Share

บทที่8

8 การทดลองของเฮง

เฮงพบว่าการไปทำงานค่อนข้างหักโหมเกินไป ร่างกายของเขาต้องการที่จะนอนทั้งคืนและอยู่บนเตียงทั้งวัน แต่แพะเป็นสัตว์ออกหากินในเวลากลางวัน ดูเหมือนมันตรงกันข้ามกันเลย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง เพราะเด่นรับผิดชอบฝูงแพะได้เป็นอย่างดี และเฮงก็ออกไปกับเขาสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่ออธิบายเส้นทางและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่เขายังไม่รู้

อย่างไรก็ตามเขาต้องการทำสิ่งที่สร้างรายได้ให้ครอบครัวอย่างต่อเนื่อง และงานกลางคืนเพียงอย่างเดียวที่เขาคิดได้คือ การตกปลา เขาจึงทำแบบนั้นในทุกวันที่เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเด่น เป็นงานที่เหมาะกับเขาจริง ๆ เพราะเขาสามารถจัดสรรเวลาทำได้หลายอย่าง การได้บินสี่หรือห้าชั่วโมงแล้วกลับมาก่อนรุ่งสาง เพื่อกู้เหยื่อที่ติดกับดักและใส่สายเบ็ดใหม่ เขาวางกับดักหนูไว้ในแปลงผัก และหนูทุกตัวก็มีค่ามากกว่าไก่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเทศกาลที่พวกเขาสามารถตรึงราคาได้มากกว่าไก่ถึงสามเท่า นอกจากนี้เขายังจับงูที่ขวางทางเขา และพวกมันก็เป็นอาหารอันโอชะที่มีค่ามากกว่าไก่

ทั้งหมดทั้งมวลนั้น เขาให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจของครอบครัวมากกว่าที่จะออกไปข้างนอก ในความเป็นจริงแล้วมากกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ในชีวิตของเขา ก่อนที่เขาจะ “เจ็บป่วย” เขาเคยกินแพะ ไก่ และผักต่าง ๆ และตอนนี้เขาไม่ได้กินมันเลย แต่สิ่งที่เขานำกลับมาสู่ครอบครัวในตอนนี้มีค่ามากกว่าตอนนั้น ทุกวันนี้ เขากินซุปบางอย่างเพื่อเอาใจวรรณ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบมันเลย และเลือดด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฆ่าสัตว์เพื่อดื่มเลือดของมัน เขายังกินนมแพะได้ หรือถ้ามันหายาก ก็ยูเอชทีก็ได้ มันก็ไม่ขาดตลาดบ่อยนัก และมันก็ค่อนข้างราคาถูกด้วย

ความจริงแล้วเขาแทบจะไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเลยตามระบบเศรษฐกิจ แต่เอาปลา กบ งู และหนูกลับมาเป็นกิโล ซึ่งมันก็ไม่ได้มีค่าเท่าละอองทองซะทีเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นโลหะเงิน และครอบครัวมีชีวิตเพียงการกิน แม้ว่าทั้งสามจะเสียใจที่ได้ใช้ชีวิตบนการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปของเฮง และอย่างนั้นจึงได้เห็นเขาน้อยลงไปมาก เฮงก็รับรู้ถึงอารมณ์นี้ในตัวเองบางส่วนเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างค่อนข้างสำคัญสำหรับเขา และแม้เพียงบางครั้ง เขารู้สึกได้มากกว่าการเห็นด้วยตาว่าครอบครัวของเขามีความสุขกับสถานะใหม่ของความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้น และปล่อยให้พวกเขามีความสุขกับสิ่งนั้นในขณะที่เขามีความสุขกับชีวิตกลางคืนรูปแบบใหม่ที่เขาได้ค้นพบทั้งในฐานะมนุษย์ และค้างคาว

กิจวัตรประจำวันของเขาคือ เดินลงไปที่แม่น้ำในตอนค่ำ นำปลาที่จับได้ในตอนกลางวันออกจากคันเบ็ดนำไปใส่ถังน้ำ จากนั้นใส่เหยื่อเบ็ดใหม่อีกครั้ง และสะพายกลับลงไปในน้ำ เขามีเบ็ดไม่ไผ่ราวห้าสิบลำ ดังนั้นการทำเช่นนี้จึงทำให้ได้ปลามาบ้าง และใช้เวลาพอสมควรทีเดียว นอกจากนี้เขายังจับงูใส่กระสอบ และแยกกบไว้อีกใบ เมื่อเสร็จแล้วก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสนุก และเขาจะบินเข้าไปในหมู่บ้านสักสองสามชั่วโมง ความกังวลเพียงอย่างเดียวของเขา คือ การบินไปและวนไปที่แม่น้ำ เพราะค้างคาวจำนวนมากล่าสัตว์ในน้ำ และเขายังคงหวาดกลัวที่จะเจอกับพวกมัน

จากนั้นเขาจะกลับมาก่อนรุ่งสางหนึ่งชั่วโมง เอาปลาและวางเบ็ดใหม่ เดินกลับบ้านผ่านแปลงผัก เอากับดักเททิ้งและวางใหม่ แล้วจึงเข้านอน มันเป็นวิถีชีวิตที่ดีที่เหมาะกับเขาทีเดียว และเขามีความสุขมาก

เมื่ออยู่ในหมู่บ้าน เขายังคงทำเสียงปี๊บ ทำหน้าที่ในการแอบดูหญิงสาวตามห้องน้ำ แต่เขายังไม่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไรมากกว่านั้นจริง ๆ และจะทำอย่างไรต่อไปหากคิดจะทำ

เขาใช้ชีวิตแบบสมณะอย่างแท้จริง ชีวิตโสดแบบเด็กวัยรุ่นกำลังจะแผลงฤทธิ์อีกครั้ง

แหล่งอาหารใหม่ที่อุดมสมบูรณ์นี้ ทำให้วรรณมีโอกาสผลิตมิลค์เชคชนิดต่าง ๆ ให้เขา เฮงจะไม่ลองดื่มเลือดกบเด็ดขาด อย่างที่บางคนคัดค้านในการลองกินหัวใจ หรือสมองที่ไม่ใช่เหตุผลที่เข้าท่าเลย แต่เขาก็ยังชอบปลา และหนูอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าแปลกประหลาดใจมากคือ งู เขาเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขานึกไม่ถึงว่าเลือดงูจะอร่อย แต่มันก็อร่อย และอร่อยมากจริง ๆ รสชาติมันเข้มมากแบบเดียวกับกอร์กอนโซลาที่เข้มกว่าเชดดาร์นั่นแหละ แต่มันก็สร้างพลังงานมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องการเลือดจากงูเพียงตัวเดียวเพื่อทำมิลค์เชคหนึ่งลิตร และมันก็เพิ่มพลังได้อย่างยอดเยี่ยม

เขาแค่ฆ่างูมีพิษตามคำสอนในวิถีพุทธ และเขาไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่างใด ๆ ของรสชาติ หนูก็เหมือนกัน แต่ปลามีความเข้มของรสชาติที่แตกต่างกันไป แม้ว่าวรรณต้องการปลาเป็น ๆ สักหนึ่งกิโลกรัมเพื่อที่จะเอาเลือดให้เพียงพอที่จะทำมิลค์เชคหนึ่งลิตร ซึ่งทำให้มันเป็นอาหารบำรุงมากกว่าอาหารจานปกติตามโภชนาการของเขา

แพะยังคงเป็นเมนูที่ชื่นชอบแบบเดียวกับงู ตามด้วยปลา หนูและหมู เขายังคงไม่ชอบไก่ แต่เขาดื่มทุกอย่างที่วรรณให้โดยไม่ปริปากบ่น ในขณะที่โรยยุงบนอาหารในแบบมนุษย์ และแมลงอื่น ๆ ที่เขาคิดว่าน่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบว่ามันยากที่จะปฏิเสธมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ สิ่งที่เขาอยากลองมากที่สุดนั่นก็คือ เลือดมนุษย์เพศหญิง ผู้ชายก็ได้ ถ้าเขาไม่สามารถหามันได้ แต่เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่ได้ดื่มเลือดของผู้ชาย มันทำให้เขารู้สึกขนลุก

เขาใช้เวลาส่วนมากคิดถึงหญิงสาว อาจจะเป็นมากกว่าเด่นเสียด้วยซ้ำ เขาคิดอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะไม่เคยยอมรับสิ่งนั้นกับใครเลย เพราะในอีกมุมหนึ่งเขาก็คิดว่ามันไม่เหมาะสม แม้ว่าความคิดอีกด้านหนึ่งจะไม่เคยชนะก็ตาม และถึงกระนั้นก็ไม่ได้ฝักใฝ่เรื่องนั้นนานเท่าไหร่

เฮงหลงใหลกับโภชนาการรูปแบบใหม่ และตัดสินใจที่จะหาความจริงว่าทำไมแมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุงถึงมีรสชาติเช่นนั้น เขาทำเช่นนี้โดยเลือกสัตว์ที่เรียกว่า สุนัข และบินไปใกล้ ๆ โดยรอบ เมื่อมันงีบหลับ และไม่สามารถป้องกันตัวเองจากยุงได้ เขาจะบินโฉบลงมาหลังจากที่พวกมันดูดเลือดอิ่มแล้ว ปกติแล้วเขาไม่ได้ชอบยุงที่ตัวเต็มไปด้วยเลือดสุนัข และรสชาติมันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เช่นเดียวกันกับแมว แต่ยุงที่กินเลือดจากวัว ควายแกะ และแพะก็อร่อยเช่นกัน

เขาลองใช้กลยุทธ์เดียวกันกับมนุษย์ และลิ้มรสเลือดของมนุษย์โดยผ่านตัวแทนอย่างที่เป็น เขาพบว่าเลือดของคนหนุ่มสาวนั้นเหมือนน้ำมะนาวซ่า แม้ว่ามันจะไม่ได้รสชาติของมะนาวก็ตาม ในขณะที่เลือดของคนชราส่วนใหญ่จะมีรสชาติธรรมดา เขาสงสัยว่าปริมาณก๊าซในเลือดเป็นตัวบ่งชี้อายุ หรือแม้กระทั่งระยะเวลาที่พวกเขามีชีวิตเหลืออยู่ แต่ความคิดนั้นอยู่กับเขาได้ไม่นานนัก

ความแตกต่างระหว่างเลือดชายและหญิงนั้นน้อยกว่าที่เขาคิดไว้มาก โดยเฉพาะในคนหนุ่มสาว แต่หลังจากที่พวกเขาอายุได้ประมาณสิบห้าปี เลือดของผู้ชายจะมีรสชาติที่จืดจางกว่าเลือดของผู้หญิงอย่างแน่นอน หลังจากอายุประมาณห้าสิบปี รสชาติของทั้งสองเพศจะกลับมาเหมือนกันอีกครั้ง แต่ในผู้ที่ดื่มหนักและสูบบุหรี่จัด เลือดของทั้งสองเพศจะมีรสขม

เลือดของทารกทุกคนมีรสหวาน แบบที่ไม่สามารถหยุดกินได้ หนังสือการ์ตูนก็ว่าไว้ถูกต้องว่าเลือดของหญิงสาวนั้นดีที่สุด แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของสาวพรหมจรรย์ และเด็กสาวที่มีประสบการณ์ทางเพศมีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญอย่างไร ซึ่งเขายังขาดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามเฮงก็เตรียมพร้อมที่จะทำงานอดิเรกใหม่ในการทำอาหารค้างคาวแวมไพร์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ทดลองกับอาหารของพวกเขามาตลอดชีวิต และมีความสุขกับประสบการณ์ในการทำเช่นนั้น เฮงเกิดมาเป็นค้างคาวตัวเต็มวัยเนื่องจากสภาวะแวดล้อม ดังนั้นเขาจึงการเติบโตมาแบบตัวคนเดียว โดยพลาดช่วงเวลาที่เขาจะได้เรียนรู้จากพ่อแม่ของเขาว่าต้องทำอย่างไร ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และชอบกินอะไร เขาพลาดช่วงเวลาที่เติบโตมาในฐานะค้างคาว และรู้สึกเหมือนเป็นค้างคาวขี้เรื้อนในฝูง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าขีดความสามารถ หรือจริยธรรมของค้างคาวคืออะไร

เขาเป็นเมาคลีแห่งโลกค้างคาว แต่ด้วยความหลงใหลในเลือดที่มีเพิ่มขึ้นมา

เขาสงสัยว่ามีค้างคาวตัวอื่นแบบเขาอยู่ในบริเวณนั้น และเขาก็สงสัยว่าเขาจะรู้ได้อย่างไร เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาสามารถพูด หรือเข้าใจค้างคาว หรือว่าผีปอบตัวอื่น ๆ ได้หรือไม่

มันเป็นโลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขาด้วยสิ่งที่ยังไม่รู้จักอีกมากมาย และเขาไม่รู้ว่าชีวิตของเขาจะนำพาเขาไปทางไหน เขาพบว่าไม่มีสิ่งไหนที่น่าตื่นเต้นในชีวิต นับตั้งแต่เขากลับมาจากเวียดนามเมื่อเกือบสี่สิบปีก่อน

เฮงรู้ว่าเขากำลังทำอะไร เมื่อเขาฝึกฝนการบินโฉบทุกคืน แต่เขาบอกตัวเองว่ามันจะช่วยให้เขาหลุดออกจากกำแพง และเพิ่มรายการฝึกวิทยายุทธของเขา เช่นเดียวกับการฝึกซ้อมของนักกีฬาเพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เฮงก็ใช้กล้ามเนื้อมัด และทักษะการบินโฉบของเขา

คืนหนึ่งเขาได้ทำการฝึกแพะ แต่มันกลับตอบสนองกลับมาอย่างรุนแรง กระโดดจนตัวเขาหลุดกระเด็นออกไป ก่อนที่เขาจะฉวยฟันมันไว้ได้ มันน่าอัปยศสิ้นดี เพราะเขาตกลงไปที่พื้นจนฝุ่นตลบอบอวล และกลายเป็นมนุษย์ที่ตัวคลุกไปด้วยฝุ่น หลังจากมึนงงไปชั่วครู่ เขาคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ลุกขึ้นยืน และกระโดดลอยไปในอากาศเหมือนค้างคาวอีกครั้ง เป็นความภาคภูมิใจที่เจ็บปวด แต่ประสบการณ์จะเพิ่มขึ้นดังที่มันเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

เขาลองอีกเป็นครั้งที่สอง เขาขอให้เด่นปล่อยแพะซึ่งถูกล่ามโซ่ไว้กับเสาอย่างแน่นหนา แต่ไม่ได้อธิบายว่าทำไม และเด่นก็ไม่ได้ถามอะไร เฮงได้กัดคอแพะจนเกิดเป็นแผลเล็ก ๆ ซึ่งเลือดก็ไหลออกมา เขาเลียแทนที่จะดูดเลือด และพบว่าเขาไม่มีเอนไซม์ในน้ำลายที่หยุดเลือดไม่ให้จับตัวเป็นก้อนได้ หรือเจ็บไม่มากเหมือนถูกยุงกัด

เขาสงสัยว่าชีวิตของแพะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบเดียวกันหรือไม่ หลังจากที่เขากัดพวกมัน เหมือนที่หนังสือการ์ตูนกล่าวไว้ว่า เกิดขึ้นกับเหยื่อที่เป็นมนุษย์ เขาตัดสินใจว่าจะจับตาดูสิ่งนี้

อย่างไรก็ตามประเด็นหลักของการทดลองคือ การดูว่าเขาสามารถดูดเลือดที่ปีกได้หรือไม่ แม้ว่ารูที่เขาเจาะจะเล็กและจับตัวเป็นก้อนเลือดภายในไม่กี่วินาที หลังจากที่เขาหยุดเลีย นอกจากนี้เขายังพบว่าเลือดของแพะที่สะอาดยังคงเข้มข้นเกินไปสำหรับความชอบของเขา

โอกาสแรกของเฮงในการทดลองใช้ทักษะใหม่กับมนุษย์คือ ผู้หญิงขี้เมา ที่มีมากมายในหมู่บ้านทุกค่ำคืน แต่เขาก็แบ่งเวลาจนรู้ว่าตัวเองมีความสามารถ และสามารถหาสิ่งที่เขาใฝ่ฝันได้

เขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีโอกาสเพื่อหาเหตุผลเกี่ยวกับการเมาหรือไม่ แต่ไม่มีอะไรให้ทำในระยะทางหลายไมล์เช่นนี้ คนส่วนใหญ่จึงหันมาใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบรรเทาความเครียดในชีวิตประจำวัน เด็กทั้งคู่นอนหลับอยู่บนเตียง ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่สาวพรหมจารีย์ แต่เธอจะเป็นเหยื่อที่เป็นมนุษย์คนแรกของเขาต่างหาก

ปัญหาคือ มุ้ง แต่เขาบินโฉบเข้าไปใกล้เหนือมันกัดให้เป็นรูเล็กน้อย ใช้น้ำหนักตัวเขาทำให้ฉีกเป็นรูโหว่ แล้วบินขึ้นไปบนคานค้ำหลังคาเพื่อพัก และดูว่ามีใครได้ยินเขาหรือไม่ เขาเกาะอยู่บนคาน และกลายเป็นมนุษย์ เขาเหนื่อยหอบด้วยความดีใจ และด้วยความหวัง พักครู่หนึ่งหลังจากหายใจเป็นปกติ เฮงก็กระโดดลงเกาะ และถลาลงไปที่มุ้ง และรอดผ่านรูเข้าไป ทั้งคู่ไม่ได้ดิ้น ดังนั้นเขาจึงกัดคอหญิงสาว และเลียที่เลือด

มันเหมือนน้ำหวาน แต่ก็ใช่ว่าเขาเคยลองกินน้ำหวานมาก่อน ใช่แน่เลย เขาคิด มีคนที่เคยเขียนเรื่องผีปอบเป็นเรื่องแรกเอาไว้เช่นเดียวกัน เขาเลีย และเลีย แล้วก็เลีย เสียงดังอ้อแอ้ และดังอ้อแอ้อีกครั้ง หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาจึงต้องบินไปรอบ ๆ มุ้งเพื่อป้องกันตะคริว และเมื่อเขากลับมาพบมีก้อนเกิดขึ้นที่แผลเล็ก ๆ แต่เขาก็เลียมันออก และมันเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงเนื้อแข็ง ๆ ที่เขาชอบ ครั้นพอรู้สึกตัวได้ เขาก็ได้แอบคิดถึงการแปลงร่างของเขา

เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการรกินมากนัก เพราะร่างกายเล็ก ๆ ของเขาสามารถรับได้มากที่สุดเพียงไม่กี่ร้อยมิลลิลิตร แต่เขากังวลเกี่ยวกับการอยู่ที่นั่นนานจนถ่ายอุจจาระให้ผู้บริจาคที่น่ารักของเขา ซึ่งเป็นผู้บริจาคคนแรกของเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้สมัครใจก็ตาม

เขาเหมือนเด็กกินขนม เขาอาจจะสวาปามจนตัวเองป่วยได้ง่าย ๆ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น เขาจึงบินกลับออกไปสองสามนิ้ว มองไปที่ผู้หญิงและที่บาดแผลนั้น รอให้เลือดจับตัวเป็นก้อน จากนั้นเลียของเหลวที่ออกมาเพื่อให้หมดจด และบินออกไปพร้อมกับกล่าวคำอธิษฐานของค้างคาวตัวน้อยแก่เธออย่างเคย เพื่อขอบคุณที่เธอให้อาหารแก่เขา และขอให้เธอมีชีวิตที่มีความสุข

ดูเหมือนว่าอย่างน้อยที่สุดที่เขาก็จะได้รับกลับมาเช่นกัน เพราะนั่นคือ สิ่งที่เขาทำเมื่อเขาฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารเมื่อตอนเป็นมนุษย์

ในขณะที่เขาออกจากห้องนอน และพุ่งตัวสู่ท้องฟ้ากว้างใหญ่อีกครั้ง เขาได้ตีลังกาสามครั้ง และบินโฉบอย่างเจ๋งที่สุด แล้วหมุนตัวกลางอากาศเท่าที่เขาสามารถทำได้ เขารู้สึกเหมือนเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะบอกรักผู้หญิงที่เขาใฝ่ฝัน และผู้หญิงก็ชอบเขาเช่นกัน หรือเหมือนเป็นทีมฟุตบอลที่กำลังชนะการแข่งขัน

เขาพอใจมากจนอยากจะบอกใครสักคน แต่ราวกับมันเป็นความลับระหว่างคู่รักที่ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องนัก เป็นความขัดแย้งที่ทุกข์ทรมาน แต่แล้วเขาก็ไม่มีใครที่จะบอกได้เลย ทันใดนั้นความคิดที่ไร้ความเห็นแก่ตัวก็เกิดขึ้นในใจของเขา ‘นี่เขาเพิ่งทำให้เธอเป็นแวมไพร์ด้วยหรือ’

มันหยุดความรู้สึกยินดีของเขาจนหมดสิ้น และเขาก็บินตรงเป็นเส้นตรงราวกับลูกศร เศร้าสลด ไม่สามารถเต้นระบำค้างคาวแบบกระดุกกระดิก ขึ้นและลง โยกไปย้ายมา

แล้วเขาก็คิดว่าชีวิตมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น บางทีอาจไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่เลือกโดยสมัครใจ แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมหรอก หากการกัดของเขาทำให้เธอเป็นแวมไพร์ นั่นเขาก็เสียใจที่เขาไม่ได้ให้เธอเลือกเลย แต่เขาก็ได้ปลดแอกเธอจากงานที่น่าเบื่อ และนั่นคือของขวัญที่ผู้รับไม่พึงประสงค์

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เขาจึงตัดสินใจที่จะรอดู

เฮงบินกลับไปที่แม่น้ำ ทำงานที่น่าเบื่อของเขาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตรวจดูหนู และเข้านอนด้วยความรู้สึกที่แย่ เขาไม่ได้เห็นเนื้อหนังมังสาของผู้หญิงคนนั้นเลยแม้แต่นิ้วเดียวที่เขาไม่สมควรจะทำ แต่เขารู้สึกเหมือนว่าเขามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ ผู้หญิงคนนี้ชื่อ ลอย และเขาไม่ได้รู้สึกสนิทกับเธอแม้แต่ว่าพวกเขาจะเป็นคู่รักกันจริง ๆ เขารู้จักเธอมาตลอดชีวิต และสามีของเธอก็มาจากหมู่บ้านถัดไป

ถ้าเขายอมรับความจริงกับตัวเอง เขารู้สึกว่าเธอดูดีมาก แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นคู่นอน แต่ตอนนี้เขาอยู่ตรงนี้ แล้วรู้สึกราวกับว่าพวกเขาทรยศต่อคู่ของตน แม้ว่าเธอจะมี หรือไม่มีทางเลือกก็ตาม มันดูเหมือนการข่มขืนเสียมากกว่า

Ψ

เฮงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาทั้งชีวิตของเขา เขามีพละกำลังที่มากขึ้นด้วยพลังงาน และทุกคนในครอบครัวสังเกตเห็นได้เมื่อพวกเขามารวมตัวกันหลังเลิกงานในช่วงเวลาน้ำชา

เฮง ดูเหมือนเธอจะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง!” วรรณพูดกับเขา“ ดาให้อะไรเธออีกไหม”

“ไม่นะ ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะอาหารที่หลากหลายมากกว่า และได้ใช้เวลานานขึ้นท่ามกลางแสงจันทร์ที่ทำให้ฉันรู้สึกดีมาก” เขาโกหกครึ่งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้สึกว่าจะสามารถเปิดเผยงานฉลองเลือดของเขากับลอยได้เลย

“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม มันได้ทำให้เธอมีพลังแห่งความดีงาม ดาบอกว่าถ้าเธอไม่ดื่มเลือดของมนุษย์ เธอจะต้องดื่มจากสัตว์หลากชนิดเพื่อให้ได้สมดุลที่เหมาะสม นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไม… ” วรรณกล่าว และความคิดที่เกิดขึ้นในใจของเธออย่างกะทันหันราวกับลูกศรพุ่งตรงไปยังทุ่งโล่ง

“เธอไม่ได้ทำใช่ไหม… ไม่สิ ขอโทษ เฮง… ”

แต่เขารู้ว่าเธอคิดอะไร พวกเขารู้ใจกันและกันดี วรรณจะยังไม่เร่งเร้าคำตอบเรื่องนี้ และเขาก็ไม่เต็มใจจะบอกด้วย

เขาทาครีม และบอกว่า “ฉันจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ฉันจะกลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง”

เขาทำเพื่อขจัดข้อสงสัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป แต่การออกไปเดินเล่นนั้นไม่เป็นไปตามวิสัยของเฮงจนอาจทำให้เกิดความสงสัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่เขาอยากจะทำคือ การครุ่นคิด เขาพยายามคำนวณว่าร่างกายค้างคาวของเขาว่าจะกักเก็บเลือดไว้ได้เท่าไร และเขาคิดว่ามันไม่สามารถเกินสองร้อยมิลลิลิตรไปได้ สิ่งที่น่าตลกก็คือ เมื่อเขาอิ่มอย่างค้างคาว เขาจะยังเหลือความอิ่มในฐานะความเป็นมนุษย์ด้วย ซึ่งหมายความว่าเลือดของมนุษย์สองร้อยมิลลิลิตรนั้นเท่ากับนมแพะห้าร้อยมิลลิลิตร

อย่างไรก็ตามมิลค์เชคจะอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งวัน ในขณะที่เลือดของมนุษย์ดูราวกับว่าจะยังคงอิ่มอยู่เต็มเปี่ยม และทำให้เขาเบิกบานใจที่สุด ไม่มีอาหารอื่นใดจะเหมาะกับเขาได้ในชีวิตนี้ สเต็กหรือกุ้งก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้ มันอร่อย และช่วยเติมเต็ม แต่พวกมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอิ่มเต็มเหมือนเลือดของมนุษย์ เลือดมนุษย์ทำให้เขาอยากเต้นรำ ในขณะที่สเต็กและกุ้งทำให้เขาง่วงนอนใช่ไหมล่ะ เขาจะหิวอีกครั้งหลังจากกินไปสองสามชั่วโมง

เขาจำเป็นต้องทำการทดสอบเพิ่มเติม แต่กับใครล่ะ เมื่อเขากลับมาที่โต๊ะ วรรณกำลังเตรียมอาหารมื้อเย็น และเด็ก ๆ ก็กำลังทำสิ่งต่าง ๆ ของตัวเอง

“วรรณ เธอเชื่อใจฉันไหม” เขาถาม

“โดยส่วนใหญ่ ใช่ แต่หลังจากการการกระทำของเธอในงานเลี้ยงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บางทีอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดเสียแล้ว”

“ก็นะ นั่นสิ แต่ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น จำตอนที่เธอมีลูกได้ไหม ฉันพยายามลองดื่มนมของเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น เอ่อ… ”

“ฉันไม่คิดว่าฉันชอบเรื่องที่คุยนี้นะเฮง มานี่ก่อน อย่าพูดแบบนี้อีกนะ

“เอาล่ะ ฉันต้องการที่จะลองเลือดบางชนิด เพียงแค่อยากรู้อยากลอง เธอเข้าใจไหม และไม่มีใครที่ฉันสามารถถามได้ ฉันต้องการแค่หนึ่งมิลลิลิตร มากที่สุดสองร้อย มันไม่ใช่เลือดมากมายอะไรเลย”

“โอ้ ฉันไม่รู้ เฮง มันเป็นความคิดที่น่าขยะแขยง… เธออยากจะดื่มมันในฐานะค้างคาว หรือมนุษย์ล่ะ”

“ฉันไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย… เอ่อ ในฐานะมนุษย์มั้ง สามีของเธอ ฉันคิดว่างั้นนะ ทำไมเธอชอบจูบกับค้างคาวมากกว่าหรือ”

“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น! การเอาเลือดจากพยาบาล แล้วทำมิลค์เชคให้เธอ ฟังดูก็ไม่แย่นะ แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเราจะเอาเลือดจากใครได้บ้าง… แล้วเราจะบอกว่าเราต้องการมันเพื่ออะไร

“อืม เป็นความคิดที่ดี แต่ไม่ง่ายเลยนะ”

ไม่ แต่ถ้าเธอสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ กลับมาถามฉันอีกครั้ง ฉันจะคิดหาทางตลอดเวลา แต่ฉันไม่ต้องการให้เธอแค่เจาะคอ หรือข้อมือของฉันจนเป็นรู มันไม่ถูกสุขลักษณะ มันจะต้องทำโดยคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น”

“ใช่ แน่นอน ขอบคุณที่รัก ฉันรู้ว่าฉันสามารถพึ่งพาเธอได้ เพื่อที่จะเข้าใจ และช่วยเหลือฉัน ถ้าเธอทำได้”

เขาโน้มตัวมา และจูบเธอ วรรณหน้าแดง ผลักเขาออกไป และพูดว่า “เด็ก ๆ จะเห็นเข้า หยุดเถอะ”

“อาหารค่ำจะเสร็จกี่โมง ที่รัก”

“ราว ๆ ชั่วโมงครึ่ง ทำไมล่ะ เธอหิวเหรอ นมอยู่นั่น… ”

“ไม่ ไม่หรอก” เขาพูดแทรกขึ้น “ฉันมีความคิดหนึ่งนะ ฉันอยากจะคุยกับใครบางคน และถ้าฉันไปตอนนี้ แล้วฉันจะกลับมา ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ”

“คิดอะไร เธอกำลังจะไปไหน”

“ฉันกำลังจะไปพบใครบางคนคุยเรื่องเกี่ยวกับสุนัข ตอนนี้เธอไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรต้องคิดมาก และฉันจะเล่าให้เธอฟังในภายหลัง เจอกันตอนหนึ่งทุ่ม”

เขาทาครีมเพิ่ม และสวมผ้าโพกหัว แต่ไม่ได้ใส่เสื้อยืดคลุมใบหน้า จะใส่เฉพาะในเวลาที่แสงแดดแรงที่สุด เนื่องจากดาได้ปรับปรุงสูตรครีมให้แล้ว เขาลากรถมอเตอร์ไซค์ออกจากใต้ถุนบ้าน สตาร์ทและปล่อยให้มันไหลโคลงเคลงไปตามทาง เพราะเขาขับรถไม่ค่อยคล่อง ขับไม่ค่อยบ่อยนักด้วย

ปลายทางของเขาคือ ไปหมู่บ้านถัดออกไปราวสองกิโลเมตร เขาจึงเร่งความเร็วที่สองกิโลเมตรต่อชั่วโมง และรู้สึกแปลกใจที่ควบคุมเครื่องได้ง่ายมาก เมื่อมาถึงเขาจอดรถ ปัดฝุ่นที่ตัวเอง และเข้าไปในตึก

ฉันขอคุยกับคนที่รับผิดชอบที่นี่ได้ไหม คุณผู้หญิง” เขาถามพนักงานต้อนรับสาว

“ฉันจะขอพบใครก็ได้ที่พอมีเวลา… นั่นคุณลีใช่ไหม”

“ใช่ครับ คุณผู้หญิง ไม่เพียงแค่ความสวยเท่านั้น คุณยังมีความจำที่วิเศษอีกด้วย ฉันแน่ใจว่าผู้บังคับบัญชาของคุณจะรู้สึกขอบคุณมากที่มีคนที่มีความสามารถอย่างคุณทำงานในตำแหน่งที่รับผิดชอบนี้”

เธออายจนหน้าแดง ยกหูโทรศัพท์ขึ้น และคุยกับใครบางคน

“กรุณานั่งรอที่เก้าอี้นั่นตรงนั้นก่อนค่ะ คุณลี เดี๋ยวจะมีใครบางคนมาพบคุณ”

“ขอบคุณครับ รักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไปนะครับ คุณคือ เครดิตของคลินิกที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้”

ใครบางคนมาพบเขาภายในไม่กี่นาที แล้วเชิญเขาเข้ามาในออฟฟิศ

“คุณลี ตอนนี้ผมสามารถทำอะไรให้คุณได้บ้าง ได้โปรดนั่งลงก่อนครับ”

“จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้มากเกินความสามารถที่คุณจะทำได้หรอกครับ ในฐานะครอบครัวของผม ผมจะสามารถทำได้เพื่อตอบแทนน้ำใจบางส่วนของคลินิกแห่งนี้ที่ทำเพื่อเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“คุณรู้ไหมว่าลูกสาวผมเพิ่งออกจากโรงเรียน เธอมีความสุขที่ได้ทำงานที่ฟาร์ม แล้วเราก็มีงานให้เธอทำอยู่แล้ว แต่ผมอยากให้เธอได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องครับ ผมขอเสนอให้เธอมาทำงานที่นี่โดยไม่รับค่าตอบแทนใด ๆ แน่นอนครับ สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง เต็มวันหรือครึ่งวัน อะไรก็ได้ที่คุณเห็นควรที่สุดครับ”

“นั่นเป็นข้อเสนอที่ใจกว้างมาก คุณลี และผมจะไม่สามารถแสร้งบอกได้ว่าเราไม่ขาดแคลนพนักงาน เงินทุนก็ไม่ได้เอื้ออย่างที่เราหวังไว้เสมอไป และราคาก็เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา”

“ค่อนข้างจะเป็นแบบนั้นครับ! ทั้งหมดที่ผมขอหมายความว่า อย่าปฏิบัติกับเธอเยี่ยงคนรับใช้ เพราะเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดและขยันขันแข็ง พวกเราไม่ได้ร่ำรวย แต่เราก็ไม่ได้ต้องการเงินของคุณ เราต้องการคืนบางอย่างกลับคืนสู่ชุมชน และถ้าดินของผมสามารถมีความรู้เพิ่มเติมระหว่างทำงานได้ ทุกคนก็จะได้รับประโยชน์ เราไม่คาดหวังว่าคุณจะเปลี่ยนเธอให้เป็นพยาบาลที่มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่บางทีคุณอาจสอนพื้นฐานบางอย่างให้เธอได้

“แม่ของเธอ และฉันไม่ใช่คนหนุ่มสาวแล้ว ดังนั้นบางทีคุณอาจจะสอนเธอเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การฉีดยาในกรณีที่เรากลายเป็นโรคเบาหวานทำนองนั้นครับ ดังนั้นถ้าพวกเรามีปัญหาที่บ้านเธอจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรจนกว่าจะมาถึงมือหมอ

“ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ แค่พื้นฐานเบื้องต้น เธอมีความสนใจพิเศษเกี่ยวกับเรื่องเลือด ฉันรู้ว่ามันเป็นความสนใจของเด็กสาวที่น่าตลกมาก แต่มันต้องรู้ทุกอย่างไม่ใช่เหรอครับ บางทีคุณอาจจะสอนเธอบางอย่างในลักษณะกันนั้นก็ได้ครับ”

ดีเลย คุณลี นี่เป็นข้อเสนอที่ไม่เคยมีมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร และผมสามารถบอกคุณได้ว่าผมชอบความคิดนี้ทีเดียว มันคือ จิตสาธารณะของครอบครัวคุณ แต่ผมจำเป็นจะต้องตรวจสอบกับผู้บังคับบัญชาของผมเกี่ยวกับความชอบตามกฎหมาย และผลกระทบต่าง ๆ และด้านอื่น ๆ คุณจะช่วยกลับมาหาผมในอีกสองวันได้ไหม นี่คือ นามบัตรผมครับ”

“ได้ครับ ขอบคุณสำหรับเวลาของคุณครับ คุณอินนารี แล้วผมจะติดต่อกลับมา”

เฮงยิ้ม โบกมือให้พนักงานต้อนรับขณะเดินผ่านไป และออกจากตึกไปอย่างมีความสุข เขาขับผ่านบ้านของเขาด้วยความเร็วสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับเขาหัวแทบขมำ หวังว่าครอบครัวของเขาจะไม่สังเกตเห็นเขา และเข้าไปพบป้าดา ของเขา

“สวัสดีครับ ป้าดา ผมหวังว่าป้าจะสบายดีนะครับ ป้าพอมีเวลาสัก 5 นาทีไหมครับ”

“มีเสมอสำหรับเธอ เฮง มันเป็นอย่างไรหรือ มีอะไรน่าสนใจที่ผ่านมานี้งั้นหรือ”

“ไม่มีครับ” เขาโกหกอยู่ “แต่การได้บินเป็นเรื่องสนุกเสมอ และผมได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ทุกอาทิตย์ และผมก็ชอบทำงานที่ต้องลงไปที่แม่น้ำในตอนกลางคืน มันเหมาะกับผมมากกว่างานกลางวันไปซะแล้วครับ ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ใช้ชีวิตกับมันมากขึ้น ตอนนี้พระจันทร์ทำเพื่อผมในฐานะค้างคาวมากกว่าที่ดวงอาทิตย์จะทำเพื่อผมในฐานะมนุษย์ แต่ผมคิดว่าผมยังต้องการทั้งสองอย่าง

“อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้มาคุยเรื่องของผมครับ ป้าต้องการเด็กฝึกงานที่เป็นยังไงบ้าง”

“อะไรนะ เธออายุมากขึ้นแล้ว หากเธอไม่ว่าอะไร เธอจะเริ่มพูดถึงสิ่งที่น่าสนใจในตอนนี้ได้เลยนะ”

“ไม่นะครับ ไม่ใช่ตัวผมครับ เจ้าดินต่างหากล่ะ! เธอเป็นคนที่ชัดเจน สมบูรณ์แบบ เป็นทางเลือกที่จะช่วยป้าได้ เพื่อรองรับความรู้มากมายของป้าในอนาคตที่ป้าใช้เวลาทั้งชีวิตทำงานที่สั่งสมมาอย่างหนักเพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น

“ใครบางคนต้องสืบสานงานอันล้ำค่าของป้าต่อไป และดินคือ ตัวเลือกที่แจ่มชัด

“ไม่เพียงแต่สืบสานมันไว้ภายในครอบครัว แต่เธออายุยังน้อย มีความตั้งใจ และมีความสามารถ และฉันเพิ่งสร้างความมั่นคงให้เธอโดยฝากตำแหน่งเด็กฝึกงานในคลีนิค ดังนั้นเธอจะได้รับการเรียนรู้ที่ดี ทั้งวิธีเก่า ๆ แบบดั้งเดิมจากหมอผีคนสำคัญเช่น ป้า และวิธีสมัยใหม่ร่วมกับกายวิภาคจากพวกเขา ป้าคิดอย่างไรบ้างครับ”

“มีอยู่สองอย่าง ก่อนอื่น เธอทำให้ฉันอยู่ภายใต้การสะกดจิตของเธอไปเลย แน่นอนฉันไม่ได้หมายถึง การสะกดจิตจริง ๆ แต่คือวิธีการพูด วิธีการขับเคลื่อน และแสดงความเป็นตัวเองของเธอ เธออย่าเพิ่งสะกดจิตราวกับเป็นตาเฒ่าเฮงสิ เธอเปลี่ยนแปลงไปมากมายหลายอย่างเลยนะ ตอนนี้เธอได้สะกดจิต แม้แต่กับหญิงชราอย่างฉัน เธอตระหนักถึงความสามารถนี้หรือไม่ เฮง”

“ไม่ครับ ป้า”

“และอย่างที่สอง ฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี และด้วยความสัตย์จริง มันก้าวข้ามความคิดของฉันหลายต่อหลายครั้งแล้ว ฉันหวังว่าดินจะถามฉัน ก่อนที่ฉันจะบังคับถามเธอ แต่การถามแทนเป็นการประนีประนอมที่ดีเยี่ยม เขาจะสามารถเริ่มได้เมื่อไหร่ล่ะ”

“ให้เวลาเธอสักวัน แล้วผมจะพาเธอมา แต่ได้โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะครับ”

“เธอยังไม่รู้เรื่องเลยหรือ”

“เอ่อ ไม่ ยังเลยครับ แต่เธอจะรับโอกาสนี้ ผมสัญญากับป้า”

“เอาล่ะ ฉันจะยกเรื่องนี้ให้เธอจัดการ เฮง”

“ขอบคุณครับ ป้า ตอนนี้ผมต้องไปแล้ว วรรณทำอาหารค่ำเสร็จแล้ว ไปร่วมทานกับเราไหมครับ มีหลายอย่างเลย”

“ซึ้งน้ำใจมาก แต่ไม่ล่ะ ขอบใจนะ เธอไปคุยกับครอบครัวเถอะ ฉันแน่ใจว่าเธอมีหลายเรื่องที่จะต้องคุย และขอบคุณที่มาถามฉันก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์ เฮง”

“ลาก่อนครับ ป้า” เขาตะโกนขณะขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วแบบหอยทาก

หลังจากอาหารเย็นที่ไม่น่ารับประทานเอาเสียเลย มีทั้งซุปไก่ข้น และมิลค์เชคเลือดไก่ เฮงก็เริ่มถามเรื่องที่อยู่ในใจของเขามากที่สุด

“ดิน ลูกอยากเป็นพยาบาลได้อย่างไร”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status