เตียงนอนขนาดคิงไซต์ถูกตกแต่งเป็นรูปหัวใจด้วยกลีบกุหลาบสีแดง ด้านในรูปหัวใจมีหงส์สีขาวสองตัวหันหน้าเข้าหากันอย่างสวยงาม หงส์คู่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอันเป็นนิรันดร์ เนื่องจากตลอดชีวิตของพวกมันจะมีคู่เพียงตัวเดียว เปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้ชีวิตคู่ของนิศาชลไม่มีวันพรากจากกัน
เมื่อพิธีการส่งตัวเข้าหอเสร็จสิ้นลง ญาติผู้ใหญ่หลายคนจึงทยอยกลับบ้านกัน เหลือเพียงเจ้าสัวนธีกับคุณหญิงนิภาที่ยังอ้อยอิ่งไม่ยอมขยับตัวไปไหน หญิงสาววัยกลางคนกอบกุมมือลูกสาวเพียงคนเดียวเอาไว้ จากนั้นจึงเอื้อนเอ่ยความในใจทั้งหมดออกมา
“ไม่ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพราะอะไร แม่ขอให้ลูกทั้งสองคนจงหนักแน่นต่อกัน สิ่งสำคัญของชีวิตคู่คือการให้อภัย อย่าปล่อยความเข้าใจผิดเอาไว้เนิ่นนาน หากมีปัญหาต้องรีบแก้ไข ใช้สติในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์นะลูก แม่อยากเห็นน้ำมีความสุขอีกครั้ง”
“รู้แล้วค่ะ น้ำได้ยินคุณแม่พูดแบบนี้มาสองรอบแล้ว” นิศาชลเอ่ยแซวติดตลก มารดาผู้ห่วงใยความรู้สึกเธอพร่ำสอนเรื่องนี้ไม่ลดละ
“เอาเถอะน่า แม่แกเขาเป็นห่วง กล้าตะวัน พ่อฝากดูแลยัยน้ำด้วยนะ ลูกสาวคนนี้ถูกเลี้ยงดูมาด้วยการตามใจ อาจดื้อรั้นไปบ้าง หากพูดไม่ฟังมาบอกพ่อได้ เดี๋ยวพ่อจัดการให้เอง” เจ้าสัวนธีตบไหล่ลูกเขยคนโปรดอย่างสนิทสนม พลางขยิบตาส่งสัญญาณแบบลูกผู้ชาย
“ครับคุณลุง เอ่อ คุณพ่อ” กล้าตะวันเปลี่ยนสรรพนามกระทะทันเมื่อเห็นใบหน้าบอกบุญไม่รับของเจ้าสัวนธี ครอบครัวนิศาชลอบอุ่นมาก คุณลุงคุณป้าทั้งสองต้อนรับเขาด้วยมิตรไมตรี เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ชีวิตเด็กกำพร้าเช่นเขามีหรือจะได้สัมผัสความอบอุ่นจากผู้ให้กำเนิดสักครั้ง
“โถ่คุณพ่อ น้ำไม่ใช่เด็กมีปัญหานะคะ น้ำรู้ว่าควรทำตัวยังไง คุณพ่อกับคุณแม่กลับไปได้แล้ว”
“อะไรกันยัยน้ำ พวกเรากลายเป็นก้างขวางคอไปแล้วหรือไง” คุณหญิงนิภาแกล้งแง่งอนใส่ลูกสาว ส่วนเจ้าบ่าวชะตาขาดได้แต่ยืนนิ่งอึ้งไป
“แหม ได้สามีหล่อเหลากับเขาทั้งที น้ำเองก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้างสิคะ”
“ดูพูดเข้า เป็นสาวเป็นนางไม่อายบ้างเลย แม่กับพ่อจะรอรับขวัญหลานนะ พยายามเข้าหล่ะลูกๆ ทั้งสองคน” คุณหญิงนิภายิ้มแย้มหน้าบาน เธอส่งสัญญาณเปิดทางให้ลูกเขยเต็มที่ หวังว่าอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้จะได้รับข่าวดีอย่างการเป็นคุณตาคุณยายเหมือนคนอื่นบ้าง
“เฮ้อ ได้พักผ่อนสักที” นิศาชลถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากประตูห้องนอนแสนวุ่นวายถูกปิดสนิทอีกครั้ง ร่างอวบอัดนั่งลงบนเตียงนอนด้วยความเหนื่อยล้า ฝ่ามือเรียวถูกยกขึ้นมารูดซิปชุดแต่งงานอย่างว่องไว พอรูดไปได้ถึงครึ่งตัวกลับเกิดอาการชะงักงัน เธอพึ่งนึกออกว่ากล้าตะวันอาศัยอยู่ภายในห้องนี้ด้วย
“อะ เอ่อ คุณกล้าตะวัน” นิศาชลเรียกชื่อชายหนุ่มติดๆ ขัดๆ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนากับเขายังไง
“ครับ เรียกผมสั้นๆ ว่ากล้าก็ได้” เสียงราบเรียบเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก
“อ๋อค่ะ คุณกล้าช่วยหยิบชุดคลุมอาบน้ำในตู้เสื้อผ้าออกมาให้หน่อยได้ไหม” เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่มีท่าทีปั้นปึ่งใส่ นิศาชลจึงรีบใช้งานเขาทันที
“อ่อ ครับ” กล้าตะวันรับคำอย่างว่าง่าย เขาเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาให้เธอตามคำสั่ง คล้อยหลังชายหนุ่มแอบขมวดคิ้วสงสัยเกี่ยวกับท่าทีสบายอารมณ์ของหญิงสาวเพียงลำพัง
นิศาชลเร่งรีบเข้ามาจัดการตัวเองในห้องน้ำ เธอถอดชุดแต่งงานตัวยาวฟูฟ่องออกด้วยความทุลักทุเล จากนั้นจึงสวมเสื้อคลุมอาบน้ำปกปิดเรือนร่างไว้ ความตั้งใจแรกคืออยากอาบน้ำชำระร่างกาย แต่ดูเหมือนสภาพผมเผ้าบนศีรษะจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ร่างอวบจึงจำใจต้องระเห็จตัวเองออกมานั่งคอตกหน้าโต๊ะเครื่องแป้งอีกครั้ง
“คุณกล้าอยากอาบน้ำไหมคะ อาบก่อนได้เลยนะ กว่าน้ำจะจัดการธุระเสร็จคงอีกนาน” บทสนทนาเกี่ยวกับชีวิตประจำวันถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติ
“ไม่เป็นไรครับ คุณน้ำดูยุ่งยากพอสมควร ให้ผมช่วยอะไรไหม” กล้าตะวันเสนอแนะความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่าเธอแตกต่างจากลูกเศรษฐีทั่วไป นิศาชลไม่ได้โวยวายหรือวีนเหวี่ยงใส่เขา หากเป็นแบบนี้ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาชั่วคราวอาจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
“ดีเลยค่ะ ช่วยแกะกิ๊บบนหัวออกที” นิศาชลยิ้มตาหยีด้วยความพึงพอใจ เวลาพักผ่อนของเธอถูกเร่งให้เร็วขึ้นจากความกระตือรือร้นของชายหนุ่ม
“ทำไมถึงเลือกผมเป็นเจ้าบ่าวครับ” คำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบด้วยตนเองได้ ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาหลังจากสถานการณ์ภายในห้องกลับสู่ความเงียบงัน นิศาชลกำลังคิดพิเรนทร์อะไรอยู่หรือไม่ เขาไม่มีคุณสมบัติใดๆ เหมาะสมกับเธอเลย
“อยากฟังคำตอบแบบไหนหล่ะคะ แบบประนีประนอม หรือแบบจริงใจ”
“แล้วแต่อยากให้ผมรับรู้ครับ” ชายหนุ่มหนุ่มโต้กลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ฮ่าๆๆๆ คิดไม่ผิดเลยค่ะ คุณกล้าเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายจริงๆ ด้วย น้ำขอตอบแบบจริงใจนะคะ น้ำเลือกคุณกล้าเป็นเจ้าบ่าวเพราะความยากจน เหตุผลอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่การแต่งงานของพวกเราก็เกิดขึ้นเพราะผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หากน้ำเลือกแต่งงานกับผู้ชายร่ำรวยชีวิตน้ำจะกลายเป็นเรื่องยากลำบากค่ะ”
“ยังไงหรือครับ” กล้าตะวันงุนงงเหลือเกิน คำถามของเขายังไม่ได้รับการคลี่คลาย แค่ความยากจนจะเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจแต่งงานได้ยังไง ฟังดูแล้วพิลึกพิลั่นมาก
“อืม จะอธิบายยังไงดีหล่ะ ความสัมพันธ์ของพวกเราซับซ้อนค่ะ การแต่งงานไม่ได้จบลงเพียงแค่คนสองคน แต่ยังพ่วงรวมไปถึงธุรกิจและผลประโยชน์ด้วย แน่นอนว่าน้ำต้องเอาอกเอาใจครอบครัวทั้งสองฝ่าย ต้องปั้นหน้าหวานชื่นเข้าสังคม หรือหากไปกันไม่รอดจริงๆ การหย่าจะถูกคัดค้านจนถึงวินาทีสุดท้าย พวกเขาไม่ยอมสูญเสียหน้าตาหรือชื่อเสียงทางสังคมกันง่ายๆ กันหรอกค่ะ แต่หากน้ำเลือกแต่งงานกับคุณกล้า ปัญหาพวกนี้จะถูกแก้ไข น้ำเพียงอธิบายให้คุณพ่อกับคุณแม่เข้าใจ หลังจากนั้นพวกเราสองคนสามารถหย่าขาดจากกันได้โดยไม่ต้องยุ่งยาก เพราะคุณไม่มีหน้าตาทางสังคมหรือชื่อเสียงต้องรักษา”
“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้วครับ”
“คุณกล้ารู้สึกแย่ไหมคะ” นิศาชลเป็นห่วงความรู้สึกอีกฝ่าย คำพูดของเธออาจฟังดูรุนแรงเกินไป แต่ในเมื่อการแต่งงานไม่ได้เกิดจากความรัก เธอเองก็ควรเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดให้ตนเองและครอบครัว
“ไม่ครับ ผมเองก็ตกลงแต่งงานกับคุณเพราะผลประโยชน์เหมือนกัน พวกเราต่างมีเหตุผลผลักดันให้ต้องทำแบบนี้”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ หวังว่าพวกเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้”
“เช่นกันครับ”
“คุณกล้าไปอาบน้ำได้เลยนะคะ ถ้าไม่อยากนอนดึก เพราะน้ำต้องเช็ดเครื่องสำอางอีกสักพัก ส่วนผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนอยู่ในตู้เสื้อผ้าชั้นล่าง คุณพ่อให้แม่บ้านนำมาเตรียมไว้ หากขาดเหลืออะไรบอกน้ำได้เลยค่ะ” นิศาชลชี้แจงรายละเอียดต่างๆ จนครบถ้วน ก่อนจะหันกลับมาวุ่นวายเช็ดใบหน้านวลที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพง
“อะ เอ่อ ชุดชั้นในของผมอยู่ตรงไหนครับ” กระเป๋าเสื้อผ้ากล้าตะวันถูกนำมาจัดการโดยเจ้าสัวนธี เขาจึงไม่รู้ว่าของที่มีวางอยู่ตรงไหนบ้าง
“อะไรนะคะ พูดใหม่อีกที” นิศาชลขมวดคิ้วสงสัย เธอมัวแต่ใส่ใจอยู่กับการเช็ดเครื่องสำอางจึงไม่ได้ตั้งใจฟังเขาเท่าไหร่
“ชุดชั้นในของผมอยู่ตรงไหนครับ” กล้าตะวันเน้นย้ำชัดๆ ช้าๆ เพื่อให้นิศาชลได้ยินทุกถ้อยคำ
“ดะ เดี๋ยวน้ำโทรถามแม่บ้านให้ค่ะ อะ อืม แม่บ้านเลิกงานตั้งนานแล้วนี่นา คุณกล้าค้นดูทั่วหรือยังคะ” หญิงสาวผู้อ่อนต่อโลกหน้าแดงลนลาน ทำไมต้องมีเหตุการณ์ชวนวาบหวิวเกิดขึ้นด้วยนะ เธอกับกล้าตะวันจะมองหน้ากันติดได้ยังไง นิศาชลถูกความอับอายจู่โจมอย่างหนัก
“ค้นแล้วครับ ไม่มี” สีหน้าเรียบเฉยบ่งบอกว่าเขาไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเหมือนเธอ
“ละ ลิ้นชักตรงนั้นก็ค้นหรือคะ”
“ครับ”
ร่างสูงยอมรับเต็มปาก นิศาชลแทบลมจับเมื่อเห็นลิ้นชักเก็บชุดชั้นในเปิดอ้า ไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เห็นอะไรไปบ้าง
“อะ เอ่อ ทำยังไงดี เดี๋ยวน้ำลองถามคุณพ่อดูก่อนนะคะ” ร่างอวบก้าวเดินไปยังประตูห้องนอนบานใหญ่ ฝ่ามือขาวนวลรีบผลักไสประตูให้เปิดออกสุดแรง แต่ทุกอย่างก็ไร้การเคลื่อนไหว หญิงสาวพยายามผลักประตูซ้ำๆ จนพบว่าประตูห้องนอนถูกล็อกจากด้านนอก เธอไม่สามารถเปิดมันออกได้
“ไม่เป็นไรครับ ใส่ตัวเก่าไปก่อนก็ได้”
“ค่ะ ขะ ขอโทษด้วยนะคะ” นิศาชลรู้สึกผิดเต็มประดา ไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดตรงไหน หรือคุณพ่อจงใจกลั่นแกล้งเธอกันแน่
กล้าตะวันปลีกตัวออกไปอาบน้ำด้วยความเงียบเชียบ สถานการณ์แสนอึดอัดภายในห้องจึงกลับมาปกติอีกครั้ง ร่างอวบอิ่มได้แต่นั่งถอนหายใจอยู่หน้ากระจก เธอคิดว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีแล้วเชียว ดันมาสะดุดเพราะเรื่องน่าอายเสียอย่างนั้น แต่ดูเหมือนกล้าตะวันจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เธอเองก็ไม่ควรทำเรื่องให้วุ่นวายเกินงาม ยังมีข้อตกลงอีกหลายอย่างที่ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจ หากจะให้จบลงภายในคืนนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลาล่วงเลยมาดึกดื่นเต็มที นิศาชลตัดสินใจพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยพูดคุยกับเขาอีกครั้ง
“อ้าว เสร็จแล้วหรือคะ คุณกล้าอยากนอนตรงไหน อีกฝั่งของเตียงสามารถนอนได้ค่ะ แต่หากไม่สะดวกใจบนโซฟายังว่าง สามารถดึงออกมาเป็นเตียงอีกหลังได้” นิศาชลจัดแจงที่นอนให้ชายหนุ่มเสร็จสรรพ
“อืม ถ้าผมจะนอนบนโซฟา คุณน้ำคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม” กล้าตะวันปฏิเสธเสียงเบาเพราะเธออุตส่าห์มีน้ำใจ แต่นิศาชลไม่ใช่ผู้หญิงในสเปคเขา ไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเธอเกินไป
“ไม่ค่ะ ปกติน้ำนอนคนเดียว ถ้ามีคนอื่นมานอนด้วยคงรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน” ร่างอวบยิ้มกว้างทันทีหลังจากได้ยินถ้อยคำปฏิเสธแบบรักษาน้ำใจ เธอมองคนไม่ผิดจริงๆ กล้าตะวันสามารถเป็นเพื่อนกับเธอได้
งานแต่งแสนเรียบง่ายถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หลังงามของเจ้าสัวนธีอีกครั้ง แต่ครานี้ต่างจากคราแรกเพราะเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างมีสีหน้าชื่นมื่น นิศาชลยืนต้อนรับแขกร่วมกับเจ้าบ่าวอย่างกล้าตะวันพร้อมรอยยิ้ม แขกที่เชิญมาในงานแต่งครั้งนี้มีเพียงเพื่อนสนิทและญาติใกล้ชิดกันเท่านั้น กะจากสายตาแล้วน่าจะประมาณสามสิบคน ถือว่าเป็นงานแต่งขนาดเล็กที่อบอวลไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ที่น่าอิจฉาไปกว่านั้นคือเจ้าบ่าวลงมือเตรียมงานทั้งหมดด้วยตนเอง ทั้งเลือกชุด เลือกการ์ด ตกแต่งสถานที่ เขาจัดการอย่างดีจนหลายคนเอ่ยปากชมกล้าตะวันตระเตรียมสินสอดมาสู่ขอนิศาชลตามประเพณี แม้รู้ว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงมิได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากมายนัก ทว่าเขาอยากให้เกียรติเธอเช่นลูกผู้ชายคนหนึ่งพึงกระทำ อยากให้พ่อตาและแม่ยายรับรู้ว่าเขาสามารถดูแลบุตรสาวของพวกท่านได้ ซึ่งเจ้าสัวนธีเองก็พึงพอใจมากเมื่อลูกเขยคนโปรดอยากจัดงานวิวาห์ด้วยทรัพย์สินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แม้เป็นเพียงงานแต่งเล็กๆ แต่เขากับภรรยาก็มีความสุขมาก ในที่สุดบุตรสาวเพียงคนเดียวก็เจอคู่ชีวิตเสียที ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อจากโลกนี้ไปแล้วนิศาชลจะเดียวดาย ขอบคุณโชคชะตา
ข่าวการล้มละลายของภาริชไม่ได้ทำให้นิศาชลรู้สึกมีความสุขเลย เธอเป็นห่วงเขาด้วยซ้ำ ตั้งแต่รู้จักกันมาผู้ชายคนนั้นใช้ชีวิตบนกองเงินกองทองและความสะดวกสบายมาตลอด เขาจะเอาชีวิตรอดจากสังคมอีกแบบได้อย่างไร ทุกคนรอบตัวเธอต่างลงความเห็นกันว่าบทลงโทษที่ภาริชได้รับนั้นสมควรแล้ว เพราะการกระทำของเขาค่อนข้างเลวร้าย เขาไม่เคยสำนึกผิดแถมยังเล่นงานเธอถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกตั้งใจวางยาเพื่อข่มขืน ส่วนครั้งที่สองก็ร่วมมือกับระรินทำลายชีวิตครอบครัวของเธอหน้าระรื่น ขืนปล่อยเอาไว้เธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายถูกเขาเล่นงานซ้ำๆ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า หากต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกบุคคลหนึ่งที่นิศาชลรู้สึกว่าช่วงนี้หายเงียบไปจากวงสังคมก็คือระริน เนื่องจากพักหลังมีเพียงเจ้าสัวธนินผู้เป็นบิดาเท่านั้นที่มาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ไม่รู้ว่าท่านจัดการกับบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนเองยังไง อีกฝ่ายถึงได้เงียบหายไปแบบนี้ ในวงสังคมไม่มีการพูดถึงระรินอีกเลยเหมือนว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น แถมยังมีข่าวลือแว่วๆ ออกมาว่าเจ้าสัวธนินกำลังผลักดันบุตรชายนอกสมรสให้ก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งรองประธานบริษัทเพื่อสืบทอดกิ
เมื่อเดือนก่อนภาริชได้ติดต่อมาหากล้าตะวันเพื่อขอเจรจาเรื่องการฮั้วประมูลเป็นการส่วนตัว เขากลัวว่านิศาชลจะเดือดร้อนไปด้วยจึงตั้งใจปิดบังเธอไว้ เมื่อปัญหาทุกอย่างคลี่คลายค่อยสารภาพความผิดกับเธอทีหลัง การกระทำของภาริชสร้างความประหลาดใจให้กล้าตะวันไม่น้อยเนื่องจากอีกฝ่ายคอยหาเรื่องดูถูกเหยียดหยามเขาเป็นประจำ การเจรจาต่อรองแทบไม่อยู่ในหัวภาริชด้วยซ้ำ ทว่าเขากลับลงทุนติดต่อมาด้วยตัวเอง มองยังไงก็ไม่สมเหตุสมผลกล้าตะวันคิดว่าอีกฝ่ายคงวางแผนเล่นงานเขาไว้แน่ๆ เพียงแต่เขาเองก็ต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดภาริชเช่นกัน ดังนั้นจึงยอมไปพบอีกฝ่ายตามที่เสนอมา เขาวางแผนเตรียมพร้อมรับมือกับภาริชอย่างลับๆ โดยมีพร้อมพงษ์คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง วันที่ออกไปพบศัตรูเขาได้ติดตั้งกล้องขนาดเล็กและไมโครโฟนไว้ใต้เนกไทเพื่อบันทึกเสียงสนทนาระหว่างเขากับภาริชไว้เป็นหลักฐาน แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกล้าหาญถึงขึ้นวางยาสลบเขาโชคดีที่พร้อมพงษ์รับรู้ถึงความผิดปกติและเตือนให้ระวังตัวเอาไว้ เขาแสร้งดื่มน้ำในแก้วแล้วสลบไปตามแผนการของอีกฝ่ายอย่างแนบเนียน ไม่นานนักก็มีรถตู้พร้อมชายชุดดำอีกหลายคนมารับตัวเขาเพื่อพา
พูลวิลล่าส่วนตัวบนเกาะภูเก็ตถูกเลือกให้เป็นสถานที่พักพิงหัวใจแสนบอบช้ำ นิศาชลนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ พลางขบคิดหาวิธีแก้ไขมากว่าสามวันแล้ว หากเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอหวัง ยอมรับว่าหวาดกลัวคำตอบจากปากกล้าตะวันมาก นิศาชลถูกประสบการณ์เมื่อครั้งอดีตคอยหลอกหลอนตลอดเวลาและย้ำเตือนเสมอว่าเธอนั้นจะเป็นฝ่ายถูกทิ้งเมื่อพวกเขามีตัวเลือกที่ดีกว่าหรือใกล้เคียงกันเรียกได้ว่าเธอเกิดมาเพื่อผิดหวังอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องความรักและคู่ครอง ไม่ใช่แค่ภาริชที่เลือกทำแบบนั้น คนรักของเธอแทบทุกคนเป็นเหมือนกันหมด สุดท้ายพวกเขาก็เลือกภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มสามารถเชิดหน้าชูตาและอวดเพื่อนๆ ในวงสังคมได้ นักธุรกิจส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเรื่องครอบครัวมากนัก จะหย่ากันทีก็เป็นข่าวใหญ่โตให้ผู้คนนินทา บางคู่จึงเลือกกล้ำกลืนฝืนทนประคับประคองความสัมพันธ์จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตแม้พอดูออกว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นแผนการของระริน ทว่าหากสามีของเธอเกิดพลาดท่าขึ้นมาจริงๆ ฝ่ายนั้นต้องหาทางบีบบังคับเขาแน่ กลัวเหลือเกินว่ากล้าตะวันจะหันหลังให้เธอเหมือนอย่างภาริชเคยทำ การหนีมาพักผ่อนเป็นเพียงการถ่วงเวลาแล
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมืองเป็นสถานที่ที่กล้าตะวันขับรถมาส่งภรรยา เขาเสนอให้เธอเข้าไปเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการก่อน ระหว่างรอเขาจะออกไปทำธุระข้างนอกเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นิศาชลเห็นด้วยกับความคิดของสามีเนื่องจากเธอมีนัดเลือกซื้อเสื้อผ้ากับญาดา คาดว่าคงใช้เวลานานพอสมควร ถ้าให้นั่งรอเขาจะเบื่อหน่ายเสียเปล่าๆสองสาวต่างวัยทักทายกันด้วยรอยยิ้มเมื่อพบหน้า นิศาชลรีบควงแขนญาดาเข้าไปในร้านเสื้อผ้าสำหรับเด็กทันที ภายในร้านมีการตกแต่งที่น่ารักสดใส ใช้สีฟ้าพาสเทลและสีชมพูอ่อนเป็นหลัก แสงสว่างจากโคมไฟสีเหลืองนวลตามมุมต่างๆ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นใจ พื้นที่ทางเดินถูกจัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วนให้เหมาะสมสำหรับการเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้ยังมีห้องลองชุดสำหรับเด็กทารกและเด็กโตไว้บริการหากต้องการลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้มีเสื้อผ้าสำหรับเด็กแรกเกิดไปจนถึงเด็กโต หลายขนาด หลายไซต์ รวมถึงของเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการ หนังสือสำหรับคุณแม่มือใหม่ ตุ๊กตาน่ารักๆ และของใช้จิปาถะสำหรับเด็ก เรียกได้ว่าครบครัน พนักงานในร้านก็ยิ้มแย้มพร้อมให้บริการตลอดเวลา“ชุดนี้สวยมาก น้ำซื้อให้หลานนะคะ
นิศาชลนั่งจิบกาแฟพลางฮัมเพลงเบาๆ เมื่อทราบข่าวว่าบริษัทของภาริชกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ดิ่งลงกว่าสามวันแล้ว แถมยังมีข่าวลือแว่วๆ ว่าไฮโซสาวอย่างคุณหนูระรินต้องการถอนหมั้น เมื่อหมดประโยชน์ก็ถูกฝ่ายนั้นเขี่ยทิ้งทันที จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอคนเดียวไม่ได้ หากภาริชไม่ทำร้ายเธอก่อน เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น“คุณน้ำคะ ตอนบ่ายมีประชุมกับฝ่ายการตลาดนะคะ” ญาดาเร่งรุดเข้ามารายงาน ทว่าผู้ฟังกลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ซ้ำยังมีรอยยิ้มที่ดูแปลกตากว่าปกติผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า“มีเรื่องน่ายินดีอะไรหรือเปล่าคะ” ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เลขาสาวเอ่ยปากถามออกไปทันที“พี่ดาลองเดาดูสิ” นิศาชลยิ้มหวาน หน้าท้องที่เคยแบนราบของคุณแม่มือใหม่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย เธอต้องคอยบอกให้ระวังเสมอเพราะญาดาไม่ยอมพักงาน อ้างว่าร่างกายแข็งแรงดี น่าแปลกที่เลขารุ่นพี่ไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็น แต่เมื่อทราบจากสามีว่าพร้อมพงษ์แพ้ท้องแทนญาดาอย่างหนัก ทำเอาเธอหัวเราะชักดิ้นชักงออยู่เป็นวัน ทั้งขำขันทั้งสงสาร“เดาไม่ถูกหรอกค่ะ ช่วงนี้พี่ดาวุ่นวายแต่กับเจ้าตัวเล็ก” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นลูบหน้าท้องเบาๆ ก่อนคลี่ยิ้ม