปาก หลังจากนั้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาอีวอนน์อีวอนน์รับสายของเฮนรี่อย่างรวดเร็ว น้ำเสียงสุดประหลาดใจของอีวอนน์พลันดังขึ้นมาปลายสาย "สวัสดีค่ะ?”"คุณอยู่ที่ไหน?" เฮนร
อันที่จริง เดรสแขนยาวสีแดงยาวถึงเข่าที่อีวอนน์สวมอยู่นั้นมีราคาเกือบสามร้อยดอลลาร์แม้ว่ามันจะดูหรูหราน้อยกว่าชุดราตรี แต่สำหรับโอกาสแบบนี้ อีวอนน์ก็คิดว่ามันเป็นเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับเธอไม่น้อย“ผิดปกติแน่นอนอยู่แล้วสิ!” เลขาสาวขดริมฝีปากด้วยความรังเกียจและกล่าวคำพูดออกมาด้วยความเหยียดหยาม “มันจะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าเธอเป็นแค่พนักงานธรรมดา แต่เนื่องจากเธอเป็นเลขาส่วนตัวของท่านแลงคาสเตอร์ เธอจึงเป็นเหมือนตัวแทนภาพลักษณ์ของบริษัท การมางานเลี้ยงด้วยการแต่งตัวแบบนี้ เธอไม่เพียงแต่จะทำให้ทีมเลขาของเราต้องอับอายเท่านั้นนะ แต่เธอยังทำให้ภาพลักษณ์ของท่านแลงคาสเตอร์และบริษัทอับอายด้วย! รู้ตัวรึเปล่าล่ะ?""อับอาย?" อีวอนน์เม้มริมฝีปาก “ฉันไม่คิดว่าจะมีใครรู้สึกอับอายนอกจากพวกเธอหรอกนะ..."อีวอนน์จ้องมองเลขาทั้งสาม พวกเธอถึงกับพูดอะไรไม่ออกถึงกระนั้น ทั้งสามแต่งกายช่างยั่วยวนเสียจริง“มองอะไรมิทราบ อีวอนน์ เฟรย์?” เลขาสาวคนหนึ่งปิดหน้าอกและจ้องไปที่อีวอนน์อีวอนน์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเผยรอยยิ้มให้ทั้งสาม “ในวันแรกที่ฉันได้เข้ามาทำงานในบริษัทนี้ ท่านประธานแลงคาสเตอร์เคยบอกว่าเขาไม่อนุญ