Mag-log in"สิบปี... คือเวลาที่ ‘พราว’ พยายามฝังกลบรักแรกอันแสนเจ็บปวดไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เธอใช้ชีวิตในฐานะภรรยาของ ‘ธาม’ สามีรูปหล่อผู้เพียบพร้อม แต่กลับเติมเต็มเธอได้เพียงเปลือกนอกและบทรักอันว่างเปล่า ชีวิตที่เหมือนจะลงตัวกลับสั่นคลอน เมื่อ ‘วิน’ รักแรกที่เคยทอดทิ้งเธอไปอย่างไร้เหตุผลเมื่อสิบปีก่อน หวนกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้งในฐานะผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ถ่านไฟเก่าที่ดับมอดไปนานกลับคุโชนขึ้นอย่างรุนแรงเกินห้ามใจ ท่ามกลาง ‘สถานะ...รักต้องซ่อน’ ที่ต่างมีเจ้าของ เมื่อแรงปรารถนามันแรงกล้ากว่าความถูกต้อง พวกเขาจึงเลือกก้าวสู่เส้นทางอันตราย สานต่อสัมพันธ์สวาทร้อนแรงอย่างลับๆ โดยไม่รู้เลยว่า ปมในอดีตที่ทำให้รักร้าว... กำลังรอวันเปิดเผย และอาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่างลง..."
view moreตอนที่ 1
เสียงเข็มนาฬิกาบนผนังห้องนั่งเล่นดีไซน์หรู ตอกย้ำความเงียบงันยามค่ำคืน... ไม่สิ ต้องบอกว่ายามดึกสงัดถึงจะถูก พราวเหลือบมองหน้าปัดนาฬิกาเรือนทองฝังเพชรบนข้อมือตัวเอง... ตีสองสิบห้านาที หญิงสาวในชุดนอนผ้าซาตินเนื้อดีสีครีมอ่อนถอนหายใจแผ่วเบา เธอยกแก้วไวน์แดงในมือขึ้นจิบเล็กน้อย รสฝาดเฝื่อนของมันพอจะช่วยกลบเกลื่อนความขมขื่นในใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ... อีกแล้วสินะ ค่ำคืนที่เธอต้องรอคอยสามีตามกฎหมายกลับบ้านอย่างไร้จุดหมาย บ้านหลังใหญ่มูลค่าเฉียดร้อยล้านใจกลางเมือง ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าราคาแพงระยับ ทุกตารางนิ้วบ่งบอกถึงฐานะและรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ แต่สำหรับพราวแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากกรงทองที่เยียบเย็นและว่างเปล่า เธอวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะกระจกข้างโซฟาบุหนังแท้ตัวยาว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างระหงในชุดนอนวาบหวิวเล็กน้อยเผยให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าเย้ายวนเกินหญิงสาววัยสามสิบปีทั่วไป ผิวขาวละเอียดผุดผ่องราวกับไม่เคยต้องแดด ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเก็บไว้ลวกๆ เผยให้เห็นลำคอระหงและใบหน้าสวยจัดที่ถึงแม้จะไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอาง แต่ก็ยังคงความคมคายชวนมอง... ทว่าดวงตาคู่สวยคู่นั้นกลับฉายแววเหนื่อยล้าและเฉยชาเกินกว่าใครจะคาดเดา เสียงรถสปอร์ตคันหรูคุ้นเคยแล่นเข้ามาจอดในโรงรถ เรียกสติของพราวให้กลับคืนมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า... วงจรเดิมๆ ที่เธอแสนจะคุ้นชิน ไม่นานนัก ประตูไม้สักบานใหญ่ก็ถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างสูงของ ‘ธาม’ สามีหนุ่มรูปหล่อ ผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ และ...ความเลวร้ายในรูปแบบของสามี เขาก้าวเข้ามาด้วยท่าทางโคลงเคลงเล็กน้อย กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงฉุนกึ้กที่พราวไม่คุ้นเคยลอยมาปะทะจมูกทันที หญิงสาวเม้มปากแน่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่เริ่มปะทุ "กลับมาแล้วเหรอคะ" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนเกือบจะเย็นชา ธามเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำเล็กน้อย ดวงตาคมพราวระยับ... ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และความสนุกสนานที่เพิ่งผ่านพ้นมา "อืม กลับมาแล้ว ทำไมยังไม่นอน?" เขาถามพลางปลดเนคไทแบรนด์ดังออกจากคออย่างลวกๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพงยับยู่ยี่เล็กน้อย และ... ใช่ พราวเห็นมัน รอยลิปสติกสีแดงสดจางๆ แต่ยังพอมองเห็นได้ชัด ประทับอยู่บนปกเสื้อด้านใน... หลักฐานมัดตัวที่ไม่ต้องสืบสาวอะไรต่ออีก "ก็รอคุณไงคะ" พราวตอบกลับ กลั้นใจไม่ให้เสียงสั่น "วันนี้... สนุกมากเลยสิท่า" ธามชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงประชดประชันนั้น เขากวาดตามองภรรยาสาวสวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก "นิดหน่อยน่า... เพื่อนๆ มันคะยั้นคะยอ" เขาตอบปัดๆ เดินเข้ามาใกล้พราวมากขึ้น กลิ่นเหล้าและน้ำหอมผู้หญิงยิ่งชัดเจนจนเธอแทบจะเบือนหน้าหนี "เพื่อน... คนไหนเหรอคะ ที่ใช้ลิปสติกสีนี้น่ะ" พราวถามสวนกลับไปทันควัน จ้องมองรอยนั้นอย่างไม่วางตา ธามเลิกคิ้ว มองตามสายตาของเธอก่อนจะก้มลงมองปกเสื้อตัวเอง แล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างไม่ทุกข์ร้อน "โอ๊ย ที่รัก อย่าคิดมากสิ ก็แค่เด็กๆ มันเล่นกันน่ะ ไม่มีอะไรจริงๆ" เขาเอื้อมมือมาหมายจะโอบเอวบางของภรรยา แต่พราวเบี่ยงตัวหลบทัน "เด็กๆ? คุณแน่ใจนะคะว่าแค่เด็กๆ" ความอดทนของพราวเริ่มจะหมดลง "คุณไปทำอะไรมา ไม่ต้องโกหกพราวหรอกค่ะ กลิ่นแบบนี้ รอยแบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรก!" "โธ่ พราว อย่าหาเรื่องได้ไหม ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ" ธามเริ่มมีน้ำโห แต่ก็ยังพยายามคุมเสียง "บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ คุณเป็นเมียผมนะ เชื่อใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง" "เชื่อใจ?" พราวแค่นเสียงหัวเราะ "คำว่าเชื่อใจ มันใช้ไม่ได้กับคุณหรอกค่ะธาม กี่ครั้งแล้วที่คุณทำแบบนี้!" "แล้วจะให้ทำยังไง!" ธามขึ้นเสียง ตบโต๊ะข้างโซฟาเสียงดัง "ผมก็เป็นของผมแบบนี้! แต่ผมก็กลับมาหาคุณทุกครั้งไม่ใช่เหรอ! เงินทอง ของแพงๆ ผมก็หามาให้ไม่เคยขาดตกบกพร่อง คุณจะเอาอะไรอีก!" พราวยืนนิ่ง ตัวชาวาบไปทั้งร่าง คำพูดของเขาเหมือนคมมีดที่กรีดซ้ำลงบนแผลเก่า ใช่ เขากลับมา... กลับมาพร้อมเศษซากความสุขจากผู้หญิงคนอื่น กลับมาเพื่อตอกย้ำว่าเธอเป็นแค่ 'เมีย' ที่มีหน้าที่ดูแลบ้าน รอคอย และ...รองรับอารมณ์ใคร่ของเขา บรรยากาศเริ่มตึงเครียด แต่แล้วจู่ๆ แววตาของธามก็เปลี่ยนไป ความหงุดหงิดฉายชัดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นแววตาหิวกระหายอย่างที่พราวคุ้นเคย เขาก้าวเข้ามาประชิดตัวเธออีกครั้ง คราวนี้พราวไม่ได้หลบ "อย่าโกรธเลยน่าคนดี..." น้ำเสียงเขาอ่อนลง แต่แฝงไปด้วยความต้องการชัดเจน มือหนาหยาบกร้านแต่รู้งานเลื่อนขึ้นมาลูบไล้แก้มนวลเบาๆ ก่อนจะไล่ลงมาตามลำคอระหง สัมผัสนั้นทำให้พราวขนลุกซู่... ไม่ใช่เพราะความพิศวาส แต่เป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติที่ร่างกายจดจำได้ดี "พราวเกลียดคุณ" เธอพูดเสียงลอดไรฟัน แต่ร่างกายกลับทรยศ เอนซบแผงอกกว้างของเขาเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว "แต่ตัวคุณไม่ได้เกลียดผม... ใช่ไหม" ธามกระซิบข้างหู ลมหายใจร้อนผ่าวเคล้ากลิ่นแอลกอฮอล์รินรดผิวแก้ม ริมฝีปากหยักหนาบดเบียดลงมาบนซอกคอขาวอย่างจาบจ้วงและเอาแต่ใจ กลิ่นกายเฉพาะตัวของเขาผสมกับกลิ่นเหล้าและน้ำหอมแปลกปลอมนั่น ทำให้พราวรู้สึกคลื่นเหียน แต่ในขณะเดียวกัน สัมผัสหยาบโลนที่เริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบั้นท้ายงอนงามผ่านเนื้อผ้าซาตินลื่น ก็ปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบในกายเธอขึ้นมาอย่างน่ารังเกียจ เธอดันอกเขาออกเบาๆ เป็นเชิงต่อต้าน แต่ไร้เรี่ยวแรง ธามหัวเราะในลำคออย่างผู้ชนะ เขารู้ดีว่าต้องทำอย่างไรกับภรรยาคนสวยคนนี้ "คืนนี้... ผมจะทำให้คุณลืมเรื่องไม่สบายใจทั้งหมดเองนะ... ที่รัก" เขากระซิบอีกครั้ง ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นอุ้มในอ้อมแขน พราวหลับตาลงแน่น ไม่ได้ขัดขืนอีกต่อไป วงจรเดิมๆ กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง... วงจรของความเจ็บปวด ความว่างเปล่า และความเร่าร้อนทางกายที่ไร้หัวใจ เธอยอมรับมันอย่างด้านชา... หรือบางที อาจจะเป็นเพราะลึกๆ แล้ว นี่คือสิ่งเดียวที่เธอยัง ‘ได้รับ’ จากผู้ชายคนนี้... พันธะทางกายที่รุนแรงและฉาบฉวย ธามก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนใหญ่ แสงไฟสลัวจากโคมไฟข้างเตียงสาดส่อง เผยให้เห็นเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่ถูกจัดไว้เรียบร้อย แต่พราวรู้ดีว่าอีกไม่นาน สภาพของมันจะเปลี่ยนไป... เช่นเดียวกับสภาพจิตใจอันบอบช้ำของเธอ ที่ถึงแม้จะด้านชาแค่ไหน... แต่ก็ยังคงเจ็บปวดอยู่ลึกๆ เสมอมาตอนที่ 11หกโมงครึ่ง... เวลานัดหมายพราวนั่งอยู่ในมุมในสุดของร้านกาแฟบรรยากาศดีในซอยที่ไม่พลุกพล่านนัก นิ้วเรียวเผลอเคาะเบาๆ กับแก้วช็อกโกแลตเย็นที่พร่องไปเพียงนิดหน่อย หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก....นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนัดเจอเขานอกเวลางานอย่างเป็นกิจลักษณะ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉิน และไม่ใช่เพราะความเมามายเธอเลือกเดรสสายเดี่ยวสีน้ำเงินเข้มที่ขับผิวขาวผ่อง แต่งหน้าอย่างตั้งใจมากกว่าปกติ... ตั้งใจเพื่อใครกันนะ? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัว แต่เธอไม่กล้าหาคำตอบให้ตัวเองแล้วร่างสูงที่รอคอยก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูร้าน วินในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนปลดกระดุมเม็ดบน กับกางเกงสแล็คสีเทาเข้มดูผ่อนคลายกว่าตอนอยู่ในชุดสูทเต็มยศ แต่ถึงอย่างนั้น ออร่าของผู้บริหารระดับสูงและความหล่อเหลาที่ดึงดูดสายตาก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เขากวาดตามองครู่หนึ่งก่อนจะเดินตรงมาที่โต๊ะของเธอ"ขอโทษที่อาจจะเลทไปนิดหน่อยครับ" เขากล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มบางๆ ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ไม่เป็นไรค่ะ พราว... ก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน" พราวตอบเสียงเบา รู้สึกประหม่าจนทำตัวไม่ถูกหลังจากสั่งกาแฟแล้ว ความเง
ตอนที่ 10แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่สวยของพราว เธอนอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องนอนหรูเพียงลำพัง จ้องมองข้อความสั้นๆ ที่ถูกส่งมาจากเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอรู้ดีว่าเป็นใคร...‘ถึงบ้านปลอดภัยไหมครับ?’ข้อความเรียบง่ายที่ดูเหมือนคำถามแสดงความห่วงใยธรรมดาๆ แต่มันกลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงไม่เป็นส่ำนี่คือครั้งแรกที่เขาติดต่อเธอมาก่อนหลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนและสับสนในห้องทำงานของเขาที่พึ่งผ่านมา... ค่ำคืนที่เธอบอกตัวเองว่ามันคือจุดจบ แต่ข้อความนี้กลับเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นพราวลังเลอยู่นาน นิ้วเรียวจิ้มลงบนแป้นพิมพ์ พิมพ์ข้อความตอบกลับแล้วลบทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีรวนอยู่ในอก เธอกำลังจะทำอะไรลงไป? การตอบกลับข้อความนี้ มันไม่ต่างอะไรจากการยอมรับและเปิดประตูให้เขาก้าวเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง... ในฐานะที่ไม่ถูกต้องแต่แล้ว ภาพสัมผัสอันเร่าร้อน เสียงครางกระเส่า ความรู้สึกเสียวซ่านที่เขาปรนเปรอให้ มันก็ย้อนกลับเข้ามาในห้วงคำนึงอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึก ‘มีชีวิต’ ที่เธอแทบจะลืมไปแล้ว มันหอมหวานเกินกว่าจะตัดใจได้ง่ายๆสุดท้าย... เธอก็ตัดสินใจกดส่งข้อความต
ตอนที่ 9"แน่ใจนะว่าแค่นั้น"คำถามเสียงพร่าแหบห้าวแต่แฝงความท้าทายของวินยังคงก้องอยู่ในหู ใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน กลิ่นโคโลญจน์จางๆ อันคุ้นเคยผสมกับกลิ่นกายบุรุษเพศของเขาโชยเข้าปอด ปลุกสัญชาตญาณบางอย่างที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น ดวงตาคมกริบคู่นั้นจ้องลึกลงมา... เหมือนจะมองทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจที่กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงของเธอพราวควรจะผลักเขาออกไป ควรจะตอกหน้าเขาแรงๆ ด้วยคำพูดเย็นชา ควรจะย้ำเตือนถึงสถานะของเขาและเธอ... แต่ร่างกายเจ้ากรรมกลับทรยศ มันแข็งทื่อไม่ยอมขยับหนี แถมหัวใจยังทรยศเต้นแรงโครมครามราวกับจะหลุดออกมานอกอก ลมหายใจติดขัดเมื่อสบเข้ากับแววตาลึกซึ้งคู่นั้นเธอเห็นความต้องการ... ความปรารถนา... และบางที อาจจะเป็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในนั้น... เหมือนกับที่เธอรู้สึกวินไม่ได้รอคำตอบ เขารู้... เขาสัมผัสได้ถึงกำแพงในใจเธอที่กำลังสั่นคลอน เขาเห็นแววตาที่เคยแข็งกร้าวเมื่อครู่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดเขาทาบริมฝีปากหยักได้รูปลงบนริมฝีปากอิ่มสั่นระริกของเธออย่างไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป จูบนี้ไม่ใช่จูบที่ปลอบประโลม ไม่ใช่จูบที่เกิดจากความเมามายไร้สติเหมื
ตอนที่ 8เช้าวันจันทร์เวียนมาบรรจบอีกครั้ง แต่สำหรับพราว มันคือเช้าวันที่หนักอึ้งที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวันก่อนนั้นยังคงตามหลอกหลอนเธอไม่หยุด ทั้งความเร่าร้อน วาบหวาม และความรู้สึกผิดบาปที่เกาะกินหัวใจ ความทรงจำที่เธอสั่งตัวเองให้ลืม มันกลับยิ่งแจ่มชัดขึ้นทุกครั้งที่หลับตาลงหญิงสาวใช้เวลาอยู่หน้ากระจกนานกว่าปกติ พยายามแต่งหน้าปกปิดร่องรอยความอ่อนล้าและดวงตาที่บวมช้ำเล็กน้อยจากการร้องไห้เมื่อวาน เธอเลือกชุดทำงานที่ดูสุภาพและมิดชิดที่สุด ราวกับว่าเสื้อผ้าเหล่านี้จะช่วยเป็นเกราะกำบังให้เธอได้‘ลืมมันไปซะพราว มันก็แค่ความผิดพลาดเพราะความเมา’ เธอย้ำกับตัวเองในใจเป็นรอบที่ร้อย ‘แกกับเขา เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว และจะไม่มีวันเป็น!’ตลอดทางที่ขับรถมาบริษัท หัวใจของพราวเต้นไม่เป็นส่ำ เธอกลัว... กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับเขา กลัวสายตาของเขา กลัวความรู้สึกของตัวเองเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในออฟฟิศ พราวสูดหายใจลึก พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เธอกวาดตามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว... ไม่เห็นเขา โล่งใจไปเปราะหนึ่ง หญิงสาวรีบเดินตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง อยากจะขังตัวเองอยู่ในนี้ทั





