“ช่วยด้วยซีกัลป์ ช่วยแม่ด้วย!”
อันเดซาอีกดสวิตช์ไฟข้างประตูเปิดให้ห้องสว่างขึ้น แล้วรีบเดินไปทรุดนั่งใกล้ตัวมารดา เพียงแค่แตะที่ร่างเล็กแกร็นซึ่งนอนกระสับกระส่ายบิดกายไปมา สองมือไขว่คว้าสลับป่ายปัดผลักไสและหวีดร้องเสียงหลงด้วยความกลัวอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัว
“แม่...แม่ครับ ผมเอง...ซีกัลป์”
“ซีกัลป์!” คนถูกน้ำเสียงคุ้นเคยเรียกลืมตาตื่นทันควัน พร้อมร่างเล็กผอมแกร็นสั่นเทาราวกับนกน้อยพลัดตกลงไปในคุ้งน้ำเย็นจัด ผวาขึ้นจากเตียงกอดผู้เป็นลูกชาย
“เจ้าพวกนั้น...คนพวกนั้นมากันอีกแล้ว มันจะมาทำร้ายเรา...ทำร้ายแม่ ช่วยด้วยซีกัลป์ แม่กลัว!”
นางโซไรยาซุกกายสั่นงันงกแทบจะจมหายไปในอ้อมกอดของบุตรชาย ใบหน้าขาวซีด น้ำตาไหลอาบแก้ม แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่สำหรับนาง ความสูญเสียและเจ็บปวดฝังสนิทแนบอยู่ในใจไม่เคยจางหายไป มันเกาะกินหัวใจให้ค่อยๆ ตายซากลงไปทุกวันอย่างเชื่องช้าที่สุด
เคยคิดหลายครั้งว่านางควรจะตายตามผู้เป็นสามีไป จะได้ไม่เป็นภาระให้อันเดซาอีต้องคอยดูแล จนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ทว่า...ความหวังที่ยังคงเหลืออยู่ ที่จะได้เห็นหน้าหลานชายที่หายสาบสูญไปและการได้เห็นลูกชายคนเดียวที่แปรเปลี่ยนจากหนุ่มน้อยผู้ยิ้มแย้มแจ่มใส มีชีวิตชีวาและหัวเราะง่าย กลับกลายเป็นคนเคร่งขรึม วันๆ ไม่เคยมีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าได้แต่งงานมีลูกหลานสืบสกุล นางจึงจะตายตาหลับ
“ไม่ครับ ไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว แม่แค่ฝันไปเท่านั้นเอง” ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังของร่างเล็กที่ผอมจนเหลือเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก เพราะตรอมใจจากการสูญเสีย จนไม่ยอมกินข้าวปลาอย่างอ่อนโยนและเข้าใจในความรู้สึก
“ไม่...ไม่จริง แม่เห็น พวกมันย่างสามขุมเข้ามาหาแม่ บอกจะหักคอแม่ จะเอาเนื้อไปโยนให้แร้งกามันทึ้งกิน น่ากลัวมากเลยซีกัลป์” โซไรยาบอกให้ลูกชายฟังเสียงสั่น ใบหน้าขาวซีดเหลียวมองซ้ายขวา ด้วยเสียงหัวเราะราวกับปีศาจร้ายจากทะเลทรายและโห่ร้องคึกคะนองยังดังก้องอยู่ในหู ก่อนดวงตาเบิกกว้างเมื่อนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้
“พวกมันยิง!” ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนนั้นผ่านเข้ามาในมโนสำนึก พร้อมความกลัวที่ทำให้นางโซไรยาขาดสติหวีดร้องดังลั่นอีกครั้ง จนอันเดซาอีต้องรีบออกแรงกดกอดร่างมารดาที่พยายามทำร้ายและผลักไสเขาให้ออกห่างไป
“พวกมันยิงซีกัลป์...ลูกแม่ตายแล้ว” โซไรยาร้องไห้ฟูมฟายราวกับจะขาดใจ เลือด! เลือดเต็มตัวอันเดซาอี กลิ่นคาวคละคลุ้ง เหม็นเน่าเต็มปากและจมูกชวนอาเจียน!
“แม่ดูให้ดีนะครับ ผมไม่ได้ถูกยิง” นำเอามือของมารดามาทาบอก ตรงจุดใกล้กับหัวใจที่มีบาดแผลจากการถูกยิง
“ลูกแม่ยังปลอดภัย ไม่ได้เป็นอะไรเลย แม่เห็นไหมครับ” อันเดซาอียิ้มอย่างขมขื่นและฝืนเต็มที่ อาการแม่แย่ลงทุกวัน แต่คนเป็นลูกอย่างเขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามอง โดยช่วยเหลือไม่ได้ มันทำเอาเขาเจ็บปวดใจเหลือจะกล่าว
“แม่แค่นอนหลับและฝันร้ายไปเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มพูดเสียงทุ้มและอ่อนโยน ใบหน้าที่แทบไม่มีรอยยิ้มก็มีอย่างฝืนๆ เพื่อให้มารดาคลายความหวาดผวา
“แต่...แม่เห็นจริงๆ นะซีกัลป์ พวกมันยิงลูก เลือด...เลือดเต็มตัวเลย” โซไรยาโต้กลับเสียงเบา มือจับไปบนกายใหญ่อย่างต้องการความมั่นใจ ไม่มีเลือดและชายหนุ่มตรงหน้าคือ...อันเดซาอีบุตรชาย! จริงๆ
“ผมสัญญากับแม่แล้วไงครับ ผมจะไม่เป็นอะไร จนกว่าจะหาเจ้าพวกนั้นเจอ และทำให้พวกมันได้รู้ถึงความเจ็บที่คนอื่นๆ ต้องเจอจากการกระทำของพวกมันไงครับ!” อันเดซาอีเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างดุกร้าว ไม่แพ้นัยน์ตา
“ไม่นะซีกัลป์! ลูกต้องไม่ทำแบบนั้นนะ!” คนเป็นแม่ห้ามเสียงสั่น เมื่อได้เห็นการแต่งกายที่บ่งบอกว่า ผู้เป็นลูกชายกำลังเริ่มต้นการเดินทางไปในท้องทะเลทรายอันกว้างไกลและมืดมิด เต็มไปด้วยภัยอันตรายต่างๆ นานา ตามหาจอมโจรร้ายเพื่อแก้แค้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว นางยอมรับไม่ได้
“แม่ไม่ต้องห่วง ผมเอาตัวรอดได้” อันเดซาอีบอกให้มารดาวางใจ เชสไม่ได้เจาะจงไปตามล่าหาขุนโจรฮิบรานเพื่อจัดการแก้แค้นอีกฝ่าย แต่เขายังจะตามหาจอมโจรโมฮาหมัดและยังตามไปจับตัวพวกที่แอบอ้าง คอยปล้นชิงสินค้าตลอดสามสี่ปี สร้างความเสียหายทางการค้าให้แก่เขาและบริษัทเป็นมูลค่าสูงด้วย
“แม่กินยาแล้วนอนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปตามฮารินะให้มาอยู่เป็นเพื่อน” อันเดซาอีหมายถึงเด็กหญิงที่ประสบกับโชคร้าย หมู่บ้านของเธอโดนเจ้าโจรใจดำอำมหิตปล้น คนในหมู่บ้านไม่เว้นแม้แต่เด็ก ผู้หญิงและคนแก่ชราต่างก็ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น
ฮารินะเองก็ใช่ว่าจะรอดจากการถูกฆ่า แต่เพราะมารดาเธอกันไว้ เลยทำให้แค่บาดเจ็บสาหัส แต่ความโหดร้ายของคนกลุ่มหนึ่ง ก่อเกิดเป็นพิษแห่งความกลัวที่ฝังแน่นเกาะกินใจ ส่งผลให้เด็กน้อยช็อกจนพูดไม่ได้และกลายเป็นคนหวาดระแวง นอนสะดุ้งด้วยฝันร้าย เพียงแค่ใบไม้ปลิวไปตามกระแสสมเกิดเป็นเสียงแค่เล็กน้อยก็หวีดร้องเสียงหลง รีบมุดตัวเองหลบใต้เตียงนอนในทันที
“ซีกัลป์!”
โซไรยารู้ดีว่าห้ามไม่ได้ บุตรชายที่เคยรักและเกรงอกเกรงใจ เชื่อฟังนางเป็นอย่างดีตลอดมาได้ตายไปแล้ว เหลือก็แต่ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความแค้นล้นอก ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสกลับเงียบขรึมจนเป็นเย็นชาคล้ายน้ำแข็งห่อหุ้มกองไฟไว้ เมื่อหลอมละลายก็กลายเป็นเพลิงบรรลัยกัลป์ พร้อมเผาทุกอย่างให้มอดไหม้เป็นจุล!
อันเดซาอีผ่อนลมหายใจออกจากปอด ลุกขึ้นพากายตัวเองไปยืนที่หน้าต่าง ไม่ยอมเหลียวหลังกลับไปมองมารดา ด้วยกลัวตัวเองใจอ่อนกับน้ำตา
“แม่ไม่ห้าม ถ้าลูกยอม...”
“แม่รู้นี่ครับ ครอบครัวเราเหมือนโดนคำสาป ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากมาเสี่ยงชีวิตกับเราหรอกครับ” ขนาดเดินผ่านก็ยังมีเสียงนินทาว่าร้ายลอยตามหลังมาเลย แล้วจะมีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งมาเป็นภรรยาของอันเดซาอี ซีกัลป์ โอซาอิดนี่คนนี้กันเล่า
ฮึ! เจ้าคนหน้าหนาพวกนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเงินทองที่มากมาย จนต้องทำเป็นลืมไปเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่งั้นละก็...ไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาและแม่หรอก
“ว้าย! ทำอะไรนะคะคุณซีกัลป์” แขนกลมกลึงรีบยกขึ้นโอบรัดรอบแผงคอแกร่ง เมื่ออยู่ดีๆ อันเดซาอีก็ช้อนร่างเธอมานอนราบบนเตียงนอนผ้าขนสัตว์เนื้อนุ่ม “ปล่อยฉันก่อน...นะคะ” ขอขวัญยกสองมือยันแผงอกกว้าง กลืนน้ำลายคงคออย่างฝืดเคืองเมื่อเจอกับสายตาร้อนแรงแฝงไว้ด้วยความปรารถนาที่ปกปิดเอาไว้ไม่มิด “ไอย่าค่อนข้างจะขี้อาย แค่ถูกฉันจับมือนิดหน่อยก็อายจนหน้าแดงปลั่งแล้ว ผิดกับเธอที่...” ปลายนิ้วยาวตวัดลากไล้ไปบนผิวเนื้อนวลเนียนนุ่ม“เหมือนจะอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่เอาเข้าจริงก็ร้อนแรงประหนึ่งน้ำมันราดลงไปบนกองไฟ”อยากจะบอกว่า...ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ก็ได้ นี่มันยังกลางวันอยู่เลย อีกอย่างให้เวลานับจากนี้พิสูจน์คำพูดของเขา ทว่าเพียงใบหน้าคร้ามแกร่งโน้มลงมา สัมผัสแผ่วเบาที่แนบหน้าผากกว้าง ไต่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงกลีบปากอิ่มนุ่ม ค่อย ๆ บดคลึงลงไปอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน“ฉันอยากให้ทั้งตัวเองและเธอมั่นใจ คนที่อยู่ด้วยคือแม่ของขวัญที่เดินทางมากับนกเหล็ก มาเพื่อให้ฉันแกะกล่องด้วยความเสน่หา ที่ฉันจะบอกทุก ๆ วัน ย้ำให้เธอแน่ใจในทุก ๆ สัมผัส”ปากหนาเม้มกัดสลับบดคลึง พลางสอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปกระหวัดกวาดไล้ดื่มด่ำ
ทั้งที่อยากจะถามตรงๆ ทว่าเห็นดวงตาที่ฉายแววตัดพ้อก็ทำให้เกิดพูดไม่ออกขึ้นมาฉับพลัน อีกทั้งถึงจะใช่คนเดียวกัน แต่ตอนนี้ต่างภพต่างความทรงจำ ต่างคนต่างก็มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไปแล้ว ย่อมที่จะไม่ใช่คนเดียวกัน!ขอขวัญพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันพอจะจำเรื่องราวที่คุณเจอกับคุณไอซาย่าในตลาดได้ สาวน้อยที่อยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร ช่วงเวลาที่คุณสองคนอยู่ด้วยกัน รอบกายอบอวนไปด้วยความรักและความสุข แม้กระทั่งวันที่คุณบอกรัก”เจ็บแปลบในทุกคำที่เอื้อนเอ่ยออกมา เหมือนกับหัวใจถูกกรีดเป็นชิ้นๆ “และ...ขอแต่งงาน” เสียงของเขายังดังสะท้อนก้องอยู่ในหูเธอ เสมือนจะตอกย้ำความรักของอันเดซาอีและไอซาย่าให้เธอถึงระลึกเอาไว้ อย่าริอ่านทำตัวเป็นมารสอดแทรกกึ่งกลาง“แต่ที่ฉันไม่รู้คือเรื่องราวของอดีต การข้ามภพข้ามชาติมาจุติใหม่ ฉันจะใช่คุณไอซาย่ากลับมาเกิด เพื่อจะชดเชยวันเวลาที่คนซึ่งรักกันถูกพรากให้ห่างกัน ได้รักและให้คุณรักหรือเปล่า” แต่สิ่งหนึ่งที่รู้ ณ ห้วงเวลานี้ ทั้งตัวเธอเองและไอซายาต่างก็ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน! ทำให้อันเดซาอีมีความสุขที่สุด ได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ตราบนานเท่านาน แม้เธอจะต้องเจ็บปวดก็ยอมจะให้เขาคิดอ
“ว่าแต่...มันเรื่องอะไรกันล่ะ” ปลายนิ้วยาวลากไล้บนพวงแก้มนุ่มซับสีเลือดฝาดอย่างอ่อนโยน “เธอจะยอมบอกความจริงกับฉันได้หรือยัง มีเหตุผลกลใดที่ชักนำให้เธอตัดสินใจเดินทางมาที่นี่...ขอขวัญ”ชายหนุ่มจับคางมนให้แหงนขึ้น ปลายนิ้วยาวลูบไล้บนกลีบปากนุ่มแผ่วเบา “มาเป็นของขวัญให้กับผู้ชายที่จมอยู่กับห้วงแห่งความทุกข์ใจ โหยหาใครสักคนมาเติมความรู้สึกที่ขาดหาย พร้อมอยู่เคียงข้างกันตลอดไป”แม้จะผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่พอจะให้เอ่ยปากบอกถึงเหตุผลที่ทำให้ตัวเองต้องมาที่นี่ ที่บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่เรื่องเหลวไหล ฝันก็คือฝันมิอาจนำมาพิสูจน์ความจริงและอ้างเป็นหลักฐาน ทำให้คนอื่นเชื่อไม่ได้ด้วย“ทำไมล่ะ หรือเธอยังไม่ไว้ใจฉัน”ขอขวัญผ่อนลมหายใจออกจากปอด คิดว่าอันเดซาอีคงจะสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่ยังคงมียามถูกเขาแตะเนื้อต้องตัว หรือไม่ก็ออกมาทางความฝันที่ทำให้เธอสะดุ้งตื่นมาพร้อมหยาดน้ำตาที่เอ่อไหลอาบแก้ม“ไม่ใช่ค่ะ เพียงแค่ฉัน...ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังคุณยังไงดี” ขอขวัญเอ่ยด้วยความงุนงงกับสิ่งที่พานพบมา ถึงตอนนี้เธอสับสนด้วยแยกไม่ค่อยออก สิ่
ขอขวัญทำเสียงขลุกขลักในลำคอ ก่อนจะตวัดค้อนใส่พ่อจอมวางแผนวงโต ถ้าไม่ติดว่าอยากให้เพื่อนมีความความสุขด้วยละก็นะ...เธอจะภาวนาให้อติกานต์ใจแข็ง ไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ“อ้าว...ไหนว่าสงสาร อยากให้เอแคลร์มีความสุขไง ทำไมถึงได้หน้าตายุ่งเหยิงแบบนี้ล่ะ”“มันก็ใช่อยู่หรอก แต่เล่นมาหลอกลวงกันอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน คนเดียวกันแท้ๆ แต่กลับทำเป็นไม่รู้เรื่องตอนคุณเอแคลร์เอ่ยทัก แถมยังจะปฏิเสธหน้าตายอีก”“ฮัลด์ก็มีเหตุผลในส่วนของเขาที่ต้องทำอย่างนั้น ซึ่งเราสองคนที่คนนอกไม่ล่วงรู้ แต่เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว เราก็ควรที่จะอวยพรให้ชีวิตคู่ของเขาสองคนมีความสุขตลอดไป...ใช่ไหม”ขอขวัญพยักหน้ารับ เอนกายอรชรแนบชิดอกกว้าง “ใช่ค่ะ...ทุกคนมีความสุขกันแล้วสินะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบาหวิวยามคิดถึงเหล่าผู้คนที่อยู่รอบกายกับหนทางที่เขาเหล่านั้นได้เลือกแล้ว ฮารินะเพื่อแก้แค้นให้กับพ่อแม่ แม้รู้ว่าอันตรายก็ไม่หวาดหวั่น เข้าต่อกรกับโจรร้ายจนตัวเองแพ้พ่าย แต่ก็มีความสุข เมื่อได้กลับไปซบอกอุ่นท่องเที่ยวไปทั่วพื้นทรายที่รัก แม่โซไรยากับโอซามุที่ก็ผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย กลายเป็นเพื่อนสนิทที่เข้าใจกันอติกา
“บ้า! ใครรักคุณกันล่ะยะ เปล่าสักหน่อย”“อืม...นั่นสิ ฉันยังไม่ได้ยินคำบอกรักเลยนี่นา อย่างนี้คงต้องขอเบิ้นอีกสักรอบ เอ๊ะ...หลายรอบๆ ดีกว่า จะได้มั่นใจไอ้ที่ได้ยินเมียจ๋าบอกเมื่อกี้มันแว่วๆ สงสัยจะหูฝาดไปจริงๆ นั่นแหละ”“ไม่! ฉันบอกแล้ว...บอกแล้ว” อติกานต์รีบพูดจนลิ้นพัวพันกัน มือหนึ่งยกขึ้นดันใบหน้าคร้ามแกร่งที่ก้มลงมาหา อีกมือก็รีบตะครุบมือหนาที่โอบอุ้มทรวงอกกลมกลึง ค่อยๆ นวดคลึงทำให้เธอวาบหวามเสียวซ่าน ลมหายใจเริ่มจะขาดเป็นห้วงๆ“ถ้าไม่รัก ฉันคงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้นหรอก” ดวงตากลมโตหลุบมองลอนกล้ามเนื้อบึกบึน พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองเพราะกายแกร่งที่แนบชิด“ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มาจากต่างบ้านต่างเมือง หัวเดียวกระเทียมลีบ คุณกรุณาปรานีผู้หญิงคนนี้ที่เผลอรักคุณไป ทั้งก่อนหน้านั้นคุณเป็นจอมโจรร้ายอยู่เลย อุ๊ย!” อติกานต์หลุดเสียงอุทานออกมา เมื่อกายสาวอันตรธานลอยไปพำนักบนลำตัวแข็งแกร่ง ใบหน้านวลผ่องร้อนผ่าวและคิดว่าคงจะแดงปลั่งจรดลำคอระหง ยามนิ้วยาวลูบไล้นวดคลึงแผ่นหลังบอบบางอย่างช้าๆ“คุณ...ฮัลด์ หยุดก่อนสิคะ” อติกานต์เว้าวอนขอเสียงแหบพร่า เมื่อปทุมถันกลมก
“อือ...” อติกานต์ร้องประท้วงเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือหนาครอบครองทรวงอกอิ่มและนวดเฟ้นอย่างหนักหน่วงจะว่าไปเขาเคยเพียงแค่สัมผัสไม่เคยยลบัวตูมเต่งตึงของอติกานต์ชัดๆ สักครั้ง ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า รีบถอนจูบและลากริมฝีปากไต่ลงไปตามแนวคาง ขบเม้มลำคอขาวผ่องแผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนไปหาทรวงอกกลมกลึงที่ไหวกระเพื่อม ที่เพียงแค่ได้เห็น...มิคาอิลก็หลุดเสียงคำรามออกมาพร้อมกับความกระหายราวกับเลือดในกายเดือดพล่านสองมือหนาสอดช้อนปทุมถันกลมกลึงขึ้นมา ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปบนผิวเนื้อนุ่มๆ ใบหน้าคร้ามแกร่งเปื้อนยิ้ม ดวงตาเข้มเปล่งประกายด้วยปรารถนาขณะเหลือบขึ้นมองสบกับดวงตากลมโต“ฉันคิดไว้ไม่ผิด ไม่แค่นุ่มแต่ยัง...”เนื้อตัวอติกานต์สั่นสะท้าน วาบหวามเสียวซ่านจนเผลอหลุดเสียงร้องครางออกมา เมื่อมือหนานวดเคล้นสลับปลายนิ้วยาวลากไล้บนปลายยอดถันหดเกร็ง ปากอุ่นยังจะเลาะเล็มไปทั่วก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นอย่างเย็นใจ เพียงปลายลิ้นร้อนตวัดไล้วนไปทั่วป้านบัวสีหวานและขบเม้มดึงเข้าสู่อุ้งปาก เธอก็เปล่งเสียงหวานพร่าด้วยวาบหวามจนท้องไส้ปั่นป่วน สองขาเรียวยาวสั่นระริก ปลายเล็บมนจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง พลางเคลื่อนไหวไต่ขึ้นไปพัวพันกับเส้นผมหนา