LOGINณ มิราเคิลผับ
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาก้าวเข้ามาในผับด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เขาเดินเข้าไปด้านในก่อนจะกระแทกตัวนั่งบนโซฟาหุ้มหนังเนื้อดีเต็มแรง แล้วคว้าแก้วเหล้าของเพื่อนสนิทบนโต๊ะมากระดกดื่มหมดแก้ว จากนั้นก็รินบรั่นดีใส่แก้ว ดื่มรวดเดียวจนเกลี้ยงอีก
“เฮ้ยๆๆ ไอ้อ๋อง มึงเบาๆ หน่อย มาถึงก็พรวดเอาพรวดเอา กลุ้มใจอะไรมาวะเนี่ย” กิตติพัทธ์รีบห้ามเพื่อนรัก เมื่อเห็นธัชธรรม์เอาแต่ดื่มบรั่นดีไม่พูดไม่จา
“จะมีอะไร มาอีหรอบนี้ละก็ไม่พ้นเรื่องเดิม”
จารุวิทย์คาดเดา ซึ่งเขาคิดว่าเดาไม่ผิด เนื่องจากเรื่องทุกข์ใจของ ธัชธรรม์ ภาสวัชร์ ลูกชายคนโตของธัชชัยกับคุณหญิงลักขณา ภาสวัชร์ มหาเศรษฐีระดับต้นของประเทศไทย เจ้าของกิจการเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดังครองอันดับขายดีอันดับหนึ่งของประเทศไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียน รวมทั้งแถบทวีปยุโรปและอเมริกาใต้
ชีวิตของธัชธรรม์สมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง การศึกษา ชื่อเสียง และหน้าตาที่โดดเด่นไม่แพ้พระเอกดังทั้งหลาย จะมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เขายังขาดอยู่ นั่นคือคู่ครอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ธัชธรรม์กำลังหนักอกหนักใจเป็นที่สุด
“เรื่องนี้ยังไม่จบอีกเหรอวะ ฉันนึกว่าคุณแม่ของมันจะรามือแล้วซะอีก” กิตติพัทธ์เดินทางไปฝรั่งเศสเกือบครึ่งเดือน ทำให้พลาดข่าวสำคัญของเพื่อนรักไปโดยปริยาย
“รามือไปสิบวันไง มาจี้อ๋องหนักก็สี่ห้าวันมานี้ แถมยังยืนยันเสียงแข็งว่าถ้าอ๋องหาเมียไม่ได้ก่อนปีใหม่ หญิงแม่จะให้แต่งงานกับคนที่ท่านหาให้ มันเลยกลุ้มดื่มเหล้าอย่างกับน้ำไงล่ะ” จารุวิทย์อธิบายให้เพื่อนเข้าใจ หญิงแม่คือสรรพนามที่พวกเขาเรียกมารดาของธัชธรรม์อย่างขำๆ เมื่ออยู่ในหมู่เพื่อนฝูง
“หา! หาเมียก่อนปีใหม่เหรอ” กิตติพัทธ์อุทานกับระยะเวลาที่คุณหญิงลักขณากำหนดให้เพื่อน “ปีใหม่ปีไหนวะ ปีนี้หรือปีหน้า”
“ก็ปีนี้สิวะ ถ้าปีหน้าไอ้อ๋องมันคงไม่กลุ้มหนักหรอก”
จารุวิทย์บอก หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ
“ปีนี้ก็อีกแค่ห้าวันน่ะสิ แล้วมันจะหาเมียได้ไง แฟนมันยังไม่มีเลย”
“ก็ใช่ไง ถ้ามันหาเมียไม่ได้ มันก็ต้องแต่งงานกับคนที่หญิงแม่หาให้ มันก็จะบ้าอย่างที่นายเห็น”
จารุวิทย์เห็นใจเพื่อนไม่น้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร เพราะลำพังตัวเขาก็ถูกมารดารุกเร้าถามเรื่องนี้เช่นกัน แต่ดีที่มารดาไม่ได้กะเกณฑ์หรือบังคับให้เขาแต่งงานกับใคร
“มึงสองตัวช่วยกูคิดหน่อยสิว่าจะทำยังไงดี กูมึนไปหมดแล้ว” เจ้าของเรื่องขอความช่วยเหลือเพื่อนรัก หลังจากดื่มบรั่นดีไปหลายแก้ว
“จะช่วยยังไงวะ เหลือเวลาอีกห้าวันที่หญิงแม่กำหนด แกจะหาเมียที่ไหนไปให้หญิงแม่ ถ้าหาได้จริงหญิงแม่จะเชื่อเหรอว่าเป็นเมียแกจริงๆ เพราะแกไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนมาก่อนนอกจากควงกันชั่วครั้งชั่วคราว จู่ๆ มีเมียโผล่ขึ้นมา ร้อยทั้งร้อยหญิงแม่ไม่มีวันเชื่อ ท่านต้องรู้ว่าแกอุปโลกน์มาแน่นอน”
ใช่ว่าจารุวิทย์ไม่อยากช่วยเพื่อน แต่เขาคิดไม่ออกว่าจะช่วยธัชธรรม์ด้วยวิธีไหน วิธีง่ายที่สุดที่คิดได้คือ หาผู้หญิงสักคนมาอุปโลกน์ว่าเป็นภรรยาเพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบ แต่คงไม่จบง่ายๆ เพราะคุณหญิงลักขณาไม่มีทางเชื่อพันเปอร์เซ็นต์
“เออใช่ ถ้าใช้วิธีหาผู้หญิงสักคนมาเป็นเมียแก นอกจากแม่แกจะไม่เชื่อแล้ว บางทีอาจเชื่อแล้วโขกสับเมียกำมะลอของมึงจนทนไม่ได้ สุดท้ายมึงก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่หญิงแม่หาให้” กิตติพัทธ์พูดอีกก็ถูกอีก
“ก็ใช่ไง กูถึงได้กลุ้มอย่างนี้” ธัชธรรม์ก็คิดจะใช้วิธีนี้ แต่ต้องเบรกตัวโก่งเพราะเหตุผลที่เพื่อนกล่าวมา
“เอิ่ม ขอโทษนะคะ ขอออกความคิดเห็นนิดนึงได้ไหมคะ” รุ่งราตรีคู่ควงของจารุวิทย์ที่นั่งฟังการสนทนาตั้งแต่ต้นแทรกขึ้น ทำให้สามหนุ่มหันมามองเธอเป็นตาเดียว
“อย่ายุ่งน่า ไม่ใช่เรื่องของเธอ” กิตติพัทธ์ดุคู่ขาที่ริอ่านยุ่งเรื่องของเพื่อนรัก
“จุ๋มก็แค่อยากช่วยคิดเท่านั้นค่ะ ไม่ได้คิดอยากจะแส่”
รุ่งราตรีพูดเสียงเบา หลบสายตาดุๆ ของกิตติพัทธ์
“ช่างเถอะเจมส์ ช่วยๆ กันคิดหลายหัวก็ดีเหมือนกัน ดีกว่าคิดคนสองคน” ธัชธรรม์ปรามเพื่อนที่กำลังโมโห “เธอจะพูดอะไรก็พูดมา” เขาเปิดโอกาสให้รุ่งราตรีพูด เพราะคิดว่าคำพูดของเธออาจเป็นประโยชน์ต่อเขา
“จากที่จุ๋มนั่งฟังพวกคุณพูด ทำให้จุ๋มเข้าใจว่าคุณอ๋องกำลังประสบปัญหาหาเมียให้คุณแม่ แล้วถ้าใช้วิธีหาเมียกำมะลอ คุณแม่ของคุณอ๋องก็ต้องไม่เชื่อ แล้วนอกจากไม่เชื่อก็อาจถูกคุณแม่ของคุณอ๋องกลั่นแกล้งจนแพ้ภัยไปเอง คราวนี้ทุกอย่างก็เข้าทางคุณแม่ของคุณอ๋อง จุ๋มคิดว่าวิธีนี้ก็ทำได้นะคะ แต่ต้องทำให้แนบเนียนให้ดูสมจริง และผู้หญิงที่จะมาเป็นเมียจัดฉากของคุณอ๋องจะต้องเก่งและรับมือคุณแม่ของคุณอ๋องได้ค่ะ”
จิตใจที่มืดมนไร้ซึ่งทางออกของธัชธรรม์ เปรียบเสมือนมีแสงไฟสว่างไสว แม้ว่าจะไม่อาจขจัดความมืดนั้นได้ทั้งหมด แต่ธัชธรรม์ก็มองเห็นทางออกปลายทาง
“ทำยังไง บอกฉันมาเร็วเข้า” ธัชธรรม์รีบถาม
“คุณอ๋องก็ต้องลงทุนกับเรื่องนี้สักหน่อย ให้ดูสมจริงสมจังด้วยการจดทะเบียนสมรสกับเมียจัดฉาก ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ต้องเก่งพอตัว เพราะต้องรับมือกับคุณแม่ของคุณอ๋อง ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะพังไม่เป็นท่า สุดท้ายคุณอ๋องก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณแม่หาให้”
“จดทะเบียนสมรส!” สามเพื่อนสนิทประสานเสียงพร้อมกัน แต่ละคนมีสีหน้าไปในทิศทางเดียวกันคือ ตกใจ
“ต้องจดทะเบียนสมรสด้วยเหรอ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง” ธัชธรรม์ค้าน
“ถ้าไม่จดมันจะสมจริงเหรอคะ คุณอ๋องจะเดินดุ่มๆ พาเมียไปหาคุณแม่ก็ได้ แค่แนะนำตัวว่าผู้หญิงคนนี้คือเมีย ทำทีเป็นนอนห้องเดียวกัน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่นั่นไม่ทำให้คุณแม่ของคุณอ๋องเชื่อได้เต็มร้อยหรอกค่ะ ถ้าจดทะเบียนสมรสด้วย ความน่าเชื่อถือมันก็มีมากขึ้น คุณแม่ของคุณอ๋องคงไม่คิดหรอกค่ะว่า คุณอ๋องจะลงทุนจดทะเบียนสมรส ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เมียจริงๆ”
สามหนุ่มมองหน้ากันแล้วคิดตรงกันว่าคำพูดของรุ่งราตรีมีเหตุผลไม่ใช่น้อย ถ้ามีทะเบียนสมรสไปยืนยันมันก็สมเหตุสมผลกว่าและน่าเชื่อถือกว่าด้วย
“แต่ถ้าใช้วิธีนี้ นายต้องตกลงกับผู้หญิงที่จะจ้างมาเป็นเมียกำมะลอของนายดีๆ นะ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นปัญหาระดับชาติก็ได้” กิตติพัทธ์ให้ข้อคิด
“ก็ไม่เห็นยากเลยค่ะ จดทะเบียนวันนั้นก็หย่าซะวันนั้นเลย แล้วเอาใบทะเบียนสมรสไปอ้างกับคุณแม่ของคุณอ๋อง แค่นี้ก็หมดปัญหากวนใจตามมา หรือถ้าตามกฎหมายทำอย่างนั้นไม่ได้ คุณอ๋องก็พามาจดทะเบียนหย่าในวันรุ่งขึ้นก็ได้” รุ่งราตรีเสนอเพิ่มเติม
Chapter131 “อา...ปราง...” ธัชธรรม์ครางกระเส่า เนื่องจากปากเล็กที่ๆ ประทุษร้ายเขาเพิ่มความเร็วมากขึ้น โดยมีมือเล็กเป็นกำลังเสริมสร้างความเสียวกระสันให้อาบไปทุกอณูเนื้อ เขาแทบจะระเบิดความสุขใส่ปากเธอ ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว ธัชธรรม์จึงดันความแข็งแรงออกจากปากของเธอเสียเอง “ตาฉันบ้าง...จะทำให้เธอขาดใจเลยคอยดู” เป็นคำขู่ที่วาบหวาม ธัชธรรม์ช้อนร่างภรรยามาวางบนเคาน์เตอร์อ่างอาบน้ำ ให้บั้นท้ายงามงอนหมิ่นเหม่กับขอบอ่าง ส่วนตัวเข่านั่งคุกเข่าบนพื้น แนบหน้าลงบนดอกไม้ช่องามที่สวยจับจิตจับใจ ลุ่มหลงความเสน่หาไม่จืดจาง “คุณอ๋อง...อา...อืม” ภัทรียาครางทันทีที่ลิ้นใหญ่ตวัดไล้ไปตามกลีบดอกไม้แล้วแหวกว่ายจนถึงจุดอ่อนไหวของสตรี เขาไม่รีรอที่จะบรรเลงเพลงรักอย่างพลิ้วไหว ความเสียวสยิวลุกลามในกายสาวไม่ต่างกับไฟไหม้ฟาง ผิวกายคล้ายมีกระแสไฟแล่นพล่าน ทุกความรู้สึกเหมือนจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเขาสอดนิ้วเข้าไปในรวงผึ้งฉ่ำหวาน ประสานการทำงานกับปากที่ขบเม้มอัญมณีสีสวย และลิ้นที่เร่งทำนองเพลง เธอครางเสียงสั่น ร่างกายถูกไฟพิศวาสโหมใส่ ลิ้นหนาไม่ได้ทำงานตรงจุดเดียว เวลานี้เ
Chapter130 จิตราภานำเรื่องนี้ไปบอกบิดา ทำให้ผู้เป็นพ่อโกรธและในที่สุดก็สั่งลูกน้องนำตัวกรกวีไปฆ่าทิ้ง พอได้รับคำสั่ง ลูกน้องของนักการเมืองดังก็ทำตามคำสั่งทันที พากรกวีไปฆ่ากลางป่าแถวชุมพร แล้วปล่อยให้เป็นอาหารสัตว์ป่า ทว่าคนหาของป่ากลับมาเห็นศพเสียก่อน แต่ถึงจะเจอศพ ความเป็นมืออาชีพของนักฆ่าไม่ทิ้งหลักฐานใดให้สาวถึงผู้บงการ ดังนั้นการเสียชีวิตของกรกวีก็จะเป็นปริศนาต่อไป วันสำคัญวันหนึ่งของภัทรียาได้เดินทางมาถึง วันนี้เธอจะขึ้นชกกับดวงกมล หากใครชนะจะได้ไปชิงชนะเลิศในสังเวียนต่อไป ภัทรียาเตรียมพร้อมมาดีทั้งร่างกายและจิตใจ แถมยังมีกำลังใจกองโตจากหลายสิบคนที่มานั่งเชียร์ข้างเวที ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวภาสวัชร์ สุมณฑาที่ควงคู่มากับเรวิน พ่อค้าแม่ค้าในตลาดรุ่งอุดมนับสิบ นำทีมโดยเจ๊ส้มกับธนา ต่างก็มานั่งเชียร์ภัทรียาด้วย เป๊ง...เสียงระฆังดังขึ้นหนึ่งครั้ง บอกให้รู้ว่ายกที่หนึ่งกำลังเริ่มขึ้น นักมวยสาวทั้งคู่ยืนอยู่กลางเวที และทันทีที่กรรมการให้สัญญาณมือ สองสาวก็เริ่มออกหมัดมวยต่อสู้ทันที “ปรางชกเลย อัดเลย อัดเข้าไปลูก น่าน ชกซ้าย ชกขวา เก่งมากปราง เก่งมาก” ลักขณาลุกข
Chapter129“ไม่อ้วนหรอกค่ะคุณพี่ พอปรางกินอิ่มก็ต้องไปซ้อมต่อ ร่างกายเผาผลาญอาหารที่ทานไป ไม่ได้กินแล้วนอนซะเมื่อไหร่” ลักขณาแย้งสามี“ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ ปรางทานแค่นี้ไม่อ้วนค่ะ” ภัทรียาพูดให้ธัชชัยสบายใจ“ไม่อ้วนแน่นอนครับคุณพ่อ กลางวันกินอัดไปเท่าไหร่ ก็ถูกเผาผลาญด้วยการซ้อมมวย ส่วนตอนกลางคืนผมก็ช่วยเผาผลาญอีกแรง มีแต่จะผอมมากกว่าครับคุณพ่อ”คำพูดติดตลกของธัชธรรม์ ทำให้นักมวยสาวหน้าแดงระเรื่อ หญิงสาวแอบหยิกขาสามีไปหนึ่งครั้ง คนถูกหยิกแสร้งทำหน้าเจ็บปวด หันมายิ้มเย้าภรรยา ทำให้คนที่นั่งร่วมโต๊ะเกิดรอยยิ้ม“อ๋องนี่จะทำให้ปรางไม่มีแรงซ้อมมวยนะ รีดพลังงานปรางเยอะขนาดนั้น ปรางเป็นลมเป็นแล้งไป ชกมวยไม่ได้ขึ้นมาจะว่ายังไง ไม่ได้การแล้ว แม่ว่าแยกห้องนอนกันก่อนดีกว่า รอจนกว่าปรางจะขึ้นชกเสร็จ อ๋องค่อยกลับมานอนกับปราง”คนห่วงลูกสะใภ้สุดโต่งรีบหาทางแก้ไข ธัชธรรม์ส่ายหัวดิก เขาไม่มีทางแยกห้องนอนกับภรรยาสุดที่รักแน่นอน“ไม่นะครับ ผมไม่แยกห้องนอนกับปราง เมียผมนอนที่ไหน ผมก็ต้องนอนที่นั่น”“เอาน่าคุณ ปล่อยสองคนเขาเถอะ ปรางไม่เห็นจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรงตรงไหนเลย เมื่อกี้ยังเตะกระสอบทรายดังป้าบๆ ต่อยหม
Chapter128 แต่ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองสร้างความเจ็บปวดให้อีกคนที่แอบฟังมากเพียงใด นวลลออรู้สึกเสมือนมีของแหลมคมทิ่มแทงหัวใจ ก่อนจะถูกกรกวีกระทืบซ้ำ เจ็บปวดร้าวราน นี่หรือผลตอบแทนที่เธอทำให้กรกวีทุกอย่าง ไม่ว่าจะวิ่งเต้นหาทนายมือดี รวมทั้งยอมขายร่างกายเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายเรื่องคดีความ สุดท้ายกรกวีก็หลอกลวงเธอ และตอนนี้เขากำลังมีสตรีคนใหม่ที่จะช่วยให้รอดพ้นจากคุก เนื่องจากรุ่งอรุณมีทั้งเงินและบารมี เป็นที่นับถือของคนทุกสายอาชีพ เงินและความกว้างขวางของนางจะช่วยให้กรกวีหลุดพ้นจากคดีได้ง่ายกว่าการหาทนายเก่งๆ มาสู้คดี นวลลออเดินออกจากห้องกรกวีด้วยจิตใจหมองเศร้า น้ำตาไหลอาบแก้ม เสียใจจนสุดบรรยาย เธอน่าจะฟังคำเตือนของมารดา แต่เธอไม่เคยฟังคำของนวลนภาสักครั้งเดียว แถมยังชักสีหน้ารำคาญทุกครั้งที่นวลนภาพูดเรื่องเลวร้ายที่เขาทำกับลักษิณา คราวนี้นวลลออซึ้งแก่ใจแล้วว่าคนอย่างกรกวีไม่เคยรักใครจริง นอกจากตัวเอง เธอถูกความรักกับความหลงบดบังดวงตาและครอบงำความคิดโดยสิ้นเชิง ยอมสละให้กรกวีทุกอย่าง ผลจึงออกมาเช่นนี้ นวลลออต้องยอมรับความเสียใจและความผิดหวัง เพราะเธอ
Chapter127 “ฉันมีสติดีย่ะ ถ้าไม่มีจะพูดเหรอ นายนี่เรื่องมากจริง รีบตอบมาสิ จะรับผิดชอบฉันหรือเปล่า ส่วนเรื่องที่นายเป็นกังวล นายหายห่วงไปได้เลย นายทำให้ฉันรู้จักชีวิตมากขึ้น นายสอนให้ฉันรู้จักชีวิตอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน นายสอนให้ฉันกินอาหารข้างทาง พาฉันนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ตากแดดตากลม ฉันไม่กลัวความลำบากหรอกนะ เพราะฉันแน่ใจว่านายไม่มีวันให้ฉันลำบากหรืออดมื้อกินมื้อ ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้นถ้ามีนายเคียงข้าง แต่สิ่งที่ฉันกลัวคือ...กลัวไม่มีนายมากกว่า” ลักษิณาพูดจากใจ เธอถูกเอาอกเอาใจตั้งแต่เกิด มีคนพะเน้าพะนอจนถึงทุกวันนี้ คงจะมีศุภกิจคนเดียวที่ขัดใจเธอตลอดเวลา เธอบอกให้ไปทางซ้าย เขาก็ไปทางขวา แล้วทางที่เขาพาไปก็เป็นเส้นทางใหม่ ที่ทำให้เธอค้นพบชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งลักษิณาพร้อมเรียนรู้ชีวิตรูปแบบนั้นไปพร้อมกับเขา คำพูดยืดยาวของลักษิณาทำให้ศุภกิจอึ้งอีกรอบ เขาไม่คิดว่าคุณหนูผู้เอาแต่ใจจะยอมใช้ชีวิตในแบบของเขา ในเมื่อเธอพร้อมจะเรียนรู้ชีวิตแบบใหม่ เขาก็พร้อมพาเธอก้าวเดินไปด้วยกัน “คุณแน่ใจนะที่พูดมาน่ะ” ศุภกิจถามเพื่อความมั่นใจ “แน่ใจสิ ท
Chapter126 ลักษิณาหน้าชาเมื่อถูกจ่าเอกต่อว่า ทุกอย่างที่เธอแสดงออกล้วนมาจากอารมณ์หึงหวงและไม่พอใจที่เห็นวาสนาใกล้ชิดกับศุภกิจ ลักษิณาจึงพลั้งปากพูดเช่นนั้น หวังเพียงความสะใจ อยากเอาชนะอีกฝ่าย แต่ไม่ทันคิดว่าจะทำให้ใครเสียใจหรือไม่ “มานี่เลย” ศุภกิจจูงมือลักษิณาเข้าไปในตัวบ้าน พออยู่กันตามลำพัง เขาก็เปิดฉากต่อว่าเธอ “ทำไมถึงพูดอย่างนั้น รู้ทั้งรู้ว่าเราสองคนไม่ใช่แฟนกัน” “ทำไมจะพูดไม่ได้” คุณหนูเอาแต่ใจเถียง “หรือนายกับแม่คนนั้นเป็นแฟนกัน ถึงได้เดือดร้อนกันจัง แล้วที่นายไม่โทร. หาฉันตั้งหลายวัน เพราะมัวแต่ยุ่งกับแม่นี่ใช่ไหม” หลายวันที่ผ่านมา เขาหายไปจากชีวิตของเธอดื้อๆ โทร. ไปหาก็ไม่รับสาย จนเธอโมโหเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือลงพื้นอย่างแรงจนมันเกือบพัง วันนี้เธอจึงเป็นฝ่ายมาหาเขา และพอมาถึงก็เห็นภาพบาดตาบาดใจ “คุณโทร. มาหาตอนที่ผมยุ่ง ผมเลยไม่ได้รับ” ศุภกิจแก้ตัว ทั้งที่แท้จริงแล้วเขาไม่รับสายเธอเพราะต้องการทิ้งระยะห่างให้มากที่สุด เนื่องจากหัวใจของเขารู้สึกแปลกๆ ยามใกล้ชิดหญิงสาว ซึ่งเขาเองก็เจียมตัวว่าอย่าริอ่านเด็ดดอกฟ้า “ผมกับวาสไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่คุณ







