เข้าสู่ระบบ“นั่นก็แล้วแต่คุณจะคิด...สิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้มันไม่เกี่ยวกับความรักเลยสักนิด...มันเป็นความแค้นที่มันฝังอยู่ในใจผมมาถึง 20 ปีผมบอกคุณไปแล้ว และมันก็เป็นเรื่องที่คุณไม่ควรรู้ ผมอธิบายคุณได้แค่นี้ ที่เหลือคุณจะคิดยังไง นั่นก็แล้วแต่คุณ...อย่าลืมนะครับ...ว่าเรายังไม่ได้แต่งงานหรือหมั้นกันเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังรักผม คุณก็ควรจะรอ แต่ถ้าคุณรอผมไม่ไหว คุณก็ควรที่จะเปิดโอกาสให้กับตัวคุณเอง...ผมบอกได้แค่นี้”
“ธัญญ์ให้อีนังคนนั้นมาใช้หนี้กับเจนิสก็ได้นี่คะ เจนิสจะให้งานมันทำเองค่ะ เจนิสจะช่วยคุณค่ะธัญญ์”
รมิตายังแอบหวังว่าเขาจะสนใจความรู้สึกของเธอบ้าง ถ้าให้รมิตาจัดการนังผู้หญิงคนนั้นล่ะก็เธอไม่แผ่วอย่างแน่นอน ความเจ็บก็มีมากแต่ความแค้นอยากเอาคืนก็มีมากเช่นกันสำหรับรมิตากับอีนังเด็กผู้หญิงคนนั้น!
“เรื่องนี้ผมบอกคุณไปแล้วเจนิส...ว่ามันเป็นเรื่องของผม และผมก็แก้ไขเรื่องนี้เองได้...เอาล่ะผมจะไม่พูดซ้ำอีก วันนี้เราจะยังไปดินเนอร์กันอยู่หรือเปล่าครับ ผมไม่อยากผิดนัดกับคุณ...เจนิส”
“อืม...แน่นอนอยู่แล้วค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นบ้านของธัญญ์เลยละกันนะคะ เจนิสอยากดื่มค่ะธัญญ์ เราเคลียร์กันแล้วค่ะ เจนิสเข้าใจค่ะ เจนิสจะรอคุณนะคะ...ธัญญ์”
รมิตาเปลี่ยนแผนตัวเองฉับพลัน ‘ถ้าเธอเป็นของเขาล่ะ เขายังจะไปหามันอีกไหม’ ความคิดใหม่แทรกเข้ามาในหัวของเธอทันที รมิตาจะช่วงชิงในสิ่งที่เป็นของเธอกลับคืนมาให้ได้ รมิตาไม่ยอมให้อีเด็กหน้าด้านคนนั้น มาคว้าคนรักของเธอไปอย่างแน่นอน...
“โอเค...” พริษฐ์จำใจที่จะต้องตามใจรมิตา เรื่องทั้งหมดเขาเองก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย รมิตาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย ‘วันนี้...พริษฐ์คงไม่ได้ไปเพนท์เฮ้าส์...ตามที่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้น’
[อีกด้านหนึ่ง...เพนท์เฮ้าส์หรู]
“พระพายอยู่ได้ค่ะป้าน้อย...ไม่ต้องเป็นห่วงพระพายนะคะเอ่อ...แล้วคุณพ่อกลับมาหรือยังคะ”
“กลับมาแล้วค่ะคุณหนู...แต่คุณผู้ชายดูแปลกๆ ค่ะคุณหนูเห็นมานพบอกป้าว่าวันนี้คุณผู้ชายไปเจอคุณพริษฐ์ที่บริษัทค่ะ ไม่รู้ว่าไปคุยกันอีท่าไหน...คุณผู้ชายดูซึมไปค่ะ แล้วตอนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่สบายด้วยค่ะ มานพพาไปหาหมอแล้วตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ค่ะคุณหนู”
“คุณพ่อไม่สบายเหรอคะป้าน้อย...แล้วอาการเป็นยังไงบ้างคะ เดี๋ยวพระพายจะกลับบ้านนะคะป้าน้อย”
“ก็ไม่เป็นอะไรมากค่ะคุณหนู หมอบอกว่าคงเครียดค่ะ เอ่อน่าจะเรื่องของคุณหนูล่ะค่ะ คุณผู้ชายห่วงคุณหนูไม่อยากให้คุณหนูลำบาก เลยน่าจะไปขอร้องคุณพริษฐ์ แต่เห็นว่าคุณพริษฐ์ไม่ยอมคุณผู้ชายก็คงเสียใจค่ะคุณหนู”
“งั้นพรุ่งนี้พระพายจะเข้าไปคุยกับคุณพ่อค่ะ พระพายไม่เป็นไรค่ะ พระพายอยู่ได้คุณพริษฐ์ก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรกับพระพายเลยค่ะป้าน้อย”
นันท์นลินพยายามพูดเพื่อให้คนที่เป็นห่วงเธอสบายใจ ความเป็นจริงมีเพียงนิดเดียว ที่เหลือไม่ได้เป็นอย่างที่เธอพูดเลย นันท์นลินอยู่ในสถานะลูกหนี้ เธอไม่สามารถโต้แย้งหรือต่อรองอะไรได้เลย เขามีคนรักแล้ว และดูเหมือนผลบางอย่างจะกลับมาหา นันท์นลินเร็วๆ นี้ แฟนของเขาคงต้องไปอาละวาดเรื่องที่เจอกับเธอวันนี้แน่นอน ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะยอมให้คนรักของตัวเองมานอนกับผู้หญิงอื่นแน่นอน...
[มหาวิทยาลัย...]
“แกว่าพระพายดูซึมๆ มั้ยเส้นด้าย”
“ซึมอะไรนี่มันชั่วโมงเรียนนะ...รัณ...ทุกคนตั้งใจเรียนหมดยกเว้นแก! อย่าชวนฉันคุยสิ อาจารย์เขามองมาที่เราแล้วนะ”
นารารัตน์หันไปดุเพื่อนชายของเธอ ‘ภรัณยู’ หรือ ‘รัณ’ คือเพื่อนร่วมชั้นเดียวกันกับเธอและนันท์นลิน แต่เพราะเพื่อนเธอคนนี้ไม่ค่อยจะมาเรียนเท่าไหร่ สัปดาห์เรียนมีห้าวัน เธอจะเจอภรัณยูเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
“เออ...เดี๋ยวหลังเลิกเรียนฉันจะถาม ว่าเป็นอะไร ถ้าดูจากสายตาอันแหลมคมของฉัน...ฉันคิดว่าพระพายมีเรื่องในใจแน่นอน”
“แหม...แกเคยสนใจเพื่อนด้วยเหรอรัณ...วันๆ ฉันไม่เคยเห็นหัวแกเลย...อาจารย์จะไล่แกออกจาก*มหาลัยแล้ว แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ...”
“ไล่ฉันไม่ได้หรอก...พ่อฉันเตรียมอัดเงินเต็มที่...แกลืมไปแล้วสิ...ว่าฉันลูกใคร”
“จ้า...พ่อคุณคนรวย...”
20 นาทีต่อมา...
ณ ห้องอาหารภายในมหาวิทยาลัย...
“พระพายเป็นอะไร...หน้าตาไม่สดชื่นเหมือนไม่สบายเลย”
ภรัณยูเอ่ยถามเพื่อนสาวของเขาในขณะที่กำลังตักข้าว ใส่ปาก ภรัณยูเห็นอาการของเพื่อนที่เขี่ยอาหารในจานไปมา
“อืม...พระพายมีเรื่องกลุ้มใจนิดหน่อยรัณ...”
“เรื่องอะไรพระพาย...บอกเส้นด้ายได้หรือเปล่า”
“ถ้าฉันไม่สังเกตเห็นเพื่อน...แกจะถามแบบนี้มั้ยเส้นด้าย”
“แกจะต่อว่าฉันใช่ไหมรัณ...ว่าไม่สนใจเพื่อน...แกลืมด่าตัวเองไปหรือเปล่า...วันๆ ไม่เคยโผล่หน้ามาเรียน แชทกลุ่มก็ไม่เคลื่อนไหว...แกไปไหนมาวะ”
“ฉันก็ออกไปล่าความรักของฉันสิ...เรื่องเรียนคือเรื่องรอง...แต่ว่าเรื่องรักน่ะ...คือเรื่องหลัก!”
“อย่าบอกนะ...ว่าแกไปตามตื้อน้องเมกาน่ะ...”
“ใช่! น้องเมกาของฉัน...จีบยากมาก...เธอไม่สนฉันเลยว่ะ...เธอบอกว่าฉันไม่แมน...และยังหาว่าฉันเป็นเกย์...จริงๆ ฉันก็อยากจะรู้ตัวเองเหมือนกันนะ ว่าฉันเหมือนมากเลยเหรอ...งงมาก...รูปร่างฉันออกจะล่ำบึก...ทำไมคิดว่าฉันเป็นเกย์ซะงั้น”
“เหมือนจริงไม่จกตา...”
“อะไรวะ...แกก็อีกคนเหรอ...แล้วพระพายล่ะ ดูว่ารัณเหมือนเกย์หรือเปล่า”
ภรัญยูหันไปถามเพื่อนที่เขาเคย ‘แอบรัก’ มาก่อน นันท์นลินคือรักแรกตอนสมัยเป็นเด็ก ภรัณยูรักเพื่อนคนนี้ตั้งแต่มัธยม แต่เป็นเพราะเพื่อนของเขาไม่ได้คิดอย่างเขา ภรัณยูเลยต้องนกไปโดยปริยาย...
“เหมือน”
นันท์นลินตอบสั้นๆ อย่างคนไม่มีอารมณ์ที่จะสนทนา กับใคร เมื่อคืนเธอผล็อยหลับไป นันท์นลินคิดว่าเขาจะกลับมาที่เพนท์เฮ้าส์ซะอีก แต่เขากลับไม่มา ‘ผมต้องการคุณเมื่อไหร่คุณต้องมา’ คำพูดอันแสบทรวงตอกย้ำความรู้สึกของนันท์นลินตลอดเวลา เธอคงเป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่เท่านั้นจริงๆ รอให้เขาต้องการเธอเมื่อไหร่เขาถึงจะมาหา
“โอ้ย! พระพายก็อีกคนเหรอ...ว้า...ทำไงดีล่ะ น้องเมกาก็ ไม่สนฉันเลย...ฉันจะต้องทำตัวแมนขนาดไหนกันวะ น้องเค้าถึงจะเห็นว่าฉันเป็นแมนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์”
“แกก็หาทางพิสูจน์ตัวเองสิรัณ ว่าแกเป็นหรือไม่เป็น จะมานั่งบ่นอยู่ทำไม”
“นั่นสิ...พิสูจน์กับใครดี? พระพายก็ดันมีพี่วีร์แล้ว แกก็มี พี่เขตแล้ว ฉันจะไปลองกับใคร”
“รัณ...แกสนใจเพื่อนของแกดีกว่านะตอนนี้”
นารารัตน์หันไปมองเพื่อนสาว ท่าทางของนันท์นลินวันนี้ดูเหม่อลอยแปลกๆ
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







