Share

บทที่10

10 ธุรกิจใหม่ของครอบครัว

เฮงเข้านอนเร็วพอสมควรในคืนนั้น เพราะเขาต้องการจะตื่นพร้อมครอบครัวของเขาในตอนเช้า แต่เขาคิดว่าเขาอาจจะต้องการงีบในช่วงบ่ายที่โต๊ะอาหาร เขาได้พูดกับเด่นว่า

“พ่อคิดว่ามันจะดีกว่า ถ้าเธออยู่ใกล้บ้านและอยู่กับแพะในวันนี้ เจ้าลูกชาย” เด่นไม่อยากให้เฮงพูดอะไรอีก เขาจึงได้แต่ฝืนยิ้ม

“ได้ครับพ่อ เอาตามที่พ่อพูดเลยครับ”

ใช่ ถ้าลูกลงไปที่แม่น้ำ ก็สามารถตรวจดูคันเบ็ดและจัดวางมันเสียใหม่ วันนี้พ่อคงจะยุ่งอยู่ที่นี่ทั้งวัน กิจวัตรประจำวันของเราอาจจะต้องเปลี่ยนไปในสองสามวันนี้นะ”

“โอเคครับ พ่อ ว่าแต่กระเป๋าเป้อีกใบล่ะ”

“โอ้ ใช่สิ ฉันจะลืมเรื่องนั้นไปเลย… เอ่อ ปล่อยแพะไว้ก่อน แล้วไปเอามันมาก่อนเถอะ เธอสามารถเอาสกู๊ตเตอร์ไปได้ มันมีหลายอย่าง ดังนั้นเธอจะได้กลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง หรือประมาณนั้น เธอจะกลับมาก่อนเด็กผู้หญิงตื่นมา แล้วมันจะเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์สำหรับพวกเขา แพะมันรอเธอได้อยู่”

ในความเป็นจริงเขากลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง ไม่อยากเสียเวลาสักนาทีในความโชคดีของเขาไปนานกว่านี้ ครอบครัวลียังอยู่ที่โต๊ะตอนที่เขากลับมา และเฮงส่งดินไปดูคนออสเตรเลียว่าเป็นอย่างไรบ้าง

พวกเขาตื่นแล้ว แต่ระบมทั้งภายในและภายนอกจากการพลัดตกเขา และจากการดื่มเบียร์ พวกเขายังรู้สึกอายนิด ๆ ที่ไม่รู้ว่ากิจวัตรประจำวันของครอบครัวนี้ และมีหวังว่าจะมีใครสักคนจะมารับพวกเขาไป

“คุณนอนหลับดีไหม” ดินถาม

“ดีค่ะ เหมือนข้างนอกสว่างแล้ว” เจนตอบ

“อะไรนะ” ดินพูด

“โอ้ เอ่อ เธออธิบายว่า เหมือนกับเอาน้ำมาดับไฟ

“เข้าใจแล้ว” ดินยิ้ม “เธอต้องการออกมาข้างนอกตอนนี้ไหม”

พวกเขาคลานออกมาจากใต้มุ้ง หาหวีในกระเป๋าแล้วตามดินออกไปข้างนอก

“คุณจะกินอะไรดี” เธอถาม เชิญพวกเขาจะนั่งบนโต๊ะพร้อมกับกวาดมือของเธอ พวกเขายกมือไหว้พ่อแม่ของเธอ และเด่นซึ่งพวกเขาก็ทำอย่างนั้นด้วย “เด่นมีเซอร์ไพรส์มาให้คุณด้วย”

เขาทำกระเป๋ามาให้ และสาว ๆ ก็ตบมือให้เขา “คุณตื่นแต่เช้ามาทำเอากระเป๋ามาให้เรางั้นหรือ”

ดิน แปลภาษาให้

“ใช่” เขาโกหกอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวทั้งที่ไม่ได้ตื่นเร็วกว่าปกติเลย

“โอ้ ขอบคุณมาก เด่น”

เขายินดีที่จะทำให้

“แม่ถามว่า อยากทานอะไรไหม”

“เอ่อ อะไรนะคะ” ซูซานถาม

“ข้าวต้ม และแกงเหมือนที่เรากินกันคืนก่อน”

“โอ้ ข้าวต้มก็ดีนะ แต่ฉันไม่รู้ว่าฉันจะกินแกงเป็นอาหารเช้าได้ไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเผ็ด โปรดขอบคุณแม่เธอแทนพวกเราด้วย” เจนกล่าว

ดินบอกกับแม่ของเธอ

“แม่ฝากบอกว่าเธอจะทำไข่เจียวให้พวกคุณด้วยนะ”

“ค่ะ มันจะดีมากเลย”

“เธอถามว่าคุณเป็นยังไงบ้างวันนี้ หลับสบายดีไหม”

“บอกเธอว่าเราหลับสบายดีมาก และวันนี้รู้สึกดีมากเลย ดีอยู่ค่ะ แค่ยังปวดและเจ็บอยู่ แต่ก็ดีแล้วค่ะ เราโชคดีมากที่พี่ชายของคุณไปพบเรา และครอบครัวของคุณช่วยเหลือ และยังคงช่วยพวกเราอยู่”

“ไม่เป็นไร พวกเขา เอ่อ เรายินดีที่ได้ช่วยคุณ คุณต้องการไปหาหมอวันนี้ไหม”

“คุณอยากไปพบหมอไหม ซู”

“ฉันคิดว่าไม่นะคะ ทุกส่วนของร่างกายฉันเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ฉันคิดว่าหมอไม่ต้องทำอะไร แค่ทานพาราเซตามอล และทาครีมก็พอแล้ว และเรามีของพวกนั้นอยู่แล้ว”

“ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ ไม่อยากไปหาหมอ เราไม่เป็นไร เราเป็นด็กสาวที่แข็งแกร่งมาก ๆ”

“ได้ แล้วแต่คุณ” เธอแปลให้ครอบครัวของเธอฟัง และพ่อของเธอก็จับเท้าที่แพลงของซูซานขึ้นมา เขานวดมันอย่างช้า ๆ พลิกมันไปทั้งสองข้างหมุนวนตามเข็มนาฬิกา และหมุนจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง มองดูมันอย่างตั้งใจ แล้วเขาทำมันอีกครั้ง แต่เห็นหน้าซูซานแสดงความเจ็บปวด

“มันก็ไม่ได้แย่อะไร” เขาบอก “แล้วมันเป็นช่วงเวลาฟื้นฟูตัวเอง สมุนไพรของดาและครีม และการบำบัดด้วยมือของคุณ และดิน มันได้ผลอย่างน่ามหัศจรรย์ ช่วยได้ดีมากเลย! สิ่งนั้นช่วยเตือนความจำฉัน ฉันต้องโทรศัพท์ไปคลีนิคหลังจากนี้ เธอต้องการงานไหม หากว่าพวกเขาเสนองานให้เธอ”

“แน่นอนสิคะ พ่อ ฉันอยากจะทำ”

“และทำงานกับป้าดาด้วยอีกไหม”

“ค่ะพ่อ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

“เอาล่ะ ฉันจะโทรหาเขาและไปบอกป้าเธอด้วย เว้นเสียแต่เธอจะลงไปเอง และเอาสมุนไพรมาเพิ่มไว้ใส่เท้าของเด็กสาว แล้วบอกป้าของเธอด้วยตัวเอง”

“ไม่ค่ะ พ่อ ฉันจะไปเองและเอาสมุนไพรทั้งหมดเอง แต่ฉันอยากจะให้พ่อจัดการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็พาฉันลงไปอย่างเป็นทางการแบบนั้นได้ไหม”

“แน่นอน สาวน้อย แน่นอน เราจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากวันนี้ บอกพวกสาว ๆ ว่าพวกเขาสามารถอยู่ได้นานเท่าที่พวกเขาต้องการเลยนะ”

เธอทำตามเช่นนั้น

“ขอบคุณพ่อของเธอแทนเราด้วย ดิน เขาใจดีมากจริง ๆ แล้วพวกเราจะโทรไปบอกครอบครัวเราได้อย่างไรว่าพวกเราสบายดี เราควรจะโทรหาเมื่อคืนนี้ แต่ลืมไปเลย แล้วก็ไม่มีสัญญาณอีกเมื่อเช้านี้”

“ไม่ได้หรอก สัญญาณสำหรับโทรศัพท์ที่นี่แย่มาก แต่สามารถโทรศัพท์จากหมู่บ้านได้นะ เราสามารถไปทีหลังก็ได้ หลังเที่ยงค่าโทรไม่แพงมากนัก”

“ตกลง ขอบคุณอีกครั้งนะ สิ่งที่คุณและครอบครัวของคุณทำตลอดทั้งวันมีอะไรบ้าง ฉันหมายถึง เราช่วยอะไรได้บ้างไหม

“อะไรนะ”

“สิ่งที่คุณและครอบครัวทำวันนี้มีอะไรบ้าง เราเป็นภาระให้คุณไหม”

“โอ้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เด่นดูแลแพะ พ่อตกปลาในเวลากลางคืน แม่ดูแลบ้านและอาหาร ส่วนฉันก็ดูแลแปลงผัก” เธอยิ้มกว้าง “คุณอยากไปดูไหม”

“ใช่ เราอยากจะเห็นนะ”

“นี่เป็นอาหารเช้าที่เยี่ยมมากเลย”

เธอแปลให้แม่ของเธอฟัง ซึ่งเธอก็ยิ้มตอบ รู้สึกภูมิใจที่แม้แต่ชาวต่างชาติก็ชอบอาหารของเธอ

ในขณะที่ดินพูดคุยกับเด็กสาวอยู่ และเด่นก็พยายามที่จะมีส่วนร่วมด้วยเหมือนกัน เฮงพูดขึ้นว่า:

“เด่น ฉันต้องการให้เธอมาดูอะไรที่นี่สักหน่อย วรรณ ฉันต้องการจะเปลี่ยนแปลงโรงนาเป็นบ้านพักสำหรับแบ็กแพ็กเกอร์ เธอคิดว่ายังไงบ้าง”

“ฉันจำได้ว่าเธอพูดเรื่องนั้นเมื่อปีที่แล้ว” วรรณบอก “ฉันคิดว่าแขกของเราทำให้เกิดความคิดนี้กลับคืนขึ้นมาอีกครั้งนะ ฉันไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมจะทำไมได้”

“ผมคิดว่าความคิดของพ่อมันวิเศษมาก” เด่นบอก

“ผมคิดว่าพ่อทำได้”

“เริ่มด้วยการที่พวกเราสามารถเพิ่มชั้นใหม่อีกชั้น บ้านเราสูงอย่างที่เธอพูด วรรณ เรามีความคิดนี้อยู่ในใจตอนที่เราสร้างมันขึ้นมาเมื่อหลายปีแล้ว ถ้าเราสร้างอีกชั้นหนึ่งและทำบันได เราจะมีพื้นที่สำหรับห้องขนาดใหญ่มากได้ถึงสี่ห้อง ห้องดี ๆ อีกหกห้อง หรือห้องเล็ก ๆ อีกแปดห้อง ฉันคิดว่าเพื่อที่จะไม่ต้องใช้เงินมาก จนกว่าเราจะเห็นว่ามันเป็นอย่างไรเราควรจะสร้างห้องใหญ่อีกสี่ห้อง เราสามารถแบ่งห้องอีกครั้งในภายหลัง หากเราต้องการ”

“ผมขอสนับสนุนอีกเสียงครับ เด่นพูดขึ้น”

“ฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ” วรรณบอก “แต่ฉันก็คิดมาตลอด”

“ฉันก็ชอบเหมือนกัน” ดินร่วมสนับสนุน ถ้ามีใครสนใจในความคิดของฉัน”

“โอ้ ลูกสาวที่รัก” เฮงกล่าว “ลูกจะเป็นคนที่สำคัญ เพราะแขกที่จ่ายเงินให้เราส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และลูกเป็นคนเดียวที่พูดภาษาอังกฤษได้ในตอนนี้”

เฮงมองไปที่เด่นซึ่งดูเหมือนจะหวาดกลัวกับความคาดหวัง

“ดีมาก ฉันดีใจที่คุณทุกคนชอบความคิดนี้ เพราะมันเป็นความคิดที่ดี และไม่มีเกสต์เฮาส์แห่งอื่นในระยะทางยี่สิบไมล์ในบริเวณนี้ เด่น มานี่หน่อย เริ่มวัดพื้นที่กัน มันไม่ได้สร้างขึ้นด้วยตัวมันเองได้ เธอค่อยเอาแพะออกไปทีหลัง ดิน เธอสามารถดูแลพวกสาว ๆ ได้หรือเปล่า พาพวกเขาไปที่แปลงผัก และปล่อยให้พวกเขาดูเธอทำงาน หรือทำอะไรสักอย่างก็ได้ พวกเขาอาจจะอยากช่วย”

เฮงทาครีมและใส่หมวกของเขา และเดินตามหลังเด่นไปที่โรงนาพร้อมโบกมือให้สาว ๆ และดึงผ้าขึ้นปิดหน้า ดินอธิบายว่าจะมีอะไรเกิดอะไรขึ้น แล้วพาสาว ๆ ไปที่ห้องอาบน้ำอีกครั้ง

เฮงและเด่นใช้เวลาสองสามชั่วโมงในการวัดพื้นที่ แล้วเด่นจึงพาแพะลงไปที่แม่น้ำผ่านแปลงผัก แล้วเฮงนำรถจักรยานยนต์เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อโทรศัพท์สั่งซื้อของกับพ่อค้าวัสดุก่อสร้างในเมืองที่อยู่ห่างออกไปประมาณสามสิบกิโลเมตร เขาพอใจมากที่สุดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาบอกว่าสามารถจัดส่งทุกอย่างได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น เนื่องจากปริมาณผ่านเกณฑ์การจัดส่งในคำสั่งซื้อขั้นต่ำ

จากนั้นเขาได้โทรศัพท์ไปหาคุณอินนรีที่คลินิก และได้รับคำตอบที่น่าพอใจไม่แพ้กัน มันดูเหมือนจะเป็นวันแห่งความโชคดีของครอบครัวลี

จากนั้นเฮงได้ไปขอความช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องของเขาสองคน เขาสามารถทำงานนี้ได้ด้วยตัวเองหากมีคนช่วย แต่เขาต้องการที่จะทำงานให้เสร็จโดยเร็ว และญาติของเขาก็เสนอตัวที่จะช่วยในวันรุ่งขึ้น

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาถูกเรียกให้เข้าไปพบป้าดาที่ยังสงสัยว่าดินอยากจะฝึกงานเมื่อเย็นวันก่อน แต่จะยินดีที่สุดหากได้ฟังการยืนยันอย่างถูกต้อง เฮงสัญญาว่าจะพาดินลงไปยืนยันด้วยตัวเองกับโอกาสครั้งแรกนี้

หลังจากได้รับความสำเร็จในช่วงเช้า เขาก็กลับไปนอน คนออสเตรเลียใช้เวลาอยู่ที่แปลงผักและแม่น้ำ พวกเขารักแพะ และเพื่อให้ดินพักผ่อนจากหน้าที่รับผิดชอบในการแปล เด่นพาพวกเขาไปชมแม่น้ำ ฝูงแพะ การวางกับดักอย่างภาคภูมิใจ และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็สนใจทุกอย่าง เพราะมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นลูกสาวของชาวนา ลูกสาวคนเลี้ยงแพะ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้บางอย่างเกี่ยวกับการดูแลปศุสัตว์ และปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริง

วันทั้งวันก็ได้ผ่านพ้นไป และเจนไม่ได้สังเกตเห็นรอยบนข้อมือของเธอเลย หรือถ้าเธอเห็น เธอก็จะคิดว่ามันเป็นเพียงหนึ่งในรอยขีดข่วนที่ได้รับตอนพลัดตกเขา

ในช่วงอาหารมื้อเย็น เฮงประกาศกับครอบครัวว่าการสมัครฝึกงานในคลินิกของดินได้รับการตอบรับแล้ว และป้าดาก็เห็นด้วยที่จะให้เธอมาฝึกหัดการเป็นหมอผีประจำหมู่บ้านกับเธอ ดินรู้สึกเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงที่โชคดีที่สุด

ในอีกไม่กี่วันถัดไป เฮง ลูกพี่ลูกน้องของเขา เด่น และแม้แต่คนออสเตรเลีย เมื่อเขาพร้อมแล้วจึงสามารถทำงานในการเพิ่มชั้นใหม่ ติดตั้งพื้นไม้ วางพื้นแผ่นไม้อัดประสาน การแบ่งแกน และงานเพดานยิปซั่มได้ พวกเขายังใส่บันไดภายใน และจัดการขยะทั้งหมดจากชั้นล่าง พวกเขายังสามารถเดินสายไฟ และท่อประปาในห้องนอนแต่ละห้อง และห้องโถง แม้ว่าอาจไม่ผ่านเกณฑ์ตามกฎหมายในด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดก็ตาม หากมันมี เกสต์เฮาส์สำหรับ “แบ็กแพ็กเกอร์” จะใช้งานได้ในไม่ช้า แม้มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ทุกคนก็ต่างพากันใช้ลูกกลิ้งและแปรงทาสีเพื่อตกแต่ง

สิ่งเดียวที่ขาดไปคือ เครื่องนอน เฟอร์นิเจอร์ และโต๊ะสำหรับเก็บเงิน แต่สาว ๆ ได้ห้องพักลองใช้กันคนละห้องโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ปัญหาเดียวที่ครอบครัวลีมีก็คือ ไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ยกเว้นชาวบ้าน และเด็กสาวชาวออสเตรเลียได้เสนอตัวช่วยเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตเมื่อพวกเขาใช้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

ทั้งเฮงและวรรณไม่รู้ว่าอินเทอร์เน็ตคืออะไร แต่ลูก ๆ ของพวกเขาอธิบายให้พวกเขาฟังว่าการโฆษณาเกสต์เฮาส์นั้นสำคัญเพียงใด เฮงจึงจ้างรถเทรลเลอร์ของไทย พร้อมรถพ่วงและพาทุกคนไปแห่ แต่วรรณเองก็ได้ไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงซึ่งเขามั่นใจได้ว่ามีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน คนออสเตรเลียต่างพากันไปที่สถานีคอมพิวเตอร์ และลงมือทำงานกัน

ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาได้สร้างเว็บบล็อก และที่อยู่อีเมลฟรีบนกูเกิ้ลสำหรับเฮง และโพสต์รายละเอียด การติดต่อทางอินเทอร์เน็ต และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้การไม่ค่อยได้ไปยังเว็บไซต์หลายสิบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการเดินเขา และแบ็กเพ็กเกอร์ในภาคเหนือของประเทศไทย พวกเขาสัญญาว่าจะสอนเด่นและดินถึงวิธีตรวจสอบเว็บไซต์ และอีเมลสำหรับผู้ติดต่อในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เฮงพาพวกเขาไปที่ร้านค้าในหมู่บ้านเพื่อดื่มเบียร์สองสามขวด และซื้อเบียร์ช้างหนึ่งลังเพื่อนำกลับบ้าน และพวกเขาก็มีงานเลี้ยงกันในคืนนั้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งธุรกิจเกสต์เฮาส์ใหม่ของพวกเขา และการเปิดตัวทางอินเทอร์เน็ต ถ้าเขาคิดออกได้ว่าจะทำอย่างไร เฮงก็คิดว่าเขาอยากจะสร้างร้านอินเทอร์เน็ตไว้ในห้องใหม่เพื่อดึงดูดวัยรุ่นจากแดนไกล เหมือนที่เขาเคยเห็นในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในวันนั้น

งานเลี้ยงนี้มีไว้สำหรับพวกเขาหกคนเท่านั้น แต่เด็ก ๆ ก็สนุกกับมัน วรรณเข้านอนเร็วเท่าที่เธอรู้ว่าทุกคนกินอิ่มกันแล้ว ซูซานซ้อนมอเตอร์ไซด์ไปกับเด่นเพื่อไปซื้อเบียร์เพิ่มอีกก่อนที่ร้านค้าจะปิด เรื่องนี้ทำให้เขาทิ้งดินและเจนอยู่ตามลำพังสักพัก เจนต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฮง และชีวิตในภูเขามากกว่านี้ แต่ไม่อยากถูกมองว่าละลาบละล้วง อย่างไรก็ตามเธออดไม่ได้ที่จะถามว่าทำไมเขาถึงหน้าซีด และไม่เคยถอดแว่นกันแดดเลย

“เขาเป็นโรคผิวเผือก หรือเป็นอะไรกันแน่หรือ”

ดินไม่เข้าใจ

“พ่อของเธอก็มีผิวขาวเหมือนกับฉันเลย เขามีดวงตาสีชมพูด้วยเหรอ”

“ใช่ พ่อของฉันมีปัญหาเรื่องเลือด ดังนั้นต้องได้รับการดูแล ดวงตาของเขาไม่ชอบแสงที่แรง และผิวหนังก็เช่นกัน เขาต้องทาครีมป้องกันแสงแดด”

“อ่า เขาไม่ได้เป็นผิวเผือกแล้วนี่ ฉันคิดว่าไม่นะ ผมของเขาดำมาก พ่อของคุณเป็นผู้ชายที่หล่อมาก”

“โอ้ ใช่ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน ขอบคุณนะ”

เจนรู้สึกโล่งอกมากที่เพื่อนของเธอกลับมาในตอนที่เธอกำลังพูดมากระหว่างคนสองคน ซูซานเมาอย่างเห็นได้ชัดตอนที่พวกเขาออกไป แต่เจนไม่รู้ว่าพวกเขาหยุดดื่มแล้วหรือยัง หรือว่ามันเป็นแค่การออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วก็หัวเราะออกมาไม่หยุด ตอนที่พวกเขากลับมาที่โต๊ะ เจนถามว่า:

“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ซูซาน เธอดูเละเทะไปหน่อยนะ”

“เด่นให้วิสกี้ไทยเราสองสามแก้ว ของท้องถิ่นจริง ๆ เลย ทำเองด้วยนะ ที่บ้านเพื่อนใกล้กับร้านค้า รสชาติมันน่าสะอิดสะเอียน แต่มันทำให้เมาหัวปักหัวปำเลยทีเดียว

“วิสกี้ไทยมันชื่ออะไรนะ เด่น”

“เหล้าป่า” พ่อของเขามองมาที่เขาแวบหนึ่งพร้อมกับพูดว่า “เจ้าเด็กโง่!”

“อะไรคือ เหล้าป่าหรือดิน”

“มันเป็นวิสกี้ไทยที่แย่มาก ชาวไร่ทำกันเองในป่า เพราะว่าตำรวจจะจับถ้าเห็นเข้า จังเกิ้ล แปลว่า ป่า ในภาษาไทย”

“วิสกี้ป่าเหรอ อ่า น้ำผลไม้ป่าเหรอ คุณเคยอยู่ดื่มปัวตินมาแล้วนะ! คุณต้องระวังหน่อยนะ มันอันตรายนะ ฉันคิดว่าฉันจะไปนอนตอนนี้แล้ว เธอเป็นยังไงบ้าง มากับฉันไหม”

“อ้าวเจน อย่าทำลายความสุขสิ! เราเพิ่งออกไป และได้เบียร์มาอีก ไม่เอาน่า เอาสักขวดสิ อย่าเป็นคนบ้าปาร์ตี้สิ! มาสิ แค่ขวดเดียวเอง!”

“โอเค ฉันจะดื่มอีกสักขวด เดี๋ยวจะตามออกไปดื่มข้างนอก แล้วจะเข้านอนแน่นอน”

ซูซานกับเด่นรู้สึกเขินอาย พวกเขาหัวเราะต่อกระซิกกัน และจับมือกัน ดินไม่รู้ว่าต้องเลี่ยงมองไปทางไหน และพ่อของเธอก็จ้องเขม็งโดยไม่แสดงออกอะไร

“เด่น ช่วยมาคุยกันสักหน่อย” เขาพูดพลางลุกจากโต๊ะและเดินออกไป เด่นจึงเดินตามหลังไป

“ได้ครับ พ่อ”

“อย่าให้แม่ของเธอเห็นเธอทำตัวแบบนั้นนะ เธอมีพฤติกรรมน่าละอายกับสาวคนนั้น และเป็นการดูไม่ให้เกียรติน้องสาวเธอและฉันด้วย อย่าทำแบบนั้นอีกในบ้านของเรา เธอได้ยินไหม”

“ครับพ่อ ขอโทษครับพ่อ”

“อย่าลืมเลือดของฉันสำหรับมื้อเช้านะ ฉันรู้สึกอ่อนแรงมาก ฉันจะไม่บินในคืนนี้นะ ฉันรู้สึกค่อนข้างเหนื่อยหลังจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อสองสามวันก่อน เธอจำสิ่งที่ฉันพูดได้ไหม จงเป็นเด็กดี ราตรีสวัสดิ์นะ”

เด่นกลับไปที่โต๊ะ แล้วมาถึงจุดที่เขาต้องแยกย้ายกับซูซาน ถึงแม้ว่าเขาพยายามเบาเสียงลงเพื่อที่พ่อแม่ของเขาจะไม่ได้ยินก็ตาม ในขณะที่พวกเขานัวเนียกัน เจนและดินพยายามจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คุณชอบอยู่ที่นี่ไหม ดิน” เจนถาม

“โอ้ แน่นอน มันวิเศษมาก ฉันรักครอบครัวของฉัน”

ใช่ คุณมีครอบครัวที่น่ารัก และที่นี่มันสวยงามมากเลย”

ขอบคุณนะ”

ความเงียบอันน่าอึดอัด และทั้งคู่ต่างก็เขินอายกับความไม่รู้จักคิดของอีกสองคน เจนรู้สึกได้ว่าดินอยากไปนอน แต่อยู่ที่นั่นเพราะหน้าที่ เมื่อเด่นดึงขวดเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขา และทั้งคู่ก็ดื่มกันคนละช็อต แต่เจนรู้สึกว่าพอแล้ว

“นั่นเธอกำลังดื่มอะไรน่ะ ซูซาน มันคืออะไร ดินบอกหน่อยเถอะ”

“ฉันไม่รู้… บางทีอาจเป็นเหล้าป่า…”

เธอพูดอะไรบางอย่างกับพี่ชายของเธอ แต่ไม่มีการตอบกลับ

“เธอกำลังดื่มไทยปัวตินอีกแล้วเหรอ”

ซูหัวเราะคิกคัก และใช้ข้อศอกดันเข่าของเด่นเพื่อช่วยในการดันตัวเองขึ้น” โอ้ เจน มานี่สิ ปล่อยผมสิ มีชีวิตชีวาหน่อยสิ! กี่ครั้งที่เราได้มีเวลาแบบนี้ แล้วใครจะรู้ว่ามันได้มีอีก ถ้าเธอไม่อยากร่วมวง ก็ไม่เป็นไรนะ แต่ตอนนี้ฉันมีความสุข อย่าพยายามที่จะทำลายมัน โอเคไหม”

“ได้ ไม่เป็นไร ฉันจะไปนอนละ เจอกันพรุ่งนี้เช้า ราตรีสวัสดิ์ทุกคน” ราตรีสวัสดิ์ดิน ขอบคุณที่ช่วยเราทุกอย่างในตอนเย็นนี้นะ ฉันจะไปนอนแล้ว”

“ราตรีสวัสดิ์เจน ฉันคิดว่าฉันจะไปนอนเหมือนกัน ราตรีสวัสดิ์ ซูซาน”

พวกเขายังคงได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกที่โต๊ะอยู่เป็นชั่วโมง จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลงทันใดอย่างน่าสงสัย

ในตอนเช้า เฮงตื่นขึ้นมาพร้อมครอบครัวอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาตั้งใจกลับไปสู่กิจวัตรการบินในตอนกลางคืนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุดเลย เขาก็แค่ไม่ได้ไป

เด่นดูท่าทางเกรี้ยวกราด เขาอยู่ที่นั่นแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“เด่น” เขาพูดขึ้น “เธอจำได้ไหมที่ฉันบอกเมื่อคืน”

“ครับพ่อ ฉันคิดว่างั้น เลือดของพ่ออยู่ในตู้เย็น”

“ดี ขอบใจนะ ฉันรู้ว่าแม่ของเธอกำลังยุ่งกับการทำมิลค์เชคอยู่ตอนนี้ ฉันหมายถึงเรื่องอื่น”

“ครับพ่อ”

“ดี”

เจนลงมา กล่าวทักทายทุกคนด้วยการไหว้ และยิ้มแล้วนั่งลงที่โต๊ะ เฮงพูดคุยกับเธอผ่านดิน

“พ่อบอกว่าเธอดูดีขึ้นมากวันนี้ หน้าตาดูสดใสขึ้น แล้วเพื่อนเธอล่ะ”

“ขอบคุณพ่อของเธอแทนฉันด้วย ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าซูซานเป็นอย่างไรบ้าง เธอนอนห้องของเธอเมื่อคืนที่แล้ว และฉันไม่ได้เจอเธอวันนี้เลย ฉันคิดว่าเธอยังคงหลับอยู่ เธออาจจะเมานิดหน่อยเมื่อคืนนี้”

“พี่ชายของฉันก็เหมือนกัน ดูเขาสิ อย่างกับผีเดินได้”

วรรณยื่นถ้วยทัปเปอร์แวร์มิลค์เชคเลือดให้เขา และให้เขาลองจิบดู ดวงตาของเขาเบิกโพรงภายใต้แว่นตากันแดดของเขา และเขาก็หยิบขึ้นมาดื่มอีกครั้งหนึ่ง มันเหมือนกับการที่เจ้าของบ้านส่งกาแฟมาให้คุณ แล้วพบว่าเขาใส่วิสกี้จำนวนหนึ่งลงไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เฮงเพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม ดื่มหมดไวกว่าปกติ

“วรรณ” เขาพูดขึ้น “ที่คุณทำเช้านี้มันเป็นสูตรเฉพาะที่อร่อยมาก คุณทำอะไรที่แตกต่างไปหรือ ฉันไม่สามารถใส่นิ้วของฉันลงไปได้หรอกนะ แต่ฉันคิดว่าฉันควรจะรู้หากฉันได้ลองชิมมันก่อน”

“ไม่มีอะไรนี่ คุณสามี ไม่มีอะไรเลย มันเป็นมิลค์เชคเลือดแพะแบบเดียวกันกับที่ฉันทำมาเป็นอาทิตย์แล้ว แม้แต่สมุนไพรก็ใส่เหมือนกันกับที่ดาบอกเราให้ใส่นั่นแหละ มันจะต้องเป็นคุณเสียแล้วที่เปลี่ยนไป”

แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น เขาจำรสชาติได้ แต่รู้ว่ามันแตกต่างไปจากปกติ เขาจึงไปตามเด่นที่เพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำที่พยายามปลุกตัวเองอย่างหมดท่า

“เจ้าลูกชาย นั่นเป็นเลือดแพะที่เธอเอามาไว้ให้ฉันเมื่อคืนนี้ใช่ไหม

“ใช่ครับพ่อ”

“เธอแน่ใจนะ เธอคงไม่โกหกฉันใช่ไหม”

“แน่นอนสิครับ ความจริงก็คือ ผมต้องช่วยพาซูซานไปที่ห้องของเธอเมื่อคืน และตอนที่เธอร่วงลงบนเตียงของเธอ เธอรู้สึกหนาว ผมก็เมานิดหน่อยเหมือนกัน และไม่สามารถจับแพะแล้วทำทุกอย่างได้เลย ดังนั้นผมจึงเอาเลือดเธอมา ผมมีมีดปากกาอยู่ในกระเป๋า และแก้วแปรงสีฟันของเธอซึ่งมีประโยชน์มาก ผมก็เลยเอามันมาใส่

“ขอโทษนะพ่อ มันน่ากลัวมากใช่ไหม ผมจะไปเอาจากแพะให้พ่อตอนนี้เลย”

“เจ้าลูกชาย ที่จริงแล้วมันดีมาก แต่ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่ส่วนผสมตามปกติของฉัน ในทันทีที่ฉันได้ลิ้มรสมัน เธอยังไม่ได้บอกอะไรให้ใครฟังใช่ไหม แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง และยังไม่ตื่นอีกเหรอ”

“ไม่เลยพ่อ มีแค่พ่อและผมเท่านั้นที่รู้”

“ดีมาก เก็บมันเอาไว้แบบนั้นแหละ และถ้าเธอมีโอกาสเอามาให้ฉันอีกโดยที่ไม่มีความเสี่ยง ทำมันอีกนะ ทำได้ดีมาก นั่นแสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ตอนนี้ไปก่อนและกินยาพาราเซตามอลสักสองสามเม็ดซะ”

เฮงกลับไปที่โต๊ะอาหารจดบันทึกเพื่อหาเหล้าป่าไว้ใช้ในโอกาสต่อไป

“ดินถามเจนว่าเธออยากไปรับเพื่อนเธอไหม

ขอแนะนำให้กินอาหารที่ดีเสมอหลังจากดื่มมากเกินไป เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ฟื้นตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากดื่มแอลกอฮอล์เกรดต่ำเหมือนเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอไม่ควรงดอาหารเช้า และสามารถไปนอนได้ใหม่ในภายหลัง”

ดินคิดว่ามันแปลกที่พ่อของเธอพูดแบบนั้น แต่ว่าเธอรู้ว่าเขามีประสบการณ์ที่มากกว่าเธอ ดังนั้นเธอจึงส่งต่อข้อความไป เจนไม่แน่ใจว่ามันเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ แต่เธอไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับเจ้าของบ้าน เธอจึงออกไป และเรียกซูซานซึ่งก็ค่อนข้างทำได้ยากทีเดียว

เธอดูแย่มากด้วยผิวที่ซีดเซียว ผมยุ่งเหยิง ตาฝ้าฟางและมีกลิ่นปาก “คุณลีบอกว่าเธอควรจะกินอาหารเช้า แล้วเขาบอกให้ภรรยาของเขาทำอาหารบางอย่างให้เธอแล้ว”

เฮงมองไปที่รอยบาดที่คอ และคิดว่าเด่นเก่งแค่ไหนที่ทิ้งร่องรอยที่เล็กมากทีเดียว

“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่สามารถกินอะไรได้เลยสักอย่าง ฉันรู้สึกไม่สบาย”

“แต่ฉันเกรงว่าเธอจะต้องไป ตอนนี้แม่ทำอาหารสำหรับเธอไว้แล้ว ข้าวต้มใส่เบคอนชิ้นเล็ก ๆ และไข่เจียว เธอคงเข้าใจใช่ไหม หรือต้องสอนเธอว่าอย่าดื่มมากขนาดนี้อีก”

เฮงกำลังมองหาคลังเลือดของเขา

ทุกบ่ายตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาได้ไปร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ดินได้ยืมสกู๊ตเตอร์และทั้งสี่คนไปด้วยกันที่ร้านเพื่อเช็กอีเมล และเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต ดินทำได้ดี แต่เด่นสนใจซูซานเสียมากกว่าสิ่งที่เขาต้องทำในคอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษของเขาก็แทบจะไม่ได้เรื่องอยู่ดี ภาษาอังกฤษของดินก็มีปัญหาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียน แต่เธอได้เอาหนังสือเรียนเล่มเก่าของเธอออกมาดูอีกครั้ง และกำลังหาทางทำมันให้ได้

พวกเขารู้สึกน่าเบื่อเวลาเรียนในโรงเรียน แต่ตอนนี้เธอใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพูดคุยกับคนจริง ๆ และมีส่วนร่วมกับธุรกิจจริงด้วยการนำเสนอทางออนไลน์ เธอสามารถมองเห็นประเด็นนี้ และเธอก็ศึกษาด้วยความกระตือรือร้น

บ่ายวันนั้นก็ไม่ได้รับการยกเว้น เว้นเสียแต่ว่าซูซานตัวติดกับเด่นราวกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ ในขณะที่เขาเร่งเครื่องไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เครื่องยนต์เก่า ๆ จะสามารถสร้างความประทับใจให้เธอได้ ระหว่างทางกลับพวกเขาขับรถไปต่ออีกครั้ง แต่ไม่ได้ไปในฟาร์ม

เมื่อดินและเจนกลับถึงบ้าน

ตอนที่พวกเขากลับมา เด่นบอกว่า “พ่อใช้ให้ไปทำธุระให้ และเราซื้อเบียร์มาสองสามขวดจากร้านค้าเพื่อช่วยยืดหัวให้ตั้งตรง” เขายื่นขวดใส่บางอย่างในถุงพลาสติกให้พ่อของเขา

“นั่นอะไรพ่อ” ดินถาม

“มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่นของเราที่เธอยังไม่รู้อะไรเลย แต่ฉันคิดว่าผู้หญิงออสเตรเลียอาจคิดว่ามันน่าสนใจ ดังนั้นฉันจะนำเสนอให้พวกเธอ เธอสามารถดูได้ แต่ไม่สามารถมีส่วนร่วมได้ เพราะเธอยังเด็กเกินไป”

เฮงทำกระเป๋าใส่ของอีกสองใบ และขอให้ดินอธิบายในสิ่งที่เขาพูด เด่นสนใจเหมือนกัน เพราะเขามีเพียงความรู้ที่คลุมเครือกับสิ่งที่พ่อของเขาทำ “เบียร์เหรอ” เขาพูดกับซูซานซึ่งพยักหน้ารับ เขาลืมถามเจนไปเลย

ดินบอกพวกเขาในสิ่งที่พ่อของเธอพูด แล้วพวกเขาทุกคนก็นั่งลง แล้วพวกเขาทุกคนนั่งและจ้องมองไปที่เขาซึ่งเปิดฝาขวดน้ำแร่เปล่า ๆ ขนาดครึ่งลิตรสี่ใบขึ้นมา แล้วเทน้ำในขวดใหญ่ที่เด่นเอามาใส่ขวดละครึ่ง จากนั้นเขาก็เอาถุงหิ้วใบที่สองและสามขึ้นมา แล้วคว่ำสิ่งที่บรรจุอยู่วางไว้บนโต๊ะ มีตะไคร้น้ำ เศษเปลือกไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า และแม้แต่แมลงเต่าทองที่ตายแล้ว เขาใช้เวลาไปมากในการเลือกสิ่งของออกจากกองส่วนผสมที่เขาเก็บมาได้ในขณะที่ทุกคนไม่อยู่ และใส่บางอย่างลงในแต่ละขวด ซึ่งต้องแน่ใจว่าจะมีสองขวดที่จะต้องไม่ใส่ส่วนผสมแบบเดียวกัน จากนั้นเขาก็เติมที่เหลือจนเต็ม เขย่าขวด และวางไว้ในแสงแดดเพื่อให้อุ่น

“มันจะใช้ได้หลังพลบค่ำ” เขาแจ้งให้ทราบทั่วกัน และเข้าไปในห้องเพื่องีบหลับ

เขาทำอะไร” ซูซานถาม

“เขาทำเครื่องดื่มพิเศษที่ทำจากเหล้าป่าให้คุณ เขาบอกว่าคุณไม่ได้ดื่มของดีเมื่อคืนนี้ ต้องดื่มแบบนี้ ที่เป็นยาที่ดีทำให้คุณแข็งแรง”

และแล้วในคืนนั้นเมื่อเด็กสาวหมดสติอยู่ที่โต๊ะ เฮงและลูกชายของเขาก็ได้เอาเลือดหนึ่งลิตรจากคอของเด็กผู้หญิงแต่ละคนต่อหน้าดิน ซึ่งเธอก็ไม่ได้รู้สึกสะอิดสะเอียนเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสงสัยว่าเอามากเกินไปในครั้งเดียวหรือไม่ แต่ก็ยังคงทำเช่นนั้นต่อไป เนื่องจากเด็กผู้หญิงดูเหมือนจะแข็งแรงเพียงพอ และมีเพียงประมาณสิบเปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาสามารถให้ได้ พวกเขาแยกทั้งสองส่วนออกจากกันเพื่อกรณีของรสชาติที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย แต่ใส่สามในสี่ของแต่ละคนลงในช่องแช่แข็

เฮงเชื่อในการประหยัดสำหรับวันที่เหลือน้อยลงทุกทีในช่วงเวลาแห่งความอุดมสมบูรณ์

จากนั้นพวกเขาก็อุ้มเด็กผู้หญิงไปที่เตียง เพื่อให้พวกเขาหลับใหลไป

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status