Share

บทที่ 1141

Penulis: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เสิ่นชิงเหอกลับไม่รู้เรื่องนี้ “หวังจั่นไม่ได้รับสืบทอดบรรดาศักดิ์งั้นหรือ หรือว่าคนที่อาจารย์ส่งไปตรวจสอบ ตรวจสอบผิดพลาด?”

“ถามอาจารย์หยูก็จะรู้เอง” เซี่ยหลูโม่กล่าวทันที

อาจารย์หยูได้รับเชิญให้มาที่ห้องหนังสือ ถามไถ่ถึงเรื่องจวนป๋อผิงซีในปีนั้น ซึ่งเขาก็ทราบจริงๆ เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละครอบครัวของบรรดาขุนนางชั้นสูง ตั้งแต่รุ่นที่สามขึ้นไป เขารู้บ้างเพียงเล็กน้อย ใช่ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“หวังจั่นไม่เคยเป็นจริงๆ ในเวลานั้นท่านผู้เฒ่าป๋อยังป่วยอยู่ ไม่ได้สืบทอดตำแหน่งซื่อจื่อ หลังจากที่เขาคว้าชัยในการรบกลับมา ก็ขอพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เขาเป็นซื่อจื่อ หลังจากที่เขาเป็นซื่อจื่อแล้ว สุขภาพของท่านผู้เฒ่าป๋อก็ค่อยๆ ดีขึ้น ในที่สุดก็หายดี จึงเลื่อนเรื่องสืบทอดบรรดาศักดิ์ออกไป ต่อมาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นายท่านผู้เฒ่าป๋อก็ขอพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้หลานชายคนโตหวังเบียวเป็นซื่อซุน ซึ่งเห็นชัดเจนว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่นี่ แต่คนนอกไม่รู้ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีผู้ที่รู้เรื่องอาจมีแค่ป๋อผิงซีผู้หลักผู้ใหญ่เท่านั้นที่รู้ และฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซีคนปัจจุบันก็คงรู้เช่นกัน”

เรื่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1142

    อาจารย์หยูและหัวหน้าลู่ใช้เส้นสายของตัวเองเพื่อถามไถ่เรื่องราวในอดีตนี้เริ่มต้นจากการสอบถามไปยังญาติผู้ใหญ่ในสายตระกูลป๋อผิงซี ถามแล้ว พวกเขาต่างก็บอกว่าเด็กคนนั้นถูกไฟคลอกตาย บอกว่าฮูหยินหวังจั่นเศร้าใจเพราะเรื่องนี้มาเป็นเวลานานเห็นได้ชัดว่า นี่คือเรื่องที่ไม่รู้ความจริงทั้งหมด เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่เหรินหยางอวิ๋นสืบมาได้ในตอนแรก ซึ่งมันเป็นเพียงส่วนที่ปรากฏให้เห็นภายนอกเท่านั้นจากการสอบสวนทางนี้ จ้านเป่ยว่างและหวังชิงหลูได้แยกทางกันแล้ว ทั้งคู่ต่างสบายดี และการหย่าร้างเป็นไปด้วยดีทั้งสองฝ่ายต่างตกลงกัน ไม่มีข้อพิพาทใดๆ นำสินเดิมกลับคืน ตอนนั้นที่แต่งงานอยากจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจในเมืองหลวงใจแทบขาด แต่ตอนนี้อยากจะทำตัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ดังนั้นนางจึงบอกนางจีว่า รู้เรื่องที่จวนแม่ทัพประสบปัญหายากลำบาก ดังนั้นจึงไม่ต้องการของชิ้นใหญ่ๆ ไม่เอากองผ้าห่ม กล่อง และหีบใส่ของพวกนั้นไป ต้องการเพียงสิ่งของที่อ่อนนุ่ม เครื่องประดับผ้าไหม เป็นต้น ส่วนทรัพย์สินที่เป็นสินเดิมนั้น นางให้คนนำออกมาก่อนแล้วนางจีไม่ได้ลงมือทำเอง แต่แค่ส่งให้ดูแลบ้านไปเท่านั้นแม่สามีกับหวังชิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1143

    ที่นางลู่จะมาโวยวายถึงที่ ความจริงแล้วก็มีสาเหตุสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะข้างนอกมีข่าวลือมากเกินไป หลายคนรู้ว่าลู่ซื่อชินรับผิดชอบด้านวัตถุดิบตัวยาในร้านขายยาเย่าหวัง ทุกวันมีคนเยอะมากจนเป็นปัญหา ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดจากคนไข้ แต่ทั้งหมดล้วนเกิดจากลู่ซื่อชิน ที่สบประมาทผู้อื่นสิ่งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร้านขายยาเย่าหวัง คนไข้ถึงกับเบียดเสียดกันเข้าไปไม่ได้เลย ด้วยความจำใจ หมอมหัศจรรย์ดันที่เพิ่งกลับมาจากการเก็บยาได้ประกาศด้วยตัวเองว่า ลู่ซื่อชินจะถูกไล่ออกจาก นับจากนี้ไปเขาจะไม่ได้เป็นคนของร้านขายยาเย่าหวังอีกอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ในที่สุดตระกูลฝางก็ตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่ง ลู่ซูเหรินแม่ของเจ้าสิบเอ็ดฝางพึงพอใจมาก และฝ่ายหญิงก็เห็นพ้องต้องกัน แค่รอเจ้าสิบเอ็ดฝางยอมรับก็สามารถทำการหมั้นหมายได้แล้วพวกเขาไม่รู้เลยว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ครอบครัวของฝ่ายหญิงก็ส่งแม่สื่อมาถึงที่ ขอยกเลิกเรื่องนี้ ให้ถือว่าไม่เคยคุยกันเรื่องการแต่งงานของลูกๆ ในอดีตทั้งสองครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อดื่มชาและพูดคุยลู่ซูเหรินโกรธมากจนนางต้องบึ่งกลับไปบ้านเดิม ให้ผู้อาวุโสของตระกูลลู่ทวงความเป็นธรรมให้ผู้อาว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1144

    ตอนนี้อวิ๋นเซียงเยว่ไม่สนใจเรื่องอื้อฉาวของครอบครัว แต่นางก็ตกใจเพราะคำข่มขู่ของซ่งซีซี กลั้นน้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจ และภายใต้การชี้บอกของซ่งซีซี จึงพาแม่ พี่สะใภ้ ป้าๆ น้าๆ เดินไปที่ห้องโถงของจวนป๋อผิงซีในจวนป๋อผิงซี หวังเชียงยังไม่เลิกงาน มีเพียงนางหลานที่เป็นคนนำเหล่าสาวใช้และหญิงรับใช้มาเผชิญหน้ากับพวกนางหลายคนนางไม่เคยเผชิญกับการต่อสู้เช่นนี้ ดังนั้นจึงส่งคนไปเชิญหวังชิงหลู แต่หวังชิงหลูได้ยินว่าซ่งซีซีมา นางยิ่งไม่เต็มใจที่จะออกมาในท้ายที่สุด นางจีก็รู้เรื่อง ออกมาควบคุมสถานการณ์แม้ว่าจะมีไข้สูงก็ตามเมื่อซ่งซีซีเห็นนาง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร ไม่ได้เจอนางแค่ไม่กี่วัน นางซูบผอมไปมาก สีหน้าซีดเซียว ริมฝีปากแดงก่ำเพราะพิษไข้ แค่เดินยังต้องมีคนช่วยพยุง ท่าทางอิดโรยอ่อนแอมากในอดีตซ่งซีซีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนางจี ตอนนี้เมื่อรู้ว่านางเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของศิษย์พี่ห้า ก็ยิ่งรู้สึกใกล้ชิดกับนางมากขึ้น เมื่อเห็นว่านางไม่สบายขนาดนี้ ยังต้องออกมาจัดการเรื่องยุ่งเหยิงของหวังชิงหลู จึงพูดว่า “ถ้าคุณหนูสามไม่ออกมา งั้นก็เชิญฮูหยินผู้เฒ่าออกมาเถอะ จะให้คนป่วยออกมากำกับดูแลได้อย่างไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1145

    เมื่อนางจีเห็นนางร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ก็เห็นใจในความทุกข์ของนางที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ในใจรู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักนางรู้ว่าถ้าหากเซียงเยว่ไม่ถูกบีบจนสิ้นหวัง นางคงไม่มาโวยวายให้เป็นที่ขายหน้าถึงที่นี่สีหน้าของนางเข้มขึ้นพูดว่า “ไปพาคุณหนูสามออกมา ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม”จิ่นซิ่วพาหญิงรับใช้อีกหลายคนไปที่นั่น ทันทีที่พวกนางออกไป นางจีมองไปที่อวิ๋นเซียงเยว่แล้วพูดว่า “เจ้ามาที่นี่ เพื่อให้คำอธิบายกับตัวเอง ดังนั้นไม่ว่านางจะพูดอะไร ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือเรื่องโกหก เจ้าจงใช้ความรู้สึกของตัวเองแยกแยะผิดถูกก็พอ เมื่อแยกแยะได้แล้ว เจ้าจะมีคำอธิบายสำหรับตัวเอง และรู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อ”อวิ๋นเซียงเยว่เช็ดน้ำตา เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียว นางไม่ได้สวยมาก แต่ก็มีความหยิ่งในตัวเอง “ขอบคุณป๋อผิงซีฮูหยินมากเจ้าค่ะ”นางเหลียงยังอธิบายให้นางจีและซ่งซีซีฟังอีกว่า พวกนางรู้สึกเสียใจกับลูกสาว บวกกับที่มีญาติมามากมาย เพราะต้องการความยุติธรรมจริงๆพวกนางไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างลู่ซื่อชินกับหวังชิงหลู ต่อมาเซียงเยว่ก็รู้เรื่อง กลับมาบอกที่บ้าน ทางบ้านพูดโน้มน้าวว่ามันเป็นเพียงควา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1146

    หวังชิงหลูหลบสายตา ทำเช่นไรก็ไม่ยอมนั่งลงสนทนา เพียงแค่กล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้นเป็นเรื่องผิดพลาดเพราะความเมา ข้ามองผิดเห็นเขาเป็นเจ้าสิบเอ็ดฝาง แต่เขาสติแจ่มชัด เขารู้ว่าข้าเป็นใคร ดังนั้นแม้ข้าจะมีความผิด แต่เขาทำผิดมากกว่า”“สิ่งที่เขาบอกข้า ไม่เหมือนกัน เขาบอกว่าแม้เจ้าจะดื่มมาก แต่ไม่ได้เมา รู้ว่าเขาเป็นใคร ตอนที่พวกเจ้าอยู่ด้วยกัน เจ้ายังเรียกชื่อเขา” อวิ๋นเซียงเยว่กลั้นน้ำตาสุดชีวิต แต่น้ำเสียงยังคงสั่นเทา“เขาโกหก” หวังชิงหลูสีหน้าลำบากสับสน รีบมองซ่งซีซี จากนั้นก็ร้องตะโกน “เขาโกหก เขากล้ามาหาข้าเพื่อเผชิญหน้าหรือ? ตอนนั้นข้าร้องเรียกก็คือเจ้าสิบเอ็ดฝาง”ซ่งซีซีแม้ไม่มีประสบการณ์วินิจฉัยคดี แต่ผ่านเรื่องราวมากมาย นางยังจำได้ว่าตอนนั้นคนที่นางเรียกคือเจ้าสิบเอ็ดฝาง พิสูจน์ว่าตอนนั้นนางไม่ได้เมามายเพียงนั้น ไม่ถึงขั้นแยกเจ้าสิบเอ็ดฝางและลู่ซื่อชินไม่ออกอวิ๋นเซียงเยว่พลันกล่าวสิ่งใดไม่ออก แต่นางเหลียงแม่ของนางนั้นสมองยังแจ่มชัด หัวเราะเสียงเย็น “ไม่ใช่เมาจนเหลวเป็นโคลนหรือ? เหตุใดจึงยังจำได้ว่าคนที่ตัวเองเรียกชื่อผู้ใด? หากเมาเพียงสามส่วน เช่นนั้นเจ้าก็รู้แน่ชัด คนผู้นั้นไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1147

    คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนล้วนตกตะลึงครอบครัวที่นางเหลียงพามาต่างก็ไม่รู้จักเด็กที่กล่าวถึง แม้แต่อวิ๋นเซียงเยว่ก็ไม่รู้ ดังนั้นคนที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คือนาง นางไม่กล้าเชื่อจนเดินถอยหลังไปสองเจ้า แทบจะแตกสลายแล้วความจริงตอนแรกนางเหลียงไม่แน่ใจ แต่หลังร้านขายยาเย่าหวังเกิดเรื่อง ตอนที่นางส่งคนไปสืบหวังชิงหลู หาหมอท่านนั้นเจอ หมอท่านนั้นและสามีนางมีมิตรไมตรีต่อกันพอดีเมื่อถามว่าเหตุใดหวังชิงหลูอยู่ที่ตระกูลจ้านจึงรักษาเด็กเอาไว้ไม่ได้ ท่านหมอบอกสาเหตุกับนาง หนึ่งในการคาดเดา เป็นเพราะหวังชิงหลูเคยตกเลือดจนทำให้เกิดการบาดเจ็บท่านหมอไม่รู้ว่าภายในมีเรื่องราวมากมาย คิดว่าสตรีรักษาเด็กในครรภ์ไม่ได้เป็นเรื่องปกติทั่วไป อาการตกเลือดหารักษาไม่ดี ก็จะทำร้ายร่างกายแต่นางเหลียงไม่รู้ว่าหวังชิงหลูเคยมีลูกกับเจ้าสิบเอ็ดฝางหรือไม่ มือของนางยื่นเข้าไปไม่ถึงตระกูลฝาง จึงไม่อาจตรวจสอบได้ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเป็นแค่การคาดเดาของนางนางเห็นท่าทางหวังชิงหลูกำเริบเสินสานเพียงนี้ ดังนั้นจึงพูดสิ่งที่นางคาดเดาทำเหมือนเป็นเรื่องจริงออกมา เพียงเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้นาง เพื่อไม่ให้นางพูดพร่ำไปเรื่อยเปื่อย อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1148

    ซ่งซีซีส่งคนไปร้านขายยาเย่าหวังเชิญหงเชวี่ยมาบาดแผลที่หน้าผาไม่ลึกมา เลือดหยุดไหลอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายแรงใดแต่นางก็ยังเป็นไข้ตัวร้อนอยู่หลายวัน เดิมทีร่างกายอ่อนแอมากอยู่แล้ว โมโหอีก ตอนนี้ไฟเข้าแทรกหัวใจ อาเจียนเลือดสดออกมา คนก็หมดสติไปมุมหางตานางมีน้ำตาไหลออกมาตลอด ซ่งซีซีช่วยเช็ดให้นาง ไม่ว่าจะเช็ดอย่างไร น้ำตานั้นก็เหมือนกับไหลไม่หมด“หงเชวี่ย อาการเป็นเช่นไร?” ซ่งซีซีถามหลังจากหงเชวี่ยตรวจชีพจรหงเชวี่ยถอนหายใจ “ฮูหยินไข้สูงมาหลายวัน เมื่อครู่ลูบหลังให้นาง ปอดมีปัญหา อีกทั้งนางลมปราณตับติดขัด เลือดลมติดชะงัก ยาก่อนหน้านี้เบาเกินไป เดิมควบคุมไม่อยู่ ขั้นแรกให้กินยาที่มีฤทธิ์แรงเพื่อล้างตับและดับไฟ ปรับลมในปอด รอให้หายดีแล้ว ค่อยๆ บำรุงกลับมา แต่ห้ามกังวลมากเกินไปอีก”กล่าวจบ หงเชวี่ยเรียกนางออกไป กระซิบกล่าว “ลมปราณตับติดขัดรุนแรงมาก นี่เกิดจากอารมณ์โกรธ ไม่รู้นางซ่อนเรื่องใดไว้ ไม่ยอมพูด ตัวเองเก็บเอาไว้จนอึดอัด”ซ่งซีซีรู้ว่ากังวลใจเรื่องหวังเบียวเกี่ยวข้องกับคดีสมรู้ร่วมคิด ส่งผลกระทบต่อครอบครัว ตอนที่นางส่งเซียนเกอเอ๋อร์ออกไปฝึกยุทธกับกุ้นเอ๋อร์ ศิษย์น้อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1149

    เสิ่นว่านจือวันนี้ไปตระกูลฝาง ลุงลู่ป่วยแล้ว แล้วก็เชิญชิงเชวี่ยแห่งร้านขายยาเย่าหวังไปด้วยค่ำแล้วนางยังไม่ได้จากไป เรื่องของหวังชิงหลูจากข้างนอกลอยเข้ามาเช่นกัน แต่ฮูหยินของฝางเทียนสวีแยกันแล้ว ห้ามบอกให้อาสะใภ้รองรู้แต่ก็ซ่อนไว้ได้ช่วงเวลาเดียวเท่านั้นดอกซิ่งแดงยื่นออกนอกกำแพงก็ช่างเถอะ ยังต้องท้องลูกนอกสมรสด้วย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางไม่ได้เป็นสามีของหวังชิงหลูอีกต่อไป ได้รับผลกระทบหนักมากถึงเช่นไร เรื่องก็เกิดขึ้นตอนอยู่ที่ตระกูลฝางมีคนบอกว่า เจ้าสิบเอ็ดฝางไม่ได้เรื่องด้านทางนั้นใช่หรือไม่ จึงตัดใจให้หวังชูหลูมีชู้? มิฉะนั้นเวลานั้นเหตุใดอยู่บนสนามรบไม่นาน ก็เกิดเรื่องเช่นนี้แล้วมีคนบอกว่าหวังชิงหนูไม่อยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือน ควรไปขังไว้ในกรงหมูยังมีคนบอกว่าลู่ซื่อชินไร้ยางอาย ลูกพี่ลูกน้องไม่สนใจเรื่องความรัก ตระกูลฝางใจดีเก็บเขาไว้ เขายังไม่รู้จักยางอาย เรียกง่ายๆ ว่าไม่ใช่คนคำพูดเหล่านี้พูดไปพูดมา ลู่ซื่อชินและหวังชิงหลูเป็นผู้สมควรโดนลงโทษ เจ้าสิบเอ็ดฝางเป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์หลังจากจ้านเป่ยว่างถูกคนกล่าวถึงสองสามครั้ง คิดว่าครอบครัวพวกเขาต่อให้เกิดเร

Bab terbaru

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status