พาฝันเดินออกจากร้านขายยาอย่างลนๆ สายตามองไปรอบๆอย่างระแวงทั้งที่ก็ไม่มีใครสนใจเธอสักนิด มือขาวกำถุงยาแน่นราวกับกลัวว่าใครจะมาแย่งมันไปจากมือเธอ จ้ำเท้าเดินตรงดิ่งขึ้นคอนโดที่พักอย่างเร่งรีบ ไม่แม้แต่จะเดินไปเล่นกับแมวหน้าคอนโดอย่างเคย
ใจที่เต้นระทึกสวนทางกลับลิฟท์ที่เลื่อนขึ้นชั้นที่กดอย่างเชื่องช้า ก่อนจะรีบแทรกตัวออกมาเมื่อถึงที่หมายทั้งที่ประตูยังไม่ทันเปิดหมดด้วยซ้ำ ความเร่งรีบร้อนรนของเธอทำเอาถุงยาที่ถือมาอย่างดีหล่นจนต้องรีบก้มลงไปเก็บอย่างลนลาน จนเมื่อเข้ามาในห้อง ถึงได้วางถุงไว้แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง
"เฮ้อ…"
พาฝันถอนหายใจแรงๆเอนตัวนอนราบกับโซฟาพลางเหม่อมองเพดานด้วยแววตาหม่นแสง ใบหน้าหวานหันไปมองต้นกำเนิดความทุกข์ใจที่วางบนโต๊ะ ก่อนหยิบแผง 'ยาคุมฉุกเฉิน' ขึ้นมาอ่านวิธีกินอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงแม้จะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากเภสัชกรร้านขายยามาอย่างดีแล้วก็ตาม
นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องไปซื้อยาตัวนี้มาแล้วก็พลันน้ำตารื้นอย่างอัดอั้นตันใจ โมโหตัวเองที่สุดยิ่งกว่าอะไร ที่พาตัวเองไปพบเจอเรื่องน่าอดสูขนาดนี้
เพราะงานเลี้ยงครบรอบรพ.ที่ทำงานอยู่เมื่อคืน เธอจำเป็นต้องเข้าร่วมงานอย่างเลือกไม่ได้ แม้จะเพิ่งออกเวรดึกมาได้พักแค่วันเดียว
แค่เพราะความปฏิเสธใครไม่เป็น เลยรับแก้วเหล้าจากรุ่นพี่ในรพ.เดียวกันอย่างชรัญมาดื่ม จากที่แค่มึนๆเพราะประคองสติไว้ได้ ก็ถูกรบเร้าใส่มืออยู่เรื่อยๆจนต้องดื่มอย่างจำใจ
เธออยากปฏิเสธ แต่เพราะสังคมการทำงานมันทำให้เธอต้องหัดเรียนรู้และเข้ากับทุกคนให้ได้
อีกอย่างรุ่นพี่อย่างมิ้งที่อยู่แผนกเดียวกันก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะคอยดูแลพาฝันเอง
ถึงได้ทนดื่มไปเรื่อยๆจนทรงตัวไม่อยู่ พาฝันจึงได้ขอตัวมาเข้าห้องน้ำข้างนอก แต่ก็ไม่คิดว่าชรัญจะแอบตามมาข้างหลัง พาฝันที่มองเห็นก่อนถึงได้แอบหลบโดยอาศัยความมืดแถวๆนั้นหนีออกมา ปล่อยให้ชรัญที่คิดว่าเธอเข้าห้องน้ำร้องเรียกอยู่นานสองนาน
รู้ว่าชรัญสนใจในตัวเธอตั้งแต่เข้ามาทำงาน เพราะการแสดงออกก็แสนชัดเจน แม้เธอจะไม่ได้มีท่าทีว่าคิดเกินเลย ก็นึกไม่ถึงว่าจะหาโอกาสมาทำแบบนี้จนได้
แต่สิ่งที่แย่ที่สุด มันเกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก เพราะเธอที่หลบชรัญด้วยความมึนเมาแทบมองอะไรไม่ชัด ได้แต่เกาะพนังพยุงตัวเองไปเรื่อยๆจนเจอประตูถึงได้เปิดเข้าไปหลบทันที
ไม่คิดว่าพอกดล็อคได้แล้ว จะถูกมือหนาดึงเข้าปะทะอกแกร่งทันที พาฝันร้องด้วยความตกใจ พยายามดันออก แต่คนที่กอดรัดเธออย่างอุกอาจกลับพูดด้วยเสียงทุ้มนุ่มว่า
"มาแล้วเหรอครับ…"
หลังจากนั้นก็อุ้มพาฝันที่ยังงุนงงมาวางบนเตียงและถอดเสื้อผ้าเธอออกทันที แม้เธอจะพยายามด้วยแรงที่เหลือขัดขืนยังไง ส่งเสียงอ้อแอ้ห้ามปรามแค่ไหน ร่างกายใหญ่โตนั่นก็ไม่หยุดเล้าโลมเธอจนคล้อยตามอย่างน่าละอาย
เพราะไร้ประสบการณ์และเพราะความมึนเมาไร้สติ ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องบ้าบอนั้นขึ้น และต้องมาซื้อยาป้องกันตัวเองแบบนี้
เธอเสี่ยงทั้งการท้องและติดโรคได้ทั้งหมด เพียงแค่ตอนนี้ทำได้แค่ป้องกันการตั้งท้องก่อนเท่านั้น หลังจากนี้คงต้องเสี่ยงดวงตรวจโรค ว่าเธอจะรอดหรือจะโชคร้ายแบบสุดกู่
เพราะทั้งห้องมันมืดมิด มีเพียงแสงสลัวจากประตูกระจกน้อยนิดส่องเข้ามา พาฝันถึงไม่เห็นว่าคนที่ล่วงล้ำเธออยู่นั้นเป็นใคร ไม่รู้ว่าเค้าป้องกันตัวเองดีรึเปล่า
สิ่งที่รู้ตอนนั้นมีเพียงเสียงทุ้มที่คุ้นหูเหมือนเคยได้ยินมาก่อน และกลิ่นหอมน่าหลงไหลจากกายแกร่งที่เธอคิดว่าเคยได้กลิ่นมาแล้วเช่นกัน มันไม่ใช่กลิ่นที่ใครจะมีทั่วไป เพราะมันคือกลิ่นเฉพาะตัวที่มีเสน่ห์จนจำได้ หากแต่ความมึนเมาทำให้เธอนึกไม่ออกว่าเคยได้กลิ่นจากไหน
แต่พอเช้ามืดที่เธอฟื้นสติ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจนควานหามือถือมาส่องไฟ ถึงได้รู้ว่าตกใจจนสิ้นสติมันเป็นยังไง
เพราะคนที่ยังหลับไหลเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆเธอ คือบุคคลที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วยอย่างที่สุด!
เธอจะพลาดพลั้งกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่หมอฟ้า!!
หลังจากนี้เธอจะทำงานยังไง หมอจะรู้รึเปล่าว่าเป็นเธอ เธอจะตกงานมั้ย จะถูกกลั่นแกล้งจนไม่มีงานทำรึเปล่า เค้าเป็นลูกเจ้าของรพ.แต่เธอเป็นแค่พยาบาลจบใหม่เท่านั้น
พาฝันกังวลสารพัดจนแทบทำอะไรไม่ถูก แต่สมองก็สั่งการว่าให้เธอรีบหนีออกมาก่อนที่สายฟ้าจะตื่นจนมาเห็นเธอเข้าจริงๆ
"เฮ้อ...จะบ้าตาย"
พาฝันถอนหายใจยาวๆอีกครั้ง ขยุ้มผมจนยุ่งเหยิงด้วยความกังวลสารพัดสิ่ง
ส่วนลึกก็อดจะคาดหวังไม่ได้ ว่าหมอฟ้าเมาขนาดนั้น และห้องก็มืดจนมองอะไรไม่เห็น ยังไงก็ไม่น่าจะจำเธอได้
เธอก็แค่หลบเลี่ยงให้มากกว่าเดิม แม้ปกติจะแทบไม่เจออยู่แล้วเพราะคนละช่วงเวลาทำงานกัน หลังจากนี้ก็พยายามอยู่แต่เวรดึก เลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงก็น่าจะอยู่รอดปลอดภัยดี
เพราะตอนนี้เธอก็จะมาตกงานไม่ได้เหมือนกัน
คิดได้แบบนั้นก็หยิบยามากิน ก่อนจะนอนพักร่างที่ปวดล้าไปทั้งตัวอยู่บนโซฟาตัวนุ่มจนหลับไป
"ไอ้ภาส เมื่อคืนมึงหาใครมาให้กูวะ"
สายฟ้ากรอกเสียงขุ่นมัวลงไปในสายเมื่อภาสกรกดรับ
'อะไรวะ โทรมาแต่เช้า วันนี้วันหยุดกูนะเว้ย'
ภาสกรโวยวายอย่างหงุดหงิดที่อุตส่าห์ปิดเสียงแล้วสายฟ้าก็ยังไม่เลิกโทรจิกจนต้องรับ
"อย่าลีลาไอ้สัส"
'โอ้โห...ด่ากูแต่เช้าด้วย หงุดหงิดอะไรล่ะพ่อ!'
"กูถามว่ามึงหาใครมานอนกับกู"
สายฟ้าถามย้ำเสียงนิ่งอย่างที่ทำให้รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น
'เออๆ หงุดหงิดอะไรวะ ก็ริต้าไงที่กูบอกว่าเพิ่งกลับจากนอก สวยแซ่บเป็นงานแบบที่มึงชอบ เค้าอยากได้มึงจะตาย ตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว'
ภาสกรอธิบายยาวเมื่อเห็นว่าเพื่อนจริงจัง
"เป็นงานเหี้ยไร กูไปเปิดซิงเค้าเลยเนี่ยไอ้ห่า!"
สายฟ้าตะคอกกลับอย่างหัวเสีย เพราะความรักสนุก ถึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนไร้ประสบการณ์และคนที่มีเจ้าของ สายฟ้าไม่ยุ่งเด็ดขาดเพราะไม่อยากมีปัญหา เวลาจะมีสัมพันธ์กับใครคนนั้นต้องชัดเจนว่าต้องการแค่วันไนท์ ถึงจะได้ไปต่อ จบแล้วคือจบไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีก
'ห้ะ!?..'
ภาสกรร้องเสียงหลงอย่างตกใจ
"เออ! กูก็ตกใจเหมือนมึง ตอนเมาก็หยุดไม่ได้แล้วเลยทำจนหมดแรง พอตื่นขึ้นมาเท่านั้นและสัส กูสร่างแบบช็อคเลย"
สายฟ้าบอกอย่างร้อนรนกลัวเหลือเกินว่าจะมีปัญหาตามมาให้ปวดหัวเล่น
'มึงสับสนอะไรวะฟ้า คนช่ำชองจนขึ้นชื่อขนาดนั้น จะเอาอะไรมาซิงให้มึงอีก'
ภาสกรย้อนถามอย่างไม่เชื่อ
"กูเป็นคนเอาทำไมจะไม่รู้วะ ไม่งั้นจะมาถามมึงทำไม"
'มันเป็นไปไม่ได้ไงฟ้า เค้าไม่มีทางซิงแน่ คนไม่เคยห่าอะไรถึงเสนอตัวขนาดนั้นวะ พอเค้ามาคุยกูเลยบอกให้ไปรอมึงที่ห้องพักที่มึงให้กุญแจมาเลยนะ'
"ห้องไหนนะ!?"
สายฟ้าถามอย่างตกใจอีกครั้ง
'ก็ห้องพักในรพ.ที่มึงให้กุญแจกูมาไง มึงบอกมันเป็นตึกจัดงานที่มีห้องพักอยู่ข้างบนไม่ใช่เหรอวะ'
ภาสกรถามอย่างงุนงงเข้าไปใหญ่
"ไอ้ภาส! แต่กูตื่นมาในห้องพักที่กูตรวจคนไข้..."
'ห้ะ!?..'
คราวนี้เป็นภาสกรที่ร้องเสียงหลงอีกครั้ง
"ภาส...เมื่อคืน กูนอนกับใครวะ…"
'ฉิบหายแล้วฟ้า….'