“เอ็งอยากรู้เรื่องอะไร” ชายสูงวัยถาม “ถามได้แค่สองข้อนะ”
กฎของหมอดูต้นมะยมมีอยู่ว่า คนที่มาดูดวงจะถามในเรื่องที่อยากรู้ได้แค่สองเรื่องเท่านั้น แม้ว่าคนใหญ่คนโต ดารา นักร้อง หรือผู้มีชื่อเสียงมาดูก็ไม่มีสิทธิเหนือคนอื่น
“เรื่องงานจ้ะ หนูเพิ่งไปสมัครงานเมื่อวานซืนนี้ หนูจะได้งานไหมคะ” สุมณฑาถามคำถามแรก
“ได้ พรุ่งนี้เอ็งรอโทรศัพท์จากเขาได้เลย”
สุมณฑายิ้มแป้นกับคำตอบที่ได้รับแล้วรีบถามต่อ “แล้วเรื่องเนื้อคู่ล่ะคะ หนูจะได้แต่งงานเมื่อไหร่ หนูเจอเนื้อคู่หรือยัง” เธออยากรู้ข้อนี้ที่สุด
“เดี๋ยวเอ็งก็เจอเนื้อคู่แล้ว เอ็งจะได้แต่งงานเดือนตุลาปีหน้า”
สุมณฑายิ้มกว้าง แสดงว่าทั้งเรื่องงานและเรื่องความรักของเธอกำลังไปได้สวย เธอช่างโชคดีสองต่อจริงๆ
“ขอบคุณค่ะลุง นี่ค่าดูหมอค่ะ”
สุมณฑาควักเงินจำนวนห้าสิบเก้าบาทใส่พาน พนมมือไหว้อีกครั้งก่อนจะขยับตัวเพื่อให้เพื่อนรักได้ดูดวงบ้าง ภัทรียายื่นฝ่าเท้าให้หมอดูตรวจดูดวงชะตา ชายสูงวัยก้มมองฝ่าเท้าสลับกับมองหน้าภัทรียาหลายครั้ง
“เอ็งอยากรู้เรื่องอะไร ถามมาได้เลย”
“ปรางอยากรู้ว่า ปรางจะรักษาค่ายมวยของพ่อได้หรือเปล่าคะ” ภัทรียาถามเรื่องที่ต้องการรู้มากที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เธอกังวลและเป็นห่วง แม้ว่ามันจะเป็นภาระอันหนักอึ้งก็ตาม
“ได้” หมอดูตอบสั้นๆ คนที่ได้รับคำตอบยิ้มกว้าง แต่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะไม่รู้ว่าหมอดูจะคู่กับหมอเดา หรือแค่ตอบให้เธอสบายใจ
“คำถามต่อไปล่ะ”
“แล้วถ้าปรางรักษาค่ายมวยของพ่อต่อไปได้ ปรางจะรักษาได้นานแค่ไหนคะ”
“นานตลอดชั่วชีวิตของเอ็ง” หมอดูตอบทันควันโดยไม่ต้องตรวจดูฝ่าเท้าของภัทรียาซ้ำ “ข้ารู้ว่าเอ็งไม่เชื่อความแม่นยำในการดูดวงของข้า แต่เชื่อข้าเถอะว่าเอ็งจะเป็นนักมวยหญิงที่มีชื่อเสียง นำพาค่ายมวยของพ่อเอ็งไปสู่ความสำเร็จ แล้วเอ็งจะมีนักมวยในค่ายเพิ่มมากขึ้น เป็นค่ายมวยที่ใหญ่ไม่แพ้ใคร”
ชายสูงวัยพูดเสมือนนั่งอยู่กลางใจภัทรียา รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และคำพูดของคนสูงวัยก็ทำให้สองสาวถึงกับอึ้ง
“ลุงดูแม่นมากๆ เลยค่ะ รู้ด้วยว่าปรางไม่เชื่อเรื่องพวกนี้” เสียงของสุมณฑาดังขึ้น ดวงตาของเธอสื่อถึงความเลื่อมใสในตัวหมอดูต้นมะยมกับความแม่นยำสมคำร่ำลือ
“แล้วเอ็งเชื่อข้ารึยังล่ะ ถ้ายังไม่เชื่อ ข้าจะดูเรื่องเนื้อคู่แถมให้เอ็งอีกเรื่อง และถ้าเกิดว่าเรื่องที่ข้าดูให้เอ็งเป็นจริงขึ้นมา เอ็งจะต้องไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กในศูนย์เด็กเล็กกลางชุมชนไก่แจ้ตกลงไหม”
หมอดูท้าความแม่นยำในการทำนาย ภัทรียาลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนจะรับคำท้าทาย
“ได้ค่ะ ตกลงตามนั้น”
“เนื้อคู่ของเอ็งกำลังจะมาในอีกสองวันข้างหน้า แล้วเอ็งก็จะแต่งงานก่อนปีใหม่”
ภัทรียากับสุมณฑาตกใจและนิ่งอึ้งหลังจากได้ยินคำทำนายเรื่องคู่ครอง ภัทรียาตกใจและนิ่งอึ้งมากกว่าเพื่อนรัก เธอจะเจอเนื้อคู่ในอีกสองวันข้างหน้าแถมยังแต่งงานก่อนสิ้นปีงั้นหรือ
พระเจ้า...นี่มันวันที่ 26 ธันวาคม อีกห้าวันก็จะสิ้นปี เจอเนื้อคู่ในอีกสองวันก็วันที่ 28 ธันวาคม และจะแต่งงานก่อนปีใหม่ นั่นหมายถึงวันที่ 1 มกราคม มันจะไม่รวดเร็วปานจรวดไปหน่อยหรือ เจอหน้าเนื้อคู่ไม่กี่วันก็แต่งงานกันแล้ว เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ เธอคงไม่ใจง่ายรับรักและแต่งงานในระยะเวลาห้าวันแน่นอน
ภัทรียาไม่เชื่อคำทำนายของหมอดูต้นมะยมมากขึ้น เพราะมันคงจะเป็นไปไม่ได้แน่นอน
“มันจะรวดเร็วปานสายฟ้าแลบอย่างนี้จริงเหรอคะลุง”
สุมณฑาถาม
“ก็ดวงของเพื่อนเอ็งมันเป็นอย่างนี้ ข้าก็พูดไปตามนั้น” หมอดูตอบกลับ “เอ็งสองคนยังไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ รอให้คำทำนายเรื่องเนื้อคู่ของเอ็งเป็นจริงซะก่อน แล้วเอ็งจะกลับมาหาข้าเอง”
ดูท่าทางหมอดูต้นมะยมจะเชื่อมั่นในคำทำนายของตัวเองมากเหลือเกิน มากเสียจนภัทรียาหวั่นใจ ทว่าความเชื่อมั่นของฌธอที่จะไม่ใจง่ายรับรักและแต่งงานภายในระยะเวลาอันสั้นก็มีมากเช่นกัน งานนี้จึงต้องรอดูว่าคำทำนายของหมอดูต้นมะยมจะแม่นจริงหรือไม่
หลังจากดูดวงเสร็จสิ้น ภัทรียากับสุมณฑาก็กล่าวลาชายสูงวัย และพอเดินห่างจากต้นมะยมต้นนั้นพอสมควร สองสาวก็เริ่มสนทนา
“เป็นไงปราง แกเชื่อคำทำนายของลุงต้นมะยมหรือเปล่า” สุมณฑาถามเพื่อน
“แล้วแกเชื่อไหมล่ะ” ภัทรียาไม่ตอบ แต่ถามกลับแทน
“เชื่อสิ ไม่เชื่อจะมาเหรอ คนอื่นที่มาดูเขาพูดกันปากต่อปากเลยนะว่าแม่น”
“เรื่องที่แกถามยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่าแม่น งานแกก็ยังไม่ได้ แฟนแกก็ยังไม่มี เดือนตุลาปีหน้าแกจะได้แต่งงานหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ถ้าจะให้เชื่อว่าแม่นจริง เรื่องที่แกถามจะต้องเกิดขึ้นจริงซะก่อน รวมทั้งเรื่องของฉันด้วย ฉันถึงจะเชื่อ”
ภัทรียารู้สึกไม่เชื่อเรื่องที่หมอดูทำนายมากขึ้น เมื่อหมอดูต้นมะยมบอกว่าเธอจะแต่งงานก่อนปีใหม่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ล้านเปอร์เซ็นต์
“แกไม่เชื่อ แกเลยรับคำท้าใช่ไหม” สุมณฑาเดาใจเพื่อน
“อืม” ภัทรียาทำเสียงรับคำในลำคอ “แล้วฉันก็มั่นใจว่าฉันชนะ ไม่มีทางที่ฉันจะแต่งงานก่อนปีใหม่แน่ๆ ฉันไม่ได้ใจง่ายขนาดรับรักผู้ชายเร็วขนาดนั้นนะ มันก็ต้องคบหาดูใจกันก่อนสิ ถึงจะตบแต่ง”
“แหม แกกับเนื้อคู่แกอาจจะเป็นรักแรกพบก็ได้นะ อะไรๆ มันก็เลยเร็วยิ่งกว่าจรวด”
“เร็วเวอร์ไปหรือเปล่าแก ห้าวันเนี่ยนะ”
“รออีกห้าวันก็จะรู้ว่าแม่นจริงไหม แต่สำหรับเรื่องงานของฉัน พรุ่งนี้มาดูกันว่าบริษัทที่ฉันไปสมัครงานไว้จะโทร. มาหาฉันจริงหรือเปล่า”
“ก็คอยดูกันต่อไปละกัน”
การสนทนาของสองสาวเพื่อนซี้หยุดลง เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่จะพาเธอทั้งสองไปยังหน้าปากซอย
ความแม่นยำในการทำนายของหมอดูต้นมะยมจะมีมากน้อยแค่ไหนนั้นต้องรอพิสูจน์ เริ่มต้นด้วยเรื่องงานของสุมณฑาเป็นเรื่องแรก
Chapter35“ก็ไม่รู้ไงว่าจะมีให้เมื่อไหร่ถึงตอบไปแบบนั้น” เจ๊เพียงตอบกวนๆ กระแทกเสียงและทำเสียงดังใส่ “เสริมมาเก็บไม่เห็นถามมากมายอย่างนี้เลย เอาเป็นว่าถ้าฉันมีแล้วจะจ่ายก็แล้วกันนะ”ภัทรียารู้สึกเฉยๆ กับคำพูดคำจาและท่าทางของเจ๊เพียง อาจเพราะซอยต้นมะขามที่เธออยู่มาตั้งแต่เกิดมีคนประเภทนี้อยู่มาก หญิงสาวจึงไม่สะทกสะท้านเท่าไรนัก และไม่มีความหวาดกลัว“ของใหม่ป้าก็ไม่จ่าย ของเก่าก็ค้างไว้ ป้าไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือคะ” ภัทรียาย้อนคนถูกย้อนหยุดโบกพัดในมือ จ้องหน้าสาวรุ่นลูกเขม็ง ก่อนจะตะเบ็งเสียงใส่ “แกว่าฉันหน้าด้านอย่างนั้นเหรอ”“หนูพูดอย่างนั้นเหรอคะ” เธอแกล้งทำไขสือ “ป้าว่าตัวเองนะคะ หนูไม่ได้ว่าป้าสักคำ”“แกไม่ต้องมาย้อนยอก คำพูดของแกมันหมายความอย่างนั้น” เจ๊เพียงตะโกนใส่อย่างเดือดดาล ทำให้คนในตลาดเริ่มหันมามองเจ๊ส้มแม่ค้าเขียงหมูกับเจ๊ตุ๊กแม่ค้าขายปลาสด สองเพื่อนสนิทของเจ๊เพียง รีบลุกจากแผงเดินมาดูเหตุการณ์“ถ้าป้ารู้ตัวว่าหน้าด้านก็รีบจ่ายค่าเช่าแผงมาสิคะ ของใหม่ห้าพันห้า ของเก่ารวมๆ แล้วก็สี่หมื่นสามพันเจ็ดร้อยบาท รีบจ่ายมาอย่าให้เด็กมาถอนหงอกหรือให้คนอื่นรับรู้นิสัยของป้าไปมากกว่าน
Chapter34 สามวันต่อมา ภัทรียาทำหน้าเซ็งเมื่อเห็นทีมลักขณานั่งครบองค์ประชุม คิดว่าจะเลี่ยงการปะทะคารมแล้วเชียว สุดท้ายก็หนีไม่พ้น แต่ละคนมองเธอเป็นตาเดียว แถมยังทำปากขมุบขมิบราวกับว่ากำลังนินทาซึ่งหน้าก็ไม่ปาน อีกทั้งยังยิ้มเยาะให้อีกต่างหาก คงจะปรามาสเรื่องที่เธอจะไปเก็บค่าเช่าแผงในตลาดรุ่งอุดมอยู่เป็นแน่ “ว่าไงยะเธอ เตรียมตัวไปเก็บเงินค่าเช่าแผงใช่ไหม” ลักขณาถาม แสยะยิ้ม “ใช่ค่ะคุณแม่สามี” ภัทรียาหยุดเดิน ตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นฉันก็อวยพรให้หล่อนโชคดีสำลีแปะหัว เอ๊ย! ไม่ใช่ ขอให้เก็บเงินได้ทั้งหมดนะ” ลักขณาพูดจบ เสียงหัวเราะของลูกทีมก็ดังขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย ลักษิณา อังคณี และศิริพรแม่บ้านสูงวัย “ไม่ต้องห่วงค่ะคุณแม่สามี รับรองว่าคุณลูกสะใภ้จะเก็บเงินมาให้ทุกบาททุกสตางค์ ไม่ให้ตกหล่นเลยค่ะ แถมยังจะเก็บเงินค้างเก่าให้ด้วยอีกค่ะ” ภัทรียาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ไม่มีความหวาดหวั่นแม้แต่น้อย “ให้มันเก่งอย่างปากว่าก็แล้วกัน ฉันกลัวจะได้ไม่ครบซะมากกว่า ฉันไม่เห็นจะมีใครหน้าไหนเก็บได้ครบสักคน” แม่สามีสบป
Chapter33ภมรหนุ่มเริ่มลุกล้ำมากขึ้น สูดเก็บกักสายธารหวานล้ำ ที่ไหลบ่าเนืองนอง มือใหญ่ข้างหนึ่งกอบกุมบงกชคู่งามสลับกันไปมา มืออีกข้างปลุกกระตุ้นอารมณ์พิศวาสให้โหมหนัก ภัทรียาถูกรุกทั้งสามทางพร้อมกัน มีหรือจะทานทนเก็บกลั้นอารมณ์ไหว หญิงสาวกรีดร้องรับความสุขสมจากการปรนเปรอของธัชธรรม์“อา...คุณอ๋อง...คุณอ๋องขา” เสียงของเธอเบาหวิวคล้ายกำลังขาดใจ จะไม่ให้เธอไม่ขาดใจได้อย่างไร เมื่อเขายังไม่ละใบหน้าจากความเป็นอิสตรี ดื่มด่ำราวพบโอเอซิสกลางทะเลทรายแห้งผาก ทั้งยังเฝ้าดอมดมความหอมชื่นใจอย่างหลงใหลดั่งต้องมนตร์ ทุกอณูบนสรรพางค์กายสาว ไม่มีที่จะคลาดคลาจากสัมผัสเสน่หาแห่งบุรุษเพศ“คุณอ๋องขา...คุณอ๋อง...ปราง...ปรางต้องการคุณ” เธอยังคงส่งเสียงครวญกระเส่าไม่หยุด ร่างกายอัดแน่นไปด้วยความร้อนจนกายแทบระเบิด ต้องการให้เขามาเติมเต็มความสุข ร้องขอธัชธรรม์อย่างลืมอายไม่ได้มีเพียงภัทรียาเท่านั้นที่ร่างกำลังระเบิด ธัชธรรม์ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ความปรารถนาระอุเดือดในกาย เผาผลาญทุกสรรพางค์จนแทบไม่เหลือชิ้นดี ชายหนุ่มจุมพิตกลีบดอกไม้งามเป็นการส่งท้าย ก่อนจะยันตัวขึ้น ใช้หัวเข่าดันขาเรียวสวยทั้งสองข้างออกเพื่อจะ
Chapter32“วันไปเก็บเงิน ฉันจะไปเป็นเพื่อนนะ มีอะไรจะได้ช่วยเธอ” ธัชธรรม์อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เพราะรู้กิตติศัพท์พ่อค้าแม่ขายในตลาดดีว่าเป็นอย่างไร“ไม่ต้องค่ะ ปรางไม่อยากให้คุณแม่มาอ้างว่าปรางทำงานนี้ไม่ได้จึงให้คุณอ๋องช่วย เชื่อมือปรางนะคะ ปรางทำได้ค่ะ”“ฉันเชื่อมือเธอและเป็นห่วงเธอด้วยนะปราง เพราะเรื่องที่เธอทำอยู่นี้มันนอกเหนือข้อตกลงของเรา ถึงยังไงฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”“เอาอย่างนี้ดีไหมคะ เพื่อความสบายใจของคุณอ๋อง ถ้าปรางทำงานนี้สำเร็จคุณอ๋องต้องจ่ายเงินให้ปรางหนึ่งแสนบาท เท่ากับคุณอ๋องจ้างปรางทำงานนี้” เธอหาทางออกให้เขา“อืม ก็ดีเหมือนกัน งั้นตกลงตามนี้” ธัชธรรม์ตอบแบบไม่คิด“ค่ะ ตกลงตามนี้ค่ะ” เธอยิ้มให้อีกฝ่ายรอยยิ้มสดใสของภัทรียาทำให้คนที่เห็นรอยยิ้มรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองทำงานหนัก เต้นถี่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นัยน์ตาสีนิลของธัชธรรม์นิ่งมองดวงหน้าสวยฉาบรอยยิ้มซึ่งมองแล้วไม่รู้สึกเบื่อ พร้อมกันนี้ความรู้สึกดีที่มีต่อเธอยังถักทอขึ้นในจิตใจของเขาอีกด้วยภัทรียาหน้าแดงทันใดเมื่อชายหนุ่มมองแบบตาไม่กะพริบ เธอตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูก ไม่น่าเชื่อว่าคนก๋ากั่นและไม่กลัวใครจะใจเต้นโค
Chapter31 สมุดบัญชีเล่มใหญ่สองเล่มและเล่มขนาดกลางอีกหนึ่งเล่มกางอยู่บนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยภายในห้องนอนของธัชธรรม์ ภัทรียานั่งอยู่บนพื้น อ่านสมุดบัญชีสองเล่มใหญ่ที่เพิ่งไปขอมาจากเสริมศักดิ์ เจ้าหน้าที่ดูแลตลาดซึ่งคุณหญิงลักขณาว่าจ้างมาหลายปี เพื่อมาตรวจว่าเธอต้องเก็บเงินค่าเช่าแผงใดบ้าง และแผงไหนมียอดค้างจ่ายเท่าไร โดยสมุดบัญชีที่ได้มาคือ สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายของตลาด สมุดบัญชีรายชื่อบุคคลที่เช่าแผงขายของที่ระบุว่าแผงใดจ่ายหรือค้างค่าเช่าในแต่ละเดือนจากนั้นเธอก็ไปซื้อสมุดบัญชีมาอีกหนึ่งเล่ม ซึ่งถือว่าเป็นสมุดบัญชีส่วนตัวเพื่อรวบรวมข้อมูลว่าแผงใดต้องจ่ายค่าแผงเป็นจำนวนเงินเท่าไร ค้างจ่ายกี่บาท เพื่อทวงถามได้อย่างถูกต้อง“โห...กว่าจะเสร็จ เล่นเอาปวดหมองเลย”ภัทรียาพูดหลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น วันพรุ่งนี้ก็จะได้เวลาไปเก็บค่าเช่าแผงเสียที และนั่นทำให้เธอวิตกกังวลไม่น้อย เพราะจำนวนคนที่ค้างจ่ายซึ่งระบุด้วยปากกาสีแดงมีอยู่เกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนคนเช่าพื้นที่ทั้งหมด คงเป็นเรื่องยากน่าดูที่จะเก็บเงินให้ได้ภายในระยะเวลาที่ลักขณากำหนด แต่ไม่ว่าจะยากยิ่งเพียงใด ภัทรียาก็มั่นใจว่าต้องทำได
Chapter30 “คุณเรย์...แตกลัว” เธอกล่าวอย่างขลาดกลัว ใจสั่นหนักเมื่อหลุบตาเห็นขนาดของกายแกร่ง กลัวร่างกายตัวเองจะฉีกขาด “แตไม่เคยค่ะ”เรวินยิ้มพอใจกับประโยคที่ได้ยิน เขาพอเดาได้ว่าเธอไร้เดียงสากับเรื่องนี้ การแสดงออกทุกอย่างไม่เหนียมอาย ขวยเขิน จูบ การตอบสนองที่ไม่ได้เรื่อง หรือร่างกายที่สั่นอยู่ตลอดเวลา เป็นการแสดงออกโดยธรรมชาติ ทว่าเขาจะพอใจมากขึ้นหากพิสูจน์ด่านสุดท้ายว่าเธอบริสุทธิ์จริงหรือไม่ “ไม่ต้องกลัว ใหม่ๆ ก็อย่างนี้แหละ พอได้ลองครั้งแรกแล้วเธอจะติดใจ”เขาพูดปลอบ ก่อนจะแยกขาเรียวทั้งสองข้างให้กว้างมากขึ้น ก้มใบหน้ามองดอกไม้สีชมพูสดใสแล้วใจกระตุก เพราะมันสวยงามจนเขาอยากฝังใบหน้าลงไปซุกซบ สูดดมกลิ่นสาบสาวเพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาจดแก่นกายชายตรงปากถ้ำ แล้วดันฝ่าความคับแน่นที่แทบจะทำให้หัวใจเขาหยุดทำงาน“คุณเรย์...จะ...เจ็บค่ะ...อืม...เอาออกไป...กะ...ก่อน”ความเจ็บแปลบวิ่งปราดสู่ร่างน้อยของสุมณฑาทันทีที่เขานำความแข็งแกร่งเข้าสู่ถ้ำสวาท ซึ่งไม่เคยถูกรุกรานมาก่อน เธอเกร็งตัวจนแข็ง ใบหน้าเหยเก ริมฝีปากขบเม้ม น้ำตาไหลเป็นทาง“โอ้...ฉะ...ฉันก็เจ็บปวดเหมือนกัน อา...ดีช