“อืม...ใช่ค่ะ...คุณน่าน!” เธอจำไม่ผิดแน่ เขาคือคุณธารสุรีย์ หรือคุณน่าน...แม่น้ำน่านที่สวยงามท่ามกลางหุบเขาคดเคี้ยว ชายหนุ่มสดใสราวสีเขียวที่กลายเป็นคนพิการไร้ขาซ้ายจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำเมื่อหลายเดือนก่อน คนที่ป้าบอกว่าอย่าเข้าใกล้เด็ดขาด เพราะหมอนี่เป็นประเภทเย็นชาไร้หัวใจ และโมโหง่ายไม่ต่างจากมารดาของเขา
“คุณน่านจะไปไหนคะ ให้ฉันช่วยพาไปมั้ยคะ”
“ฉันไปเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!”
นี่ขนาดพูดดีด้วย เขายังโมโหใส่
“คุณน่านจริงด้วย” สาวเจ้าพูดพลางยิ้มออกมาจนเต็มปากราวกับว่าเพิ่งถูกขอแต่งงานจากชายผู้เป็นที่รัก
“ฮึ!” เขาชักสีหน้ารำคาญใส่เธอ ก่อนจะกดเลื่อนรถเข็นไปข้างหน้าอย่างเร็วราวกับอยากหนียัยโลกสวยนี่ให้ไกลที่สุด เพื่อจะไปยังห้องสมุดที่อยู่ตรงท้ายตึก ซึ่งเป็นเขตส่วนตัวของเขาที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งย่าม
“คุณน่าน! คุณน่านคะ” หญิงสาวไม่รอช้า รีบเดินตามเขาไปทันที ราวกับลืมคำสั่งของเขาไปแล้ว
“คุณน่านจะไปห้องสมุดใช่มั้ยคะ ฉันได้ยินว่ามีหนังสือเยอะมากเลย ฉันอยากเห็นมาหลายวันแล้วค่ะ”
“เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ!” เขาตวาดลั่นจนเธอสะดุ้ง “ไปเลยไป...ไปอยู่ในที่ของเธอ!”
“แต่มันเป็นช่วงพักของฉันค่ะ” พูดพร้อมกระพริบตาปริบๆเชิงอ้อนวอน “ตอนนี้คุณแม่คุณนอนกลางวันไปแล้ว น่าจะอีกประมาณสามชั่วโมงกว่าท่านจะตื่น ขอฉันไปด้วยคนนะคะ ฉันอยากได้นิยายสักเล่ม...”
“น่ารำคาญจริง!”
เธอยกสามนิ้วขึ้นในระดับเดียวกับปากเฉาะเลาะแดงระเรื่อสวยนั่น
“ฉันสัญญาว่าจะไม่รบกวนคุณเลยค่ะ จะอยู่เงียบ ๆ จะไม่พูด ไม่ถาม ไม่...”
“พอเถอะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างเธอจะอยู่เงียบๆได้ ห้ามตามมาเด็ดขาด ไม่งั้นเจอดี!”
“อะไรคะ ที่ว่าดี”
“กวนเหรอ”
เธอหน้าจ๋อย “ก็แค่ล้อเล่นเองค่ะ”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ”
“รู้ค่ะ แต่เห็นคุณหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนยักษ์ เลยอยากชวนคุย เผื่อคุณจะอารมณ์ดีขึ้น”
“แล้วฉันอารมณ์ดีขึ้นมั้ย”
“ไม่...มั้งคะ”
“มาทางไหนก็ไปทางนั้น!”
“ขอเข้าไปแป๊บเดียว...”
“บอกว่าไม่...ไม่เข้าใจภาษาคนเหรอ?”
“ขี้เหนียวจัง”
“นี่!”
“ขอโทษค่ะ”
“ดีแต่ขอโทษนี่หว่า เธอนี่มันเป็นผู้หญิงที่โคตรน่ารำคาญเลย ฉันว่าอย่างเธอเนี่ยอยู่บ้านนี้ได้ไม่ถึงเดือนหรอก คุณแม่จะทนคนพูดมากต่อปากต่อคำไม่หยุด แล้วก็เถียงฉอดๆอย่างเธอได้ยังไง”
“อ้ะ...มาเป็นชุดเลย ก็แค่อยากยืมนิยายมาอ่าน เผื่อว่าจะได้อ่านให้คุณแม่ของคุณฟังด้วย”
“เสียใจด้วย แต่ที่นี่ไม่มีนิยายประโลมโลกให้เธออ่านหรอก ไม่ต้องตามมานะ ถ้าตามมา เธอซวยแน่!”
“ทำไม จะขังฉันไว้ในห้องนั้นเหรอ”
“แค่ขังคงไม่พอ”
“จะโบยด้วยหรือคะ เหมือนทาสในเรือนเบี้ยสมัยก่อนไง ได้ข่าวว่าต้นตระกูลของคุณเป็นถึงท่านเจ้าพระยา”
“อยากลองดีก็ตามมา!”
ชายหนุ่มกดเลื่อนรถเข็นหนีไปอย่างเร็ว กระทั่งถึงหน้าประตูห้องสมุด เขาหยุดแล้วหันกลับไปมองข้างหลัง ด้วยแอบหวังอยู่ลึกๆว่าเธอจะตามมาเซ้าซี้ต่อ
“อ้าว! หายไปแล้ว ที่แท้ก็ดีแต่ปาก”
ปากเขาเย้ยหยันใส่เธอ แต่สายตากลับบ่งบอกความพึงพอใจเล็ก ๆ
“พยาบาลคนใหม่ของคุณแม่สินะ...แต่ไม่เห็นเหมือนพยาบาลเลยสักนิด ยั่วโมโหเก่ง กล้าต่อปากต่อคำซะด้วย!!”
ธารสุรีย์หันกลับไปเผชิญหน้ากับประตูบานใหญ่ โลกสงบสุขอีกใบของเขาอยู่หลังประตูบานนี้ เขาจึงไม่ลังเลที่จะผลักประตูบานนั้นเข้าไป เหมือนเช่นหลายเดือนที่ผ่านมา หนังสือพวกนี้เป็นเพื่อนสนิทในยามยากของชีวิต
หากแต่ยังไม่ทันจะปิดประตูเสียให้มิดชิดเหมือนทุกครั้ง สาวผู้น่ารำคาญโผล่พรวดเข้ามาอย่างไร้มารยาท ทำท่าทางเหมือนกำลังยืนอยู่กลางทุ่งดอกไม้ ตาโตตื่นตะลึงหมุนรอบตัวเองเหมือนกำลังเต้นรำกลางฟลอร์
“โหววว หนังสือเยอะมากเลยค่ะ อ่านกี่ปีจะหมดคะเนี่ย”
เขาอึ้งไปเลย ไม่คิดว่าเธอจะวอนขนาดนี้
“นี่เป็นเขตของฉัน...ถ้าเข้ามาแล้ว...เธอต้องทำตามกฏของฉัน...ขอเตือนให้รู้”
“ค่ะ แล้วกฎของคุณน่านมีอะไรบ้างล่ะคะ”
เมื่อเช้านี่เอง ที่คุณธารเทพเข้าพิธีวิวาห์กับเจ้าสาวลูกผู้ดีจากตระกูลใหญ่ โดยได้เธอช่วยขัดเนื้อถูตัวและสวมชุดเจ้าบ่าวให้จนหล่อเหลาไร้ที่ติ“ยังไงคุณก็คือเมียสุดที่รักของผมนะ คนเดียวเท่านั้น”เขาให้คำสัญญาต่อเธอ...“ไม่ต้องห่วงทิพย์หรอกน่า ทิพย์ชอบอยู่ในที่ของทิพย์แบบนี้...สนุกดีจะตาย”“งั้นก่อนออกไปที่โบสถ์...จัดชุดใหญ่หน่อยดีมั้ย”“ก็ได้ค่ะ แต่คราวนี้ ทิพย์ขอเป็นนายหญิงนะคะ”“โอว...พักหลังนี่ เป็นนายหญิงบ่อยไปแล้วนะ”“ก็ทิพย์ชอบหวดคุณนี่ เวลาคุณร้องลั่น เร้าใจสุดๆ”ทุกวันนี้....เธอรู้สึกมีความสุขดี ในฐานะเมียเก็บของคุณชายใหญ่ และคุณชายเล็กของบ้าน !!!ใช่แล้วล่ะ เธอเป็นเมียของทั้งคู่ ทั้งคุณปิงและคุณน่านนั่นล่ะ ส่วนคุณวังกับคุณยมนั้นเลิกเด็ดขาดไปตั้งแต่ก่อนเข้าห้องคุณปิง แม้ทั้งคู่จะเทียวไล้เทียวขื่ออยู่บ่อย แต่เธอก็ไม่ยอมใจอ่อน เพราะเกรงใจผัวทั้งสองคน‘หญิงสองผัว แต่ไม่มั่วนะคะ!’แรกทีเดียวคุณชายใหญ่ไม่ยินยอมให้เธอดูแลคุณชายเล็กด้วย เพราะอารมณ์หึงหวงห่วงก้าง แต่พอเธอยื่นคำขาดว่าจะไปจากบ้านหลังนี้ เขาก็ยินดีแบ่งเธอให้น้องชายอย่างมีระบบระเบียบ กลางวันเป็นของคุณน่าน ส่วนกลางคืนเป็นของเข
“อ่า...นายทาสขา...อูววว” เนื้อกายอ่อนนุ่มร้อนผ่าวไปหมดยามโดนลูบไล้ด้วยบางสิ่งที่แสนอ่อนนุ่ม เธอไม่แน่ใจนักว่าเป็นอะไรกันแน่ อาจเป็นขนนกหรือแส้หางม้า สุดแต่จะคาดเดาได้“อูย...อือ...นายทาส...ซี๊ดส์” หน้าอกทั้งสองข้างของเธอถูกปรนเปรอจนเธอเสียวสยิวตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกขนลุกขนชันจนกายสั่นสะท้านหวิว “โอ๊วววว....”เธอทั้งตื่นเต้นทั้งลุ้นจนแทบอยู่ไม่ติด ด้วยไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขาจะทำอะไรต่อ“เรียกฉันอีกซี”“นายทาส...อะ...อู๊วส์...ซี๊ดส์” เขายัดบางอย่างที่สั่นได้เข้ามาในรูสาวของเธอ แล้วปล่อยให้มันเล่นงานเธอไปตามใจชอบของมัน ซึ่งมันทำให้เธอเสียวรูสาวจนแทบคลั่ง “โอ๊ย...นายทาสขา...ข้า...ข้าเสียว”“ดีมาก ร้องให้สุดเสียงนะ”“โอ๊ย!” เธอร้องลั่นด้วยความเจ็บ กรีดร้องสุดเสียงอย่างที่เขาต้องการ พลางแอ่นอกดิ้นส่ายท่อนล่างระริก ยามโดนน้ำตาเทียนสาดลงมาตามเนื้อตัวไม่ขาดสาย “โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! นายทาสขา...”“ร้องดัง ๆ ซี ร้องดัง ๆ” ใบหน้าคร้ามแสนหล่อจ้องมองทาสสาวของเขาด้วยสายตากระหายอยาก เรือนกายงดงามที่กำลังดิ้นส่ายตรงหน้าทำให้ความต้องการของเขาแทบทะลักทะลาย สัณชาติญาณดิบพลุ่งพล่านเดือดดาลไปในทุ
“ไม่ โดนครั้งเดียวก็เผ่นแนบกันทั้งนั้น เลขาฉันต้องเอาเงินตามอุดปากพวกนั้น ไม่งั้นฉันคงกลายเป็นไอ้โรคจิตลงหน้าหนึ่ง เสียชื่อวงศ์ตระกูลแย่ ช่วงหลังมานี้ ฉันก็เลยเพลาๆลง กระทั่งเจอเธอนี่ไง” เขาพูดจบก็จูบไซ้ซอกคอเธออย่างกระหาย มือไม้ป่ายปีนขึ้นจับทรวงอกแล้วบีบขยำอย่างรุนแรงเร่าร้อน ลมหายใจสะท้านดังลั่นไปทั้งห้อง“แล้วมีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้างคะ นอกจากเลขาของคุณ”“ไม่มีแล้ว ก็มีแต่เธอนี่แหละ”“อืม...”“เรามาลองกันมั้ย”“แต่มันจะเจ็บมั้ยคะ”“ครั้งแรกฉันจะอ่อนหวานกับเธอแล้วกัน พอเธอเก่งขึ้นแล้ว เราก็ค่อยเพิ่มระดับความแรงขึ้น ดีมั้ย” ชายหนุ่มมองเธอออกตั้งแต่แรกเลยหรือ...มันคงเหมือนการมองเห็นตัวเองสินะ เพราะตัวเขาเองก็นิยมความรุนแรงเหมือนกันเธอยังไม่รู้จักตัวเองมากถึงขั้นบอกว่าได้เธอชอบมันในระดับไหน เพราะยังไม่เคยลองเลยสักครั้ง เธอก็เพียงทำกับตัวเองด้วยเทียนไขเท่านั้นความร้อนจากน้ำตาเทียนทำให้เธอรู้สึกมีความสุข ทุกครั้งที่มันหยดลงบนเนื้อกายของเธอ ทุกครั้งที่มันไหลตกกระทบบนเนินอกหรือโหนกอูม ความเจ็บปวดเป็นของหวานสำหรับเธอเสมอมา“คุณปิง...”เขาพลิกร่างเธอให้กลับมาเผชิญหน้ากับเขา ช้อนปลายคางละ
“คุณวังน่ะเหรอคะ” เธอแสร้งทำเป็นคิด “เธอใช้นิ้วเก่งค่ะ เธอทำให้ทิพย์เสร็จตั้งหลายรอบ”ธารเทพขยับกายออกห่างเธอไปสามสี่ก้าว สายตาของเขาบ่งบอกว่าขยะแขยงเธอชะมัด“หมายความว่าฉันต้องรับเศษเดนจากไอ้พวกนั้นใช่มั้ย”ใช่...นี่คือสิ่งที่เธออยากจะบอกเขา หลังจากนอนคิด นั่งคิด ยืนคิดและตัดสินใจอยู่นาน เธอก็ได้คำตอบสำหรับชีวิตที่สวยงามในแบบของเธอ ก่อนจะเดินขึ้นมาที่ชั้นสามแล้วเคาะประตูห้องของเขาตามคำสั่งของผู้เป็นนาย“ทิพย์ก็แค่อยากบอกให้คุณรู้ว่า...ทิพย์ไม่ได้มีค่าพอสำหรับในฐานะเมียของคุณ ไม่ว่าจะเมียเก็บ หรือเมียบ่าว อย่างดีทิพย์ก็คงเป็นได้แค่นางบำเรอ”หญิงสาวเปลี่ยนจากท่าทางยั่วยวนเป็นท่าทางปกติธรรมดา ซึ่งอย่างไรเสียก็ยังไม่ปกติอยู่ดี เพราะชุดที่ล่อแหลมไร้กำลังความสามารถจะปกป้องของสงวนเธอได้ มันนำสายตาเขาไปทุกวินาทีเลยล่ะ “อีกอย่าง คุณเป็นถึงผู้ปกครองบ้านนี้ ทิพย์ไม่อยากให้คุณโดนใครหยามหยันหรือหัวเราะเยาะเพราะเรื่องนี้ อย่างน้อยก็น้องๆของคุณ”เขานิ่งฟัง อย่างใช้ความคิด “แล้วไงต่อ”“ทิพย์จะขอให้คุณชายใหญ่ปฏิเสธรับทิพย์เป็นเมีย ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่เถอะค่ะ ถ้าคุณชายใหญ่ปฏิเสธเสียเอง คุณหญิงจะไ
ทิพย์อัปสรยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ด้วยชุดนอนฉลุลายลูกไม้แบบซีทรู ที่ปิดคลุมกายสวยตั้งแต่หน้าอกจนถึงตาตุ่ม หากแต่มองเห็นสรีระภายในและของสงวนทั้งช่วงบนและช่วงล่างได้ชัดเต็มสองตา“คุณหญิงให้ทิพย์มาดูแลคุณชายใหญ่ค่ะ”เขานิ่งอึ้งกับความงามตรงหน้าไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักรับความ พร้อมหลีกทางให้สาวเจ้าเข้ามาด้านใน สาวเนื้อหอมละมุนใจเดินผ่านหน้าเขาไปอย่างเนิบช้า ย่ำเหยียบบนพื้นกระเบื้องราคาแพงเย็นเฉียบอย่างสำรวจ “เธอนี่เชื่องเหลือเกินนะทิพย์อัปสร คุณแม่ให้ทำอะไรก็ทำหมดเลยเหรอ”เขาแสร้งว่ากล่าวดูถูก เพื่อให้เธอเจ็บใจเล่น หรือเพื่อเรียกร้องความสนใจก็ไม่รู้ อย่าคิดว่าเธอมองไม่ออกนะ ว่าเขาคิดอะไรอยู่ บางสิ่งในกายเขามันฟ้อง กำลังขู่ฝ่าเป็นงูจงอางเลยล่ะเธอไม่จำเป็นต้องก้มมองต่ำให้เสียเวลา เพราะดูเหมือนเขาจะแข็งโป๊กเป็นท่อนไม้ก่อนเธอจะมาถึงเสียอีก! “คุณชายใหญ่ก็เหมือนกัน คุณท่านให้ทำอะไร คุณชายใหญ่ก็ไม่เคยขัดเลยสักครั้ง”เธอตั้งใจพูดจี้ใจดำเขา“งั้นเราก็เหมือนกันสิ”“ไม่เหมือนหรอกค่ะ ไม่เหมือนสักนิดเดียว”“ไม่เหมือนตรงไหน”เขาเดินตามหลังเธอมาจนถึงปลายเตียงนอนขนาดคิงไซส์กลางห้อง เธอหยุดเดิน เขาจึงหยุ
“อะ...ทิพย์” พอเขาเห็นเธอเดินมาถึง เขาก็ส่งสัญญานบอกให้เธอเดินตามเขาไปที่ระเบียงด้านหลังของตึก ซึ่งค่อนข้างลับตาคน“ฟังผมนะทิพย์ ฟังให้ดี ผมจะไม่บอกคุณหรอกนะทิพย์ ว่าคุณควรทำหรือไม่ควรทำอะไร แต่ผมอยากให้คุณเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง”เธอยิ้มให้เขาอย่างเคารพรัก คว้ามืออบอุ่นมาจับแน่น ส่งความรู้สึกขอบคุณถึงเขาคนนี้ “คุณวังน่ารักเหลือเกินค่ะ หากเป็นไปได้ ทิพย์อยากอยู่กับคุณวังที่สุด อยากดูแลคุณวังในฐานะอะไรก็ได้ แต่คุณวังคงไม่อยากทรยศคนที่คุณวังรัก”“ไม่หรอก เพราะถึงยังไงผมก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณแม่เลือกไว้อยู่ดี” เขาว่าพลางมองเธอตาหวานซึ้ง “แต่ผมก็อยากให้คุณได้แต่งงานกับผู้ชายสักคนที่พร้อมจะรักและดูแลคุณนะ ไม่ใช่ต้องมาเป็นเมียเก็บเขาแบบนี้ คุณน่ารักมากพอจะมีใครสักคนดูแลในฐานะเมียแต่ง ทิพย์! คิดให้ดีคิดให้หนัก อย่าไปทำตามใจคุณแม่มากนัก คุณแม่แค่อยากให้ทิพย์อยู่กับท่านที่นี่ ไม่มีวันจากไปไหนอีกแล้ว ท่านก็เลยรั้งทิพย์ไว้ด้วยวิธีนี้”“คุณวังขา...ไม่ใช่ว่าทิพย์ไม่รู้นะคะ ทิพย์รู้ดีว่าคุณหญิงท่านคิดอะไรอยู่ แต่ที่ทิพย์ไม่ขัด ก็เพราะว่าทิพย์เองก็อยากอยู่บ้านหลังนี้ ทิพย์อยากอยู