“วันนี้เราไปไหนกันดีคะพี่ติณ” เสียงออดอ้อนของธัญชยาเอ่ยถาม วันนี้เธอมานั่งรอคู่หมั้นหนุ่มตั้งแต่ที่เขายังไม่เลิกงานด้วยซ้ำ การมาของธัญชยาสร้างความแตกตื่นให้หลายๆ คน โดยเฉพาะบรรดาหนุ่มๆ ในออฟฟิศ ที่มองเธอตาเป็นมัน ก่อนจะรู้สึกอิจฉาติณณ์ขึ้นมาในทันทีที่มีแฟนหน้าตาและหุ่นราวกับนางแบบ“ตามใจพิณเลยครับ”“ถ้าตามใจพิณ งั้นเราไปที่บ้านพิณดีกว่า วันนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ด้วย ไปงานการกุศล กว่าจะกลับคงเที่ยงคืน พี่ติณไปอยู่เป็นเพื่อนพิณนะคะ”“ครับ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยรับ ธัญชยาคล้องแขนคู่หมั้นหนุ่มไปยังรถป้ายแดงคันใหม่ที่เธอเพิ่งถอยมาจากโชว์รูมสดๆ ร้อนๆ วันนี้ ก่อนจะยื่นกุญแจให้ติณณ์“วันนี้พี่ติณขับรถนะคะ” พูดจบธัญชยาก็เดินอ้อมไปนั่งฝั่งข้างๆ คนขับ ติณณ์มองกุญแจรถในมือ อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งแล้วขับรถออกไปจากหน้าออฟฟิศ กระทั่งถึงบ้านเพ็ญประเสริฐ ป้าอ้วนรู้ทุกอย่างแต่จำเป็นต้องเก็บซ่อนความจริงไว้ ยิ่งได้เห็นว่าตอนนี้ติณณ์กับธัญชยาเป็นคู่หมั้นกัน ป้าอ้วนก็เจ็บปวดแทนณัฐชยา แต่ก็ต้องทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม บนโต๊ะอาหารวันนี้มีเพียงติณณ์กับธัญชยาสองคน เมื่อทานอาหารอิ่มหนุ
เมื่อเข้ามาในห้องของคอนโดมิเนียมได้ ธัญชยาก็ถูกรุกเร้า ปลุกปั่นอารมณ์อย่างหนักโดยบัณฑิตและชายอีกคนที่ธัญชยาไม่รู้แม้แต่ชื่อ เพียงแค่พอใจรูปลักษณ์ภายนอกที่หล่อเหลาของเขาเท่านั้นเอง กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งอยู่ในโพรงปากที่สลับจูบกันไปมาอย่างเร่าร้อน ธัญชยาถูกพาตัวไปยังเตียงในห้องนอน เสื้อผ้าของเธอถูกถอดออกทีละชิ้นสองชิ้นกระทั่งเปลือยเปล่า บัณฑิตมองหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะส่งยิ้มให้กัน ทั้งสองหนุ่มผลัดกันปลุกอารมณ์ของธัญชยา บัณฑิตจูบเธอพร้อมกับนวดเฟ้นหน้าอก ส่วนเพื่อนสนิทตอนนี้กำลังไล้จูบตั้งแต่สะดือของธัญชยาต่ำลงไปจนถึงเนื้อนวลที่สล้างท้าทายสายตาและสัมผัส ขาทั้งสองข้างถูกจับให้แยกห่างออกจากกัน ก่อนที่ใบหน้าของชายคนดังกล่าวจะซุกไซ้เข้าหาความนุ่มนิ่มที่เปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำค้าง“ผู้หญิงอะไร สวยไปหมดแบบนี้” คำเอ่ยชมดังมาจากเพื่อนของบัณฑิต ลิ้นร้อนชื้นตวัดรัวไปมาบนกลีบกุหลาบ พร้อมกับส่งนิ้วเข้าไปสำรวจช่องทางรักซึ่งตอดรัดอย่างเป็นจังหวะ ธัญชยาครางกระเส่าที่ถูกจู่โจม รุกหนักถึงขนาดนี้ เสียงจูบดังขึ้นเป็นระยะๆ หน้าอกถูกบัณฑิตดูดดุนจนเม็ดยอดแข็งเป็นไต มือเขาก็ไม่ยอมหยุดนิ่ง เดี๋ยวก็ลูบไล้ส่วนนั้นส
แม้จะเลิกรากันไป แต่ใช่ว่าติณณ์นั้นจะทนกับความรักที่แสนเจ็บปวดได้ ชายหนุ่มนั่งมองรูปถ่ายเก่าๆ ระหว่างเขาและณัฐชยา แต่ละรูปต่างบอกเล่าเรื่องราวในตัวของมันเอง อยู่ๆ ความคิดก็หวนไปยังรูปที่ชัชชัยส่งให้ ติณณ์ขยี้รูปในมือจนยับไม่เป็นท่า แต่ก็ใช่ว่าติณณ์จะลืมณัฐชยาได้ เพราะหญิงสาวนั้นก็ยังคงคิดถึงชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องอยู่กับปัจจุบัน เพราะคงทำได้แค่คิดถึงเท่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มกับคู่หมั้นสาวก็ค่อยเป็นค่อยไปจากวันก็เป็นอาทิตย์ เดือนและหลายเดือน ติณณ์ไม่เคยแตะต้องธัญชยาอย่างที่ตั้งใจไว้ว่าให้ถึงวันแต่งงานก่อน ส่วนหญิงสาวในเมื่อคู่หมั้นไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวเธอ ทั้งๆ ที่ทำได้เนื่องจากได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นกันแล้วก็ตามธัญชยาจึงให้ชายคนอื่นแตะเนื้อต้องตัวเธอแทน บางครั้งธัญชยาก็พูดจากระทบกระเทียบชายหนุ่มด้วยการหยิบเอาเรื่องของณัฐชยามาพูดซ้ำๆ ยิ่งตอกย้ำให้ติณณ์นั้นเจ็บปวด และทางออกของชายหนุ่มคือการประชดประชันที่เข้าทางธัญชยาพอดี ด้วยอารมณ์ชั่ววูบที่ถูกยั่วยุ บวกกับต้องการทำให้ณัฐชยาเจ็บปวดที่ล้อเล่นกับความรักของเขา ติณณ์จึงตัดสินใจขอธัญชยาแต่งงาน“จริงเหรอคะพี่ติณ เ
ความเกลียดชังและเจ็บปวดแสนสาหัสจากความรักที่ได้รับ กลับไม่สามารถทำให้ติณณ์นั้นเลิกรัก เลิกคิดถึงณัฐชยาได้เลยแม้แต่น้อย แม้เรื่องจะผ่านมาหลายเดือน แต่ชายหนุ่มก็ยังคงตัดใจจากเธอไม่ขาด จนบางครั้งชายหนุ่มยังเผลอเรียกชื่อณัฐชยาผิดสลับกับ ธัญชยา จนทำให้ว่าที่เจ้าสาวหมั่นไส้ หาเรื่องโกหกหมั่นใส่ความน้องสาวฝาแฝดอย่างณัฐชยาต่างๆ นานา เพื่อให้ติณณ์มีแต่ความเกลียดชังเท่านั้น “น่าเบื่อ...น่าเบื่อ” เสียงบ่นดังมาจากธัญชยา แม้จะใกล้วันแต่งงาน แต่เธอกลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย งานแต่งงานในฝันที่เธอวาดหวังไว้กำลังจะเป็นจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกความรักระหว่างเธอและติณณ์ดูเหมือนว่าจะจืดจางลงไปอย่างง่ายดาย ธัญชยาไม่เคยคบใครนานเท่านี้มาก่อน และเพิ่งรู้ว่าติณณ์เป็นผู้ชายที่น่าเบื่อมาก ชีวิตของเขาตอนนี้มีแต่งานและงาน ไม่มีความโรแมนติก อย่างที่เธอต้องการให้เป็น ชีวิตเขาดูไร้ซึ่งสีสันชวนให้ตื่นเต้น หนำซ้ำเธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาอย่างที่ต้องการอีก ธัญชยาเริ่มมองหาข้อเสียของติณณ์ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอมองว่าเป็นข้อดี ติณณ์ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ผิดกับธัญชยาที่เที่ย
เย็นวันนั้นแบรดขับรถสปอร์ตสุดหรูมูลค่าสิบกว่าล้านมารับธัญชยาที่บ้าน ยังดีที่มนตรีออกไปกินเลี้ยงกับลูกค้าจึงไม่เห็น ลินดายืนมองว่าที่ลูกเขยคนใหม่อย่างสนอกสนใจ ความหล่อ ความรวยของแบรดเป็นไปตามที่ธัญชยาบอกจริงๆ ป้าอ้วนเองก็สังเกตเห็นอีกคน แต่ทำได้แค่ยืนถอนหายใจ รู้สึกสงสารทั้งณัฐชยาและติณณ์ ที่ถูกลินดาและธัญชยาพรากความรักไปแบบนี้ สถานที่ดินเนอร์ระหว่างธัญชยากับแบรดก็สุดหรูหรา ชายหนุ่มจองโต๊ะชั้นบนสุดของโรงแรมชื่อดัง ที่สามารถนั่งมองวิวกรุงเทพฯ ได้แบบสามร้อยหกสิบองศาก็ว่าได้ อาหารที่นำมาเสิร์ฟก็ล้วนราคาแสนแพงที่ติณณ์ไม่มีวันทำให้ธัญชยาได้ ข้อเปรียบเทียบระหว่างแบรดและติณณ์เกิดขึ้นมากมายจนธัญชยาไม่อยากใส่ใจ สมองตอนนี้เธอมีไว้คิดแค่เรื่องของแบรดเท่านั้น แบรดมอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้ทันทีที่ธัญชยานั่งบนเก้าอี้ “มีความสุขไหมครับฮันนี่”“ค่ะ” เสียงสดใสของธัญชยาเอ่ยรับ สีหน้าของหญิงสาวนั้นแสดงออกว่าเธอมีความสุขมาก แบรดเซอร์ไพรส์เธอได้ในทุกๆ ครั้งที่พบกัน ทำให้ธัญชยาราวกับเป็นเจ้าหญิง“ทานนี้หน่อยนะครับ ผมสั่งพิเศษให้พิณโดยเฉพาะ” พูดจบแบรดก็ตักอาหารจานพิเศษให้ธัญชยา หญิงสาวยิ้มหวานรับความน่ารักของ
หลังจากมีอะไรกันครั้งแรก ครั้งที่สอง สาม สี่ และครั้งอื่นๆ ก็ตามมา ทุกครั้งหลังจบเรื่องบนเตียง แบรดก็มักจะพาธัญชยาไปช้อปปิ้ง ให้เธอเลือกซื้อของตามที่ต้องการ แม้ธัญชยาจะบอกปัดว่าเธอนั้นไม่ต้องการอะไรแล้ว แต่ผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ ธัญชยาเลือกซื้อแต่ของแบรนด์เนม เพราะคิดว่าคู่ควรกับเธอ และแบรดเองก็รวยพอที่จะจ่ายค่าของพวกนี้ได้ เพราะหลงจนหัวปักหัวปำทำให้ ธัญชยาไม่สืบประวัติของแบรดแม้แต่น้อยแบรดนั้นทุ่มให้ธัญชยาทุกอย่าง ทั้งความเร่าร้อนบนเตียง ในรถ หรือทุกที่ที่เธอต้องการเขา ไหนจะแก้ว แหวน เงินทอง ของแบรนด์เนม ทุกสิ่งที่เธอต้องการขอแค่ชี้นิ้วสั่งไม่เกินครึ่งชั่วโมงสิ่งนั้นก็จะถูกส่งถึงมือ นั่นทำให้ธัญชยากระหยิ่มยิ้มย่องว่าเธอได้พบคนที่ใช่เข้าแล้ว ผู้ชายแบบนี้สิที่ธัญชยาคู่ควรแต่งงานใช้ชีวิตด้วย และก็เข้าทางเมื่อแบรดบอกรักพร้อมขอธัญชยาแต่งงาน“ผมรักพิณมาก เราแต่งงานกันนะครับ”“แต่งงานเหรอคะ” ธัญชยาเอ่ยทวนสิ่งที่ได้ยิน เพราะคิดว่าเธอนั้นหูฝาดไป“ครับ ผมอยากแต่งงานกับพิณมาก มากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนในชีวิต ที่สำคัญอีกสองอาทิตย์ผมต้องบินกลับอเมริกาแล้ว ผมอยากให้พิณไป
แม้จะไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่มนตรีก็รับรู้ถึงความผิดปกติ เพราะพักนี้ว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ใกล้จะลั่นระฆังวิวาห์กันทุกขณะ กลับหมางเมินใส่กันแปลกๆ ธัญชยาออกไปนอกบ้านแทบทุกวัน บางวันก็มีผู้ชายที่ไม่ใช่ติณณ์มาส่ง นั่นทำให้มนตรีเรียกบุตรสาวคนโตมาพบเพื่อพูดคุยด้วย“ตกลงเรื่องงานแต่งงานไปถึงไหนแล้วพิณ ไม่เห็นมาเล่าให้พ่อฟังเลย”“คุณพ่อสนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอคะ” แทนที่จะตอบคำถาม ธัญชยากลับพูดประชดบิดากลับไป “ทำไมลูกถึงคิดว่าพ่อไม่สนใจ”“ก็คุณพ่อทำแต่งาน งาน ไม่มีเวลาอยู่บ้าน พิณก็เลยคิดว่าคุณพ่อคงเห็นงานสำคัญกว่าพิณ” “ถ้าพ่อเห็นงานสำคัญกว่าลูกจริงๆ พ่อคงไม่ถามหรือเห็นว่ามีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาส่งลูกหรอกนะ อย่าลืมว่าพิณกำลังจะแต่งงานกับติณณ์เขาอยู่แล้ว ทำอะไรก็ให้เกียรติวงศ์ตระกูล ให้เกียรติตัวเองบ้าง ที่สำคัญพิณกำลังตั้งท้องอยู่ไม่ใช่เหรอ” คำพูดของบิดาทำให้ธัญชยารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนต้องรีบแก้ต่างให้ตัวเอง“พิณรู้ค่ะว่ากำลังทำอะไร”“รู้ก็ดี” มนตรีเอ่ยทิ้งหางเสียง ไม่ใช่เขาไม่รู้ไม่เห็นอะไร เพียงแค่อยากได้ยินจากปากของบุตรสาวคนต้นเรื่องเท่านั้นเอง “แล้วนี่ไปฝากครรภ์อะไรเสร็จแล้วหรือยัง” “เ
ณัฐชยาเหมือนถูกปิดกั้นทุกอย่างที่เมืองไทย หญิงสาวยังไม่รู้ข่าวเรื่องธัญชยากับติณณ์ด้วยซ้ำ ว่าทั้งคู่จะเปลี่ยนสถานะจากคู่หมั้นไปเป็นบ่าวสาว เรื่องนี้ไม่มีใครบอกเธอแม้แต่ผู้เป็นบิดา เนื่องจากมนตรีเข้าใจว่าลินดาจะบอกเอง เพราะได้พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ธัญชยาหาทางออกให้ตัวเองได้อย่างแยบยล เธอกลับคิดว่านี่คือเรื่องราวดีๆ ที่เธอจะมอบให้ณัฐชยาน้องสาว เป็นของขวัญชิ้นพิเศษจากเธอผู้เป็นพี่ ธัญชยาตัดสินใจหลอกให้ณัฐชยากลับมาเมืองไทยโดยให้เหตุผลว่าผู้เป็นบิดากำลังป่วยหนักมาก อาจจากไปได้ทุกเมื่อ อยากให้ณัฐชยากลับมาดูใจบิดาทันที ผู้เป็นพี่ระบุวันกลับเป็นวันที่เธอต้องแต่งงานกับติณณ์พอดี เมื่อวางสายจากพี่สาวที่โทรศัพท์มาแจ้งข่าวด้วยตัวเอง ณัฐชยาถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น ใจสั่น ตัวสั่นไปหมด ก่อนจะตั้งสติจองตั๋วเครื่องบิน ไรอันที่แวะมาหารู้เรื่องเข้าจึงช่วยเธอเก็บของแล้วไปส่งยังสนามบิน“เดินทางดีๆ นะซอ ถึงแล้วโทรหาผมหน่อยก็ได้” อันที่จริงแล้วไรอันนั้นอยากไปเมืองไทยพร้อมกับณัฐชยา แต่ชายหนุ่มติดธุระสำคัญจึงไปกับเธอไม่ได้ “อืมม์...ไปก่อนนะ” พูดจบณัฐชยาก็เดินเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารทันที หญิงสาวใจร้อนดั่งเปลว
“ฝากไว้ก่อนเถอะ รอลูกหลับ ซอหนีพี่ไม่พ้นแน่”“บ้า” ณัฐชยามองค้อนสามี ก่อนจะอุ้มบุตรชายขึ้นแล้วขยับไปนั่งให้นมอีกทาง เมื่อเจ้าตัวเล็กอิ่มก็ได้เวลาหลับต่อ และคงหลับยาวถึงเช้าตามเคย ณัฐชยาถือว่าโชคดีที่ลูกคนนี้เลี้ยงง่าย ไม่งอแงทำให้แม่หรือพ่อเหนื่อยมากนักเมื่อให้นมลูกเสร็จ ติณณ์ก็พาณัฐชยากลับลงไปชั้นล่าง แล้วให้พี่เลี้ยงขึ้นมาเฝ้าบุตรชายแทน ค่ำคืนของการฉลองยังอีกยาวไกล และเมื่อกลับขึ้นมาพักผ่อน ติณณ์ก็ทำตามที่ได้พูดไว้ ชายหนุ่มรุกเร้าคุณแม่มือใหม่อย่างณัฐชยาจนเธอเร่าร้อนไปทั้งตัว จะว่าไปก็เกือบๆ สี่เดือนที่ติณณ์นั้นไม่ได้ล่วงเกินณัฐชยาเลย ใช่ว่าจะมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ต้องการเธอ ณัฐชยาเองก็ต้องการติณณ์ไม่แพ้กัน“พี่ติณ” ณัฐชยาครางกระเส่า เมื่อติณณ์กำลังหยอกเย้ากับหน้าอกของเธอจนตั้งชัน รูปร่างของณัฐชยาดูอวบอิ่มขึ้น หน้าอกเต็มไม้เต็มมือกว่าแต่ก่อน ยิ่งถูกติณปลุกเร้าก็ยิ่งตอบสนอง เม็ดยอดสีสวยถูกสามีหนุ่มใช้ปากร้อนๆ ดูดดุนเล่นสลับบีบเฟ้นเป็นจังหวะณัฐชยาบิดเร้า ร้าวรานกับความวาบหวามเสียวซ่านที่กระจายไปทั่วร่างก
วันแรกที่กลับจากโรงพยาบาล ณัฐชยาแวะไปเยี่ยมธัญชยาที่โรงพยาบาล จากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยจนเป็นดารานักแสดงได้อย่างสบายๆ ผิวนวลเนียนเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ตอนนี้ธัญชยากลับดำคล้ำ ผิวแห้ง ผมร่วง ดูน่าเวทนาผิดไปจากธัญชยาคนก่อนจนแทบจำไม่ได้ พอเห็นหน้าหลานชายเธอก็ยิ้มอย่างยินดี“ชื่ออะไร”“น้องเติมเต็มค่ะพี่พิณ” ณัฐชยาก้มมองบุตรชายที่หลับพริ้มในอ้อมกอด ติณณ์นั่งมองทั้งสองพี่น้องอยู่ห่างๆ เพราะอยากให้เวลาส่วนตัวแก่คนทั้งคู่“เติมเต็ม ชื่อน่ารักมากเลยนะ หน้าตาก็น่าชัง เหมือนซอกับพี่ติณคนละครึ่ง” ธัญชยายิ้มให้หลานชาย เธอยื่นมือจะไปสัมผัสแก้มยุ้ยๆ แต่จำต้องดึงมือกลับ ณัฐชยาสงสารพี่สาวจึงเอ่ยขึ้น“พี่พิณอุ้มหลานนะคะ”“ไม่ดีกว่า ตัวพี่สกปรก” พูดจบธัญชยาก็ขยับหนี“พี่พิณทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ”“พี่สกปรกจริงๆ ไม่ต้องอุ้มหลานหรอก แค่ได้นั่งมองหน้าพี่ก็ดีใจแล้ว” รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมปาก แ
“ลูกผมหล่อมากนะครับหมอ ดูสิ จมูกโด่งเป็นสันเชียว” คนขี้เห่อเอ่ยขึ้น ณัฐชยาส่ายหน้าให้ติณณ์“หล่อค่ะ” หมอเอ่ยรับ เพราะลูกใครใครก็ชมว่าหล่อว่าน่ารักทั้งสิ้น เมื่อตรวจเสร็จหมอก็ให้ฟิล์มใบหน้าเจ้าตัวเล็กแก่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เชยชม ติณณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลาบปลื้มกับใบหน้าบุตรชาย ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกเรื่องนี้ให้มารดาและผู้เป็นยายรู้ทันที“จริงเหรอติณ เป็นผู้ชายเหรอ”“ครับแม่ อาวุธเด่นชัดมาก”“พี่ติณ...ทะลึ่ง” ณัฐชยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหน็บชายหนุ่มไปแรงๆ ที่พูดอะไรทะลึ่งๆ แบบนั้น“ฝากบอกซอให้ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ใกล้คลอด แม่กับยายจะลงไปกรุงเทพฯ”“ครับแม่” เสียงมีความสุขของติณณ์เอ่ยรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุยกับมารดาและยายครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มให้ณัฐชยา อยู่ๆ ก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าท้องนูนเบาๆ“พ่อรักลูก รักแม่ของลูกมากนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื
“ดื่มสิ” แต่อยู่ๆ ธัญชยากลับยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อณัฐชยาคว้าตัวไปกอด“ขอบคุณนะคะพี่พิณ ขอบคุณที่ดีกับซอแบบนี้ ซอรักพี่สาวคนนี้มากนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอก็รักพี่พิณ เพราะพี่คือพี่สาวของซอ”“ซอ” คำพูดของณัฐชยาทำให้ความคิดร้ายๆ ของธัญชยาหายไป ณัฐชยาผละออกจากพี่สาวเล็กน้อยเพื่อดื่มนม แต่จังหวะที่ปากแก้วกำลังจรดกับริมฝีปากอิ่ม ธัญชยาก็กำลังจะแย้ง แต่เสียงของติณณ์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำก็ดังขึ้นเสียก่อน“พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้ทำอะไรกันครับ”“อ้อ...พี่พิณเอานมมาให้ซอดื่มค่ะพี่ติณ ยังอุ่นๆ อยู่เลย” ณัฐชยาหันไปตอบสามี ธัญชยาตกใจเพราะไม่คิดว่าติณณ์จะอยู่ในห้องด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้เธอถามณัฐชยาแล้วว่าชายหนุ่มจะกลับตอนไหน ซึ่งคำตอบคือดึก เธอจึงตัดสินใจลงมือปลิดชีพน้องสาววันนี้ แต่ตอนนี้ความคิดบ้าๆ นั่นหายไปแล้ว“แต่ซอพึ่งดื่มนมไปแก้วใหญ่นี่ครับ ดื่มอีกจะไหวเหรอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดื่มได้”&l
ลินดาพยายามฟื้นฟูร่างกายจนเกือบจะกลับมาเดินได้ โดยมี ณัฐชยาคอยดูแลไม่ห่าง แม้จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตามที ในทุกๆ วันเธอถามหาธัญชยาจนมนตรีไม่รู้จะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างดี สุดท้ายก็จำต้องพูดความจริงออกไปในวันที่ลินดาพร้อมจะรับฟังทุกอย่างแล้ว“ลูกพิณเป็นเอดส์เหรอคะ” ลินดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินจากสามี มนตรีได้แต่พยักหน้ารับว่าใช่“ต่อให้ลูกเป็นอะไร เราก็จะไม่ทิ้งแก”“ขอบคุณนะคะคุณ ฉันไม่ดีเอง ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดี”“คุณไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดีเหมือนกัน” มนตรีกุมมือของภรรยาไว้“ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก โดยเฉพาะผิดต่อซอ ฉันทำผิดกับลูกคนนี้ไว้มากจริงๆ”“แต่ผมรู้ว่าซอไม่เคยคิดโทษคุณเลย นั่นก็เพราะว่าซอรักและหวังดีกับคุณมาก คุณคือแม่ที่ดีที่สุดของแก ผมอยากให้คุณมอบความรัก ความเอ็นดูให้ซอบ้าง แค่ครึ่งที่คุณมอบให้พิณก็ยังดี”“คุณมนตรี” แววตาของลินดาดูอึ้งไปที่ได้ยินสามีร้องขอแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด“ผมค
แบรดทำท่าจะแย้ง แต่ธัญชยากลับโน้มตัวลงมาปิดกั้นเสียงพูดนั้น พร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงให้รัวเร็ว ถี่กระชั้นมากขึ้นจนสติของแบรดกระเจิดกระเจิง ตอบสนองเธอกลับไปอย่างถึงอกถึงใจ เสียงซี้ดปากดังต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมผสานความเร่าร้อนก็ยิ่งทวีความวาบหวามยิ่งขึ้นธัญชยาทำตามใจตัวเองทุกอย่าง เธอชอบอะไรแบบไหนก็จัดแบบนั้นให้แบรด จนชายหนุ่มอดที่จะเอะใจความคุ้นเคยนี้ไม่ได้ว่าเคยได้รับจากใครมาก่อน แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อความเสียวซ่านเข้ามาทำให้สติหลุดลอย แบรดไม่อยากให้เธอคุมเกมฝ่ายเดียว จึงรีบเด้งตัวขึ้นแล้วรั้งธัญชยาลงไปนอนราบ ส่งตัวเองเข้าหาเธอในจังหวะหนักๆ สลับโน้มตัวลงไปจูบปาก มือก็คลึงหน้าอกไม่ได้หยุด“ฉันไม่ไหวแล้ว” ธัญชยาพยายามอดกลั้น แต่ความเร่าร้อนของแบรดก็ทำให้เธอยอมแพ้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เพราะชอบที่ให้คู่นอนถึงสวรรค์ก่อนหลายๆ รอบ“ไม่ไหวก็ถึงเลย” แบรดไม่ต้องเอ่ยธัญชยาก็นำหน้าชายหนุ่มไปแล้วหนึ่งยก ความชื้นแฉะที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอทำให้เขารู้ว่าธัญชยาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล
“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ธัญชยาเพ้อพูดผลตรวจเลือดซ้ำไปซ้ำมา สีหน้าเหม่อลอย สมองมึนงง เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อไป“พิณลูก” มนตรีลูบใบหน้าบุตรสาวเบาๆ“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ประโยคซ้ำๆ ยังดังมาจาก ธัญชยา นั่นทำให้หัวใจของมนตรีเจ็บปวดที่สุด ไม่คาดคิดว่าธัญชยาจะป่วยแบบนี้“พี่พิณใจเย็นๆ นะคะ ซอถามคุณหมอแล้ว ถ้าพี่พิณรับยาต้านติดต่อกันก็จะหาย”“ไม่! แกโกหกฉัน ฉันเป็นเอดส์ มันรักษาไม่หาย ฉันเป็นเอดส์ แกได้ยินไหมฉันเป็นเอดส์” ธัญชยาปัดมือของณัฐชยาออกห่าง มนตรีจึงเอ่ยขึ้นอีกคน“หายสิพิณ ลูกต้องหาย”“คุณพ่อไม่ต้องมาโกหก พิณรู้ พิณไม่ได้โง่” เสียงเกรี้ยวกราดของธัญชยาดังขึ้น เธอหวาดระแวงทุกอย่าง กังวลอาการป่วยของตัวเองจนไม่รับรู้ความจริงอะไรทั้งนั้น ฝังใจว่าสิ่งที่เป็นไม่มีวันรักษาหาย“ลูกพิณ” มนตรีคว้าตัวธัญชยาเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะไม่รู้จะปลอบโยนบุตรสาวด้วยวิธีไหน ธัญชยาร้องไห้จนเผลอหลับไป ณัฐชยาแอบปาดน้ำตาอีกคน ติณณ์ยืนกุมมือภรรยาอยู่
หลังจากที่นอนไม่ได้สติมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ ลินดาก็ค่อยๆ รู้สึกตัว เธอเห็นสามี ณัฐชยา และติณณ์ แต่กลับไม่เห็นธัญชยาแม้แต่เงา ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจบุตรสาวคนโปรดจึงเกิดขึ้น“คุณแม่รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ เจ็บตรงไหนไหม”“ไม่ลูก” ลินดารู้สึกตื้อๆ ในอก เพราะรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับ ณัฐชยามาตั้งมาก แต่วันนี้คนที่คอยดูแลเธอเป็นอย่างดีกลับคือ ณัฐชยา“คุณแม่ปลอดภัยแบบนี้ ซอก็หมดห่วง” ณัฐชยาแอบปาดน้ำตา เพราะลินดาคือมารดา ต่อให้มารดาจะไม่รักเธอยังไง เธอก็ตัดขาดจากมารดาไม่ได้ และตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นแม่คนด้วยแล้ว ก็ยิ่งรักลินดามากขึ้น“รีบหายเร็วๆ นะคุณลินดา จะได้มาช่วยกันเลี้ยงหลาน”“หลาน...ซอท้องเหรอลูก”“ค่ะคุณแม่” ใบหน้ายิ้มๆ ของณัฐชยาเอ่ยรับ เธอลูบท้องที่ภายในมีเจ้าตัวเล็กเติบโตอยู่ แต่พอรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์อาการแพ้ท้องที่เคยมีกลับไม่มี“แม่ดีใจด้วยนะซอ” ลินดาอ้าแขนรับบุตรสาว ณัฐชยาเดินเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงไปกอดกับมารดา อ้อมกอดที่ณัฐชยาโหยหามาตลอด ตอนนี้เ
“แม่ไม่เป็นอะไรซอ ลูกล่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามฟังดูอ่อนโยนอย่างที่ณัฐชยาไม่เคยได้ยินมาก่อน แค่นี้กลับทำให้เธอตื้นตันในความห่วงใยที่มารดามีให้“ไม่ต้องไปห่วงมันหรอกค่ะคุณแม่ ยายซออึดและถึกจะตายไป โดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ไม่พูดเปล่า ธัญชยายังตามมาจิกหัวของณัฐชยาไปแล้วตบตีเธออีกครั้งราวกับต้องการหาที่ระบายอารมณ์ ยิ่งณัฐชยาไม่ตอบโต้ใดๆ แบบนี้ ธัญชยาก็ยิ่งได้ใจติณณ์ที่กลับบ้านมาก่อนเวลาเพราะใจนั้นรู้สึกห่วงณัฐชยามาก ชายหนุ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนทะเลาะกันอยู่ชั้นบนจึงรีบขึ้นมาดู จนรู้ว่าต้นเสียงนั้นมาจากห้องนอนของเขา ชายหนุ่มรีบก้าวไป และเมื่อเปิดประตูสิ่งที่เห็นก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับช็อก เพราะตอนนี้ธัญชยากำลังตบตีณัฐชยา ผู้ซึ่งเป็นภรรยาของเขานั่นเอง“ทำอะไรน่ะพิณ” ติณณ์รีบเข้าไปห้ามใช้ตัวเองปกป้อง ณัฐชยา ธัญชยารีบเก็บมือที่เงื้อขึ้นจะฟาดหน้าของณัฐชยาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ลืมนับอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้“พิณไม่ได้ทำอะไรนะคะ พิณไม่รู้เรื่อง”“นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่&rdq