“ฉันเป็นผู้ดูแลจากห้อง 901 ชั้นบนค่ะ” คำตอบดังมาจากข้างนอกสีหน้าของอีวอนน์แข็งทื่อไป901 คือเลขห้องของแจ็คเกอลีนไม่ใช่หรือ?ผู้ดูแลของเธอมาตอนนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับแจ็คเกอลีนรึเปล่านะ?“สวัสดีค่ะ คุณต้องการอะไรจากคุณแลงคาสเตอร์เหรอคะ?” อีวอนน์ถามแล้วพูดต่อ “พอตอนนี้เขาหลับไปแล้ว มาหาเขาใหม่วันพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ" “ไม่ได้ค่ะ คุณแจ็คเกอลีน คอนราดเพิ่งตื่น เธอเอาแต่ถามหาคุณแลงคาสเตอร์ไม่หยุดเลย” ผู้ดูแลที่อยู่ข้างนอกส่งเสียงเป็นกังวลระหว่างที่อีวอนน์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา เธอตระหนักว่าชายที่อยู่ข้างกายได้ลืมตาขึ้นมาและลุกขึ้นนั่ง“เฮนรี่ คุณ...”“เดี๋ยวผมจะไปดูชั้นบนเอง” เฮนรี่พูดพร้อมสวมเสื้อผ้าอีวอนน์คว้าแขนของเขา เธอไม่อยากให้เขาไป “แต่ตอนนี้คุณดูเหนื่อยมากเลยนะ ทำไมคุณไม่ไปพรุ่งนี้ล่ะ?”“ไม่ได้ ถ้าผมไม่อยู่ แจ็คกี้จะไม่สบายใจ” เฮนรี่ดึงแขนออกจากอีวอนน์ทันทีอีวอนน์มองดูมือเปล่าที่ว่างเปล่าราวกับหัวใจของเธอในตอนนี้เฮนรี่เป็นห่วงแจ็คเกอลีนงั้นเหรอ?ทำไมเขาถึงไม่สนใจเธอแบบนี้บ้างล่ะ?อีวอนน์หรี่สายตาลงเพื่อปกปิดความผิดหวังในดวงตา "ก็ได้ แต่คืนนี้คุณยังคงกลับมาไหม?”เ
“ใช่ค่ะ คุณคอนราดบอกมาแบบนั้น” ผู้ดูแลตอบอย่างนอบน้อมด้วยการโค้งคำนับเล็กน้อย“กลับไปเถอะค่ะ” อีวอนน์เผยยิ้ม "คะ?" ผู้ดูแลรู้สึกสับสนเล็กน้อย“ฉันจะไม่ไปพบเธอ อีกอย่าง ฉันยังลุกจากเตียงไม่ได้ด้วย" อีวอนน์ยกแขนซ้ายที่ถูกเจาะสายน้ำเกลือให้เธอดูเธอไม่มีประเด็นอะไรที่จะไปพบกับแจ็คเกอลีนเลยพฤติกรรมของเธอจากการพบกันครั้งล่าสุดทำให้อีวอนน์รู้ซึ้งแล้วอีวอนน์รู้สึกว่าเธอควรรักษาระยะห่างจากผู้หญิงสองหน้าคนนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกใส่ร้ายในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำผู้ดูแลรู้สึกหงุดหงิดทันที เธอไม่คิดว่าอีวอนน์จะปฏิเสธเธออย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น “คุณเฟรย์คะ ฉันรู้ว่าคุณกำลังรู้สึกลำบากใจ แต่คุณคอนราดบอกว่าเธอต้องการพบคุณ มิฉะนั้น...""เดี๋ยวสิ!" แม่บ้านซูทนไม่ไหวแล้ว เธอขัดจังหวะผู้ดูแลด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “มิฉะนั้นอะไร? เธอคิดว่าคุณคอนราดสำคัญอยู่คนเดียวเหรอ? ทำไมคุณผู้หญิงของเธอจะต้องขอพบคุณผู้หญิงของฉันด้วยล่ะ?" อีวอนน์พยักหน้าเห็นด้วย“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ...” คนดูแลเกือบจะกล่าวคำพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก เธอโบกมือและอธิบาย “ฉันไม่ได้จะสื่อแบบนั้น ฉันแค่พูดในสิ่งที่คุณคอนราดบอกมาเท่านั้นเอง"
“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายบอกอะไรบ้างคะ?" แม่บ้านซูอดกังวลไม่ได้ เธอสังเกตเห็นสีหน้าของอีวอนน์เปลี่ยนไปอีวอนน์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เขาบอกฉันว่าอย่ารังแกแจ็คเกอลีนอีก”“คุณแจ็คเกอลีนน่ะเหรอคะ?” แม่บ้านซูรู้สึกมึนงง “คุณผู้หญิง คุณได้ทำอะไรแบบนั้นรึเปล่า?”“ไม่เลย! ฉันจะไปรังแกหรือทำร้ายเธอทำไมกัน?! เธอนั้นแหละที่เป็นคนใส่ร้ายฉัน!”“แล้วทำไมคุณผู้ชายถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ?”“แจ็คเกอลีนโทรหาเฮนรี่ แจ็คเกอลีนบอกเฮนรี่ว่าเธอส่งผู้ดูแลมาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณอะไรสักอย่าง แล้วเธอก็แสร้งทำเป็นว่าถูกฉันไล่ นั่นเป็นเหตุผลที่เฮนรี่เตือนฉันว่าอย่ารังแกเธออีก” อีวอนน์โยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้าง เธอรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อยแม่บ้านซูตกตะลึงจนตบโต๊ะด้วยความโกรธอีกครั้ง “ช่างเป็นคนที่ไร้ยางอายอะไรขนาดนี้! เธอมาขอบคุณคุณผู้หญิงตอนไหนกัน?!”“นั่นไม่สำคัญหรอกค่ะ” อีวอนน์เช็ดใบหน้า “ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอจงใจบิดเบือนเรื่องราวและใส่ร้ายฉัน เฮนรี่เชื่อเธอ เขาไม่ได้ให้โอกาสฉันอธิบายเลยด้วยซ้ำ”“ให้ตายสิ! คุณผู้ชายทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?!” แม่บ้านซูถอนหายใจด้วยความไม่พอใจ“ช่างมันเถอะค่ะ ฉันเข้าใจ ท้ายที่สุดแ
แม่บ้านซูมองกลับมาและเผยยิ้มให้อีวอนน์ เมื่อเธอหันกลับไปมองที่เฮนรี่ ใบหน้าของเธอก็มืดลงอีกครั้งเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังโกรธเขาอยู่นี่เป็นครั้งแรกที่เฮนรี่เห็นแม่บ้านซูโกรธ เขาค่อนข้างตกใจไม่น้อยแม่บ้านซูเท้าเอว “คุณผู้ชายคะ ในฐานะคนรับใช้ของตระกูลแลงคาสเตอร์ มันมีบางอย่างที่ดิฉันไม่ควรพูดอยู่ แต่ฉันทนไม่ไหวแล้ว”เฮนรี่กะดริมฝีปาก “คุณต้องการจะพูดอะไรล่ะ?”“คุณผู้หญิงเป็นภรรยาของคุณรึเปล่า?” แม่บ้านซูถามเฮนรี่เหลือบมองอีวอนน์ “แล้วยังไงต่อ?”อีวอนน์เลิกคิ้วขึ้นมันต้องตอบว่าใช่หรือไม่ไม่ใช่หรือ?“คุณผู้หญิงเป็นภรรยาคุณนะคะ แต่คุณเคยปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นภรรยาของคุณบ้างไหม?” แม่บ้านซูชี้ไปที่อีวอนน์สีหน้าของเฮนรี่เปลี่ยนเป็นสีเข้ม “ผมไม่ได้ปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นภรรยาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”“เมื่อไหร่งั้นเหรอคะ?” แม่บ้านซูตบหน้าอกตัวเอง “ลองถามตัวเองดูสิคะ คุณเคยเอาใจของคุณผู้หญิงไปใส่ในใจของตัวเองดูบ้างไหม? มันไม่มีสามีคนไหนบนโลกหรอกที่จะไปดูแลผู้หญิงคนอื่นในขณะที่ภรรยานอนอยู่ที่โรงพยาบาล" ทันทีที่อีวอนน์ได้ยินคำพูดของแม่บ้านซู เธอก็ก้มหน้าลงทันที ความคับข้องใจพลันผุดขึ้น
มุมปากของอีวอนน์กระตุกเล็กน้อย แต่เธอก็เงียบไม่พูดอะไรเธอรู้ว่าเฮนรี่มาที่โรงพยาบาลมาสองสามวันแล้ว แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่มาเยี่ยมเธอแม่บ้านซูโกรธเรื่องนั้นมาก เธอโกรธขนาดที่ต้องการโทรบอกนายท่านแลงคาสเตอร์เรื่องนี้เลยด้วย แต่ทว่า อีวอนน์ห้ามเธอเอาไว้ก่อน“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ? โอเคขึ้นรึเปล่า?” เชนมองไปที่ร่างที่บอบบางของอีวอนน์และถามอย่างแผ่วเบาอีวอนน์รวบรวมสติแล้วส่ายหน้า “ดีขึ้นแล้วแหละ ขอบคุณที่ดูแลฉันมาตั้งสองสามนะ คุณหมอซัมเมอร์ส”“ไม่ต้องห่วง มันเป็นหน้าที่ของผมในฐานะหมออยู่แล้ว แต่หลังจากที่คุณออกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณต้องใส่ใจสุขภาพของคุณมากกว่าเดิมนะ” เชนเตือนอีวอนน์ฮัมเสียงเบา ๆ เป็นการตอบกลับและปิดกระเป๋าเดินทาง “คุณเฟรย์อยู่รึเปล่าคะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นที่ประตูอีวอนน์และเชนชำเลืองมองไปทางประตูด้วยกัน ทั้งสองสังเกตว่ามีคนมายืนอยู่ที่ประตูห้องซึ่งถูกเปิดทิ้งไว้ แจ็คเกอลีนเผยยิ้มอยู่บนรถเข็น "ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?" ด้วยเหตุผลบางอย่าง เชนจึงก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวและให้อีวอนน์หลบข้างหลังอีวอนน์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“
อีวอนน์ยืดขาออกจนเกือบล้มลงจากเตียง "คุณว่าอะไรนะ? หย่าเหรอ?"แน่นอน ดูเหมือนว่าเชนจะพูดถูก“ใช่ เพราะคุณเฟรย์ไม่คู่ควรกับเฮนรี่เลยสักนิด!” แจ็คเกอลีนเงยหน้าขึ้นและมองดูอีวอนน์อย่างจองหองเมื่อเธอได้ยินความต้องการของแจ็คเกอลีนอีกครั้ง อีวอนน์ดึงเก้าอี้และนั่งลง เธอกลัวว่าตัวเองจะทรุดลงไปจริง ๆ “ไม่คู่ควร? หมายความว่ายังไงกัน?" เธอเม้มริมฝีปาก “มันก็หมายความว่าเธอไม่คู่ควรกับเขายังไงล่ะ เข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่าเนี่ย?" แจ็คเกอลีนตอบกลับอีวอนน์กำหมัดแน่นขึ้น เธอรู้สึกโกรธไม่น้อย “ฉันเข้าใจนะ แต่อะไรกันล่ะที่ทำให้คุณบอกว่าฉันไม่คู่ควรกับเฮนรี่ล่ะ?”“คุณคิดว่าตัวเองมีค่าพอไหมล่ะ?” แจ็คเกอลีนถามกลับพร้อมกับมองไปที่อีวอนน์ตั้งแต่หัวจรดเท้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีวอนน์รู้สึกแย่ไม่น้อยภายใต้การจ้องมองของเธอ เพราะฉะนั้น อีวอนน์จึงดึงเสื้อแจ็กเกตให้แน่นขึ้นรอบตัว “คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดว่าฉันคู่ควรหรือไม่คู่ควรกับเขาสักหน่อย!" เธอพูดอย่างอ่อนแรง “คุณเฟรย์ ฉันไม่ได้อยากจะดูถูกคุณหรอกนะ” แจ็คเกอลีนเอื้อมมือออกไปและเผยยิ้มอย่างมีเลศนัย “แต่ฉันไม่เห็นอะไรที่พิเศษหรือน่าทึ่งเกี่ยวกับคุณเลย ตั้งแต่ฉั
“เฮนรี่?” อีวอนน์มองไปยังผู้ชายที่ประตูด้วยความตกใจ "ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?"เฮนรี่ไม่ได้สนใจเธอเลย สายตาอันเย็นชาของเขาจับจ้องอยู่ที่มือของเชนซึ่งวางอยู่บนศีรษะของอีวอนน์ เขารู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อยเมื่อสังเกตเห็นความไม่พอใจบนหน้าของเฮนรี่ เชนจึงยกมือออกและกล่าวคำพูดออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ “ผมเป็นคนบอกให้เขามาเองแหละ เพราะคุณออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เพราะฉะนั้น เขาต้องมารับคุณสิ" "ค่ะ เข้าใจแล้ว" อีวอนน์พยักหน้าอย่างเข้าใจ“เมื่อกี้พวกนายทำอะไรกันน่ะ?” เฮนรี่ถามอีกครั้งและเดินเข้าไปหาทั้งสองคน“อย่าเข้าใจผิดสิเพื่อน ก็แค่มีอะไรติดหัวพี่สะใภ้อยู่ ฉันก็เลยหยิบออกให้เอง" เชนกะพริบตา “ใช่ไหมครับ พี่สะใภ้?”อีวอนน์เองก็ไม่อยากให้เฮนรี่เข้าใจผิดเช่นกัน เพราะฉะนั้น อีวอนน์เห็นด้วยกับคำพูดของเชนโดยไม่รู้ตัว "ใช่ค่ะ"“แล้วอะไรนั่นมันอยู่ไหนแล้วล่ะ? ขอดูหน่อยสิ” เฮนรี่เม้มริมฝีปากเข้าหากันอีวอนน์ตื่นตระหนก ไม่นะ! จริงจังไม่เข้าท่า!เธอจะเอาอะไรให้เขาดูได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อีวอนน์ก็จ้องไปที่เชนเชนลูบจมูกโดยรู้ว่าตนเป็นฝ่ายผิด “โทษทีนะเฮนรี่ ให้ดูไม่ได้ ฉันเพิ่งโยนทิ้งไปเ
“ทำแท้งเนี่ยนะ?” มุมริมฝีปากของอีวอนน์กระตุก “ลิน เธอคิดมากรึเปล่าล่ะเนี่ย? ฉันยังไม่ท้องเลย ฉันจะไปทำแท้งได้ยังไงกันล่ะ?" “'งั้นถ้ามันไม่ใช่การทำแท้ง ก็ต้อง...”“ช่างมันเถอะ ว่าแต่เธอมาที่นี่ทำไมกัน? ไม่กังวลว่าผู้จัดการจะจับได้ว่าอู้งานเหรอ?” อีวอนน์เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เธอกลัวว่าลินเนตต์จะพูดความคิดที่ชวนให้อ้าปากค้างมากกว่าเดิมออกมา“ผู้จัดการของเราออกไปแล้วน่ะ ช่วยไม่ได้” ลินเนตต์พูดพร้อมกับถือถ้วยอย่างยินดี “ฉันมารอเธอตั้งแต่ได้ยินมาว่าเธอกลับมาแล้ว ฉันมีเรื่องอยากจะบอกน่ะ”"บอกอะไร?" อีวอนน์ถามขณะเปิดคอมพิวเตอร์“เรื่องทริปทีมเที่ยวไง!”"ทริปทีมเที่ยว?" อีวอนน์ตกตะลึงลินเนตต์จ้องตาเธอ “เธอคงไม่ได้ลืมหรอกใช่ไหม?”อีวอนน์หัวเราะแห้ง ๆ ออกมา"ให้ตายสิ!" ลินเนตต์ตบโต๊ะ “อีวอนน์ เธอนี่มันจริง ๆ เลยนะ เธอลืมทริปเที่ยวประจำปีของบริษัทไปได้ยังไง?”“พอดีตอนนี้มีหลายเรื่องเกินน่ะ ฉันจำไม่หมดหรอก แถมฉันก็ไม่ได้สนใจงานนี้ด้วย เราคงร้องคาราโอเกะกันมั้ง แค่คิดก็น่าเบื่อแล้ว” อีวอนน์กล่าวลินเนตต์กระดิกนิ้วด้วยรอยยิ้ม “ไม่ ไม่ ไม่ ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เนื่องจากบริษัทของเราถู