“โซเร็น” เซนพูดด้วยเสียงต่ำจนเหมือนถูกเค้นออกมาจากลำคอ“ครับท่านประธาน” โซเร็นมายืนหน้าเซนทันที ถึงแม้เขาจะไม่คุ้นเคยกับลินด์ซีย์แต่เขาก็แอบชื่นชมความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของเธอสีหน้าของเควนตินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นั้นบึ้งตึง เมื่อเทียบกับโซเร็นแล้วเควนตินนั้นคุ้นเคยกับลินด์ซีย์มากกว่าและเขาก็ชอบเธอไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงธรรมดาและใจดีคนนั้นจะมีด้านที่เด็ดเดี่ยวขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้นตอนเซนเลือกเจนนี่ก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น“อย่าปล่อยให้ใครหลุดออกไป” ท่าทางของเซนในตอนนี้เหมือนกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรกสีหน้าของครีดที่อยู่ตรงข้ามได้เปลี่ยนไปทันที “เซน กุกเกนไฮม์! นี่เป็นถิ่นของฉัน! ทำไมถึงกล้าดีขนาดนี้?”ครีดเป็นนักธุรกิจที่หน้าเงินและเป็นที่เกรงขามของคนส่วนใหญ่ เซนเองก็เป็นแค่เด็กนิสัยเสียแล้วยังมากล้าคุยกับเขาแบบนี้เหรอ?น่าเสียดายที่คำพูดของเขาก็เงียบไปทันทีเมื่อเขาเห็นว่าเซนกำลังชี้มาที่เขา“เรายังอยู่ในน่านน้ำในประเทศ แก…”“ถึงแม้ฉันจะฆ่าแกตอนนี้ ใครจะกล้าหยุดฉัน?” เซนพูดด้วยเสียงต่ำพร่าและทำให้ครีดนั้นกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวแสงอาทิตย์ที่กำลังตกดินทำใ
แววตาที่เย็นชาของเซนจ้องไปที่เจนนี่ เลนิคเป็นเวลานาน ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังและคำพูดที่ออกมาจากปากที่บาง ๆ ของเขาก็ทิ่มแทงจนเลือดไหล “ผมลืมที่จะบอกคุณ สิ่งที่ผมต้องการจะพูดตอนนั้นก็คือ…”เจนนี่กลัวท่าทีไร้อารมณ์ของเซนมาก เธอปิดหูตัวเองแล้วแผดเสียงออกมา “เซน! หยุด! ฉันไม่ต้องการจะได้ยิน!”แต่ในตอนนี้เซนนั้นเหมือนกับปีศาจที่ผุดมาจากนรก รอยยิ้มบนหน้าของเขานั้นเย็นชาและเหมือนกับฆาตกร เขาปัดมือของเจนนี่ทิ้ง เขาจงใจพูดอย่างช้า ๆ ราวกับว่าจะทรมานเธอว่า “ที่จริงแล้วผมอยากจะพูดว่า เจนนี่ เลนิค คุณไม่ใช่คนที่ผมเลือก”เซนกำลังจะตายจากความปวดร้าว แล้วทำไมเจนนี่ถึงไม่ได้รับรอยขีดข่วนอะไรเลยล่ะ? ถ้ามีอะไรที่เกิดขึ้นกับลินด์ซีย์ พวกเขาล้วนเป็นฆาตรกรทั้งหมด แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่จะต้องปล่อยเจนนี่ไป?หากเขาไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ทุกคนก็สมควรลงนรกไปด้วยกันให้หมด“ไม่! เซน คุณไม่ได้รักเธอสักนิดเดียว! คุณรักฉันมาตลอด!” เจนนี่ตะโกนออกไปขณะที่น้ำตานองหน้า เธอดูหมดสภาพมาก“ผม ไม่ ได้ รัก คุณ” เซนพูดเน้นทีละคำ เพื่อให้มันดังก้องในหูของเจนนี่เจนนี่อึ้งไป ความจริงที่เจ็บปวดถูกเปิดเผยต่อหน้า
เซนหยิบบางอย่างไว้ในมือและเดินออกจากบ้านราวกับว่าเขาไม่ได้ยินเสียงคำรามนั้นสิ่งที่เขาเอาติดตัวไปด้วยคือหมอนสีขาว......ในเวลานี้ในอพาร์ตเมนต์ภายใต้ชื่อเซนโซเร็นมองไปที่ชายที่หันหลังให้เขาและรายงานอย่างระมัดระวัง “ท่านประธาน ครีดต้องการพบคุณอีกครั้ง”เซนเงียบไปนาน เมื่อโซเร็นคิดว่าเซนจะไม่ตอบ จู่ ๆ เขาก็พูดว่า "ฉันไม่อยากเห็นมัน"ในช่วงสองสัปดาห์นี้ครีดได้เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการลักพาตัวของลินด์ซีย์และเจนนี่ภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมดค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อโซเร็นได้ยินว่าเจนนี่วางแผนไว้ทั้งหมด เขารู้สึกตกใจกับสิ่งที่ความริษยาของผู้หญิงจะทำได้อย่างไรก็ตามเซนไม่ได้ดูแปลกใจอะไรมากมายยิ่งกว่านั้นในช่วงครึ่งเดือนนี้ นอกจากการแสดงออกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินรายงานจากการค้นหาและกู้ภัยแล้ว เวลาอื่นใบหน้าของเขาจะไม่มีอารมณ์ใด ๆ ราวกับว่าวิญญาณของเขาได้ติดตามลินด์ซีย์ไปด้วยตั้งแต่ที่เธอกระโดดลงไปในทะเล สิ่งที่เหลืออยู่คือเปลือกแข็งที่เย็นเยียบและแข็งโซเร็นคิดย้อนกลับไปในวันนั้นหลายครั้งและรู้สึกว่าเซนต้องการจะกระโดดตามลินด์ซีย์ไปจริง ๆหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เซนกล
เซนจัดเสื้อของตนให้เรียบร้อยโดยไม่มีสีหน้าเศร้าโสกสักนิดถ้าโซเร็นไม่ได้เห็นอาการนอนไม่หลับและวิตกกังวลของเซนเป็นการส่วนตัวในช่วงนี้ เขาคงไม่สามารถบอกอะไรได้จากสีหน้าของเซนได้โซเร็นแอบถอนหายใจ ตอนนี้เขาหวังว่าจะไม่พบศพของลินด์ซีย์ เพื่อที่เซนจะยังคงมีความหวัง“ช่วงนี้บริษัทเป็นยังไงบ้าง” จู่ ๆ เซนก็ถามขึ้นดวงตาของโซเร็นเป็นประกายขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าเซนหมายถึงอะไร ในที่สุดท่านประธานก็เริ่มตั้งสติได้สักทีดังนั้นเขาจึงกล่าวทันทีว่า "กิจการของบริษัทได้รับการจัดการโดยเควนตินแต่พอไม่มีคุณเขาก็มีปัญหา พวกคณะกรรมการกดดันเขาอยู่ตลอดเวลา ผมเกรงว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่นานพวกเขาอาจจะปลดคุณออกจากตำแหน่ง”"เฮอะ! ไอ้แก่พวกนั้น!" เซนเยาะเย้ย “ส่งสูทของฉันมา ฉันจะไปที่ออฟฟิศตอนบ่ายนี้”ถ้าเป็นไปได้เซนต้องการสละทุกสิ่งที่เขามีเพื่อแลกกับความเป็นอยู่ที่ดีของเธอ แต่ถ้าเขาไม่มีอะไรเลย เธอจะยังกลับมาหาเขาอีกไหม?ถ้าเงินเท่านั้นที่ทำให้เขารักษาหัวใจของเธอไว้ได้ เขาก็จะไม่รังเกียจที่จะมอบความมั่งคั่งทั้งหมดในโลกให้กับเธอเพื่อที่เธอจะได้ไม่มองใครอีกเลยโซเร็นตื่นเ
ครึ่งปีให้หลังณ เมืองแอตแลนติกเควนตินจับเซนอย่างระมัดระวังที่ไหล่ของเขาก่อนที่จะกดปุ่มลิฟต์ชายคนนั้นพิงไหล่ของเขาพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นพร้อมกุมฝ่ามือไว้ที่ท้อง พยายามบรรเทาความรู้สึกไม่สบายทางกายที่เป็นอยู่ในฐานะผู้ช่วยของเซน เควนตินยอมรับว่าเขาค่อนข้างต้องรับผิดชอบที่ยอมให้เซนดื่มจนเมา อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เมื่อใดก็ตามที่เซนพบแอลกอฮอล์แบบใดก็ตาม เซนจะไม่ปฏิเสธเลยไม่ว่าใครจะชวนให้เขาดื่ม เควนตินไม่สามารถแม้จะหยุดเขาได้พอพาเซนเข้ามาในบ้านได้ เควนตินก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ จากนั้นเขาก็วางเซนลงบนเตียงและยัดหมอนสีขาวข้าง ๆ เขา จากนั้นเขาก็ปิดประตูออกไปอย่างระมัดระวังครั้งแรกที่เซนเมา เควนตินกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ดังนั้นเขาจึงคอยดูแลเซนทำให้เควนตินตระหนักว่าเซนจะนอนหลับสบายเมื่อเขาเมา วันรุ่งขึ้นเมื่อเซนตื่นขึ้นมาเจอเขาอยู่ เซนดูเกรี้ยวกราดมากจนเควนตินไม่กล้าที่จะค้างคืนอีกต่อไปชายที่อยู่ข้างหลังกอดหมอนสีขาวไว้ในอ้อมแขนและดมกลิ่นจากหมอน ริมฝีปากบางของเขาแยกออกเล็กน้อยขณะที่เขาพึมพำอะไรบางอย่างมันเป็นเสียงพึมพำเบา ๆ ที่ไม่มีใครได้ยิน “ภรรยา...”เช้าวันรุ
อาหารในเวสต์วิงส์นั้นดีสมกับการรีวิว อาหารทุกจานบนโต๊ะเป็นของที่ลินด์ซีย์ จูลคุ้นเคย แต่เธอกินไม่รู้รสสักนิด แอลลี่ วิลฟอร์ดกำลังกินอาหารบนโต๊ะอย่างมีความสุข เธอต้องลองทุกจานในเมนู แล้วบอกให้ลินด์ซีย์ลองชิมดูบ้างเมื่อเจอของอร่อย ลินด์ซีย์ไม่ได้กินอะไรมากมายแต่เธอกลับรู้สึกแน่นท้องแล้ว “ฉันจะไปห้องน้ำหน่อยนะ” ลินด์ซีย์กล่าวพลางวางช้อนส้อมลง แอลลี่แต่งรูปที่เธอถ่ายมาเพื่อที่จะโพสต์บนโซเชียลมีเดีย เธอเลยพยักหน้ารับง่าย ๆ "ได้สิ" ลินด์ซีย์เช็ดมือด้วยกระดาษทิชชู่บนโต๊ะ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องส่วนตัว เมื่อเธอไปถึงทางเดิน ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากมุมตรงข้ามฉากกั้น "ประธานกุกเกนไฮม์ คุณเป็นเด็กหนุ่มที่ดูท่าทางดี ไม่เหมือนลูกชายที่ไร้ความสามารถของผม ที่ทำให้ผมโกรธได้ทุกวี่ทุกวัน" เมื่อได้ยินชื่อนั้น เท้าของลินด์ซีย์ก็หยุดชะงักอยู่กับที่ ในแอตแลนติกซิตี้ทั้งหมด จะมีใครอีกบ้างที่ถูกเรียกว่า "ประธานกุกเกนไฮม์" นอกจากเซน กุกเกนไฮม์? "ขอบคุณสำหรับคำชมครับ" เสียงที่คุ้นเคยและเย็นชาดังขึ้น มันยืนยันความคิดของลินด์ซีย์ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึงครึ่งปี แต่ภาพในวันนั้นยังอยู่ตรงหน้าของเธ
“นายคิดว่าเลียม วิลฟอร์ดจะปล่อยให้คู่หมั้นและน้องสาวของเขากลับมาจากต่างประเทศเพื่อมาดูแลบริษัทแค่นั้นรึเปล่า?” เควนตินตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า "ไม่ครับ" แววตาเซนหม่นลง ‘ผู้หญิงปริศนาคนนี้คือใคร?’ จู่ ๆ ก็มีความหวังเกิดขึ้นในใจอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งที่เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ดูเหมือนเควนตินจะคิดอะไรบางอย่างออก เขาพูดว่า "ท่านประธานครับ เรามีความร่วมมือกับวิลฟอร์ด คอร์ปอเรชั่น ตัวแทนฝ่ายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะมาในวันนี้เพื่อรับตัวอย่างทดสอบครับ" เซนวางมือของเขาลงบนโต๊ะอย่างสบาย ๆ ก่อนจะค่อยพูดว่า "เราลองไปดูกันดีกว่า" แอลลี่ วิลฟอร์ดรู้สึกตื่นเต้นกับทุกอย่างที่เธอเห็น เมื่อเธอมาถึงสำนักงานเดนาริอุส เธอมองไปรอบ ๆ ในขณะที่ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กำลังจัดการเรื่องงาน สำนักงานในเดนาริอุสมีความเป็นมืออาชีพมาก ไม่มีใครถามสักคนว่าเธอมาทำอะไรเมื่อพวกเขาเห็นเธอ เพราะงั้นแอลลี่เลยรู้สึกเบื่อนิดหน่อย เธอกำลังจะกลับ แต่จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงที่จริงจังดังใกล้ ๆ “สวัสดีครับท่านประธาน” 'ประธานแห่งเดนาริอุสเหรอ?' ฝีเท้าของแอลลี่หยุดลง เธอเคยได้ยินชื่อเดนาริอุสซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกร
ความสุขของฌอนมองเห็นได้อย่างชัดเจน “ฌอน คราวนี้ฉันมีเรื่องจะถามพี่หน่อย” "อะไรเหรอ?" “พี่รู้ไหมว่าเจนนี่ เลนิคอยู่ที่ไหน?” หลังจากลินด์ซีย์เดินทางกลับมาที่ประเทศนี้ เธอสังเกตเห็นว่าเจนนี่ เลนิคไม่ได้อยู่ในเดนาริอุสแล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็หาหล่อนไม่พบ ถ้าเซนตั้งใจจะซ่อนใครสักคน เขาสามารถทำได้โดยไม่มีใครค้นพบ ฌอนไม่แปลกใจเลยที่ลินด์ซีย์จะถามคำถามนี้ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "พี่ได้ยินมาว่าเจนนี่มีปัญหาทางจิต เซนเลยส่งเธอไปโรงพยาบาลจิตเวช" เมื่อลินด์ซีย์ได้ยินเช่นนั้น เธอก็หัวเราะเยาะ "เซน กุกเกนไฮม์พยายามหนักมากจริง ๆ ที่จะช่วยเจนนี่ เลนิคหนีกฎหมาย" ลินด์ซีย์คิดว่ามันคงจะลำบาก ถ้าเซนตั้งใจจะซ่อนเจนนี่จริง ๆ เธอคงจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการตามหาหล่อน เธอไม่เชื่อว่าเซนจะเต็มใจส่งเจนนี่ไปโรงพยาบาลจิตเวช บางทีเขาอาจซ่อนผู้หญิงแสนล้ำค่าของเขาไว้ที่อื่น หลังจากการกลับมาของลินด์ซีย์ เธอตระหนักว่าเฮเมร่าและเดนาริอุสไม่มีความร่วมมือใด ๆ อีกต่อไป แถมพวกเขายังกลายเป็นคู่แข่งที่ดุเดือด “อย่าซาบซึ้งใจและอย่าบอกให้พี่ระวังตัวเองอีก เซน กุกเกนไฮม์ทำให้พี่หงุดหงิดตลอดเลย”