Share

บทที่ 781

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
จู่ๆ นายสี่เว่ยก็อารมณ์ปรี๊ดแตกและเข้าไปตบหน้าชิงลู่อย่างแรง ตามด้วยเสียงคำราม "นังสารเลว ข้าปฏิบัติต่อเจ้าดีขนาดนี้ และเจ้ากลับทรยศข้าเหรอ?"

ชิงลู่ล้มลงกับพื้น และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของนางอย่างช้าๆ นางใช้มือทั้งสองข้างท้าวพื้น โดยยังคงคุกเข่าตัวตรง แต่น้ำตาก็ไหลอาบแก้ว ริมฝีปากสั่นสองสามครั้ง และพูดด้วยเสียงร้องไห้ "ข้าขอโทษ ข้ามีบาปที่ไม่อาจอภัยได้ ข้ายอมรับ"

"เจ้าทำให้พวกเราเดือดร้อนไปด้วย" นายสี่เว่ยใช้เท้าเตะไปที่นางอีกครั้ง และพูดด้วยความโกรธ "ข้าเคยถามเจ้า เจ้าบอกว่าเจ้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ เจ้ากล้าโกหกข้าได้ยังไง"

ชิงลู่นอนร้องไห้อยู่บนพื้น แต่ก็ไม่สามารถเรียกความเห็นอกเห็นใจและความรักของชายผู้คนนี้ที่มีต่อนางกลับคืนมาได้

ซ่งซีซีถอนหายใจแทบไม่ได้ยิน โชคดีที่ฮ่องเต้ทรงเอ่ยปากในเมื่อวานนี้ ไม่เช่นนั้นหากจวนเสนาบดีกั๋วกงเว่ยระเบิดออกไป อย่าคิดว่าจะมีคนรอดชีวิตได้

ตอนนี้ฮ่องเต้บอกว่าพวกเขาล้วนเป็นเหยื่อแล้ว งั้นเขาจะไม่เปลี่ยนคำพูดง่ายๆ เอาเสนาบดีกั๋วกงเว่ยและตระกูลฉีไว้ท้ายสุดถือว่าฉลาดจริงๆ

ซ่งซีซีถามชิงลู่ที่นอนอยู่บนพื้นพลางร้องไห้ว่า "ภาพวาดทั้งสองที่เจ้าเอาไปนั้นมีเกรา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 782

    เสนาบดีกั๋วกงเว่ยยืนขึ้นและเตรียมตัวพาซ่งซีซีไปห้องหนังสือ แต่หลังจากก้าวไปได้สองก้าว เขาก็ถามซ่งซีซีว่า "สามารถให้ลูกชายคนโตของข้าไปด้วยไหม?"ซ่งซีซีรู้ว่าลูกชายคนโตของเขาคือซื่อจื่อ นางรู้จักอุปนิสัยของซื่อจื่อเว่ย และรู้ด้วยว่าเสนาบดีกั๋วกงไม่ค่อยชอบเขามากนัก "ได้"ซื่อจื่อเว่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเขารู้มาโดยตลอดว่าพ่อไม่ชอบเขา หรือคิดว่าเขาไร้ประโยชน์และไม่กล้าหาญพอ ดังนั้นพอมีเรื่องสำคัญเขาจึงมักจะน้องสามและน้องสีาเสมอตอนนี้แทนที่จะเรียกน้องสี่เข้าไป กลับเรียกเขาเข้าไป นี่เป็นสิ่งที่เกินความคาดคิดเลยในห้องหนังสือ เสนาบดีกั๋วกงเว่ยให้คนใช้จุดธูปเพื่อทำให้จิตใจสงบและสงบสติอารมณ์ด้วย เนื่องจากเขามีความโกรธรุนแรงและอารมณ์ไม่ดี ห้องหนังสือจึงสำรองธูปประเภทนี้ไว้ตลอดแต่วันนี้เขาจุดธูปนี้ ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง แต่จุดให้ซ่งซีซี เขาหวังว่าซ่งซีซีจะสงบสติอารมณ์ และลืมการรออยู่นอกประตูเป็นเวลาครึ่งชั่วยามทั้งยังโดนน้ำสาดหลังจากนั่งลงแล้ว ซ่งซีซีก็เข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมาว่า "พูดตามตรงกับท่านเสนาบดีกั๋วกง เมื่อวานข้าไปเข้าเฝ้า ได้รายงานต่อฝ่าบาท ฝ่าบาทระบุว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 783

    หลังจากออกจากเสนาบดีกั๋วกงเว่ยแล้ว ซ่งซีซีก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลาย พรุ่งนี้ยังต้องเจอกับตระกูลฉีอยู่เลยนอกจากตระกูลฉี ยังมีท่านอ๋องฮุย เซี่ยอวี้นได้ส่งคนให้ท่านอ๋องฮุยด้วยซ่งซีซีไม่คิดที่จะพากองกำลังเมืองหลวงไปที่จวนอ๋องฮุย นางวางแผนจะไปเยี่ยมเขากับเซี่ยหลูโม่ในตอนเย็นและแจ้งให้เขาทราบถึงเหตุการณ์นี้ด้วยเพราะท่านอ๋องผู้เฒ่ากลับเมืองหลวงโดยลำพัง และลูกๆ หลานๆ ของเขาทั้งหมดอยู่ในที่ดินศักดินา ฮ่องเต้จึงยังคงระมัดระวังเขาอยู่บ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่พบบุคคลที่อยู่เบื้องหลังของเซี่ยอวี้น อย่างน้อยก่อนที่มีหลักฐาน ฮ่องเต้จะต้องสงสัยเจ้าเมืองทุกแห่งอย่างแน่นอนในตอนเย็น เซี่ยหลูโม่นำซ่งซีซีไปที่จวนอ๋องฮุย โดยถือของขวัญอยู่ในมือ โดยบอกว่าไปเยี่ยมเยือนท่านอ๋องผู้เฒ่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ หลังอาหารค่ำ นักร้องที่เลี้ยงอยู่ในจวนก็เริ่มผลัดกันร้องเพลงให้เขาเมื่อเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาถึง เขานอนอยู่บนเก้าอี้เอน หลับตาและเอามือเคาะที่จับมือตามจังหวะเพลงอย่างเบาๆนักร้องคลุมหน้ากำลังร้องเพลงขณะเล่นกู่ฉิน เสียงของนางชัดเจนและไพเราะราวกับนกขมิ้นที่โผล่ออกมาจากหุบเขานิ้วเร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 784

    หลังจากนั้นไม่นาน พ่อบ้านชราก็นำผู้หญิงคนหนึ่งในชุดแดงออกมา นางมีรูปร่างที่อวบมาก และชุดนั้นพันรอบร่างเผยให้เห็นวงกลมไขมันบนหน้าท้องของนางนางอ้วน แต่ก็ไม่ได้อ้วนมาก เพียงแต่ชุดไม่พอดีตัวและทำให้นางดูโปนแม้ว่านางจะอ้วน แต่ก็ยังยากที่จะปกปิดหน้าตาเดิม นางมีใบหน้าที่ดี ผิวขาว ผิวโปร่งแสง และเป็นสีชมพูแวววาวพ่อบ้านชราได้บอกนางแล้วว่าผู้มาเยี่ยมคือใคร ดังนั้นนางจึงไหว้ขณะที่เดินเข้ามา "กู้ชิงหยิงขอคารวะท่านอ๋อง คารวะเป่ยหมิงอ๋อง และคารวะพระชายาเป่ยหมิงอ๋องเจ้าค่ะ"ดวงตาของนางเปล่งประกายเป็นพิเศษราวกับดวงดาวในท้องฟ้าอันมืดมิด หลังจากที่นางไหว้เสร็จ ก็ยืนด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มของผู้หญิงแบบอ้วนๆ ช่างหวานจริงๆ"เจ้าชื่อกู้ชิงหยิง เพราะดี" ซ่งซีซีมองไปที่นาง ความรู้สึกที่มีต่อกู้ชิงหยิงแตกต่างจากบุตรีอนุคนอื่นๆ ของตระกูลกู้นางไม่มีเสน่ห์ที่ยั่วยวนคนอย่างกับกู้ชิงหวู่ และไม่มีความไม่ยอมใครอย่างกับกู้ชิงหลาน ยิ่งไม่มีความรู้สึกเศร้าแบบกู้ชิงลู่นางช่างอ่อนหวาน ดวงตาสดใส และดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยนางตอบคำพูดของซ่งซีซีด้วยรอยยิ้มว่า "ชื่อของเราล้วนเพราะดี พ่อของข้าไม่มีความสาม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 785

    หลังจากออกจากจวนอ๋องฮุยแล้ว ซ่งซีซีก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอนุภรรยาและบุตรีอนุในจวนองค์หญิงใหญ่เป็นเหมือนภูเขาหนักอึ้งที่ทับหัวใจของซ่งซีซี หนักมากจนนางแทบจะหายใจไม่ออกนางรู้ดีว่าทำไมอนุภรรยาเหล่านั้นจึงถูกนำตัวไปยังจวนองค์หญิง และก็รู้ดีว่าพวกนางต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ก็เพราะองค์หญิงใหญ่ นางจะไม่โยนความผิดให้พ่อแม่ตนเองแม้แต่นิด แต่นางยังคงรู้สึกทุกข์ใจอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นผู้หญิงเหล่านั้นที่ถูกทรมานอย่างน่าสังเวช ดวงตาไร้แววและเสียงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้พวกนางตกใจหวาดกลัวทั้งหมดนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดใจมากทีเดียวการปรากฏตัวของกู้ชิงหยิงทำให้ซ่งซีซีได้รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันเมื่อโฟมที่อยู่ใต้แสงแดดก็มีสีสันน แต่เมื่อทำมันแตก จริงๆ พื้นหลังก็ยังมืดเช่นกันลมแรงมากตอนกลางคืนทำให้ม่านรถส่งเสียงฟู่ๆเซี่ยหลูโม่กอดนางไว้ในอ้อมแขนของเขา ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรแต่ในใจต่างคิดอะไรอยู่ จริงๆ แล้วก็คิดเรื่องเดียวกันการกระทำของเซี่ยอวี้นทำให้ศีรษะที่อ๋องเยี่ยนโผล่ออกมานั้นหดลงกลับไป ดังนั้น อ๋องเยี่ยนน่าจะต้องคิดแผนว่าจะออกจากเมืองหล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 786

    เซี่ยหลูโม่รอเป็นครึ่งชั่วยามเต็มๆ แต่ก็ไม่เห็นเจ้ากรมฉีเซี่ยหลูโม่หัวเสียขึ้นมา ตระกูลฉีสุดยอดจริงๆ พวกเขาอุตส่าห์ส่งคนมาแจ้งในเมื่อคืนนี้ แต่วันนี้กลับไม่เห็นเงาเลยอาจเป็นเพราะเขาคิดว่าคนที่มาวันนี้เป็นซีซี เขาจึงจงใจทิ้งนางให้รอไปอย่างนั้นมันไม่เหมือนกับจวนเสนาบดีกั๋วกงเว่ยที่ไม่ให้ผู้คนเข้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้เขาให้ความสำคัญกับภรรยามาโดยตลอด จะรังแกเขา อย่าคิดเลย รังแกซ่งซีซี ยิ่งไม่มีทางทันใดนั้น เขาก็ไม่สนว่าเจ้ากรมฉีจะยอมให้คนในตระกูลฉีรู้เรื่องหรือไม่และเปิดโปงเส้นสายขององค์หญิงใหญ่ที่นางจัดไว้ในนี้ต่อหน้าพวกผู้ชายของตระกูลฉีทั้งหมด คนๆ นั้นก็คือบ้านเล็กที่เจ้ากรมฉีเลี้ยงไว้ในข้างนอกจวน เลี้ยงมาสามปีแล้ว มีลูกสาวอยู่คนหนึ่งหลังจากพูดจบ เขาก็พาอาจารย์หยูจากไปผู้คนในตระกูลฉีต่างก็คิดว่าตนเองได้ยินผิดไป เป็นไปได้ไงตระกูลฉีมีนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ตั้งหลายคน ตระกูลที่สำรวมกิริยามารยาท มีกฎเข้มงวด อย่าว่าแต่เลี้ยงบ้านเล็กไว้ แม่แต่อนุภรรยาในจวนก็ไม่มากนัก อีกอย่างลำดับชั้นของภรรยาและอนุภรรยาก็มีความชัดเจน อนุภรรยาคือทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยาเอก ขึ้นอยู่กับภรรยาเอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 787

    แต่ฉีหลิงซีคิดว่าแม้ว่าเรื่องนี้จะถูกปกปิดจากคนภายนอกได้ ก็ไม่สามารถซ่อนจากผู้คนภายในจวนได้ มีคนมากมายในจวน ย่อมมีคนบอกเรื่องนี้กับท่านปู่และท่านแม่เขามองไปนายท่านรอง และพูดว่า "ท่านอาเรื่องนี้ข้าจะไปถามซ่งซีซีให้รู้เรื่อง จากดูแหล่งข้อมูลของนาง หากแค่ได้ยินข่าวซุบซิบจากภายนอกก็กล้ามาหาว่าท่านพ่อมีบ้านเล็ก ข้าจะไม่ยอมแน่ๆ""อืม ไปเถอะ!" นายท่านรองรีบพูดขึ้นเขาไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แต่นายท่านรองจะไม่เชื่อว่าพี่ชายของเขาเป็นคนเช่นนี้อย่างแน่นอนข้อบังคับของบรรพบุรุษแขวนอยู่ที่สูง และตอนนี้พี่ชายเป็นหัวหน้าตระกูลฉี และเขาจะไม่มีวันทำเรื่องขาดสติเช่นนี้ไปเลี้ยงบ้านเล็กที่ข้างนอกฉีหลิงซีขี่ม้าไปที่สำนักกองกำลังเมืองหลวง แต่กลับได้ยินว่าซ่งซีซีถูกเรียกตัวไปเข้าเฝ้าแม้ว่าเขาที่เป็นพี่ชายฮองเฮาไม่มีอำนาจเข้าพระราชวังได้ทุกเมื่อ แต่หากไปรายงานว่าจะไปเยี่ยมฮองเฮา แล้วฮองเฮาส่งคนไปรับเขาที่หน้าวัง งั้นเขาก็เข้าวังได้เลยก่อนอื่นเขาเคยสอบถามว่าซ่งซีซียังอยู่ในพระราชวังหรือไม่ เมื่อรู้ว่านางอยู่ เขาจึงส่งคนไปรายงานต่อฮองเฮาทันที เพื่อให้ฮองเฮาส่งคนไปรับเขาเมื่อเขาได้พบกับฮองเฮาที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 788

    ฮองเฮาฉีกล่าวอย่างไม่พอใจ "ไม่ว่ายังไง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านพ่อจะทำสิ่งนั้น พวกเขาต้องสืบสวนผิดพลาดไป เรื่องนี้ยังไม่ถูกแพร่กระจายใช่ไหม?""มีเพียงคนในจวนเท่านั้นที่รู้ ท่านอารองได้ออกคำสั่งอย่างเข้มงวดห้ามใครแพร่ข่าวเรื่องนี้ออกไป""แล้วตอนที่เจ้าเข้าวัง ท่านพ่อกลับมาหรือหรือ?" ฮองเฮาฉีถามฉีหลิงซีกล่าวว่า "ตอนข้าออกจากจวนนั้นท่านพ่อยังไม่กลับมา ข้าออกไปหาซ่งซีซีที่สำนักกองกำลังเมืองหลวง เมื่อได้ยินว่านางเข้าวังแล้ว ข้าก็รีบมาด้วย คิดว่าเรียกนางมาสอบถามหน่อย เราจะได้หาทางออกมาจัดการ""อย่างไรก็ตาม ข้าไม่เชื่อว่าท่านพ่อจะมีบ้านเล็กข้างนอก" ฮองเฮาฉีพูดอย่างเย็นชาฉีหลิงซีเชื่อเรื่องนี้ในตอนแรก เพราะเป็นท่านอ๋องที่พูดแต่หลังจากที่ท่านอารองพูดอย่างนั้น รวมกับความสงสัยของตนเองหลังจากคิดดูอีกที เรื่องนี้ไม่ได้ถูกสอบสวนจากท่านอ๋อง แต่ปล่อยเป็นหน้าที่ของกองกำลังเมืองหลวง ซ่งซีซีเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แม้ว่านางจะมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่สูงมาก แต่นางไม่เคยจัดการคดีมา ไม่เคยสืบเรื่องต่างๆ เลย เกรงว่าเหมือนกับผู้หญิงทั่วไปก็เชื่อแค่ข่าวลือพวกนั้นตระกูลฉีเป็นที่โดดเด่นในหลายปีมานี้ ซึ่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 789

    หลังจากการเปรียบเทียบดูแล้ว ปรากฎว่าวัสดุและฝีมือการผลิตของชุดเกราะของจวนองค์หญิงใหญ่นั้นได้ดีกว่าและมีรายละเอียดมากกว่าของกระทรวงกลาโหมเสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดเกราะที่แม่ทัพสวมใส่นั้นมีความประณีตมากกว่าได้ลองมันในห้องหนังสือหลวง ฟันไปหลายครั้ง แต่มันก็ไม่หัก กลับทำให้มีดแตกผลการทดสอบของเครื่องยิงก็ออกมาเช่นกัน และมันไม่ดีเท่าของของกระทรวงกลาโหม ผลนี้ทำให้สีหน้าของจักรพรรดิ์ซูชิง ผู้โกรธแค้นได้อ่อนลงเล็กน้อยแต่อย่างน้อยก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าชิงลู่จากจวนเสนาบดีกั๋วกงไม่ได้โกหก นางไม่ได้เอาภาพวาดของเครื่องยิงและชุดเกราะออกไป เพราะมันแตกต่างกันถึงกระนั้น นายสี่เว่ยก็อาจจะถูกเอาความแน่ๆ ภาพวาดอาวุธเป็นของสำคัญขนาดนั้นกลับเปิดเผยให้คนนอกรู้โชคดีที่ฮ่องเต้ยังไม่เปลี่ยนใจการตัดสินที่เขามีต่อพวกผู้หญิงเหล่านั้น และเขาก็เห็นด้วยกับข้อเสนอที่ว่าจะจับตาดูไว้แบบรวมจากซ่งซีซี เพราะผู้หญิงเหล่านั้นถูกควบคุมไว้จริงๆ และไม่ได้ก่อเรื่องร้ายแรงใดๆ ไว้ งั้นเขาก็สามารถได้รับชื่นชมว่าเป็นฮ่องเต้ทรงมีเมตตากู้ชิงหวู่ที่ทำให้จวนเฉิงเอินป๋อเกิดความวุ่นวายนั้น จักรพรรดิ์ซูชิงก็ได้พิจารณามาจะว่า

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status