“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”
“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”
พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน
“ตรงหน้ามึงนี่ไง”
เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว
“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”
“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”
พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว
“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”
พันแสงเลิกคิ้วสงสัย
“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”
เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ
“ยังไงวะ”
พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร
“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ้างมันจะเจ็บปวดแางตายแค่ไหน”
เมืองรามยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะคนอย่างเขาไม่ทำใครก่อนแต่หากถูกกระทำแล้วเขาจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่าหากทำได้
“มึงรู้ได้ไงว่ามันมีลูกสาว”
พันแสงหันขวับมองหน้าเมืองรามอย่างรวดเร็วแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เขาหลับไปเพื่อนเขารู้เรื่องขนาดนี้เชียวเหรอถ้าใช่ก็นับว่าฉลาดจนน่ากลัวไปแล้ว
“กูก็เห็นพวกคนรับใช้บ้านนี้เค้าคุยกัน”
“นี่กูหลับไปเท่าไรเนี่ยมึงถึงได้รู้ทุกอย่างเร็วขนาดนี้”
“กูปีนบ้านไปพักเดียวก็ก็รู้แล้ว”
เมืองรามหันมองคนเป็นเพื่อนอย่างอ่อนใจเพราะกากเขารอพันแสงตื่นคงไม่ได้เรื่องกันพอดี
“วิชาโจรมึงนี่ก็เก่งเหมือนกันนะ”
พันแสงชี้หน้าเพื่อนของเขาทั้งพนักหน้าเบาๆทึ่งในความสามารถที่ความสามารถนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร
“มาทำเรื่องใหญ่ใครเค้าจะมาหลับเหมือนมึงล่ะไม่ทันการกันพอดี”
“แล้วมึงจะพาลูกสาวเค้าไปตอนกลางวันแสกๆแบบนี้เนี่ยนะ”
“รอดูไปก่อน”
เมืองรามยังคงต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าเขาจะพาลูกสาวศรัตรูไปตอนไหนดีหากจะบุกเข้าไปชิงตัวเลยเขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ไปเสี่ยงกับคนดูแลในบ้านที่มีมากกว่าพวกเขาหลายเท่า
11.00 น.
“มึงจะไปไหนวะ”
พันแสงทำหน้างงที่จู่ๆเมืองรามก็ขับรถออกจากที่จอดกระทันหันโดยไม่บอกไม่กล่าว
“ตามแม่นั่นไปน่ะสิ”
เมืองรามใจจดใจจ่อมองไปที่หญิงสาวชุดสีขาวกระโปรงบานที่กำลังเดินอยู่ข้างถนนคนเดียวนับว่าเป็นโชคที่เข้าข้างเขานักที่หญิงสาวได้ทีอยู่คนเดียวเพราะมันจะง่ายต่อการที่เขาจะจัดการเธออย่างดีเลยทีเดียว
“นั่นเหรอลูกสาวบ้านนี้งามที่สุดเลยว่ะ”
เมื่อรถเทียบใกล้จนเห็นหน้าหวานของสาวน้อยพันแสงก็อดชมไม่ได้ว่าโจทย์ของเมืองรามนั้นเป็นผู้หญืงที่งามที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย
“มึงหยุดหัวงูสักแปปได้ไหม”
เมืองรามหันมาหน้างอใส่พันแสงที่พูดเล่นไม่เลือดเวลา
“เออ..”
พันแสงเหล่สายตามองคนเป็นเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์เพราะนานๆเขาจะได้พบเจอสาวงามที่งามราวกับนางฟ้าสักทีกลับถูกขัดจังหวะ
“หืม...”
นรีนาถรีบเดินให้เร็วขึ้นเพราะรู้สึกว่ามีรถตามหลังมาและจู่ๆก็ชะลอเมื่อใกล้กับตัวเธอยิ่งถนนตรงนี้ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะแต่ละบ้านเป็นรั้วสูงหากเธอเป็นอะไรคงไม่มีใครเห็น
“ไอ้แสงมึงมาขับเดี๋ยวกูจะการแม่นี่เอง”
เมืองรามรู้ว่าหญิงสาวท่าจะรู้ตัวแล้วจึงรีบให้พันแสงขับรถและเขาก็กระโดดลงเข้าไปประชิดตัวหญิงสาวก่อนที่เธอจะเดินหนีไปจนพ้นจุดเปลี่ยว
“นี่..ว้าย..ปล่อยนะแกเป็นใคร”
นรีนาถหน้าซีดตัวสั่นเทาเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเธอจึงโวยวายส่งเสียงจนสุดเสียง
ปั้ก
“โอ้ย..”
เมืองรามเห็นเช่นนั้นจึงปล่อยหมัดใส่ท้องน้อยของหญิงสาวดีที่เขายังยั้งมือไม่ออกเต็มแรงต้องการเพียงแค่ให้หญิงสาวเงียบเสียงอละต่อสู้ไม่ได้เท่านั้นแต่แรงของเขาก็ทำให้หญิงสาวสลบไปได้ในเวลาไม่กี่วิเมืองรามจึงอุ้มร่างบางขึ้นรถและสั่งให้พันแสงออกรถไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว
“ไปโว้ย..”
“มึงทำรุนแรงกับสาวสวยคนนี้เกินไปเปล่าวะ”
พันแสงเหลือบมองร่างบางที่นอนอยู่บนตักเมืองรามอย่างสงสาร
“มึงอย่าพูดมากขับไป”
เมืองรามมองหน้าหวานของหญิงสาวอย่างยิ้มกริ่มต่อจากนี้ได้เวลาที่เขาจะเริ่มต้นแก้แค้นแล้ว
20.00 น
"มีอะไรกันรึเปล่าครับนม"
เมื่อรถของสิงหนาทแล่นมาจอดที่หน้าบ้านทุกคนในบ้านต่างก็กรูกันเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีกันเท่าไรเขานั่นทำให้ชายหนุ่มคิดได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่
"เมื่อกลางวันคุณหนูออกไปหาหนูหนึ่งแต่ยังไม่กลับมาพวกคนใช้ก็ไปตามที่บ้านหนูหนึ่งแต่ได้คำตอบว่าคุณหนูไม่ได้ไปที่นั่นค่ะ"
นมสรวงรีบเล่าทุกอย่างให้สิงหนาทได้ฟังเพื่อที่ตอนนี้จะได้ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาและตามหานรีนาถให้ได้เร็วที่สุด
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"
"ไม่ต้องมีใครบอกพี่ก็รู้หมอกำลังมาแล้วพี่ตามมาเอง""หนึ่งต้องรีบไปซักผ้าลูกค่ะค้างไว้นานมันจะไม่ดี""ไม่ต้องผ้าพวกนั้นถ้ามันจะเป็นอะไรซื้อใหม่เอาก็ได้""พี่สิงห์"สิงหนาทโอบร่างบางให้นอนลงในขณะที่เธอกำลังจะฝืนลุกขึ้น"อย่าดื้อได้ไหมปล่อยให้ตัวเองเป็นไข้นานแล้วเมื่อไรลูกจะเข้าใกล้ได้""หนึ่งกินยาต้มเดี๋ยวก็หายแล้วค่ะจะตามหมอมาทำไมให้เปลืองค่ารักษา""พี่มีเงินพี่ออกค่ารักษาเมียพี่ได้""อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ...ตอนนี้เราเป็นแค่พ่อและแม่ของตานพเท่านั้น...นี่ไม่ไปทำงานทำการหรือไงคะถึงได้มานั่งเฝ้าหนึ่งอยู่ได้""ไม่...ช่วงนี้พี่ว่าง"สิงหนาทไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวจะต่อต้านเขายังไงเขาพูดกับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับหญิงสาวให้ได้เพราะเขาให้เวลาเธออยู่กับลูกมาพักใหญ่แล้ว"ร่างกายคุณหนึ่งอ่อยเพลียมากนะครับเดี๋ยวหมอจะฉีดยาแก้ไข้แล้วก็จะให้ยาแก้ไข้กับยาบำรุงไว้ให้แล้วก็ทานตามที่หมอเขียนให้นะครับ"หมอหนุ่มตรวจอาการนาราพักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปมาว่าร่างกายหญิงสาวนั้นอ่อนเพลียและค่อนข้างจะขาดสารอาหาร"ค่ะคุณหมอ""ช่วงนี้นอนพักเยอะๆนะครับทานอาหารให้ตรงเวลาช่วงเป็นไข้รับประทานแต่อ
"จริงเหรอ"นาราเบิกตาโพรงด้วยความดีใจ"ใช่...เพราะเรากับพี่รามต้องช่วยกันบริหารงานที่ธนาคาร"นรีนาถพนักหน้าเบาๆ"จริงใช่ไหม..เราดีใจที่สุดเลยนึกว่าจะต้องอยู่ห่างกันเสียอีก"นาราสวมกอดนรีนาถด้วยความดีใจ"ไม่เข้าไปล่ะ"เมืองรามเห็นสิงหนาทแอบมองสองสาวและเด็กๆอยู่ไกลๆจึงเข้ามาหา"นายก็รู้ว่าฉันถูกห้ามเรื่องอะไร"สิงหนาทก้มหน้าเล็กน้อยเพราะนาราเชื่อใจว่าเขาจะไม่เข้าใกล้จึงยอมไปอยู่กรุงเทพได้หากแลกกับความสบายของลูกเขาและนาราเขาจำต้องยอมไปก่อนแต่ก็จะหาวิธีเข้าหาเธอใหม่ไม่ปล่อยเธออยู่อย่างนี้ตลอดไปแน่นอน"เฮ้อ...แบบนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะ"เมืองรามตบบ่าสิงหนาทเบาๆสองวันต่อมา"บ้านนี้น่าอยู่เหมือนกันนะหนูหนึ่ง"อัญชัญเดินตามนาราที่กำลังอุ้มมานพซบหลับในอ้อมอกเข้ามาที่บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ห่างเรือนธิติลักษณ์เท่าไรโดยมีสิงหนาทเป็นคนมาส่ง"น้าอัญชอบหรือเปล่าจ้ะ""ชอบสิน้าเคยอยู่ที่สบายแบบนี้เสียที่ไหนที่เป็นบุญของน้าเลยล่ะ""หนึ่งดีใจนะจ้ะที่เห็นน้ามีความสุขแบบนี้"นาราดีใจที่เห็นท่าทางอัญชัญมีความสุขหากเธอตัดสินใจผิดเธอคงไม่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของอัญชัญแบบนี้เป็นแน่"เดี๋ยวน้าเดินดูรอบๆบ้านก่อนนะ"
"กลับไปเถอะค่ะหนึ่งอยู่กับลูกกับน้าอัญก็สบายดีแล้วพี่สิงห์กลับไปใช้ชีวิตของพี่เถอะเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งอภัยให้ค่ะพี่สิงห์ไม่ต้องรู้สึกผิดนะคะ..."นาราพูดจบก็หมายจะอุ้มลูกเดินออกไป"ไม่ได้หนึ่งยังไงลูกก็ต้องได้อยู่กับพี่""จะพรากลูกไปจากหนึ่งเหรอคะ"แต่มีหรือสิงหนาทจะยอมเขารั้งร่างบางเอาไว้และอุ้มมานพมาไว้ในอ้อมอก"พี่ไม่ได้คิดจะพรากลูกไปจากหนึ่งแต่เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวถ้าหนึ่งไม่อยากทิ้งน้าอัญของหนึ่งพี่ก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้""ก็หนึ่งบอกแล้วไงคะว่าหนึ่งไม่ได้ลำบาก"นาราพยายามจะแย่งลูกคืนแต่ก็ทำอะไรได้ยากเพราะสิงหนาทโอบกอดลูกชายตนเอาไว้แน่น"อย่าดื้อกับพี่นะหนึ่ง"สิงหนาทจ้องนาราอย่างจริงจัง"อย่ามาสั่งหนึ่งค่ะ"นาราเองก็จ้องกลับสิงหนาทอย่างเขม็งเช่นกัน"แม่ๆ..""พี่สิงห์จะพาลูกไปไหนคะ...พี่สิงห์หยุดนะ""......"สิงหนาทเห็นท่าทีดื้อดึงของนาราแล้วก็ต้องใช้ลูกบังคับกันเช่นเดิมในเมื่อคุยกันไม่เข้าใจเขาก็ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีไปเสียก่อน"อ้าวพี่สิงห์"นรีนาถเห็นสิงหนาทอุ้มมานพวิ่งออกไปจากบ้านเธอก็ตกใจเล็กน้อย"น้าอัญคะเค้าจะขโมยลูกหนึ่งไปค่ะ""เป็นผัวเมียกันก็ค่อยๆคุ
"ร้านอยู่ที่ไหนจ้ะแม่จันทร์""ตลาดในหมู่บ้านนี่เองจะ""มีอะไรกันรึเปล่า"เมืองรามเห็นนรีนาถและสิงหนาทดูรีบร้อนเป็นพิเศษจึงเกิดอยากจะถามให้หายสงสัยก่อนที่จะเดินออกไปจากเรือนนรีนาถจำต้องเดินไปด้วยเล่าไปด้วนว่าสิ่งที่สิงหนาทและเธอร้อนใจอยู่นั้นคือเรื่องอะไรตลาดในหมู่บ้าน"ร้านไหนจ้ะแม่จันทร์""ใกล้จะถึงแล้วจะ"นรีนาถมีท่าทางร้อนใจจนฟองจันทร์ต้องรีบเดินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้"อ้าวแม่จันทร์มาซื้อขนมเพิ่มเหรอจ้ะ"เมื่ออัญชัญเห็นฟองจันทร์ก็รีบยิ้มทักทายเพราะตั้งแต่มาตั้งร้านขายที่หมู่บ้านนี้ไม่กี่วันมานี่ก็มีฟองจันทร์เป็นลูกค้าประจำคอยมาซื้ออยู่ทุกวันอัญชัญเป็นแม่ค้าขายขนมวัยเกือบจะสี่สิบเป็นโสดไม่เคยคิดจะมีสามีและเมื่อนารามาขออาศัยอยู่ด้วยจึงย้ายถิ่นมาขายของที่บ้านเก่าของเธอที่นี่"พอดีมีคนอยากจะซื้อเพิ่มน่ะจะ"ฟองจันทร์หันกลับไปหาทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าร้าน"เหลือเท่านี้แหละจะจะเอาอะไรก็เลือกเลยนะจ้ะ""ยาย..""ตานพกินเลอะเทอะอีกแล้วมายายเช็ดปากให้"ไม่นานเด็กชายวัยเก้าเดือนนิดๆที่พึ่งจะหัดเดินกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาอัญชัญด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้านสิงหนาทอย่างมากจึงทำให้ทั้งสามที่ยืน
"คู่นี้เข้าใจกันได้ก็น่าเอ็นดูดีนะคะ"นรีนาถแอบขำการคุยกันของสองหนุ่มทั้งดีใจที่คำแก้วและพันแสงลงเอยกันด้วยดีเสียที"ใช่..คนอย่างไอ้แสงลงได้รักใครมันก็รักและซื่อสัตย์กับคนนั้นคนเดียวพี่ถึงวางใจที่จะให้คำแก้วฝากชีวิตไว้กับมันไง""แล้วพี่รามคนนี้ล่ะคะ""พี่ก็รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจเหมือนกันจะ""ปากหวาน"นรีนาถจับริมฝีปากหนาของชายหนุ่มเล่นเบาๆ"อยากชิมปากหวานๆตอนนี้ไหมล่ะ""อื้อ..ไม่ค่ะ"นรีนาถรีบเอี้ยวตัวหลบก่อนที่เมืองรามจะมาทำประเจิดประเจ้อกับเธอที่หน้าเรือนปีต่อมา"แอ้ๆ..""ว่ายังไงตาชิต...อารมณ์ดีแต่เช้าเลยลูกพ่อ"เมืองรามกำลังจับลูกชายวัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำอาบน้ำในตอนเช้านรีนาถมองแล้วดูท่าทางคนเป็นพ่อจะอารมณ์ดีกว่าลูกเสียอีกที่ไม่ยอมพาลูกขึ้นจากน้ำเสียที"พี่รามคะ..พาลูกขึ้นจากน้ำได้แล้วค่ะ""ลูกกำลังอารมณ์ดีเลย"เมืองรามมองหน้าคนเป็นเมียบุ้ยปากแอบเสียดายเล็กน้อยที่ลูกกำลังเล่นกับเขาอารมณ์ดีแต่ต้องเลิกเล่นเสียแล้วเพราะกลัวว่าลูกจะไม่สบาย"เดี๋ยวจะป่วยเอานะคะ"นรีนาถส่ายหัวเบาๆ"ก็ได้...ไปเช็ดตัวกันนะลูก""พี่สิงห์...ไม่เห็นส่งข่าวมาบอกว่าจะมาเลยคะ"ในขณะที่นรีนาถเช็ดตัวเปลี่
"คำแก้ว..คำแก้ว""พ่อเลี้ยงอย่าพึ่งตามไปปล่อยคำแก้วมันไปก่อน"พันแสงหมายจะตามคำแก้วไปแต่ถูกสมิงรั้งเอาไว้ก่อนเพราะหากคำหล้ากดดันเจ้านายของเขาเช่นนี้เขาก็มีความจริงที่ต้องเปิดเผยเช่นกัน"ทำไม"พันแสงหันมาจ้องสมิงตาเขม็ง"ศรีอ่อนบอกแม่เอ็งไป"สมิงให้ศรีอ่อนบอกความจริงดับทุกคนว่าเธอนั้นเป็นอะไรกับเขาให้กลุ่มคนงานที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่ให้รู้กันถ้วนหน้าไปเสียวันนี้เลย"แม่จ้ะ..เมื่อคืนพ่อเลี้ยงเมาไม่ได้ตั้งใจจริงๆและฉันก็...""ก็อะไร.."คำหล้าบีบแขนศรีอ่อนทั้งจ้องอย่างเอาเป็นเอาตาย"ได้เสียเป็นเมียพี่หมิงไปแล้วจะ...ฉันคงจะเป็นเมียพ่อเลี้ยงไม่ได้""อะไรนะ..นี่เอ็ง..อีนังลูกไม่รักดี"เพี๊ยะ..สิ้นคำลูกสาวคำหล้าก็เหวี่ยงมือฟาดไปที่หน้านวลจนเป็นรอยแดง"อย่าทำร้ายศรีอ่อนมันเลยฉันได้มันเป็นเมียแล้วฉันจะสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง"สมิงรีบดึงศรีอ่อนมากอดเอาไว้เพราะไม่อยากมห้เธอตกเป็นเครื่องมือของคนเป็นแม่อีกที่ผ่านมาเขารู้ดีว่สคำหล้าจ้องจะทำอะไรแต่ในเมื่อศรีอ่อนรักอยู่กับเขาตัวเขาเองก็จะไม่ปล่อยให้ศรีอ่อนไปเป็นเมียใครเด็ดขาด"หึ่..."คำหล้ามือไม้สั่นอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี"ไอ้หมิง...กูรั