แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: เอเวอร์กรีน ฉิน
อเล็กซ์ตกตะลึงเป็นอย่างมากเพราะเขาไม่คาดคิดว่าเธอจะปรากฏตัวที่นี่ "ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?"

คุณหนูโดโรธีมองไปที่โคลอี้จากนั้นเธอก็มองไปที่อเล็กซ์ เธอมองด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความเศร้าโศกและพูดว่า “ฉันได้ฝากเงินจำนวณครึ่งล้านดอลลาร์ในบัญชีของคุณแล้ว นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพอจะทำได้”

อเล็กซ์รู้สึกประหลาดใจ “คุณไปเอาเงินนั้นมาจากไหน? คุณได้รับมันมาจากสปาร์คเหรอ? โดโรธี คุณไม่สามารถรับเงินนั้นได้นะ จะเกิดอะไรขึ้นกับเราหลังจากรับเงินของเขา? ยิ่งไปกว่านั้น ผมมีเงินมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ ผมสามารถดูแลปัญหาของคุณได้ด้วยนะ”

เพี๊ยะ!

โดโรธีตบหน้าอเล็กซ์และพูดว่า “สิบเดือนของการได้แต่ฝันกลางวัน มันยังคงไม่เพียงพอสำหรับคุณหรือ? คุณช่วยหยุดเรื่องไร้สาระนี้ได้ไหม? ลืมมันไปเถอะและทำตามที่คุณต้องการ พรุ่งนี้เราจะแยกย้ายกันไป!”

หลังจากที่เธอพูดจบ โดโรธีก็หันหลังกลับและออกจากโรงพยาบาลไปในทันที

อเล็กซ์พยายามไล่ตามเธอไป แต่ถูกโคลอี้ขวางไว้ เธอมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเธอ “โอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมลูกพี่ลูกน้องของคุณ นายน้อยสปาร์คถึงได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? เป็นไปได้ไหมที่โดโรธีต้องการที่จะช่วยคุณ และตัดสินใจหารายได้พิเศษด้วยการใช้เวลาหนึ่งคืนกับสปาร์ค? โอ้ นี่มันเป็นหนังตลกที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ!”

อเล็กซ์ตบหน้าโคลอี้ “ฉันจะฆ่าแก ถ้าแกยังพูดเรื่องไร้สาระนี้อีก!”

“กล้าดียังไงถึงได้มาตบฉัน!” โคลอี้พูดขณะที่เธอพุ่งตัวไปหาอเล็กซ์

หัวหน้าพยาบาลที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบเข้าไปหยุดโคลอี้ “พวกคุณสองคนกำลังทำอะไรกัน? ใจเย็น ๆ นะโคลอี้ ค่อย ๆ คิดไตร่ตรองคุณกำลังก่อเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลอยู่ใช่หรือเปล่า? คุณต้องการที่จะให้ฉันไล่คุณออกจากงานหรือ?”

หลังจากถูกตำหนิจากหัวหน้าพยาบาล โคลอี้ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เธอชี้ไปที่อเล็กซ์แล้วพูดว่า “ไอ้สารเลวนี้ตบฉันก่อนนี่ค่ะ! ทำไมฉันจะไม่สามารถโต้ตอบเขาได้?”

หัวหน้าพยาบาลรู้จักอเล็กซ์เป็นอย่างดี เธอเอ่ยถามว่า “คุณตบเธอทำไม?”

อเล็กซ์ชี้ไปที่แม่ของเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอทิ้งแม่ของฉันไว้ที่นี่เหมือนเศษขยะ และคุณยังจะกล้ามาถามฉันอีกหรือว่าเพราะอะไร? ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะสามารถทิ้งแม่ของฉันไว้ที่นี่! เธอเป็นมนุษย์นะไม่ใช่ขยะ ฉันรู้ว่าฉันไม่มีเงินในบัญชีเพียงพอสำหรับชำระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแม่ของฉัน แต่นี่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สามารถจ่ายค่ารักษาเธอได้อีกต่อไปนะ”

หัวหน้าพยาบาลเพิ่งจะรู้ว่าคุณนายบริตทานีถูกทิ้งไว้ที่ทางเดินนี้

เธอโกรธและกรีดร้อง “นี่เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่หรอ โคลอี้? ใครอนุญาติให้เธอทำแบบนี้กัน? ขอโทษคุณอเล็กซ์แล้วส่งผู้ป่วยกลับไปที่วอร์ดเดี๋ยวนี้เลยนะ”

โคลอี้ไม่กล้าขัดขืนหัวหน้าพยาบาล เธอจึงทำได้เพียงขอโทษอย่างเชื่อฟังและพาคุณนายบริตทานีกลับไปที่วอร์ดของเธอ

จากนั้นอเล็กซ์ก็ไปพบกับแพทย์ที่ดูแลเคสของแม่ของเขา เพื่อคุยเรื่องเตรียมการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด

แพทย์ที่ดูแลเคสของคุณนายบริตทานีก็คือแพทย์หญิงเชอริลและเธอมีอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น ถึงกระนั้นเธอก็เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติที่ดีอยู่แล้ว เธอเป็นหลานสาวของ ดร.เจมส์ โคนีย์ อัจฉริยะผู้โด่งดังของแคลิฟอร์เนีย เธอไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น เธอยังมีรูปลักษณ์ที่สามารถทำให้ใครหลาย ๆ คนที่พบเจอเธอต้องสยบราบคาบ

อเล็กซ์รู้สึกเครียดและวิตกกังวลมาก ๆ ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับสภาพของแม่ของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัญหาที่โดโรธีกำลังเผชิญอยู่ด้วย

โดยที่ไม่ทันได้คิด เขาบุกเข้าไปในห้องทำงานของคุณหมอเชอริลโดยไม่เคาะประตู และภาพที่เขาเห็นมันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่มีผิวขาวราวกับสโนว์ ไวท์ กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ทรวดทรงรูปนาฬิกาทรายของเธอมันทำให้เขาหลงใหล ดวงตาของพวกเขาประสานกันและสบตากันอยู่เป็นเวลาสามวินาทีเต็ม ก่อนที่ผู้หญิงจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอรีบคว้าชุดคลุมแพทย์ของเธอมาปิดบังเรือนร่างของเธอไว้

“ผมขอโทษ ๆ ดร.เชอริล! สาบานได้เลยว่าผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ผมไม่ได้แอบดูคุณจริง ๆ นะ” อเล็กซ์ขอโทษอย่างจริงใจ เขารีบหันกลับและปิดประตูลง

หญิงสาวสวยคนนั้นก้คือคุณหมอเชอริล โคนีย์ แพทย์ที่ดูแลเคสแม่ของเขานั่นเอง เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าขณะที่เธอเตรียมตัวเลิกงาน อเล็กซ์ยืนพิงประตูตบหน้าอกของเขาและอ้าปากค้าง ฉากที่เขาเพิ่งเห็นยังคงวนเวียนอยู่ในใจ เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ช่างงดงามเหลือเกิน...”

ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน และอเล็กซ์ก็เกือบที่จะล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าที่ชวนหลงใหลของ คุณหมอเชอริลจ้องมองมาที่เขาด้วยความโกรธ “คุณพูดอะไรนะ?” คุณหมอเชอริลเอ่ยถาม

“เอ่อ นั่น...” อเล็กซ์ตกตะลึง เขาจำไม่ได้ว่ามีธุระสำคัญอะไรกับคุณหมอเชอริล “ดร. เชอริล ผมจะมาบอกว่ายัยงี่เง่าพยาบาล โคลอี้คนนั้น หล่อนทิ้งแม่ของผมไว้ที่ทางเดิน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ของผม ผมอยากให้เธอชดใช้ด้วยชีวิตของเธอ”

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสามารถดึงดูดความสนใจของคุณหมอเชอริลได้สำเร็จ

เธอประหลาดใจเป็นอย่างมากและพูดว่า “มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?”

เธอรีบวิ่งไปที่วอร์ดและเห็นว่าคุณนายบริตทานีกำลังถูกนำตัวกลับไปที่วอร์ด เธอตะโกนใส่พยาบาลโคลอี้ทันที ตลอดเหตุการณ์นั้น โคลอี้เอาแต่ก้มหน้าก้มตาและเธอไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว จากนั้นคุณหมอเชอริลก็ได้ทำการตรวจดูอาการของคุณนายบริตทานีและพูดกับอเล็กซ์ว่า “ตามอาการของแม่คุณแล้ว ฉันขอแนะนำให้ทำการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด คุณมีเงินไหม? หากคุณประสบปัญหา ฉันสามารถให้คุณยืมเงินก่อนได้”

“อ่า คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรอก ผมมีเงิน ขอบคุณมาก ๆ ครับ ดร.เชอริล”

อเล็กซ์ไม่ได้คาดหวังว่าคุณหมอเชอริลจะใจดีพอขนาดที่จะทำอย่างนั้นให้กับเขา เงินครึ่งล้านดอลลาร์นั้นไม่ใช่เงินจำนวณเล็กน้อย แม้กระทั่งแต่กับแพทย์ที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นเธอ

โคลอี้ที่ได้ยินการสนทนาก็ตกใจมากและคิดกับตัวเองว่า “ดร.เชอริล โง่หรือเปล่า? เธอเสนอให้ขยะชิ้นนี้ยืมเงิน เธอเห็นอะไรในตัวเขากันนะ?”

คุณหมอเชอริลตอบว่า “ดีเลยค่ะ! ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น พรุ่งนี้ฉันจะจัดการให้แม่คุณผ่าตัดเป็นอย่างแรกเลย”

"ขอบคุณมาก ๆ นะครับ!" อเล็กซ์กล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

“ตามฉันมาค่ะ เรามาคุยรายละเอียดกันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการในวันพรุ่งนี้กัน” คุณหมอเชอริลบอกกับอเล็กซ์และทั้งสองคนก็ออกจากวอร์ดไป เธอพึมพำไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเตรียมการที่จำเป็นก่อนและหลังการผ่าตัด การจัดเวลา และสุดท้ายก็พูดว่า “โปรดสบายใจได้เลยสำหรับวันพรุ่งนี้ ไม่มีอะไรต้องกังวลมาก ฉันจะทำการผ่าตัดด้วยตัวเอง อัตราความสำเร็จค่อนข้างสูงมาก! ยิ่งไปกว่านั้น...”

อเล็กซ์ฟังอย่างตั้งใจ จู่ ๆ คุณหมอเชอริลก็กระซิบข้าง ๆ หูของเขาว่า “ช่วยลืมภาพที่คุณเห็นในที่ทำงานของฉันก่อนหน้านี้ไปเลยนะ! หรือฉันจะให้คุณจ่ายดี!” อเล็กซ์พยักหน้าทันทีเพื่อทำให้เธอแน่ใจว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสองคนเท่านั้น "ไปได้แล้ว!" เธอพูดต่อ

คุณหมอเชอริลมองดูอเล็กซ์กลับไปที่ห้องของแม่เขา และเธอก็ถอนหายใจออกมา

แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตกหลุมรักเขา แต่รู้สึกซาบซึ้งในความกตัญญูของเขา ในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา อเล็กซ์มาเยี่ยมแม่ของเขาทุกวันโดยไม่ขาดตกบกพร่อง เธอรู้ว่ามีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้

ในไม่ช้า อเล็กซ์ก็วิ่งไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินเพื่อชำระเงินล่วงหน้าหนึ่งล้านดอลลาร์ให้กับโรงพยาบาลเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่ของเขา

ธุรกรรมดำเนินไปโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย อเล็กซ์รู้สึกราวกับฝันไปเมื่อเขานำบัตรเอทีเอ็มกลับคืนมา ชีวิตของเขาพลิกผันครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง เขากลับมาเป็นนายน้อยอีกครั้ง และในคราวนี้เขารวยกว่าเมื่อก่อนเสียด้วยซ้ำ

“สปาร์ค นายรอก่อนเถอะ กล้าดียังไงมาคิดพรากเมียของฉัน! ฉันจะไม่เมตตาต่อนายเลย คอยดู!”

ขณะที่เขานึกถึงสปาร์ค เขาก็จำได้ว่าโดโรธีให้เงินเขาสำหรับค่ารักษาพยาบาลแม่ของเขา

เธอรับเงินของสปาร์คมา สปาร์คที่น่ารังเกียจนั่น! เขาใช้โอกาสนี้นอนกับเธอหรือเปล่านะ?

“บ้าจริง!”

ความคิดนั้นทำให้เขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาโทรหาโดโรธีอย่างรวดเร็ว แต่โทรศัพท์มือถือของเธอถูกปิด เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาโทรหาคุณนายแคลร์ทันที “คุณแม่ โดโรธีอยู่บ้านหรือเปล่าครับ?”

คุณหญิงแคลร์โกรธมากเมื่อได้ยินเสียงของเขา “โดโรธี ไม่ใช่ธุระอะไรของนาย! นี่นายยังมีหน้าโทรหาฉันอีกเหรอ? อย่ามานึกถึงพวกเราอีกไม่ว่าในกรณีใด ๆ ”

“คุณแม่ คุณจะปล่อยให้โดโรธีกับสปาร์คอยู่ด้วยกันไม่ได้ ผมจะจัดการปัญหาเรื่องเงินกับเรื่องปัญหาในกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ เองครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง!”

“อย่ามาเที่ยวสัญญาอะไรไร้สาระแบบนั้นนะยะ!” คุณนายแคลร์พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ถ้านายจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ หมูอาจจะบินได้ ให้ฉันพูดให้ชัดเจนอีกครั้งนะ สปาร์คเป็นลูกเขยของฉัน โดโรธีและสปาร์คพักค้างคืนด้วยกัน นายไม่ได้เป็นอะไรนอกเหนือจากสามีซึ่งภรรยากำลังมีชู้”

ตู๊ด ตู๊ด! เสียงจากปลายสายตัดสายไปอย่างไร้เยื่อใย

อเล็กซ์รู้สึกราวกับว่าสมองของเขากำลังที่จะระเบิดออกมาเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขารู้สึกสับสนราวกับว่าโลกกำลังหมุนอยู่ใต้เท้าของเขา คุณนายแคลร์วางสายแล้ว อเล็กซ์รู้สึกเหมือนวิญญาณของเขาได้ทิ้งร่างของเขาไปแล้ว แม้ว่าเขาจะร่ำรวยอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีความหมายอะไรหากโดโรธีไม่ได้อยู่เคียงข้างกับเขา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status