Share

chapter 3

last update Last Updated: 2025-01-23 11:19:38

“ไม่รู้บิดาไอย่าจะว่ายังไงบ้าง ถ้าหากฉันจะเชิญไอย่าไปเป็นแขกที่บ้าน”

มีคำถามมากมายในดวงตากลมโตใสแจ๋ว ที่อันเดซาอีอยากยื่นมือไปทาบบนสองแก้มซับสีเลือด แล้วกดปากลงบนหน้าผากนวลไล่ลงมาถึงดวงตา สิ้นสุดบนกลีบปากสีชมพูสด

“ไม่อยากปล่อยให้ไอย่าเดินคนเดียว กลัวใครดักพาดวงใจหนีหายไป”

“ขี้ตู่ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ” หญิงสาวตวัดค้อนใส่อันเดซาอีวงโต แต่ก็ปล่อยให้มือเล็กตกอยู่ในอุ้งมืออุ่น ฟังเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเล่าเรื่องราวสานสายใยบางๆ ให้กับหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัวเร็ว ใบหน้าสองคนเปี่ยมล้นด้วยความสุขกับรักแรกเจอ!

“แต่งงาน! ความสุขหรือเศร้า...สูญเสียและร้องไห้!”

ความหวานจางหายจากคู่บ่าวสาว เสียงหัวเราะแห่งความสุข ใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสหยุดชะงักลง เมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ!

สายตาทุกคู่ของแขกในงานไปโฟกัสอยู่ที่จุดเดียว...ชายร่างผอมกะหร่องกะแหร่ง เสื้อผ้าที่สวมใส่หาสีเก่าไม่เจอ ด้วยตอนนี้เหลือเพียงสีกระด่างกระดำและขาดกะรุ่งกะริ่ง ใบหน้ามอมแมมรกครึ้มไปด้วยหนวดเครา จนเห็นเพียงแค่ลูกตาที่เลื่อนลอยและสติไม่อยู่กับตัว

“ดูแลกันยังไง ถึงได้ปล่อยให้ตาแก่สกปรกนี่เข้ามาในงานเราได้” อันเดซาอีหันไปต่อว่าเพื่อนด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่งยวด เขาไม่ได้รังเกียจคนที่ฐานะต้อยต่ำกว่าหรือขอทาน มิหนำซ้ำยังใจดีเลี้ยงอาหารอยู่บ่อยครั้ง แต่วันนี้เป็นงานมงคล ที่เขาไม่อยากให้มีสิ่งไม่ดีมากล้ำกราย ยิ่งตาแก่ตรงหน้าคือ...

ซาอิดดี โอซามุ กัลป์วามุเอ!

อดีตพ่อค้าวานิชผู้เก่งฉกาจ ทั้งเล่ห์เหลี่ยมกลโกง สามารถพลิกแพลงเอาชนะคู่แข่งอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง แต่ความรุ่งโรจน์ก็จบลงเพียงแค่คืนเดียว คืนวิวาห์ที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ใครก็ยากจะลืมเลือนได้ เมื่อเจ้าสาวผู้งามสง่า ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความงามหาตัวจับยาก กลับกลายตัวเองเป็นฆาตกรเลือดเย็น ยืนมองทุกคนทรมานเพราะยาพิษอย่างคนไร้ความรู้สึก

เจ้าบ่าว! ต้องทนเห็นคนตายไปทีละคนโดยช่วยเหลือไม่ได้ เพราะตัวเขาเองก็ถูกวางยา ทำให้ตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรง ต้องทนดูคนที่เขาคิดว่ารักจนยอมตายแทนกันได้เปิดประตูรับโจรเข้ามาขนถ่ายลำเลียงข้าวของทุกชิ้นออกไปด้วยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง ก่อนเผาคฤหาสน์หลังงามจนมอดไหม้เป็นจุล

จากเคยเป็นหนึ่ง มีทุกอย่างพร้อมพรั่ง กลับต้องสิ้นเนื้อประดาตัวในคืนเดียว ซาอิดดี โอซามุ กัลป์วามุเอ รับกับสภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้ กลายเป็นชายไร้สติไปในทันควัน ไม่แค่นั้น อีกฝ่ายยังกลายเป็นตัวซวยที่นำพาโชคร้ายมาสู่ทุกคนที่พบเจอ จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้!

“ใครก็ได้รีบนำตัวชายคนนี้ออกจากงานเราเร็ว!” อันเดซาอีเอ่ยอย่างร้อนรน ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ผู้คนเล่าลือกัน ทว่าเมื่อซาอิดดี โอซามุ กัลป์วามุเอ เข้าไปที่ใด เพียงไม่นานที่นั่นก็จะมีเรื่องเลวร้ายจนมิอาจคาดคิดได้ อีกทั้งวันนี้คือวันดีของเขา ที่ไม่อยากให้มีสิ่งไม่ดีหรือที่หลายคนเชื่อในเรื่องของคำสาปมาทำให้ครอบครัวและทุกคนในงานต้องโชคร้าย!

“ใจเย็นๆ นะซีกัลป์ ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่หิวอยากมาหาอะไรทานน่ะ” ไอซาย่าปลอบใจทั้งเจ้าบ่าวและตัวเองเสียงสั่น

“เราจัดโต๊ะพร้อมอาหารไว้ให้ที่นอกรั้วแล้วนะไอย่า ไม่ได้ให้เข้ามาวุ่นวายในงานอย่างนี้” ถือเป็นธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีต เมื่อมีการเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่ ควรแบ่งปันแจกจ่ายความสุขและสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นด้วย ภายนอกของบ้านจึงได้มีการจัดตั้งโรงอาหารพร้อมด้วยอาหารแห้ง แจกจ่ายแก่เหล่าคนยากจนและเหล่าคนเร่ร่อน ถือคติ...ให้คนอื่นไปเท่าไหร่จะได้รับกลับคืนมาเป็นเท่าทวีคูณ

“คนที่ดูแลเรื่องแจกจ่ายอาหารคงเข้ามาอยู่ในงานกันหมดทุกคนแล้วนะ...ซีกัลป์ก็อย่าโกรธเคืองไปเลยนะคะ” เสียงใสราวกับระฆังแก้วแจ้วจำนรรจาพลางส่งยิ้มแหยๆ ให้กับชายผู้โชคร้าย

“ทางเราได้เตรียมข้าวสารอาหารแห้งไว้ให้เรียบร้อย ท่านไปรับที่โรงทานด้านหลังนะ” แม้สอดแทรกไปด้วยความกริ่งเกรงกลัวเรื่องราวที่เคยได้ยินมาบ้างแต่ไอซาย่าก็ยังยิ้มหวานได้

“ไม่ใช่ขอทาน พวกเจ้ารังแกข้า...ฮือๆ พวกเจ้าใจร้าย” โอซามุเอ่ยเสียงดังคล้ายท้องฟ้ายามมีพายุโหมกระหน่ำ ยกมือชี้หน้าคู่บ่าวสาวด้วยสายตาเกรี้ยวกราดแค้นเคือง

“ดีใจกันนัก ระวัง! มีความสุขมากเกินไป เดี๋ยวถูกพรากไปแล้วจะรู้สึก!”

“โอซามุ!” อันเดซาอีตวาดดังก้อง วันมงคลทุกคนควรมีความสุข แต่กลับถูกก่อกวนจากชายไร้สติคนนี้!

“มีความสุขกันมาก ระวังโชคชะตาจะเล่นตลก ยามต้องทนทุกข์ทรมานจากการพลัดพรากจากของอันเป็นที่รัก...”

“เจ้าพูดอะไรโอซามุ! รีบไปก่อนที่เราจะทนไม่ไหว” งานมงคลของเขาแท้ๆ แต่ไอ้เจ้าขอทานไร้สตินี่เอาเรื่องอัปมงคลอยู่ได้

“เจ้าดุ...ข้ากลัว ฮือๆ” โอซามุทรุดกายลงนั่งขัดสมาธิ พร้อมร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตาไหลพราก

“เจ้าคนใจร้าย...ขอให้เจ็บปวด คนรักพลัดพราก ทุกข์ทรมานเพราะการรอคอยนางอันเป็นที่รักกลับคืน!” โอซามุรำพึงรำพันเสียงขาดเป็นห้วงๆ

“ใครก็ได้เอาเจ้าคนสติไม่เต็มนี่ออกไปจากงานเราที” อันเดซาอีตะโกนให้เพื่อนๆ ช่วยนำตัวซวยออกไปจากงาน ก่อนเขาจะทนไม่ไหวกระทืบจนกระอักเลือด ทว่าทุกคนต่างหยุดชะงักไม่ยอมทำตามคำสั่งเลย ให้น่าฉงนใจยิ่งนัก ทำไมคนไร้สติถึงยังได้มีพลังอำนาจแผ่มาให้ต้องขลาดกลัวเช่นนี้

“หัวใจเจ้าต้องแหลกสลาย แม้คนรักย้อนคืนกลับ แต่เจ้าก็กลัวที่จะรัก!” จากที่ร้องไห้คร่ำครวญ ใบหน้าโอซามุแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังถมึงทึง นัยน์ตาดุกร้าวกราดเกรี้ยวลุกโชนด้วยเปลวเพลิงไฟที่สาดแสง ราวกับมีสัตว์ร้ายสิงสู่ ส่งสำเนียงสูงต่ำสาปแช่งไป

“เจ้าต้องพ่ายแพ้...ไม่มีวันเอาชนะอุปสรรคได้” โอซามุชี้มือไปที่ซีกัลป์

“แม้ร่วมกันต่อสู้ฝ่าฟันเจ้าก็เอาชนะไม่ได้ ความตายจะพรากเจ้าและนางจากกันตลอดกาล!” เสียงของโอซามุที่เปล่งออกมาคล้ายมีพายุตั้งเค้า ก่อนท้องฟ้าจะมืดมัวจนดำสนิท สายฝนโปรยปราย สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาเสียงดังสนั่นลั่น ก่อนทะเลทรายจะพิโรธ หอบเอาหมู่มวลทรายหมุนวนเป็นเกลียว ให้พระพายสาดซัดเข้าหาด้วยความรุนแรง

“ได้โปรดออกไปจากที่นี่ ก่อนซีกัลป์จะทนไม่ไหวทำร้ายท่าน” แม้เกรงกลัวคำสาปแช่งจะเป็นจริง แต่ไอซาย่าก็ยังเป็นคนใจดีและเอื้ออาทรต่อคนอื่น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 101 - จบ

    “ว้าย! ทำอะไรนะคะคุณซีกัลป์” แขนกลมกลึงรีบยกขึ้นโอบรัดรอบแผงคอแกร่ง เมื่ออยู่ดีๆ อันเดซาอีก็ช้อนร่างเธอมานอนราบบนเตียงนอนผ้าขนสัตว์เนื้อนุ่ม “ปล่อยฉันก่อน...นะคะ” ขอขวัญยกสองมือยันแผงอกกว้าง กลืนน้ำลายคงคออย่างฝืดเคืองเมื่อเจอกับสายตาร้อนแรงแฝงไว้ด้วยความปรารถนาที่ปกปิดเอาไว้ไม่มิด “ไอย่าค่อนข้างจะขี้อาย แค่ถูกฉันจับมือนิดหน่อยก็อายจนหน้าแดงปลั่งแล้ว ผิดกับเธอที่...” ปลายนิ้วยาวตวัดลากไล้ไปบนผิวเนื้อนวลเนียนนุ่ม“เหมือนจะอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่เอาเข้าจริงก็ร้อนแรงประหนึ่งน้ำมันราดลงไปบนกองไฟ”อยากจะบอกว่า...ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ก็ได้ นี่มันยังกลางวันอยู่เลย อีกอย่างให้เวลานับจากนี้พิสูจน์คำพูดของเขา ทว่าเพียงใบหน้าคร้ามแกร่งโน้มลงมา สัมผัสแผ่วเบาที่แนบหน้าผากกว้าง ไต่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงกลีบปากอิ่มนุ่ม ค่อย ๆ บดคลึงลงไปอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน“ฉันอยากให้ทั้งตัวเองและเธอมั่นใจ คนที่อยู่ด้วยคือแม่ของขวัญที่เดินทางมากับนกเหล็ก มาเพื่อให้ฉันแกะกล่องด้วยความเสน่หา ที่ฉันจะบอกทุก ๆ วัน ย้ำให้เธอแน่ใจในทุก ๆ สัมผัส”ปากหนาเม้มกัดสลับบดคลึง พลางสอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปกระหวัดกวาดไล้ดื่มด่ำ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 100

    ทั้งที่อยากจะถามตรงๆ ทว่าเห็นดวงตาที่ฉายแววตัดพ้อก็ทำให้เกิดพูดไม่ออกขึ้นมาฉับพลัน อีกทั้งถึงจะใช่คนเดียวกัน แต่ตอนนี้ต่างภพต่างความทรงจำ ต่างคนต่างก็มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไปแล้ว ย่อมที่จะไม่ใช่คนเดียวกัน!ขอขวัญพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันพอจะจำเรื่องราวที่คุณเจอกับคุณไอซาย่าในตลาดได้ สาวน้อยที่อยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร ช่วงเวลาที่คุณสองคนอยู่ด้วยกัน รอบกายอบอวนไปด้วยความรักและความสุข แม้กระทั่งวันที่คุณบอกรัก”เจ็บแปลบในทุกคำที่เอื้อนเอ่ยออกมา เหมือนกับหัวใจถูกกรีดเป็นชิ้นๆ “และ...ขอแต่งงาน” เสียงของเขายังดังสะท้อนก้องอยู่ในหูเธอ เสมือนจะตอกย้ำความรักของอันเดซาอีและไอซาย่าให้เธอถึงระลึกเอาไว้ อย่าริอ่านทำตัวเป็นมารสอดแทรกกึ่งกลาง“แต่ที่ฉันไม่รู้คือเรื่องราวของอดีต การข้ามภพข้ามชาติมาจุติใหม่ ฉันจะใช่คุณไอซาย่ากลับมาเกิด เพื่อจะชดเชยวันเวลาที่คนซึ่งรักกันถูกพรากให้ห่างกัน ได้รักและให้คุณรักหรือเปล่า” แต่สิ่งหนึ่งที่รู้ ณ ห้วงเวลานี้ ทั้งตัวเธอเองและไอซายาต่างก็ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน! ทำให้อันเดซาอีมีความสุขที่สุด ได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ตราบนานเท่านาน แม้เธอจะต้องเจ็บปวดก็ยอมจะให้เขาคิดอ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 99

    “ว่าแต่...มันเรื่องอะไรกันล่ะ” ปลายนิ้วยาวลากไล้บนพวงแก้มนุ่มซับสีเลือดฝาดอย่างอ่อนโยน “เธอจะยอมบอกความจริงกับฉันได้หรือยัง มีเหตุผลกลใดที่ชักนำให้เธอตัดสินใจเดินทางมาที่นี่...ขอขวัญ”ชายหนุ่มจับคางมนให้แหงนขึ้น ปลายนิ้วยาวลูบไล้บนกลีบปากนุ่มแผ่วเบา “มาเป็นของขวัญให้กับผู้ชายที่จมอยู่กับห้วงแห่งความทุกข์ใจ โหยหาใครสักคนมาเติมความรู้สึกที่ขาดหาย พร้อมอยู่เคียงข้างกันตลอดไป”แม้จะผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่พอจะให้เอ่ยปากบอกถึงเหตุผลที่ทำให้ตัวเองต้องมาที่นี่ ที่บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่เรื่องเหลวไหล ฝันก็คือฝันมิอาจนำมาพิสูจน์ความจริงและอ้างเป็นหลักฐาน ทำให้คนอื่นเชื่อไม่ได้ด้วย“ทำไมล่ะ หรือเธอยังไม่ไว้ใจฉัน”ขอขวัญผ่อนลมหายใจออกจากปอด คิดว่าอันเดซาอีคงจะสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่ยังคงมียามถูกเขาแตะเนื้อต้องตัว หรือไม่ก็ออกมาทางความฝันที่ทำให้เธอสะดุ้งตื่นมาพร้อมหยาดน้ำตาที่เอ่อไหลอาบแก้ม“ไม่ใช่ค่ะ เพียงแค่ฉัน...ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังคุณยังไงดี” ขอขวัญเอ่ยด้วยความงุนงงกับสิ่งที่พานพบมา ถึงตอนนี้เธอสับสนด้วยแยกไม่ค่อยออก สิ่

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 98

    ขอขวัญทำเสียงขลุกขลักในลำคอ ก่อนจะตวัดค้อนใส่พ่อจอมวางแผนวงโต ถ้าไม่ติดว่าอยากให้เพื่อนมีความความสุขด้วยละก็นะ...เธอจะภาวนาให้อติกานต์ใจแข็ง ไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ“อ้าว...ไหนว่าสงสาร อยากให้เอแคลร์มีความสุขไง ทำไมถึงได้หน้าตายุ่งเหยิงแบบนี้ล่ะ”“มันก็ใช่อยู่หรอก แต่เล่นมาหลอกลวงกันอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน คนเดียวกันแท้ๆ แต่กลับทำเป็นไม่รู้เรื่องตอนคุณเอแคลร์เอ่ยทัก แถมยังจะปฏิเสธหน้าตายอีก”“ฮัลด์ก็มีเหตุผลในส่วนของเขาที่ต้องทำอย่างนั้น ซึ่งเราสองคนที่คนนอกไม่ล่วงรู้ แต่เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว เราก็ควรที่จะอวยพรให้ชีวิตคู่ของเขาสองคนมีความสุขตลอดไป...ใช่ไหม”ขอขวัญพยักหน้ารับ เอนกายอรชรแนบชิดอกกว้าง “ใช่ค่ะ...ทุกคนมีความสุขกันแล้วสินะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบาหวิวยามคิดถึงเหล่าผู้คนที่อยู่รอบกายกับหนทางที่เขาเหล่านั้นได้เลือกแล้ว ฮารินะเพื่อแก้แค้นให้กับพ่อแม่ แม้รู้ว่าอันตรายก็ไม่หวาดหวั่น เข้าต่อกรกับโจรร้ายจนตัวเองแพ้พ่าย แต่ก็มีความสุข เมื่อได้กลับไปซบอกอุ่นท่องเที่ยวไปทั่วพื้นทรายที่รัก แม่โซไรยากับโอซามุที่ก็ผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย กลายเป็นเพื่อนสนิทที่เข้าใจกันอติกา

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 97

    “บ้า! ใครรักคุณกันล่ะยะ เปล่าสักหน่อย”“อืม...นั่นสิ ฉันยังไม่ได้ยินคำบอกรักเลยนี่นา อย่างนี้คงต้องขอเบิ้นอีกสักรอบ เอ๊ะ...หลายรอบๆ ดีกว่า จะได้มั่นใจไอ้ที่ได้ยินเมียจ๋าบอกเมื่อกี้มันแว่วๆ สงสัยจะหูฝาดไปจริงๆ นั่นแหละ”“ไม่! ฉันบอกแล้ว...บอกแล้ว” อติกานต์รีบพูดจนลิ้นพัวพันกัน มือหนึ่งยกขึ้นดันใบหน้าคร้ามแกร่งที่ก้มลงมาหา อีกมือก็รีบตะครุบมือหนาที่โอบอุ้มทรวงอกกลมกลึง ค่อยๆ นวดคลึงทำให้เธอวาบหวามเสียวซ่าน ลมหายใจเริ่มจะขาดเป็นห้วงๆ“ถ้าไม่รัก ฉันคงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้นหรอก” ดวงตากลมโตหลุบมองลอนกล้ามเนื้อบึกบึน พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองเพราะกายแกร่งที่แนบชิด“ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มาจากต่างบ้านต่างเมือง หัวเดียวกระเทียมลีบ คุณกรุณาปรานีผู้หญิงคนนี้ที่เผลอรักคุณไป ทั้งก่อนหน้านั้นคุณเป็นจอมโจรร้ายอยู่เลย อุ๊ย!” อติกานต์หลุดเสียงอุทานออกมา เมื่อกายสาวอันตรธานลอยไปพำนักบนลำตัวแข็งแกร่ง ใบหน้านวลผ่องร้อนผ่าวและคิดว่าคงจะแดงปลั่งจรดลำคอระหง ยามนิ้วยาวลูบไล้นวดคลึงแผ่นหลังบอบบางอย่างช้าๆ“คุณ...ฮัลด์ หยุดก่อนสิคะ” อติกานต์เว้าวอนขอเสียงแหบพร่า เมื่อปทุมถันกลมก

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 96

    “อือ...” อติกานต์ร้องประท้วงเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือหนาครอบครองทรวงอกอิ่มและนวดเฟ้นอย่างหนักหน่วงจะว่าไปเขาเคยเพียงแค่สัมผัสไม่เคยยลบัวตูมเต่งตึงของอติกานต์ชัดๆ สักครั้ง ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า รีบถอนจูบและลากริมฝีปากไต่ลงไปตามแนวคาง ขบเม้มลำคอขาวผ่องแผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนไปหาทรวงอกกลมกลึงที่ไหวกระเพื่อม ที่เพียงแค่ได้เห็น...มิคาอิลก็หลุดเสียงคำรามออกมาพร้อมกับความกระหายราวกับเลือดในกายเดือดพล่านสองมือหนาสอดช้อนปทุมถันกลมกลึงขึ้นมา ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปบนผิวเนื้อนุ่มๆ ใบหน้าคร้ามแกร่งเปื้อนยิ้ม ดวงตาเข้มเปล่งประกายด้วยปรารถนาขณะเหลือบขึ้นมองสบกับดวงตากลมโต“ฉันคิดไว้ไม่ผิด ไม่แค่นุ่มแต่ยัง...”เนื้อตัวอติกานต์สั่นสะท้าน วาบหวามเสียวซ่านจนเผลอหลุดเสียงร้องครางออกมา เมื่อมือหนานวดเคล้นสลับปลายนิ้วยาวลากไล้บนปลายยอดถันหดเกร็ง ปากอุ่นยังจะเลาะเล็มไปทั่วก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นอย่างเย็นใจ เพียงปลายลิ้นร้อนตวัดไล้วนไปทั่วป้านบัวสีหวานและขบเม้มดึงเข้าสู่อุ้งปาก เธอก็เปล่งเสียงหวานพร่าด้วยวาบหวามจนท้องไส้ปั่นป่วน สองขาเรียวยาวสั่นระริก ปลายเล็บมนจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง พลางเคลื่อนไหวไต่ขึ้นไปพัวพันกับเส้นผมหนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status