บทที่ 12

ในฐานะที่ฟู่เจิงเป็นประธานบริษัทของฟู่ซื่อ จึงเคยโผล่หน้าในข่าวเศรษฐกิจหลายครั้ง ด้วยหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง ชาติตระกูลที่สวรรค์ลำเอียงมอบให้ กอปรกับไม่มีข่าวฉาว ทำให้สะสมแฟนคลับได้กลุ่มหนึ่ง เรียกเขาว่าเป็นพระเอกในนิยายแต่กำเนิด

ส่วนฉู่ซืออี๋นั้น หน้าตาค่อนข้างดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เคยสร้างผลงานดีที่ต่างประเทศมาก่อน ทั้งสองคนเรียกได้ว่าเป็นกิ่งทองใบหยก คู่สร้างคู่สม

กอปรกับการชักนำของคลื่นใต้น้ำ ชาวเน็ตจึงพากันส่งคำอวยพร แถมยังดึงดูดแฟนคลับคู่จิ้นมาจิ้นกันได้อีกเป็นกอง

เดี๋ยวเดียวก็สร้างซูเปอร์ท็อปปิกคู่จิ้นขึ้นมา ซึ่งชื่อของซูเปอร์ท็อปปิกเรียกว่า ข้อโต้เถียงสามีภรรยา ‘เจิงอี๋’

แค่ในเวลาสั้น ๆ แฟนคลับของซูเปอร์ท็อปปิกพุ่งทะลุหลายหมื่นคน

แฟนคลับที่เป็นนักเขียนได้เขียนเรื่องราวความรักประทับใจของทั้งสองให้พวกเขาโดยเฉพาะ แฟนคลับที่เป็นนักวาดภาพก็ใช้ภาพเดิมของพวกเขาวาดรูปโปรไฟล์คู่รักฉบับการ์ตูนให้พวกเขา ส่วนพวกนักตัดต่อก็เอาซีรีส์ที่ฉู่ซืออี๋เคยเล่นตัดต่อกับข่าวเศรษฐกิจของฟู่เจิง จิ้นกันสุดฤทธิ์สุดเดช

เวินเหลียงกดเข้าซูเปอร์ท็อปปิก ยังเห็นแฟนคลับคนหนึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น ‘วันนี้ฟู่เจิงกับฉู่ซืออี๋แต่งงานกันหรือยัง?’

แฟนคลับคู่จิ้นหาความหวานจากเรื่องราวต่าง ๆ มาเสพกัน

พวกเขาเดาว่าหลังจากฉู่ซืออี๋ไปต่างประเทศ ที่ฟู่เจิงโสดมาตลอดและไม่มีข่าวฉาวเป็นเพราะรอฉู่ซืออี๋กลับมา

น่าติดตามจังเลย!

แต่ในสายตาของเวินเหลียง คำพูดพวกนี้เหมือนมีดแหลมคมทิ่มหัวใจเธอแรง ๆ ทีละเล่ม เลือดไหลรินเป็นทาง

นิ้วมือที่ถือโทรศัพท์มือถือสั่นระริก ลำคอเรู้สึกขมเฝื่อน

ทั้งที่เธอต่างหากที่เป็นภรรยาของฟู่เจิง

ฟู่เจิงทำแบบนี้ เขาเอาเธอไปไว้ที่ไหน

เวินเหลียงหายใจเข้าลึก ๆ ปิดโทรศัพท์มือถือ แล้วลุกขึ้นไปห้องทำงานของประธานบริษัท

เธอยืนอยู่ปากประตู หยุดครู่หนึ่งจึงเคาะประตูห้องทำงาน

“เข้ามา” เสียงฟู่เจิงดังออกมาจากข้างใน

เวินเหลียงผลักประตูเข้าไป ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานแล้วพูดอย่างจริงจัง “ประธานฟู่ ฉันคิดว่าแผนกประชาสัมพันธ์จัดการเรื่องคำค้นหายอดฮิตไม่เหมาะสมค่ะ”

ฟู่เจิงปรายตามองเวินเหลียงด้วยสายตาเย็นชา “งั้นคุณบอกมา ไม่เหมาะสมยังไง? มีอะไรไม่เหมาะสม?”

“หลังจากเรื่องนี้ เอ็มคิวต้องผูกติดกับฉู่ซืออี๋ ไม่เหมาะสมกับทิศทางและแผนงานพัฒนาของเอ็มคิวค่ะ”

ด้านงานเป็นอย่างนี้จริง ตอนนี้โซเชียลพากันพูดว่าฉู่ซืออี๋เป็นเถ้าแก่เนี้ยของเอ็มคิว การที่เถ้าแก่เนี้ยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ผลิตภัณฑ์บริษัทตัวเอง ต่อไปพอพูดถึงเอ็มคิว ทุกคนก็ต้องนึกถึงฉู่ซืออี๋

ด้านส่วนตัวเวินเหลียง เธอไม่อยากผูกความทุ่มเทของตัวเองกับฉู่ซืออี๋ เธอไม่อยากฝืนใจร่วมงานกับฉู่ซืออี๋

“นี่เป็นคำพูดจากใจเธอเหรอ? หรือว่าเอ็มคิวเป็นแค่ฉากหน้า แต่เป็นเธอเองที่รับไม่ได้กับเรื่องแผนงานล้มเหลว”

เวินเหลียงอึ้ง มองฟู่เจิงอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงพูดอย่างนี้ล่ะคะ?”

“หรือว่าเธอไม่ได้เป็นคนเปิดเผยเรื่องคำค้นหายอดฮิต? มีความสัมพันธ์กับนักลงทุน เธอน่าจะรู้ว่าเรื่องนี้ส่งผลกับงานซืออี๋มากขนาดไหน!”

เวินเหลียงสมองดังวิ้ง ถามเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ความหมายของคุณคือ เรื่องคำค้นหายอดฮิตฉันเป็นคนทำงั้นเหรอคะ? คุณเห็นฉันเป็นคนอย่างนี้เหรอ?”

“หรือว่าไม่ใช่? ถ้าเธอไม่พอใจหนังสือสัญญาก็บอกฉันได้ ทำไมต้องใช้วิธีสกปรกกับซืออี๋ด้วย? เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”

ฉู่ซืออี๋แทรกกลางระหว่างพวกเขาแต่ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนเธอเปิดโปงมือที่สามก็คือวิธีสกปรก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเธอไม่ได้ทำเรื่องนี้

เขาลำเอียงแต่แรก

ถึงเธอจะไม่ผิด เขาก็ไม่เข้าข้างเธอ

หัวใจของเวินเหลียงเหมือนถูกคนทุบแรง ๆ รู้สึกถึงความเจ็บจุกที่มาเยือน

เธอสะกดลมหายใจ ริมฝีปากสั่น พูดไม่ออก

เธอคิดไม่ถึงว่าที่แท้ในใจของฟู่เจิงเธอจะเป็นคนแบบนี้

การเป็นสามีภรรยาสามปี เขาเข้าใจเธอผิดอย่างนี้เหรอ

“ทำไม? พูดไม่ออกแล้วล่ะสิ? ขั้นตอนต่อไปเธอคิดจะเปิดเผยเรื่องแต่งงานของเราให้ซืออี๋ได้ชื่อว่าเป็นมือที่สามที่แก้ตัวไม่ได้ตลอดชีวิตใช่ไหม?”

หัวใจของเวินเหลียงราวกับถูกมีดกรีด สั่นเทิ้มสูดลมหายใจเข้า จ้องฟู่เจิงตรง ๆ พลางพูดกลั้วหัวเราะเสียงเย้ยหยันฉับพลัน “หรือว่าเขาไม่ใช่?”

ฟู่เจิงเงียบ

“ตอนแต่งงานคุณรับประกันกับคุณปู่ คุณย่าว่ายังไง? แล้วคุณทำยังไง?!” เวินเหลียงขอบตาแดง

“ถ้าตอนนั้นคุณบอกฉันว่าคุณลืมฉู่ซืออี๋ไม่ได้ ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณเด็ดขาด!”

“ฉันเวินเหลียงก็เป็นคนเหมือนกัน ทำไมต้องให้คุณเหยียบย่ำตามอำเภอใจด้วย?”

“ตอนนี้ฉันให้พวกคุณสมหวังยังไม่พออีกเหรอ? ฟู่เจิง! คุณมีเหตุผลหน่อย ถ้าฉันอยากทำเขา ฉันก็มีสารพัดวิธีที่จะทำให้เขาดับได้!”