Beranda / โรแมนติก / หนี้หัวใจใต้กลลวง / บทที่ 9 ผู้หญิงคนนั้นชอบของแรง

Share

บทที่ 9 ผู้หญิงคนนั้นชอบของแรง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-02 18:44:33

เขาไม่ตอบ แต่เพียงยิ้มมุมปากบาง ๆ

เพราะเธอยังไม่รู้...

ว่างานของเขา ไม่ใช่แค่พนักงานบริษัทธรรมดา

แต่เป็นหน่วยพิเศษที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องสกปรกในเงามืดของประเทศนี้

เขาเลือกที่จะเงียบ และเก็บเธอไว้ในโลกที่ปลอดภัย

คีรณัฐเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนที่หัวใจเธอจะหนักไปกว่านี้

"อีกสองสามวัน ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน"

เสียงเขานุ่มทุ้ม ขณะที่ลูบหลังเธอเบา ๆ

"คงไม่ได้มาหาบ่อย ๆ"

 

พราวฟ้าสูดลมหายใจลึก ๆ

ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ

"ดีเลย..."

เธอยิ้มบาง

"อาทิตย์หน้าฉันก็เปิดกล้องละครเรื่องใหม่แล้วเหมือนกัน"

เธอซุกหน้าแนบอกเขาอีกครั้ง

"ต่อไปคงต้องคิดถึงกันมากขึ้นสินะ"

 

คีรณัฐไม่ตอบ

เพียงกอดร่างของเธอในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิด

เหมือนต้องการสลักเธอเอาไว้ในอก...ไม่ให้ห่างไปไหน

ในห้องเงียบ ๆ มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นประสานกัน

อย่างที่ไม่มีคำพูดใดจำเป็นอีกต่อไป

 

 

รุ่งเช้า ห้องนอนในคอนโดที่อบอวลด้วยไออุ่น

คีรณัฐนั่งพิงหัวเตียง มองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ข้างกายด้วยสายตานุ่มลึก

พราวฟ้าซุกกายหลับสนิท รอยยิ้มบางยังแตะที่มุมปากราวกับกำลังฝันดี

เขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกแก้มเธอเบา ๆ

ในดวงตาคมลึกซึ้งมีบางอย่างที่เขาไม่ค่อยเผยให้ใครเห็น...ความอ่อนโยน และความผูกพันที่ไม่อาจสลัดได้อีกแล้ว

'สักวันหนึ่ง...ผมจะทำให้คุณกลายเป็นเจ้าสาวของผมจริง ๆ'

เขาคิดในใจเงียบ ๆ

ก่อนจะก้มลงจูบเบา ๆ บนหน้าผากเนียน

แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น

ไม่ลืมห่มผ้าให้เธออย่างทะนุถนอม

แต่งตัวเรียบร้อยด้วยความเคยชิน แล้วก้าวออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ

เช้านี้ มีภารกิจใหญ่รอเขาอยู่

 

...

 

 

ในห้องประชุมสำนักงานใหญ่ ซาเลียน อินโนเวชั่น

แสงไฟสลัวลงเล็กน้อยเพื่อเน้นหน้าจอข้อมูลตรงหน้า

ภานุวัฒน์นั่งไขว้ขาอยู่ตรงปลายโต๊ะ ใบหน้าคมสันเรียบนิ่ง ราวกับกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างลึก ๆ

 

คีรณัฐเปิดประตูเข้ามา ขยับตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามด้วยท่วงท่าของผู้ที่พร้อมรับฟังทุกข้อมูล

"ขอโทษที่ให้รอ"

เสียงเขาสั้น ๆ ขณะเปิดแฟ้มในมือ

 

"ฉันชินแล้ว" ภานุวัฒน์เอ่ยยิ้มบาง ก่อนจะโยนแฟ้มข้อมูลอีกชุดให้เขา

 

คีรณัฐไล่อ่านเร็ว ๆ

สีหน้าค่อย ๆ เคร่งขึ้น

"แผนการลักลอบของรัฐมนตรีวิศรุต..."

เขาพึมพำ

 

"ผิดปกติใช่ไหมล่ะ?" ภานุวัฒน์เท้าแขนบนพนักเก้าอี้ สีหน้าเหมือนรู้อยู่แล้วว่าคีรณัฐจะคิดยังไง

 

"ปกติเขาไม่เคยปล่อยให้ข้อมูลหลุดขนาดนี้" คีรณัฐพูดช้า ๆ

 

ภานุวัฒน์หัวเราะเบา ๆ ดวงตาคมวาววับอย่างเจ้าเล่ห์นิด ๆ

"เพราะตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว"

"ตั้งแต่ลาริสาหายตัวไป...มันก็เหมือนคนที่โดนดึงรากวิญญาณออกไปทีละนิด"

 

คีรณัฐเงยหน้าขึ้นมองตรง

จับไหวได้ว่าคำพูดของภานุวัฒน์มีน้ำเสียงแปลกบางอย่าง...เหมือนเย็นชา แต่ก็เหมือนเจ็บปวดในที

"แล้ว...ได้ข่าวเธอบ้างไหม?"

เขาถามนิ่ง ๆ อย่างไม่ให้ผิดสังเกต

 

ภานุวัฒน์ไหวไหล่ราวกับไม่ใส่ใจ

"ป่านนี้ก็คงต้องไปชดใช้กรรมที่พ่อเธอทำไว้"

เขาตอบเสียงราบเรียบ แต่ในตาสีน้ำแข็งนั้น วาบแววบางอย่างที่ยากจะอ่าน

 

คีรณัฐขมวดคิ้วนิด ๆ แต่เลือกจะไม่ถามต่อ

เขารู้ดี...แต่ละคนต่างมีเงาที่ไม่อาจส่องไฟใส่ได้ง่าย ๆ

"ในข้อมูลที่ได้มา..."

คีรณัฐเปลี่ยนเรื่อง เปิดแผนผังเส้นทางบนโต๊ะ

"เรารู้แค่วัน เวลา และเส้นทางเบื้องต้นที่จะขนยาเสพติดข้ามชายแดน"

"แต่ยังไม่รู้วิธีการหรือช่องทางจริง ๆ"

 

ภานุวัฒน์พยักหน้า

"แผนการเคลื่อนย้ายยาทั้งหมดจะมีสองล็อต ล็อตแรกยังไม่เท่าไหร่ 

แต่ล็อตที่สองมันเป็นล็อตใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี"

"และถ้ามันผ่านไปได้ รัฐมนตรีวิศรุตจะกอบกู้เครดิตของตัวเองได้บางส่วน"

 

คีรณัฐเม้มปาก สีหน้าเคร่งขรึม

"งั้นเราจะปล่อยให้มันเกิดไม่ได้"

เขากำหมัดแน่น

ในสายตาเขา แผนการนี้ไม่ใช่แค่การขนยา

แต่มันคือการตัดรากของอำนาจที่เน่าเฟะมาตลอด

"ฉันจะลงพื้นที่กับทีมเอง"

"วางกำลังซ้อน วางกับดักให้แน่นที่สุด"

"เราจะจับพวกมันให้ได้คาหนังคาเขา"

 

ภานุวัฒน์ยิ้มบาง ๆ ยิ้มที่ไม่อ่อนโยนแม้แต่นิดเดียว

"ฉันจะสนับสนุนด้านข้อมูลให้เต็มที่"

"และ...ถ้านายต้องการมือเพิ่ม"

เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ สบตาคีรณัฐอย่างเจาะลึก

"แค่กระซิบมา"

 

................

 

ช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างไม่รู้วันรู้คืน ลาริสายังคงใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นชิน 

ในคืนที่มืดมน...เธอก้มหน้าก้มตาถือถาดเครื่องดื่ม ผ่านโถงทางเดินแคบ ๆ

แสงไฟสลัวสาดทับเงาเธอที่ทอดยาวผิดรูปบนผนังเย็นเยียบ

อากาศหนาวเหน็บและเงียบงัน

ทุกย่างก้าวราวกับมีสายตาในความมืดกำลังจ้องมอง

ในใจเธอ... มีเพียงความหวังเลือนราง

รอวันที่จะได้หนีจากขุมนรกนี้ไปสักที

...

อีกมุมหนึ่งของห้องพักพนักงาน

แยมเหยียดตัวนั่งบนเก้าอี้เก่า ๆ ขาไขว่ห้าง ท่าทางเชื่องช้าแต่สายตาคมกริบ

เธอปรายตามองการ์ดหนุ่มหน้าใหม่ที่ยืนพิงผนังอยู่ไม่ไกล

สายตาเขา...ลอบมองลาริสาอย่างไม่ปิดบัง

แยมยิ้มมุมปาก ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบเบา ๆ

 

"ชอบเธอหรอ...ยัยนั่นน่ะ ที่นายชอบมอง"

"ถ้าชอบทำไมไม่ลองเข้าไปหาเธอล่ะ"

เสียงของเธอหวานหู แต่แฝงความเย็นยะเยือกอยู่ใต้ทุกรอยยิ้ม

 

การ์ดหนุ่มขมวดคิ้ว มองตามสายตาเธออย่างลังเล

"ก็คงได้แค่มองเธอคงไม่เล่นด้วย เธอดูเรียบร้อยจะตาย..." เขาพึมพำ

 

แยมหัวเราะเบา ๆ

เสียงหัวเราะนุ่ม ๆ เหมือนผ้าไหม แต่ข้างในคือใบมีดบางเฉียบ

"แม่นั่นน่ะก็แค่หน้าซื่อ..." เธอกระซิบ

"แต่ลับหลัง เชื่อเถอะ ใคร ๆ ก็ลิ้มรสมาหมดแล้ว"

เธอขยับเข้าใกล้อีกนิด ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าผิวหูเขา

"เธอชอบของแรงนะ"

"ถ้านายกล้าเล่นแรง ๆ หน่อย..."

แยมหัวเราะเบา ๆ "ฉันรับรอง ว่าเธอจะติดใจจนลืมนายไม่ลง"

 

การ์ดหนุ่มเบิกตากว้าง เหมือนปีศาจในตัวกำลังตื่นขึ้น

เขาเหยียดยิ้มเย็นยะเยือก พึมพำเสียงต่ำ

"ถ้าอย่างนั้น​ คืนนี้...จะได้รู้กัน"

 

แยมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยิ้มบางเฉียบ

เหมือนดูคนโง่เง่าคนหนึ่ง...กำลังเดินเข้ามาให้เธอใช้เป็นเครื่องมืออย่างเต็มใจ

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 107 เจ้าชายปีศาจกับเจ้าหญิงแห่งแสง

    “วันนี้…ครูริสาจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งที่ไม่มีอยู่ในหนังสือไหนเลย” เสียงหวานของเธอดังขึ้นเบา ๆ แต่เรียกความสนใจได้ทันที “เรื่องนี้...เกี่ยวกับเจ้าชายผู้หนึ่งที่กลายเป็นปีศาจ และเจ้าหญิงคนหนึ่งที่มีหัวใจเปล่งแสง เหมือนดวงดาวในคืนมืดที่สุด” “ชื่อเรื่องว่าอะไรครับ!” เด็กชายตัวจ้อยคนหนึ่งถามเสียงดัง “ชื่อว่า... เจ้าชายปีศาจกับเจ้าหญิงแห่งแสงสว่าง จ้ะ” เสียงฮือฮาเล็ก ๆ ดังขึ้นรอบวง ก่อนที่ทุกคนจะนิ่งฟังอีกครั้ง “นานมาแล้ว... มีอาณาจักรหนึ่งที่เงียบงัน ไม่มีแสงแดด ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีดอกไม้บาน ที่นั่น…คือโลกของเจ้าชายผู้ถูกสาป เขาเคยมีหัวใจที่ดี แต่เมื่อหัวใจนั้นแตกสลายจากเรื่องร้าย ๆ เขาก็ปิดมันไว้แน่น และไม่ยอมให้แสงใดเข้าไปอีกเลย” “แล้วเขากลายเป็นปีศาจเหรอคะ?” เด็กหญิงผูกโบว์ถามขึ้นเสียงแผ่ว “ใช่จ้ะ...เขากลายเป็นปีศาจที่มีดวงตาเศร้า และไม่เคยยิ้มอีกเลย แต่ลึก ๆ แล้ว...เขาก็แค่อยู่คนเดียวจนลืมวิธีจะรักใครเท่านั้นเอง” ครูริสาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วทำเสียงกระซิบ “วันหนึ่ง…เจ้าชายคิดแผนการขึ้นมา เขาจะพาใครสักคนมาอยู่กับเขา…สักคนที่มีหัวใจอบอุ่น เขาจึงวางกับดัก วางแผนการ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 106 วันแห่งการเริ่มต้น

    ลาริสาตาโตทันที​ “อะไรนะคะ?” “ผมมีบริษัทที่ต้องดูแล ผมไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา แต่ผมเชื่อว่าคุณ…จะดูแลเด็ก ๆ ที่นี่ได้ดีที่สุด” เธอสั่นศีรษะเบา ๆ ริมฝีปากยังอ้าค้าง “แต่…ริสาไม่เคยคิดเลยว่าจะ—” “ผมคิดไว้แล้ว” เขายิ้มบางเบา “ผมไม่ต้องการแค่ภรรยา…แต่ต้องการ ‘หุ้นส่วนชีวิต’ คนที่ผมไว้ใจ คนที่ผมรู้ว่า…ถ้าเธออยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจะไม่พัง” ลาริสาน้ำตาซึมอีกครั้ง​ ไม่ใช่เพราะอ่อนไหว​ แต่เพราะหัวใจของเธอได้รับการยอมรับ ทั้งจากเขา…และจากโลกที่เธอเคยรู้สึกเหมือนไม่มีที่ยืน เขาดึงมือเธอขึ้นมากดจูบเบา ๆ ที่หลังมือ “นี่คือบ้านของเรา…และทุกอย่างที่ผมสร้างไว้ทั้งหมดนี้ ผมอยากให้มันเป็นของคุณ ไม่ใช่เพราะคุณต้องการ แต่เพราะคุณ ‘คู่ควร’ กับมัน…” ........................ เช้าวันพิเศษ แสงอรุณอ่อนโยนปกคลุมทั่วบ้านหลังใหม่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน เสียงพระสวดเบา ๆ ดังกังวานอยู่ในห้องโถงกลางบ้าน กลิ่นธูปและดอกไม้สดหอมฟุ้งทั่วห้อง ลาริสาสวมชุดไทยสีงาช้างอ่อน ผ้าสไบปักดิ้นทองพาดบ่าดูงดงามราวเจ้าหญิงในนิทาน ดวงตาคู่นั้นมีแววเขินอายปนความปลื้มปิติในทุกการเคลื่อนไหว ข้างเธอ​ นาราและพราว

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 105 ไม่มีใครต้องถูกทอดทิ้งไว้กับอดีต

    เมื่อรถจอดลงหน้าบ้าน เธอก็ทำท่าจะเปิดประตูลงเองตามปกติ แต่เสียงเขาห้ามไว้ก่อน “เดี๋ยว ผมไปด้วย” เขาเปิดประตูฝั่งตัวเองแล้วเดินอ้อมมาที่เธอ ขณะเธอหันมามองด้วยความแปลกใจ “คุณจะ…เข้าไปเหรอคะ?” เธอถามเบา ๆ น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความสั่น เขาพยักหน้า ช้า ๆ หนักแน่น “ผมอยากไหว้แม่ของคุณ…” “ก็ในเมื่อคุณเป็นผู้หญิงที่ผมรัก​ แม่ของคุณ…ก็คือคนที่ผมเคารพด้วยหัวใจ” เขาพูดเรียบ ๆ แต่ทุกคำกลับแน่นลึกเหมือนสัญญาที่ออกมาจากหัวใจ และนั่นเพียงพอที่จะทำให้เธอพยักหน้า ยิ้มจาง ๆ แล้วพาเขาเดินตามเข้าบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เสียงเปิดประตูบ้านไม้ดังเบา ๆ ในยามเย็น ลาริสาก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ข้างกายมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเข้ามาช้า ๆ เขาไม่ได้ใส่สูท ไม่ได้มีภาพลักษณ์ของนักธุรกิจใหญ่โต…มีเพียงเสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดา กับสีหน้าเรียบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยแรงใจที่แน่วแน่ ป้านวลที่จัดโต๊ะอาหารอยู่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นผู้มาใหม่ “แม่คะ…” ลาริสาเรียกเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วข้าง ๆ รถเข็น “นี่คือคุณภานุวัฒน์ค่ะ…” แววตาคุณภาวินีขยับวูบ​ ไม่มีคำถาม ไม่มีความประหลาดใจ มีเพียงสายตาที่ไล่มองเขาช้า ๆ เหมือน

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 104 ก็ว่าแล้ว...มันไม่ธรรมดาแน่

    ขาของเธอสั่นน้อย ๆ จนต้องยึดแขนเขาไว้แน่น เขาจึงแกล้งเอ่ยเสียงเบาแฝงแววขบขัน “ดูเหมือนร่างกายคุณจะอ่อนแอไปหน่อยนะครับ…สงสัยต้องพามาออกกำลังกายแบบนี้บ่อย ๆ” “หยุดเลย!” เธอตีเขาอีกครั้ง ใบหน้ายังแดงเรื่อ ดวงตาวาววับทั้งขวยเขินทั้งหมั่นไส้ “เย็นนี้รอผมนะ เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาพูดขณะจัดปกเสื้อให้เธอเรียบร้อย เธอพยักหน้าช้า ๆ ยิ้มจาง ๆ พลางสูดหายใจลึก เตรียมจะกลับเข้าไปในชั้นเรียนอีกครั้ง และในจังหวะที่เธอก้าวออกจากประตู เธอก็ยังได้ยินเสียงเขาไล่หลังมาเบา ๆ ว่า “แต่ถ้าคุณคิดถึงผมก่อนถึงเวลาเลิกงาน ก็แวะมาหาผมที่ห้องนี้ได้ตลอดนะครับ” ... เสียงเปิดประตูดังแผ่วขณะลาริสาก้าวกลับเข้ามาในห้องเรียน แสงจากหน้าต่างทอดผ่านโต๊ะไม้ยาวในบรรยากาศเงียบสงบ นักเรียนยังคงก้มหน้าตั้งใจเขียนแบบฝึกหัดตามคำสั่งจากครูพี่เลี้ยงที่คุมชั้นไว้ชั่วคราว เธอกลืนน้ำลายเบา ๆ สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อปรับอารมณ์ แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง ขาที่ยังสั่นเล็กน้อยในทุกก้าวทำให้เธอต้องเกาะขอบโต๊ะด้านหน้าไว้ ริมฝีปากร้อนผ่าว ดวงตาแอบเหลือบมองบานประตูหลังห้องที่เธอเพิ่งเดินผ่านราวกับภาพเมื่อครู่นั้นยังซ้อนทับอยู่ตรงนั้น ‘คุ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 103 รู้แล้วใช่ไหมว่าผมรักคุณขนาดไหน

    ริมฝีปากร้อนจัดแตะแผ่วที่ลาดไหล่เธออย่างอ้อยอิ่ง ราวกับซึมซับทุกคำตอบที่ยังไม่หลุดจากริมฝีปาก “ฉัน…รู้ใจตัวเองแล้ว…” เสียงเธอสั่นพร่าราวกับจะขาดหายทุกครั้งที่เขาแตะต้อง “ฉันรักคุณ…ฉันยอมรับ…แม้ว่าฉันจะไม่รู้เลยว่า…คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่…คุณรัก…หรือคุณแค้น…หรือคุณเกลียดกันแน่…” คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก ปลายนิ้วที่กำลังไล้ต่ำอยู่แถวเอวหยุดค้างอยู่กลางอากาศชั่วขณะ แววตาเขานิ่งงันเหมือนจมหายไปกับบางสิ่งที่อัดแน่นในอก ก่อนที่ชั่ววินาทีนั้น เขาจะก้มหน้าลงอีกครั้ง​ พร้อมกระซิบเสียงแผ่วชิดริมผิวเนื้อ “คุณยังไม่รู้อีกหรอ…ว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับคุณ…” มือเขาเลื่อนไปที่กระดุมเสื้อเธอ แล้วค่อย ๆ ปลดมันทีละเม็ด ทุกจังหวะช้า…แต่ชัดเจนและแน่วแน่ เธอสั่นสะท้าน พยายามยกมือขึ้นห้าม…แต่เรี่ยวแรงที่มีดูไร้น้ำหนักเมื่อเขารั้งเธอไว้แน่นขึ้น “ผมไม่ได้อยากครอบครองคุณเพราะความแค้น…” เขากระซิบ “ผมไม่ได้แตะต้องคุณเพราะต้องการทำร้าย…” “แต่เพราะทุกครั้งที่มองคุณ ผมหยุดตัวเองไม่ได้…” และยิ่งเขาพูด…ปลายนิ้วก็ยิ่งลึกซึ้ง ทุกคำสารภาพหลุดออกจากปากเขา พร้อมกับสัมผัสที่รุกล้ำเข้าไปทีละนิด ทีละลมหายใจ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 102 จะไม่หนีหัวใจของตัวเองอีกแล้ว

    เธอพูดต่อทั้งที่เสียงยังเรียบ​ แต่เนื้อเสียงกลับกัดลึกยิ่งกว่าคำใด “ฉันเห็นนะคะ ฉันเห็นคุณเปิดประตูรถให้เธอ ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ แล้วยังเดินเข้าไปในร้านด้วยกัน…มันเป็นภาพที่ชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ” เธอยิ้มบาง แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยความตัดพ้อที่พยายามกลบไว้ในรอยยิ้มประชด “พวกคุณดูเหมาะกันดีนะคะ สวย หล่อ สมกันดี ฉันขอโทษที่เผลอเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น” เขาไม่ตอบทันที แต่เสียงที่หลุดจากปากในวินาทีนั้น กลับทุ้มต่ำ…และตรงประเด็นอย่างน่าตกใจ “คุณหึงเหรอ?” คำถามที่ทิ่มแทงลงไปตรงใจ ลาริสาสะบัดหน้า เธอกำลังจะลุกหนี แต่เขากลับไม่ปล่อยให้เธอไปง่าย ๆ “ฉันจะหึงทำไมคะ?” เธอพูดเร็ว “คุณไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน คุณจะควงใครไปถ่ายรูปก็เรื่องของคุณ” เพียงแค่นั้น…เขาก็รู้แล้ว รู้โดยไม่ต้องถามต่อ เขายกมือขึ้นช้า ๆ ปลายนิ้วหยาบกร้านลูบไล้แก้มเธอแผ่วเบา สายตาของเขามองตรงเข้าไปในดวงตาเธอที่กำลังสั่น และในขณะที่เธอกำลังจะขยับตัวหลบ เขาก็รั้งเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย เสียงของเขาแผ่ว…แต่ชัดเจนจนไม่มีพื้นที่ให้เข้าใจผิดอีกต่อไป “ฟังผมนะ…” เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นกระทบผิวแก้มเธอ “ผู้ห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status