Share

บทที่ 99

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ยี่ฝางตื่นตระหนก มองดูดวงตาสีเข้มของซ่งซีซี จากนั้นก็มองไปที่กระบองไม้ในมือของนางที่กลับไม่มีร่องรอยใด ๆ ปรากฎ จึงแอบประหลาดใจขึ้นมา

เป็นไปได้ไหมว่านี่ไม่ใช่กระบองธรรมดา? ใช่แล้ว เป่ยหมิงอ๋องยืนกรานที่จะปกป้องนาง จะให้กระบองไม้ธรรมดาแก่นางได้อย่างไรกัน?

มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ๆ

เมื่อนึกถึงตรงนี้ นางยิ้มอย่างเย็นชา "กระบองไม้นี้ เกรงว่าไม่ใช่แท่งไม้ธรรมดาสินะ ดูเหมือนว่าผู้บังคับบัญชาได้เลือกอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดให้แก่นาง"

กระบองไม้นั้นยาวพอ ๆ กับหอกดอกท้อ เดิมทีเอามาใช้เป็นเสาไม้สำหรับการตั้งแคมป์ เพียงแค่ยี่ฝางใส่ใจเพิ่มขึ้น ก็จะรู้ว่ามันเป็นเพียงกระบองไม้ธรรมดา

แต่นางเชื่อปักใจว่าเป่ยหมิงอ๋องลำเอียงต่อซ่งซีซี เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเลือกกระบองไม้ธรรมดาแก่ซ่งซีซีเพื่อใช้ในการประลองยุทธ์เช่นนี้

เนื่องจากทหารจำนวนมากมองเห็นไม่ชัดเนื่องจากอยู่ระยะไกล เมื่อได้ยินคำพูดของนางต่างก็รู้สึกว่ามันเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยม

แม้ว่าจะมีบางคนตะโกนว่ามันไม่ยุติธรรม ดาบธรรมดาจะเปรียบเทียบกับอาวุธที่เหนือกว่าได้อย่างไร?

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คืนดาบยาวให้นางเสียดีกว่า นึกว่าเก่งสักแค่ไหน ที่แท้ก็ตบตา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
สาขาน้ำพอง บมจ.ไทยประกันชีวิต
สนุกน่าติดตามมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 100

    ยี่ฝางกระอักเลือด ลูกเตะนั้นแทบทำให้อวัยวะภายในของนางเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงจนไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาได้ใบหน้าของนางซีดเผือด ยื่นมือออกไปลูบลำคอโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือของนางเปื้อนเลือด ร่างกายสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่เป็นเพราะความกลัว แต่เป็นเพราะนางรับไม่ได้กับผลลัพธ์เช่นนี้นางมองดูซ่งซีซีอย่างไม่เชื่อสายตา วิทยายุทธเช่นนี้ นางไม่เคยมาก่อนในชีวิตแต่ซ่งซีซี นางจะมีวิทยายุทธการต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อก่อนตอนที่นางหย่าร้าง พี่จ้านเคยบอกว่านางเหาะเหินเดินอากาศทำร้ายคนได้ ตอนนั้นคิดว่าเป็นแค่เรื่องตลก ตอนนี้เข้าใจดีแล้ว หัวใจของนางถูกครอบงำด้วยความริษยา มีความรู้สึกราวกับว่ามีมดนับพันกำลังรุมกัดความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ทำให้นางเสียหน้าอย่างหนัก เมื่อก่อนนางเคยพูดกับกองกำลังเสริมว่าซ่งซีซีอาศัยความสัมพันธ์มาไต่เต้า ซึ่งส่งผลให้แม่ทัพหลายคนถูกโบยและก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้น นางก็ยังกล่าวหาเสียงดังเช่นนี้ต่อซ่งซีซี โหมกระแสความรู้สึกโกรธเคืองของผู้คนแต่ในตอนนี้ ซ่งซีซีใช้ความสามารถที่แท้จริงของนาง หักล้างคำพูดของนางส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 101

    บัดนี้กองทัพซวนเจียรู้สึกชื่นชมนับถือกับซ่งซีซีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปี้หมิงเขามองออกความแข็งแกร่งแห่งการเคลื่อนไหวของแม่ทัพซ่ง แท่งไม้กลายเป็นท่อนไม้ที่เป็นชิ้นๆ อีกอย่างทั้งหมดเรียงกันอย่างเรียบร้อย พลังภายในนี้ได้ซ่อนฝีมือไว้ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเศษไม้จำนวนมากที่พุ่งออกไป มีเพียงชิ้นเดียวที่ลงยังคอเท่านั้นที่มันเบาเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน และฟ้าเริ่มมืดลง กองไฟก็ส่องทหารที่ค่อยๆ กระจายออกไป และพวกเขาก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนามแต่คราวนี้หัวข้อที่พวกเขาสนทนานั้นล้วนเกี่ยวกับท่าที่แม่ทัพซ่งออกให้"แท่งไม้แตกออกเป็นชิ้นๆ ทันที มันน่าทึ่งมากจริงๆ มันเหมือนกับมายากลทีเดียว""สมเป็นลูกสาวของท่านแม่ทัพซ่งจริงๆ สินะ นางสุดยอดมาก""ข้าว่าแล้วเชียว หากไม่ได้สร้างผลงานทางทหารด้วยความสามารถของตัวเองจริงๆ แล้วจะเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพชั้นห้าได้อย่างไรเล่า""เจ้านี่ไร้ยางอายเลย เจ้าเป็นคนโวยวายเสียงดังที่สุดในตอนแรก และยังคิดจะไปประท้วงต่อหน้าผู้บังคับบัญชาเสียอีก หากข้าไม่ได้ห้ามเจ้าไว้ คนที่ถูกตีด้วยไม้กระดานทหารจะเป็นเจ้าแน่""เอ๊ะๆๆ ข้าแค่หลงเชื่อคำพูดของแม่ทัพยี่ไป แม่ทัพยี่เป็นคนพูดเองว่า แม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 102

    ซ่งซีซีชี้หอกดอกท้อออกไป ชี้ไปยังสถานที่ที่นางสู้กับปี้หมิง "หากตายังใช้งานได้ จงไปดูด้วยตัวเจ้าเองว่าเหตุใดปี้หมิงจึงยอมแพ้"สถานที่นั้นอยู่ไม่ไกล ห่างจากพวกเขาเพียงเจ็ดหรือแปดฟุตเท่านั้นเมื่อมองตามทิศทางที่ชี้โดยหอกดอกท้อ ยี่ฝางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเห็นรอยแตกห้ารอยบนพื้น แต่ละรอยแตกนั้นเหมือนกับตะขาบกำลังคลานอยู่อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งกำลังไปยังที่แห่งเดียวนั่นอาจเป็นที่ที่ปี้หมิงยืนอยู่ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่ามันจะทะลุเท้าของปี้หมิง เนื่องจากหนึ่งในห้ารอยแตกนั้นมีสถานที่ที่หนึ่งที่มีขนาดใหญ่ประมาณรอยเท้าคู่หนึ่ง ซึ่งรอยไม่ได้ใหญ่มาก พอจะเข้าใจว่าแรงภายในจะกระทบเท้าของปี้หมิงเข้า ดังนั้นรอยแตกในสถานที่นั้นจึงค่อนข้างเล็กหากกำลังภายในนี้ไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม ขาของปี้หมิงก็อาจถูกทำลายไปเลยนี่คือเหตุผลที่ปี้หมิงยอมรับความพ่ายแพ้ยี่ฝางหายใจเข้าลึกๆ นางรู้ว่า นางพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงต่อหน้าซ่งซีซีเลยแต่ไม่นานนัก นางก็ยืนตัวตรงอย่างรวดเร็ว คว้าแขนของจ้านเป่ยว่าง แนบชิดข้างเขา และเผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ที่นางไม่เคยมีมาก่อน "ใช่ ในด้านความท้าทาย ข้าแพ้กับเจ้า ทักษะศิล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 103

    ซ่งซีซีถูกเซี่ยหลูโม่เรียกตัวไปมีถ้วยชาร้อนวางอยู่ตรงหน้านาง ความร้อนอบอ้าวทำให้ดวงตาของนางพร่ามัวนางหยิบแก้วชาขึ้นมาจิบ น้ำชาขมมาก แต่ได้ดื่มชาในกองทัพก็เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว"ต้องการฆ่านาง?" เซี่ยหลูโม่ถาม"เคยคิด" ซ่งซีซีตอบอย่างตรงไปตรงมาเซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "คนที่ถูกส่งไปสอบสวนส่งจดหมายกลับมา ชาวซีจิงถึงกับปกปิดการสังหารหมู่ในหมู่บ้าน พวกเขาแค่บอกคนนอกว่าหมู่บ้านเกิดไฟไหม้ และทุกคนถูกเผาจนตาย เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่หมายความว่าอะไร"ซ่งซีซีจับถ้วยในมือแน่น มือของนางอบอุ่นขึ้น แต่ใจกลับรู้สึกเย็นเฉียบ หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ค่อยๆ พูดว่า "ข้ารู้ ชาวซีจิงต้องการซ่อนความอัปยศอดสูของรัชทายาทแห่งเมืองซีจิง""ดังนั้น แม้ว่าฮ่องเต้จะสืบความจริงเข้าแล้ว อย่างน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้า ขนาดเขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรยี่ฝางได้ อย่างน้อยเจ้าวางใจได้ว่าท่านตาของเจ้าจะไม่โดนเดือดร้อนเพราะยี่ฝาง"ขนาดชาวซีจิงยังไม่ยอมรับยี่ฝางสังหารหมู่ แล้วฮ่องเต้จะเป็นฝ่ายริเริ่มยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไงเล่า คงเป็นไปไม่ได้ไปบังคับให้ชาวซีจิงยอมรับ แล้วให้ฮ่องเต้ส่งทูตไปยอมรับความผิดพลาดกับพวกเขากระมังซ่งซีซีก็เข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 104

    หลังจากที่ยี่ฝางล้มเหลวในการท้าทาย นางก็ถูกทหารหลายคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างลับหลังพวกทหารและแม่ทัพที่ถูกทุบตีด้วยไม้ทหารเพราะเชื่อใจนาง ยิ่งปฏิบัติต่อนางอย่างหงุดหงิดมากแต่โชคดีที่ทหารภายใต้บังคับบัญชาของนางยังคงเคารพนาง โดยเฉพาะทหารสามร้อยนายที่สร้างผลงานพร้อมกับนาง ซึ่งภักดีต่อนางมากถึงยังไงแล้ว การมีส่วนร่วมในสงครามเมืองลู่เปินเอ่อร์ ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลเงินไม่น้อย ดังนั้นไม่ว่าคนนอกจะพูดอะไร พวกเขาจะต้องภักดีต่อยี่ฝางนอกจากนี้ พวกเขายังมีความลับเดียวกัน ซึ่งความลับนี้ต้องเก็บไปตลอดไป ต่อให้ต้องตายก็บอกไม่ได้หลังจากยี่ฝางสติแตกไปสองวัน นางก็ค่อยๆ กลับมามีพลังอีกครั้งตอนนี้ นางกับพี่จ้านเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่านางจะสร้างผลงานไม่ได้อีก แต่ขอแค่พี่จ้านสร้างผลงานไว้ งั้นก็เป็นเกียรติของสองสามีภรรยาพวกเขาสองคนกันเมื่อถึงเวลานั้น นางจะนำกองทหารไปกับพี่จ้าน เพื่อช่วยเขาสังหารศัตรู และหลังจากพี่จ้านได้สร้างผลงานแล้ว ก็สามารถช่วยพูดให้นางอีกนางไปหาจ้านเป่ยว่างอย่างตื่นเต้น "พี่จ้าน เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ข้าจะนำกองกำลังของข้าติดตามเจ้าไป และช่วยเจ้าฆ่าศัตรู ถ้าเจ้าสร้างผลงานก็เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 105

    ทุกคนกำลังเตรียมตัวอย่างตื่นเต้นสำหรับสงครามนี้ และซ่งซีซีก็ฝึกฝนหองทัพมาหลายวันแล้วทหารยามซวนเจียจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันนาย แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งทำหน้าที่โจมตีและอีกหนึ่งกลุ่มป้องกัน แต่ละกลุ่มแบ่งออกเป็นสิบหน่วย และจำนวนการโจมตีและการป้องกันทั้งหมดรวมกันคือยี่สิบหน่วยแผนการต่อสู้ของนางเป็นเช่นนี้ ขั้นแรก ให้ทั้งห้าหน่วยโจมตี จากนั้นอีกห้าหน่วยจะป้องกัน ให้สลับหน้าที่อย่างรวดเร็ว เมื่อหน่วยการป้องกันได้คงที่ให้รีบโจมตีทันที สลับกันปกป้องและโจมตีเลย ตามนี้ไปการฝึกไม่กี่วันก็ค่อนข้างมีประสิทธิผลบัดนี้ อาวุธพร้อมแล้ว โดยมีโล่และมีดสั้นสำหรับหน่วยป้องกัน และหอกสำหรับหน่วยโจมตีผู้บังคับบัญชากล่าวว่าก็ประมาณอีกสองสามวันข้างหน้าจะเริ่มโจมตีเมืองแล้ว กองทัพซวนเจียทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทัพ จะต้องเตรียมแผนการล้อมโจมตีเมืองทีละแผนให้ดีๆในเวลานั้น จ้านเป่ยว่างจะให้ความร่วมมือและนำคนหนึ่งหมื่นคนไปสร้างบันได ดันเครื่องโยนหิน ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือในช่วงสองสามวันก่อนสงครามจริงๆ แล้วแผนการโดยรวมถูกผู้บังคับบัญชากำหนดไว้แล้ว พวกเขาไม่มีอะไรสำคัญที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 106

    จ้านเป่ยว่างถามเบาๆ อีกครั้ง "แล้วที่เจ้าแต่งงานกับข้า เป็นเพราะเจ้าชอบข้าจริงๆ หรือว่าเจ้ายอมแต่งงานกับใครก็ตามที่ท่านแม่ของเจ้าเลือกให้เจ้า?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "คำถามนี้ไม่มีความหมายย"เขารีบพูดขึ้น "ข้าอยากรู้"ซ่งซีซีขมวดคิ้วอีกครั้ง "จ้านเป่ยว่าง เจ้าไม่เคยวางตัวให้ถูกเลย ยามที่เจ้าเป็นสามีของข้าเจ้าวางตัวไม่ถูก ยามนี้ที่เจ้าเป็นสามีของยี่ฝาง เจ้าก็ยังวางตัวไม่ถูกเช่นกัน"จ้านเป่ยว่างมองนางด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชา "เพราะงั้นเจ้าไม่เคยชอบข้ามาก่อนเลย เจ้าแค่แต่งงานกับข้าตามคำสั่งของท่านแม่เจ้า ข้าว่าแล้วเชียว ข้าแค่แต่งภรรยาที่เท่าเทียมกันคนหนึ่ง เจ้ากลับเข้าวังเพื่อขอหย่าโดยสันติ เจ้าไม่มีความรู้สึกอะไรต่อข้าเลย เจ้าใจร้ายกับข้าก่อน แต่กลับให้ทุกคนคิดว่าข้าทำผิดต่อเจ้า"ซ่งซีซีหัวเราะด้วยความโกรธ "ไม่ว่าข้าจะมีความรู้สึกต่อเจ้าหรือไม่ ตั้งแต่ที่ข้าแต่เข้าจวนแม่ทัพของเจ้า ข้าดูแลท่านพ่อแม่ของเจ้าโดยเอาใจใส่ ทำทุกอย่างให้เต็มที่ ยับยั้งตัวเอง และรอเจ้ากลับมาด้วยความสำเร็จ แต่เจ้าเล่า คำสัญญาในเวลาที่เจ้าสู่ขอ ก่อนที่เจ้าจะออกศึกบอกข้าว่าให้ข้ารอเจ้า ข้ารอมาตั้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 108

    การล้อมโจมตีเมืองนั้นโหดร้ายที่สุด พวกเขาอยู่บนกำแพงเมืองของซีม่อน และเครื่องยิงธนูก็มุ่งเป้าไปที่ทหารที่อยู่ด้านล่าง ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงใช้วิธีก่อนหน้านี้ ให้ผู้ที่มีทักษะวิชาตัวเบาเก่งๆ บินขึ้นไปบนกำแพงเมืองแต่คราวนี้กำแพงเมืองของซีม่อนได้ถูกซ่อมแซมให้สูงขึ้น ในเวลาเพียงสิบวัน ชาวแคว้นซาได้สร้างกำแพงเมืองสูงขึ้นมาหนึ่งฟุต ดังนั้น คนที่สามารถบินขึ้นไปบนกำแพงเมืองก็มีเพียงพวกเซี่ยหลูโม่ ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือในตอนแรก แม่ทัพฟางก็ไม่สามารถบินขึ้นไปได้ เขาพยายามอย่างเต็มที่ ได้บินขึ้นไปหลายครั้ง แต่ก่อนที่เขาจะยืนตัวให้มั่นคง หอกของศัตรูก็แทงมาเขาลงที่เขาทันที เสิ่นว่านจือเห็นเช่นนั้น เฆี่ยนแส้อีกครั้ง และมัดแม่ทัพฟางก่อนจะลากเขากลับเข้ามาเสิ่นว่านจือช่วยแม่ทัพฟาง นางเลยตกอยู่อันตราย เฉินเฉินก็รีบช่วยเฝ้าระวังให้นาง และปกป้องนางจากหอกของศัตรูซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ทำลายเครื่องยิงธนูสองคันท่ามกลางกองทหารศัตรู จากนั้นซ่งซีซีก็ตะโกนบอกกองทัพซวนเจียว่า "ใช้เครื่องยกหิน"ปี้หมิงทำตามคำสั่ง "ใช้เครื่องยกหิน!"อาวุธหนักที่กองทัพจ้านเป่ยว่างนำมาล้วนมาถึงแล้ว ขณะที่กองทัพซวนเจียและจ้านเป

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status