เข้าสู่ระบบ[อีกด้านหนึ่งของ...รมิตา]
“อีกนานมั้ยคะธัญญ์ที่คุณจะทำงานเสร็จ เจนิสจะต้องเคลียร์เรื่องของเราวันนี้! เดี๋ยวเจนิสจะไปรอคุณที่บ้านค่ะ”
สายร้อนของรมิตาโทรหาแฟนหนุ่มของเธอทันที อาการของคนเดือดระดับสิบอะไรก็ต้านไม่ไหว
“อืม...งั้นอีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
พริษฐ์ดับความร้อนของรมิตาด้วยการทำตามอย่างที่เธอต้องการ เรื่องราวของรมิตาวันนี้พริษฐ์ไม่คิดว่าอารมณ์หึงหวงเธอจะมากถึงเพียงนี้ แต่คนที่เขาอยากจะเคลียร์มากที่สุดกลับไม่ใช่นี่สิใบหน้านวลเนียนโผล่เข้ามาในห้วงคำนึงของเขาทันที ‘สงสัยพริษฐ์จะต้องจัดทบต้นทบดอกกับเธอแล้ว...สาวน้อย’
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
รถสปอร์ตหรูแล่นทะยานด้วยความเร็วสูงก่อนจะเลี้ยวเข้ามายังภายในคฤหาสน์หลังงามที่ประตูอัตโนมัติเปิดไว้รอเรียบร้อยแล้ว...
“คุณหนูคะ...”
แววดาวรีบวิ่งเข้ามารายงานคุณหนูของเธอ เพราะแขกที่ไม่เคยมาปรากฏในบ้านนี้มาก่อน นั้นได้นั่งรอด้วยท่าทีและอารมณ์ที่โกรธขึงอย่างที่สุด
“ครับป้าดาว...เธออยู่ไหนครับ”
“ตรงบาร์เครื่องดื่มค่ะ”
“ครับ”
พริษฐ์เดินตรงปรี่เข้าไปหาคนรัก ซึ่งตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่หน้าบาร์เคาน์เตอร์เครื่องดื่มในมือถือแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอำพันอยู่ภายในนั้น เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวผู้ที่นั่งรอเขาอย่างใจจดใจจ่อหันมามองทันควัน...และยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะถึงตัว ร่างอวบอิ่มโผเข้าหาคนรักพร้อมกับง้างฝ่ามือฟาดลงไปที่ใบหน้าคม…
เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือบางกระทบกับเนื้อดังสนั่น!
“ธัญญ์โกหกเจนิสทำไมคะ!”
ตามมาด้วยวาจาร้อนสาดใส่แฟนหนุ่มทันที อกของรมิตาจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว นังผู้หญิงคนนั้นทำให้รมิตาร้อนเป็นไฟ
“อึ้ม...” น้ำเสียงทุ้มกลั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้ มือหนาลูบไปที่ใบหน้าของเขา พร้อมกับหันไปมองแฟนสาวที่ตอนนี้อารมณ์ของเธอเดือดยิ่งกว่าลาวาภูเขาไฟด้วยซ้ำ
“ธัญญ์บอกว่าให้ลูกหนี้อยู่ในเพนท์เฮ้าส์ เจนิสไปดูด้วยตาตัวเองมาแล้วค่ะ...ธัญญ์โกหกเจนิสทำไมคะ...อีนังผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่ลูกหนี้ธรรมดาของธัญญ์แน่นอน....บอกเจนิสมาสิคะ! ว่าความจริงอีนังนั่นมันเป็นอะไรกับธัญญ์!”
เธอมองเขาด้วยแววตาที่มีเปลวไฟลุกโชนและเจือไปด้วยความเจ็บปวดในดวงตาคู่นั้น จริงอยู่ที่พริษฐ์นั้นไม่เคยบอกรักรมิตาเลยสักครั้ง มีเพียงคำว่าชอบเท่านั้น แต่รมิตาเข้าใจได้ว่า ไม่นาน พริษฐ์นั้นจะรักเธอและขอเธอแต่งงานในที่สุด...แต่ทว่าตอนนี้รมิตาไม่แน่ใจเสียแล้ว ว่าเธอยังเป็นที่หนึ่งในใจของเขาอยู่หรือเปล่า...
“ก็เป็นลูกหนี้ผม มีอะไรที่ผมตอบไม่ตรงความจริงอีกเจนิส”
พริษฐ์ตอบกลับเพียงสั้นๆ เขาไม่ได้คิดที่จะปิดบังรมิตาตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เขายังบอกความจริงไม่หมดก็เท่านั้นเอง
“มันใช้หนี้ให้ธัญญ์โดยการที่มันนอนกับธัญญ์ใช่มั้ยคะ แล้วหนี้ของมันเท่าไหร่กันคะ มันถึงฝากเจนิสมาบอกธัญญ์ว่าถ้าเป็นไปได้ให้เจนิสช่วยพูดกับคุณ และมันจะได้เป็นอิสระเร็วๆ”
“เธอบอกคุณแบบนั้นหรือ?”
แทนที่พริษฐ์จะสนใจความรู้สึกของแฟนสาวตัวเอง กลับใส่ใจที่จะถามถึงใครอีกคน
“ธัญญ์คะ!”
“มีอะไรอีกล่ะครับ...ก็คุณไปเจอเธอด้วยตัวเองมาแล้วไม่ใช่หรือ เรื่องทั้งหมดก็เป็นจริงอย่างที่คุณรู้มา จะให้ผมพูดอะไรได้อีกครับ...เอาแบบนี้ล่ะกัน...ผมจะบอกตรงๆ ก็ได้ ว่านันท์นลินเป็น ลูกสาวของลูกหนี้ผม มีหนี้อยู่สี่สิบล้าน และลูกหนี้ก็ไม่มีเงินมาจ่าย ก็เลยอย่างที่คุณเห็น ลูกสาวของเขาก็เลยใช้หนี้แทนพ่อตัวเอง มีอะไรที่คุณยังไม่เข้าใจอีก...เจนิส!”
น้ำเสียงของเขาเริ่มเข้มขึ้นคล้ายกับเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจบางอย่าง ‘ต้องการให้หนี้หมดเร็วๆ เธอก็ต้องบริการฉันทั้งวันทั้งคืนแหละ...สาวน้อย!’
“ทำไมธัญญ์ไม่ให้มันใช้หนี้วิธีอื่นคะ...ทำไมต้องให้มันนอนกับธัญญ์ด้วย...แล้วเจนิสล่ะคะธัญญ์...คุณเอาเจนิสไปไว้ที่ไหน...ธัญญ์เคยคิดมั้ยคะว่าเจนิสจะรู้สึกยังไง...เจนิสเป็นแฟนของคุณนะคะธัญญ์...”
“เรื่องทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว...และอีกอย่างเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องระหว่างผมกับพ่อของนันท์นลิน...และคุณเองก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้ครับ...ผมขอไม่อธิบายจุดนี้ล่ะกัน...”
“หมายความว่ายังไงคะธัญญ์...คุณจะบอกว่าไม่ให้ เจนิสสนใจเรื่องนี้น่ะเหรอคะ...คุณนอนกับมัน...แล้วคิดเหรอคะว่าคุณจะไม่ได้คิดอะไรกับมัน...บอกเจนิสมาสิคะ ว่าคุณจะไม่คิดอะไรกับมัน! จริงๆ”
ริมฝีปากแดงสีสดยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขมๆ นัยน์ตาหญิงสาวเต็มไปด้วยความชอกช้ำ รมิตารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ที่มีอะไรกันแล้วและจะไม่รู้สึกอะไร
“...” พริษฐ์ไม่โต้กลับ เขานิ่งเงียบไม่เอ่ยอะไรออกมา ระหว่างนันท์นลินกับพริษฐ์เป็นแค่เพียงการชดใช้หนี้สินที่มีต่อกันเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร รู้เพียงแต่ว่าเขายังติดใจ บทรักของเธอ...นันท์นลินทำให้พริษฐ์ได้ผ่อนคลายและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าจะเอ่ยถึงความผูกพันทางด้านจิตใจลึกซึ้งล่ะก็ พริษฐ์คิดว่าเขาคงไม่ได้ไปไกลถึงขนาดนั้นอย่างแน่นอน...
“ธัญญ์เงียบทำไมคะ...หรือธัญญ์ไม่แน่ใจตัวเอง...ธัญญ์จะให้เจนิสวางใจให้คนรักทำแบบนี้ได้ยังไงคะ...ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนเห็นคนรักนอนกับผู้หญิงอื่นหรอกนะคะ...ธัญญ์ใช้วิธีอื่นก็ได้นี่คะที่จะให้มันใช้หนี้ให้กับธัญญ์”
รมิตาพยายามที่จะหาทางออกให้กับคนรัก ถ้าเธอไม่คิดที่จะกันพริษฐ์ออกจากนังผู้หญิงคนนั้นล่ะก็ ไม่นานเธอคงจะต้องเสียคนรักไปอย่างแน่นอน ความสวยและความสดใหม่ของนังผู้หญิงคนนั้นมันบอกรมิตาได้เป็นอย่างดีว่า มันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของผมเถอะเจนิส...เพราะเรื่องระหว่างผมกับนันท์นลินมันมีความแค้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าคุณไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะก็...ผมให้เวลาคุณไปทบทวนก็แล้วกัน ว่าคุณจะคบกับผม? หรือเราจะเลิกกัน? ผมไม่ได้บังคับคุณ ผมก็ยังเป็นผมเหมือนเดิม แต่ถ้าจะให้ผมเลิกทำอย่างที่คุณบอกล่ะก็...เรื่องนี้ผมบอกคุณไปแล้ว...”
“งั้น...ก็แสดงว่าคุณก็ไม่ได้เลือกเจนิสใช่มั้ยคะ...”
หัวใจของรมิตาปวดร้าวอย่างที่สุด เธอคิดเองมาตลอดว่าเขาจะมีใจให้เธอถึงขั้นขอเธอแต่งงานในไม่ช้า แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลย รมิตาเข้าไปไม่ถึงใจของเขาเลยด้วยซ้ำ
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ







