Share

บทที่ 1221

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ในตำหนักฉือหนิง

ฮองไทเฮาเพิ่งฟังรายงานสถานการณ์ของเหล่าหรงไทเฟยทางนั้น ถอนหายใจเล็กน้อย “รู้แล้ว ให้หมอหลวงรักษาเต็มที่ ต้องใช้ยาดีอะไรก็ใช้ได้เลย”

“พ่ะย่ะค่ะ!” เกากงกงพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ขอบพระทัยไทเฮา”

“เหตุใดจึงไม่รายงานเรื่องนี้ต่อฮองเฮา?” ไทเฮาถามเรียบๆ

เกากงกงกล่าวว่า “ไปรายงานแล้ว ฮองเฮาตรัสว่า นางแก่แล้ว อย่างไรก็ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แล้วให้คนไปส่งอาหารของกิน จากนั้นตรัสว่าขอให้ไทเฟยสบายใจ เรื่องการเตรียมงานศพคงจะเตรียมไว้อย่างดี บ่าวไม่กล้าบอกไทเฟยเช่นนี้”

ไทเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย “อึ้ม ไม่จำเป็นต้องพูด สิ่งที่ควรเตรียมก็ต้องเตรียม แต่ตอนนี้ต้องยายามรักษากันอย่างเต็มที่ก่อน”

เกากงกงสะอื้นและกล่าวว่า “ไทเฮาตรัสเช่นนี้บ่าวก็วางใจ มีหมอหลวงคอยวินิจฉัยและรักษา อย่างน้อยไทเฟยก็จะรู้สึกสบายขึ้นบ้าง”

“ไปเถอะ ประเดี๋ยวข้าก็จะไปหานางเช่นกัน” ไทเฮาตรัส

เกากงกงคุกเข่าลงกราบขอบพระทัย แล้วจากไป

“ฉีฉิวอัน” ไทเฮาทรงร้องเรียก กระแสเสียงกริ้วเล็กน้อย “ไปสำนักหมอหลวง สืบดูว่าฮองเฮาไม่อนุญาตให้หมอหลวงไปตรวจรักษาเหล่าหรงไทเฟยจริงหรือไม่?”

ฝูฉิวอันรับคำสั่งแล้วออกไป ทันทีที่ไปถึงประตูก็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1222

    เมื่อได้ยินดังนั้น ไทเฮาก็เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วยิ้ม “ข้าจำได้ว่าก่อนที่ฮองเฮาจะอภิเษกสมรสกับฮ่องเต้ ก็เคยเป็นสตรีผู้มีความสามารถมีชื่อเสียงในเมืองหลวง เจ้าเคยอ่านตำรามามากมาย แต่สุดท้ายกลับคิดว่าสตรีเรียนหนังสือไม่ใช่เรื่องดี? แล้วเมื่อครู่ที่เจ้าพูดว่าอ่านหนังสือเพื่อความรู้แจ้งนั้นดีมาก? ฮองเฮาพูดขัดแย้งกันเองเช่นนี้ ไม่รู้ตัวเลยหรือ?”ฮองเฮาสะดุ้ง “หม่อมฉัน...ไม่ได้หมายความอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าผู้หญิงเรียนหนังสือไม่ดี สตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ได้ศึกษาเล่าเรียนก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะจะได้เปิดโลกทัศน์ ถึงอย่างไรก็มีกฎบ้านและจริยธรรม การศึกษาสามารถทำให้สิ่งที่ดีอยู่แล้วดียิ่งขึ้นไปอีก”“ฮองเฮา ข้ารู้สึกว่าเจ้าชอบพูดเรื่องกฎเกณฑ์และมารยาท เจ้าชอบถูกผูกมัดด้วยกฎเกณฑ์และมารยาทกระนั้นหรือ?”ฮองเฮาได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมาก “เสด็จแม่ นี่คือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับสตรีที่จะดำเนินชีวิตในสังคม จะบอกว่าชอบหรือไม่ชอบได้อย่างไร? คนที่ประพฤติตนตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ย่อมต้องปฏิบัติตาม เหมือนกฎของราชวงศ์ซางเรา ผูกมัดไม่ให้ผู้คนทำชั่วหรือฝ่าฝืนกฎหมาย คนที่มีเจตนาชั่วร้ายย่อมไม่ชอบกฎเหล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1223

    หลังจากส่งฮองเฮาออกไปแล้ว ไทเฮาก็ส่งคนออกจากวัง ไปถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์กับซ่งซีซีว่า สถาบันการศึกษาหย่าจวินจะจัดการอย่างไรนั้น ก็ให้นางจัดการได้เลย คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ไม่ต้องไปสนใจส่งคนไปถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์แล้ว ก็ยังส่งคนไปบอกจักรพรรดิซูชิง ให้เขามาเสวยอาหารเย็นด้วยฝูฉิวอันชงชาให้นางแล้วพูดว่า “อย่าทรงกริ้วไปเลย ไม่คู่ควร ฮองเฮาไม่เข้าใจ ท่านแค่สอนนางก็พอ”“หลายปีมานี้ยังสอนไม่พออีกหรือ? มีคำไหนบ้างที่นางเชื่อฟัง? เหตุใดข้าต้องเสียเวลาพูดกับนางอีก?” ไทเฮาขมวดคิ้ว “ขนาดเรื่องที่สร้างความลำบากให้เหล่าหรงไทเฟยนางยังกล้าทำ นางกลัวอ๋องเยี่ยนจะหาเหตุผลออกไปป่าวประกาศข้างนอกไม่ได้หรืออย่างไร”ตอนนี้อ๋องเยี่ยนกลับมาที่เยี่ยนโจวแล้ว เมื่อคนพิการ ย่อมจะกลายเป็นคนโหดเหี้ยมมากขึ้น หากสนมหรงตายอย่างน่าเวทนา มันจะทำให้เขามีโอกาสหาข้ออ้างที่จะปลุกปั่นชาวเยี่ยนโจวได้พอดี ซึ่งหมอนนี้นางส่งได้เหมาะเจาะยิ่งนักถ้าไม่ไหวจริงๆ งั้นตำแหน่งฮองเฮานี้ก็เปลี่ยนคนเถอะในห้องทรงพระอักษร จักรพรรดิซูชิงได้ยินคนจากตำหนักฉือหนิงมารายงาน บอกว่าไทเฮาเชิญเขาไปเสวยคืนนี้จักรพรรดิซูชิงรู้สึกชาวาบไปทั่วศีรษะ เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1224

    จักรพรรดิซูชิงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววโกรธขึ้ง “ข้าบอกเจ้าหรือยังว่าจะปิดสถาบันการศึกษาสตรีหญ่าจวิน? สถาบันการศึกษาสตรีก่อตั้งโดยเสด็จแม่ อนาคตจะสามารถรวบรวมสตรีจากตระกูลขุนนางมารวมตัวกันได้มากมาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อข้ามาก ทำไมข้าถึงอยากปิด?”ฮองเฮาพูดอย่างว่างเปล่า “แต่ฝ่าบาทไม่ต้องการให้ซ่งซีซีติดต่อกับพวกนางอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่หรือ?”จักรพรรดิซูชิงจ้องมองนาง พูดเน้นทีละคำ “ฮองเฮาไม่มีความสามารถที่จะมาแทนที่ซ่งซีซีกระนั้นหรือ?”ฮองเฮาเบิกตากว้าง ราวกับแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “ฝ่าบาทหมายความว่า ให้หม่อมฉันลดตัวลงไปหาสถาบันการศึกษาสตรี? หรือไปเอาใจบรรดาฮูหยินของขุนนาง?”นางเป็นฮองเฮานะ ให้นางไปสถาบันการศึกษาสตรีจะเป็นการสมควรหรือ? แล้วฮูหยินขุนนางเหล่านั้น ทำไมต้องให้นางที่เป็นฮองเฮาไปเอาใจพวกนางด้วย? ไม่ใช่พวกนางหรอกหรือที่ต้องมาประจบประแจงนางที่นี่?นี่ไม่เท่ากับว่าทำลายศักดิ์ศรีหรือ?จักรพรรดิซูชิงกล่าวอย่างเย็นชา “อำนาจกษัตริย์ดูอาจดูเหมือนสูงส่งยิ่งใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถสูงส่งได้จริง ถ้าไม่ระวังก็จะตกต่ำลงอย่างรวดเร็วและพังทลาย ข้าเป็นฮ่องเต้ มีหลายเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1225

    เมื่อประตูตำหนักเปิดออก อู๋ต้าปั้นก็รีบร้องว่ายกเกี้ยว ส่วนป้าหลานเจี่ยนก็รีบเดินเข้าไปในตำหนัก ช่วยพยุงฮองเฮาขึ้นมา“มือของฮองเฮาได้รับบาดเจ็บ” ป้าหลานเจี่ยนรีบเช็ดเลือดด้วยผ้าเช็ดหน้า จากนั้นจึงเรียกนางกำนัลเข้ามาทำความสะอาดบาดแผลฮองเฮาฉีนั่งอิดโรยบนเก้าอี้ สีหน้าตื่นตระหนกหวาดกลัว “เขาบอกว่าเขาจะปลดฮองเฮา ฝ่าบาทบอกว่าจะปลดฮองเฮา”“ฝ่าบาททรงพิโรธเพียงชั่วขณะ จะทรงปลดฮองเฮาได้อย่างไร? ไม่ต้องกังวลเพคะ” ป้าหลานเจี่ยนไล่นางกำนัลที่เข้ามารับใช้ออกไป มองดูฮองเฮาที่มีสีหน้าซีดเซียว แล้วถอนหายใจ “ฮองเฮาไม่ควรไปพูดเรื่องนั้นกับไทเฮา อีกอย่างเรื่องเหล่าหรงไทเฟย บ่าวก็เกลี้ยกล่อมท่านแล้ว แต่ท่านไม่ฟัง”“ข้าไม่เข้าใจ มันผิดอะไร!” ดวงตาของฮองเฮาฉีเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ “เรื่องสองเรื่องนี้ แม้จะมีความผิด แต่ก็เป็นเพียงความผิดเล็กน้อย ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงด้วยซ้ำ”ป้าหลานเจี่ยนถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่านางไม่ฟังสิ่งที่ไทเฮาและฝ่าบาทพูด ตอนนี้จิตใจของนางมุ่งความสนใจไปที่การโจมตีซ่งซีซี และวางแผนเพื่อองค์ชายใหญ่แต่นี่เป็นวิธีที่ผิด“ฮองเฮาสามารถตีสนิทซ่งซีซีได้ ไม่จำเป็นต้องต่อต้านนาง นางไม่ใช่ส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1226

    “ฮองเฮาไม่ควรเป็นคนโง่เขลาขนาดนี้ เมื่อก่อนนางเคยฉลาดมาก” ไทเฮาลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร นั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์ กินอิ่มเจ็ดส่วน ก็นั่งสบาย “คนผู้หนึ่งที่เฉลียวฉลาดกลับกลายเป็นคนโง่เขลา เพราะว่าอยู่ในสถานการณ์นั้นเอง มองเห็นอะไรไม่ชัดเจน เห็นแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์นี้ ไม่ว่านางจะเสียสละใคร นางก็คิดว่ามีเหตุผลทั้งนั้น”“ใช่ เสด็จแม่ตรัสถูกต้อง” จักรพรรดิซูชิงพยักหน้าเห็นด้วยไทเฮาให้เขานั่งลง ตรัสถามว่า “เรื่องที่สถาบันการศึกษาสตรีรับสมัครนักเรียน เต้าคิดเห็นอย่างไร?”จักรพรรดิซูชิงตรัสตอบว่า “ลูกคิดว่าเป็นสิ่งที่ที่ดีมาก สามารถทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ตนเองละผู้มีอำนาจอยู่ไม่ห่างชั้นกันมากนัก ความขุ่นเคืองของประชาชนก็ลดน้อยลงมาก”เขาย่อมคิดจากสถานการณ์โดยรวมอยู่แล้ว ส่วนจะทำให้เด็กสาวชาวบ้านได้มีความรู้อะไรนั่น เขาไม่สนใจ“แล้วเจ้าคิดว่า นักเรียนจากทั่วทั้งแผ่นดินจะโจมตีนักเรียนกลุ่มนี้หรือไม่?” ไทเฮาถามอีกครั้งจักรพรรดิซูชิงหัวเราะและตรัสว่า “เป็นไปได้อย่างไร? บัณฑิตบางคนไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ คิดว่าสตรีไม่ฉลาดพอ คิดว่าสถาบันการศึกษาสตรีเป็นเพียงการละเล่นของเด็ก ก็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1227

    หลังจากการสอบสวนของหอหนานเฟิงชัดเจนแล้ว ซ่งซีซีก็ไปรายงานที่วังด้วยตนเองนางไม่รู้ว่าตัวเองถูกฮองเฮาฟ้อง ดังนั้นจึงตั้งใจว่าจะรายงานธุระให้เสร็จ แล้วค่อยไปถวายพระพรไทเฮาเมื่อจักรพรรดิซูชิงได้ยินว่ามีคนจากแคว้นซาที่รู้วรยุทธ์ซ่อนตัวอยู่ในหอหนานเฟิง เขาก็ประหลาดใจมาก สีหน้าเคร่งขรึมทันทีนางไม่ได้พูดถึงเรื่องที่อาจารย์ฉีไปเยือนที่หอหนานเฟิง เพราะจากการสืบสวน ที่อาจารย์ฉีไปหอหนานเฟิงนั้นเป็นเพียงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แม้แต่ตัวตนก็ยังถูกปิดบังไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่แต่งตัวให้ตัวเองดูพิลึกแบบนั้นเมื่อแอบฟังหลายครั้ง ก็พบว่าเขาพูดแต่เรื่องความรัก ไม่พูดถึงเรื่องการเมือง และไม่ได้ทำอะไรผิดปกติเป็นพิเศษ จึงไม่ได้แพร่งพรายออกไปหงเซียวแอบฟังบริกรพูดถึงอาจารย์ฉี แอบเรียกเขาว่าผีเฒ่า แถมยังพูดด้วยความรังเกียจว่าผีเฒ่านี่กลับมาอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ฉีให้เงินมาก คงไม่มีใครเต็มใจรับรองเขาเนื่องจากเป็นความสนใจส่วนตัว จึงไม่จำเป็นต้องพูด นอกจากนี้เขาอาจจะไม่รู้ว่าบริกรบางคนมาจากแคว้นซา แถมแคว้นซายังเลือกมาก ต่างก็เลือกแต่หนุ่มหล่อที่ออกแนวแปลกๆ นิดหน่อย แต่กลับไม่สอดคล้องกับคุณลักษ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1228

    คุกในจวนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงนั้นเรียบง่ายและหยาบมาก โดยทั่วไปจะไม่ขังใครไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครถูกจับกุม สำหรับคดีเล็กๆ น้อยๆ จะถูกปรับเงินหรือโบยด้วยไม้กระดาน หากเป็นคดีร้ายแรงจะถูกส่งไปยังทางการ และสอบสวนตามกฎหมายซ่งซีซีถามว่า “ถ้ามีขุนนางในราชสำนัก ให้พากลับมาด้วยหรือไม่?”จักรพรรดิซูชิงพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “แน่นอนว่าต้องพากลับมาให้หมด”ซ่งซีซีเข้าใจว่าฝ่าบาทต้องการให้บทเรียนให้พวกเขา แต่ก็ไม่อยากให้ทางการรู้เรื่องนี้ เพราะต้องการปกป้องชื่อเสียงของพวกเขา จึงแค่ให้ขังไว้ในคุกจวนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงจุดประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดคือ การจับสายลับแคว้นซาและสอบปากคำพวกเขาอย่างเข้มข้น“ห้ามบอกใครก่อนเด็ดขาดนะ” จักรพรรดิซูชิงเตือน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้บทเรียนแก่คนเหล่านั้น เพื่อปรับปรุงความประพฤติทางศีลธรรมซ่งซีซีกล่าวด้วยความเคารพ “เพคะ หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชา”หลังจากรับคำสั่งและออกมาแล้ว ซ่งซีซีก็นึกถึงอาจารย์ฉีพูดตามตรง ที่อาจารย์ฉีพูดกับนางในวันนั้น แม้ว่านางจะโกรธอยู่ในใจ แต่ก็คิดเสมอว่าเขาเป็นอาจารย์ของอดีตฮ่องเต้ ได้ชื่อว่าเป็นราชครู ถ้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1229

    ได้ยินเสียงหายใจหนักๆ ดังมาจากข้างใน ซึ่งเสียงหายใจนั้นแฝงความตื่นตระหนก บางทีอาจารย์ฉีคนนี้ไม่เคยตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเขาอาจจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องใหญ่ๆ ได้ แต่เขาไม่สามารถเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ได้แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตที่นี่ทันที ก็ไม่อยากให้ศพถูกค้นพบที่นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่เขาออกจากวังในวันส่งท้ายปีเก่า เขาตำหนิติเตียนซ่งซีซีอย่างเข้มงวด“ออกมา!” ซ่งซีซีตะโกนอีกครั้งบริกรน้อยสองคนเดินเท้าเปล่าออกมา ในห้องนี้มีการเผาถ่านเงิน และปูด้วยพรม ที่นี่จึงสามารถเดินเท้าเปล่าได้“จะออกมาเองหรืออยากให้ข้าเชิญ?” ซ่งซีซีพูดเรียบๆทันใดนั้นบริกรทั้งสองก็วิ่งออกไป เหลือเพียงคนที่อยู่ด้านหลังฉากบังลมที่สั่นเล็กน้อยซ่งซีซีดึงผ้าปูโต๊ะปักลายดอกไม้บนโต๊ะออก เดินอ้อมฉากบังลมและคลุมตัวอาจารย์ฉีไว้ จากนั้นจับมือของเขาแล้วพูดว่า “ไป!”อาจารย์ฉีซึ่งถูกผ้าปูโต๊ะคลุมหน้าไว้ถูกลากไป และเซไปข้างหน้า เขาก้มศีรษะลงก็ยังคงมองเห็นทางเขาไม่เข้าใจมาก ซ่งซีซีต้องไม่เห็นเขาแน่นอน เพราะเขาซ่อนตัวอยู่หลังฉากบังลม ยังไม่เคยพบหน้าซ่งซีซีแบบเต็มๆแต่ซ่งซีซีดูเหมือนจะรู้จักตัวตนของเขา ยังคงให้เก

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status