งานแต่งแสนเรียบง่ายถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หลังงามของเจ้าสัวนธีอีกครั้ง แต่ครานี้ต่างจากคราแรกเพราะเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างมีสีหน้าชื่นมื่น นิศาชลยืนต้อนรับแขกร่วมกับเจ้าบ่าวอย่างกล้าตะวันพร้อมรอยยิ้ม แขกที่เชิญมาในงานแต่งครั้งนี้มีเพียงเพื่อนสนิทและญาติใกล้ชิดกันเท่านั้น กะจากสายตาแล้วน่าจะประมาณสามสิบคน ถือว่าเป็นงานแต่งขนาดเล็กที่อบอวลไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ที่น่าอิจฉาไปกว่านั้นคือเจ้าบ่าวลงมือเตรียมงานทั้งหมดด้วยตนเอง ทั้งเลือกชุด เลือกการ์ด ตกแต่งสถานที่ เขาจัดการอย่างดีจนหลายคนเอ่ยปากชมกล้าตะวันตระเตรียมสินสอดมาสู่ขอนิศาชลตามประเพณี แม้รู้ว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงมิได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากมายนัก ทว่าเขาอยากให้เกียรติเธอเช่นลูกผู้ชายคนหนึ่งพึงกระทำ อยากให้พ่อตาและแม่ยายรับรู้ว่าเขาสามารถดูแลบุตรสาวของพวกท่านได้ ซึ่งเจ้าสัวนธีเองก็พึงพอใจมากเมื่อลูกเขยคนโปรดอยากจัดงานวิวาห์ด้วยทรัพย์สินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แม้เป็นเพียงงานแต่งเล็กๆ แต่เขากับภรรยาก็มีความสุขมาก ในที่สุดบุตรสาวเพียงคนเดียวก็เจอคู่ชีวิตเสียที ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อจากโลกนี้ไปแล้วนิศาชลจะเดียวดาย ขอบคุณโชคชะตา
ข่าวการล้มละลายของภาริชไม่ได้ทำให้นิศาชลรู้สึกมีความสุขเลย เธอเป็นห่วงเขาด้วยซ้ำ ตั้งแต่รู้จักกันมาผู้ชายคนนั้นใช้ชีวิตบนกองเงินกองทองและความสะดวกสบายมาตลอด เขาจะเอาชีวิตรอดจากสังคมอีกแบบได้อย่างไร ทุกคนรอบตัวเธอต่างลงความเห็นกันว่าบทลงโทษที่ภาริชได้รับนั้นสมควรแล้ว เพราะการกระทำของเขาค่อนข้างเลวร้าย เขาไม่เคยสำนึกผิดแถมยังเล่นงานเธอถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกตั้งใจวางยาเพื่อข่มขืน ส่วนครั้งที่สองก็ร่วมมือกับระรินทำลายชีวิตครอบครัวของเธอหน้าระรื่น ขืนปล่อยเอาไว้เธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายถูกเขาเล่นงานซ้ำๆ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า หากต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกบุคคลหนึ่งที่นิศาชลรู้สึกว่าช่วงนี้หายเงียบไปจากวงสังคมก็คือระริน เนื่องจากพักหลังมีเพียงเจ้าสัวธนินผู้เป็นบิดาเท่านั้นที่มาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ไม่รู้ว่าท่านจัดการกับบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนเองยังไง อีกฝ่ายถึงได้เงียบหายไปแบบนี้ ในวงสังคมไม่มีการพูดถึงระรินอีกเลยเหมือนว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น แถมยังมีข่าวลือแว่วๆ ออกมาว่าเจ้าสัวธนินกำลังผลักดันบุตรชายนอกสมรสให้ก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งรองประธานบริษัทเพื่อสืบทอดกิ
เมื่อเดือนก่อนภาริชได้ติดต่อมาหากล้าตะวันเพื่อขอเจรจาเรื่องการฮั้วประมูลเป็นการส่วนตัว เขากลัวว่านิศาชลจะเดือดร้อนไปด้วยจึงตั้งใจปิดบังเธอไว้ เมื่อปัญหาทุกอย่างคลี่คลายค่อยสารภาพความผิดกับเธอทีหลัง การกระทำของภาริชสร้างความประหลาดใจให้กล้าตะวันไม่น้อยเนื่องจากอีกฝ่ายคอยหาเรื่องดูถูกเหยียดหยามเขาเป็นประจำ การเจรจาต่อรองแทบไม่อยู่ในหัวภาริชด้วยซ้ำ ทว่าเขากลับลงทุนติดต่อมาด้วยตัวเอง มองยังไงก็ไม่สมเหตุสมผลกล้าตะวันคิดว่าอีกฝ่ายคงวางแผนเล่นงานเขาไว้แน่ๆ เพียงแต่เขาเองก็ต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดภาริชเช่นกัน ดังนั้นจึงยอมไปพบอีกฝ่ายตามที่เสนอมา เขาวางแผนเตรียมพร้อมรับมือกับภาริชอย่างลับๆ โดยมีพร้อมพงษ์คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง วันที่ออกไปพบศัตรูเขาได้ติดตั้งกล้องขนาดเล็กและไมโครโฟนไว้ใต้เนกไทเพื่อบันทึกเสียงสนทนาระหว่างเขากับภาริชไว้เป็นหลักฐาน แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกล้าหาญถึงขึ้นวางยาสลบเขาโชคดีที่พร้อมพงษ์รับรู้ถึงความผิดปกติและเตือนให้ระวังตัวเอาไว้ เขาแสร้งดื่มน้ำในแก้วแล้วสลบไปตามแผนการของอีกฝ่ายอย่างแนบเนียน ไม่นานนักก็มีรถตู้พร้อมชายชุดดำอีกหลายคนมารับตัวเขาเพื่อพา
พูลวิลล่าส่วนตัวบนเกาะภูเก็ตถูกเลือกให้เป็นสถานที่พักพิงหัวใจแสนบอบช้ำ นิศาชลนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ พลางขบคิดหาวิธีแก้ไขมากว่าสามวันแล้ว หากเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอหวัง ยอมรับว่าหวาดกลัวคำตอบจากปากกล้าตะวันมาก นิศาชลถูกประสบการณ์เมื่อครั้งอดีตคอยหลอกหลอนตลอดเวลาและย้ำเตือนเสมอว่าเธอนั้นจะเป็นฝ่ายถูกทิ้งเมื่อพวกเขามีตัวเลือกที่ดีกว่าหรือใกล้เคียงกันเรียกได้ว่าเธอเกิดมาเพื่อผิดหวังอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องความรักและคู่ครอง ไม่ใช่แค่ภาริชที่เลือกทำแบบนั้น คนรักของเธอแทบทุกคนเป็นเหมือนกันหมด สุดท้ายพวกเขาก็เลือกภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มสามารถเชิดหน้าชูตาและอวดเพื่อนๆ ในวงสังคมได้ นักธุรกิจส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเรื่องครอบครัวมากนัก จะหย่ากันทีก็เป็นข่าวใหญ่โตให้ผู้คนนินทา บางคู่จึงเลือกกล้ำกลืนฝืนทนประคับประคองความสัมพันธ์จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตแม้พอดูออกว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นแผนการของระริน ทว่าหากสามีของเธอเกิดพลาดท่าขึ้นมาจริงๆ ฝ่ายนั้นต้องหาทางบีบบังคับเขาแน่ กลัวเหลือเกินว่ากล้าตะวันจะหันหลังให้เธอเหมือนอย่างภาริชเคยทำ การหนีมาพักผ่อนเป็นเพียงการถ่วงเวลาแล
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมืองเป็นสถานที่ที่กล้าตะวันขับรถมาส่งภรรยา เขาเสนอให้เธอเข้าไปเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการก่อน ระหว่างรอเขาจะออกไปทำธุระข้างนอกเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นิศาชลเห็นด้วยกับความคิดของสามีเนื่องจากเธอมีนัดเลือกซื้อเสื้อผ้ากับญาดา คาดว่าคงใช้เวลานานพอสมควร ถ้าให้นั่งรอเขาจะเบื่อหน่ายเสียเปล่าๆสองสาวต่างวัยทักทายกันด้วยรอยยิ้มเมื่อพบหน้า นิศาชลรีบควงแขนญาดาเข้าไปในร้านเสื้อผ้าสำหรับเด็กทันที ภายในร้านมีการตกแต่งที่น่ารักสดใส ใช้สีฟ้าพาสเทลและสีชมพูอ่อนเป็นหลัก แสงสว่างจากโคมไฟสีเหลืองนวลตามมุมต่างๆ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นใจ พื้นที่ทางเดินถูกจัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วนให้เหมาะสมสำหรับการเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้ยังมีห้องลองชุดสำหรับเด็กทารกและเด็กโตไว้บริการหากต้องการลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้มีเสื้อผ้าสำหรับเด็กแรกเกิดไปจนถึงเด็กโต หลายขนาด หลายไซต์ รวมถึงของเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการ หนังสือสำหรับคุณแม่มือใหม่ ตุ๊กตาน่ารักๆ และของใช้จิปาถะสำหรับเด็ก เรียกได้ว่าครบครัน พนักงานในร้านก็ยิ้มแย้มพร้อมให้บริการตลอดเวลา“ชุดนี้สวยมาก น้ำซื้อให้หลานนะคะ
นิศาชลนั่งจิบกาแฟพลางฮัมเพลงเบาๆ เมื่อทราบข่าวว่าบริษัทของภาริชกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ดิ่งลงกว่าสามวันแล้ว แถมยังมีข่าวลือแว่วๆ ว่าไฮโซสาวอย่างคุณหนูระรินต้องการถอนหมั้น เมื่อหมดประโยชน์ก็ถูกฝ่ายนั้นเขี่ยทิ้งทันที จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอคนเดียวไม่ได้ หากภาริชไม่ทำร้ายเธอก่อน เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น“คุณน้ำคะ ตอนบ่ายมีประชุมกับฝ่ายการตลาดนะคะ” ญาดาเร่งรุดเข้ามารายงาน ทว่าผู้ฟังกลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ซ้ำยังมีรอยยิ้มที่ดูแปลกตากว่าปกติผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า“มีเรื่องน่ายินดีอะไรหรือเปล่าคะ” ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เลขาสาวเอ่ยปากถามออกไปทันที“พี่ดาลองเดาดูสิ” นิศาชลยิ้มหวาน หน้าท้องที่เคยแบนราบของคุณแม่มือใหม่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย เธอต้องคอยบอกให้ระวังเสมอเพราะญาดาไม่ยอมพักงาน อ้างว่าร่างกายแข็งแรงดี น่าแปลกที่เลขารุ่นพี่ไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็น แต่เมื่อทราบจากสามีว่าพร้อมพงษ์แพ้ท้องแทนญาดาอย่างหนัก ทำเอาเธอหัวเราะชักดิ้นชักงออยู่เป็นวัน ทั้งขำขันทั้งสงสาร“เดาไม่ถูกหรอกค่ะ ช่วงนี้พี่ดาวุ่นวายแต่กับเจ้าตัวเล็ก” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นลูบหน้าท้องเบาๆ ก่อนคลี่ยิ้ม