Beranda / โรแมนติก / หนี้หัวใจใต้กลลวง / บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

Share

บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-02 18:43:43

ในเสี้ยววินาที

คีรณัฐคว้าเอวเธอกดลงกับเบาะโซฟา

 

"งั้นผมจะช่วยสอนให้เอง..."

 

เสียงของเขาแหบพร่า ขณะที่ก้มลงแนบชิดจนลมหายใจสอดประสานกัน

ริมฝีปากหยักกดลงมาปิดกั้นรอยยิ้มเย้า ๆ นั้นอย่างไร้ความปรานี

ลิ้นร้อนลากซอกไซ้ไปตามลำคอขาวเนียนอย่างเผ็ดร้อน

พราวฟ้าสะดุ้ง ร่างบางบิดเร้าใต้ร่างเขา แต่ถูกมือหนากดตรึงไว้แน่น

 

"อยากใช้ร่างกายล่ะก็..."

เสียงเขาครางต่ำข้างหูเธอ

"ใช้กับผมนี่แหละ — ให้พอจนไม่กล้าเอาไปแลกกับใครอีก"

 

"ฉันพูดเล่นน่า..."

 

เสียงพราวฟ้าอ้อนเบา ๆ ขณะมือเล็กดันอกเขาไว้

สายตากลมโตสั่นระริกเล็กน้อย ทั้งจากความตกใจและความเร้าใจที่ไหลผ่านร่าง

แต่คีรณัฐไม่ขยับออก

กลับยิ่งโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิม

ลมหายใจร้อน ๆ สัมผัสผิวแก้มเธออย่างจงใจ

 

"เล่นไม่รู้เรื่องเลยนะ...ฟ้า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบใกล้ใบหู

 

พราวฟ้ากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง

แต่ริมฝีปากหยักร้อนผ่าวก็ปิดริมฝีปากบางของเธอเสียก่อน

จูบรุนแรงและเร่าร้อนไร้ซึ่งความอ่อนโยน

ราวกับตั้งใจจะลงโทษที่เธอกล้ากลั่นแกล้งความอดทนของเขา

มือหนาลูบไล้ตามสันหลังเธอผ่านเนื้อผ้าบางเบา

ลมหายใจของพราวฟ้าขาดห้วงทีละน้อย

 

"คีร์..."

 

เธอครางแผ่วในลำคอ พยายามดันเขาออกอย่างไร้เรี่ยวแรง

แต่ยิ่งผลัก

เขายิ่งรัดเธอแน่นขึ้น

มือแข็งแรงนั้นเลื่อนขึ้นเกาะกุมข้อเท้าขาวเนียน

ลากขึ้นมาตามแนวขาอ่อนช้า ๆ จนชุดเดรสสั้นถลกขึ้นไปกองเหนือสะโพก

 

"บอกเองไม่ใช่เหรอ...ว่าจะใช้ร่างกาย?"

 

เสียงเขาทุ้มพร่า ขณะริมฝีปากลากไล้ซอกคอเนียนจนพราวฟ้าสะท้าน

ความเย็นจากแอร์ในห้องผสมกับความร้อนที่แล่นพล่านในตัวเธอ

ทำให้ทุกสำนึกเลือนรางเหมือนหมอกหนา

พราวฟ้าเริ่มจะเอ่ยอ้อนอีกครั้ง

แต่กลับถูกมือหนาผลักดันลงนอนกับเบาะนุ่ม

ริมฝีปากหยักร้อนระอุจูบไล่ตั้งแต่ข้อเท้า ไล่ขึ้นมาตามเรียวขาสวยที่เริ่มสั่นระริก

ทุกสัมผัสของเขาทำให้พราวฟ้าเหมือนกำลังจมลงในมหาสมุทรลึกที่ไม่มีทางหนี

เธออยากหนี...แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้

มือเรียวกำชายผ้าแน่นเมื่อปลายนิ้วหยาบลากเสียดสีไปตามหน้าท้องแบนราบ

สัมผัสนั้นทั้งเร่าร้อน ทั้งปลิดปลิวสติทีละชั้น...ทีละนิด

 

"อยากลองเล่นกับไฟ..."

คีรณัฐกระซิบชิดริมใบหู ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาที่ต้นคอ

"ก็ต้องยอมรับผลของมันให้ได้"

 

พราวฟ้าเผยอริมฝีปากหอบหายใจ

ขณะที่มือหนาสอดเข้าตามแนวชายเสื้อ

ปลดกระดุมทีละเม็ด...ทีละเม็ด

จนผิวขาวเนียนเปลือยเปล่าต่อสายตาเขา

แววตาของคีรณัฐเข้มลึก

ไม่ใช่แค่ปรารถนา แต่เต็มไปด้วยการครอบครองและการลงโทษที่หวานล้ำจนพราวฟ้าแทบหยุดหายใจ

เรียวขาของพราวฟ้าเบียดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

เมื่อความร้อนที่แผ่ซ่านจากกายแกร่งโถมทับมาอย่างไม่ให้ตั้งตัว

คีรณัฐไม่ให้โอกาสเธอหนี

ไม่ให้เวลาคิด

ฝ่ามือร้อนแหวกเรียวขาของเธอออก เขาผสานกายเข้าหาเธออย่างมั่นคง...

กดแทรกตัวตนเข้ามาทีละน้อย

กลืนกินเธอจนแนบแน่นราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

พราวฟ้าสะดุ้งเฮือก

เสียงหอบกระทบกับไหล่กว้าง

สติที่เหลืออยู่แทบปลิดปลิวไปกับแรงสั่นสะท้านในกาย

 

"คีร์..."

 

เธอเรียกชื่อเขาอย่างขาดห้วง หายใจไม่ทั่วอก

แต่เขาไม่ปล่อย

กลับแนบชิด...ลึกขึ้น...แน่นขึ้น

เหมือนตั้งใจจะประทับรอยตัวเองลงบนเธอทุกตารางนิ้ว

การขยับกายของเขาในคราแรกยังเนิบนาบ เย้ายวน

ลากเสียดสีในจังหวะที่ช้าแต่แน่นลึก

แต่ไม่นานนัก...จังหวะนั้นก็เปลี่ยนไป

แรงขึ้น...

เร่งขึ้น...

เหมือนพายุที่โหมกระหน่ำซัดจนเธอแทบตั้งตัวไม่ทัน

เสียงเนื้อกระทบกันในห้องเงียบงัน

เสียงลมหายใจหนักหน่วงประสานกันราวกับดนตรีเร่าร้อนที่ไม่มีบทหยุด

พราวฟ้าหลับตาแน่น

ปล่อยให้ตัวเองจมลึกไปกับสัมผัสดิบ ๆ ที่แสนหวานในอ้อมแขนของเขา

เธอไม่รู้ว่าเธอครางออกมาเมื่อไหร่

ไม่รู้ว่าเธอกอดเขาแน่นตั้งแต่เมื่อไหร่

รู้เพียงว่า...

เธอยินยอมให้เขาเข้าครอบครองทั้งร่างกายและหัวใจ

ด้วยความโหยหา และรักสุดหัวใจ

ในค่ำคืนนี้...

เธอถูกเขากลืนกินจนหมดสิ้น

ไม่มีพื้นที่ใดในกายหรือวิญญาณที่หลงเหลือไว้ให้ใครอื่นอีกต่อไป

 

หลังจากพายุปรารถนาผ่านพ้น

บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบอ่อนหวาน

มีเพียงเสียงลมหายใจสองจังหวะที่สอดประสานกันเงียบ ๆ

พราวฟ้านอนซุกอยู่ในอ้อมแขนกว้าง

ผ้าห่มผืนบางคลุมกายทั้งคู่เอาไว้หลวม ๆ

คีรณัฐขยับปลายนิ้วลูบหลังเธอแผ่วเบา

เหมือนกำลังวาดบางสิ่งลงบนผิวเนียนละเอียดนั้นด้วยปลายนิ้ว

พราวฟ้ายิ้มบาง เอียงใบหน้าแนบอกเขา แล้วพูดเสียงอู้อี้

 

"คุณทำแบบนี้กับฉันตั้งหลายครั้งแล้วนะ..."

"เมื่อไหร่คุณจะมาขอฉันแต่งงานซักทีล่ะ?"

น้ำเสียงเธอเจือขี้เล่น แต่แววตาที่แอบเงยขึ้นมองเขา...มีทั้งความจริงจังและความหวังซ่อนอยู่

 

คีรณัฐหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ

ลูบผมนิ่มของเธอด้วยท่าทีเอ็นดู ก่อนแกล้งถามกลับ

"แล้วคุณแน่ใจเหรอ...ถ้าแต่งงานแล้ว คุณจะเลิกโลดแล่นในวงการได้จริง ๆ?"

 

พราวฟ้าทำปากยื่น นึกหาวิธีตอบโต้

ก่อนจะหัวเราะคิก แล้วเชิดหน้าขึ้นนิด ๆ อย่างภาคภูมิใจ

"ฉันรับบทแม่ในละครได้อยู่นะ..."

"ถึงจะไม่ใช่นางเอกแล้วก็เถอะ!"

เสียงหัวเราะหวาน ๆ ของเธอกระจายทั่วห้อง

 

คีรณัฐมองเธอนิ่ง ๆ ดวงตาเปล่งประกายอบอุ่นจาง ๆ ที่แม้เขาจะพยายามซ่อน แต่ก็ซ่อนแทบไม่มิด

เขาก้มลงจูบหน้าผากเธอเบา ๆ

ก่อนน้ำเสียงจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น

"ฟ้า..."

"งานของผมมันไม่ธรรมดา..."

"มันอันตรายกว่าที่คุณคิด"

 

พราวฟ้าขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นตีเขาเบา ๆ

"คุณนี่ก็หาข้ออ้างตลอดเลย..."

 

คีรณัฐยกมือขึ้นจับมือเล็ก ๆ ของเธอมาไว้ที่ริมฝีปาก

จูบเบา ๆ เป็นเชิงขอโทษ

 

"คุณแค่เป็นพนักงานบริษัททั่วไป..."

พราวฟ้าเบะปากน้อย ๆ พูดกลั้วขำ

"มีอะไรจะอันตรายไปกว่าฉากระเบิดในละครที่ฉันต้องเล่นบ้างล่ะ?"

 

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 107 เจ้าชายปีศาจกับเจ้าหญิงแห่งแสง

    “วันนี้…ครูริสาจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งที่ไม่มีอยู่ในหนังสือไหนเลย” เสียงหวานของเธอดังขึ้นเบา ๆ แต่เรียกความสนใจได้ทันที “เรื่องนี้...เกี่ยวกับเจ้าชายผู้หนึ่งที่กลายเป็นปีศาจ และเจ้าหญิงคนหนึ่งที่มีหัวใจเปล่งแสง เหมือนดวงดาวในคืนมืดที่สุด” “ชื่อเรื่องว่าอะไรครับ!” เด็กชายตัวจ้อยคนหนึ่งถามเสียงดัง “ชื่อว่า... เจ้าชายปีศาจกับเจ้าหญิงแห่งแสงสว่าง จ้ะ” เสียงฮือฮาเล็ก ๆ ดังขึ้นรอบวง ก่อนที่ทุกคนจะนิ่งฟังอีกครั้ง “นานมาแล้ว... มีอาณาจักรหนึ่งที่เงียบงัน ไม่มีแสงแดด ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีดอกไม้บาน ที่นั่น…คือโลกของเจ้าชายผู้ถูกสาป เขาเคยมีหัวใจที่ดี แต่เมื่อหัวใจนั้นแตกสลายจากเรื่องร้าย ๆ เขาก็ปิดมันไว้แน่น และไม่ยอมให้แสงใดเข้าไปอีกเลย” “แล้วเขากลายเป็นปีศาจเหรอคะ?” เด็กหญิงผูกโบว์ถามขึ้นเสียงแผ่ว “ใช่จ้ะ...เขากลายเป็นปีศาจที่มีดวงตาเศร้า และไม่เคยยิ้มอีกเลย แต่ลึก ๆ แล้ว...เขาก็แค่อยู่คนเดียวจนลืมวิธีจะรักใครเท่านั้นเอง” ครูริสาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วทำเสียงกระซิบ “วันหนึ่ง…เจ้าชายคิดแผนการขึ้นมา เขาจะพาใครสักคนมาอยู่กับเขา…สักคนที่มีหัวใจอบอุ่น เขาจึงวางกับดัก วางแผนการ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 106 วันแห่งการเริ่มต้น

    ลาริสาตาโตทันที​ “อะไรนะคะ?” “ผมมีบริษัทที่ต้องดูแล ผมไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา แต่ผมเชื่อว่าคุณ…จะดูแลเด็ก ๆ ที่นี่ได้ดีที่สุด” เธอสั่นศีรษะเบา ๆ ริมฝีปากยังอ้าค้าง “แต่…ริสาไม่เคยคิดเลยว่าจะ—” “ผมคิดไว้แล้ว” เขายิ้มบางเบา “ผมไม่ต้องการแค่ภรรยา…แต่ต้องการ ‘หุ้นส่วนชีวิต’ คนที่ผมไว้ใจ คนที่ผมรู้ว่า…ถ้าเธออยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจะไม่พัง” ลาริสาน้ำตาซึมอีกครั้ง​ ไม่ใช่เพราะอ่อนไหว​ แต่เพราะหัวใจของเธอได้รับการยอมรับ ทั้งจากเขา…และจากโลกที่เธอเคยรู้สึกเหมือนไม่มีที่ยืน เขาดึงมือเธอขึ้นมากดจูบเบา ๆ ที่หลังมือ “นี่คือบ้านของเรา…และทุกอย่างที่ผมสร้างไว้ทั้งหมดนี้ ผมอยากให้มันเป็นของคุณ ไม่ใช่เพราะคุณต้องการ แต่เพราะคุณ ‘คู่ควร’ กับมัน…” ........................ เช้าวันพิเศษ แสงอรุณอ่อนโยนปกคลุมทั่วบ้านหลังใหม่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน เสียงพระสวดเบา ๆ ดังกังวานอยู่ในห้องโถงกลางบ้าน กลิ่นธูปและดอกไม้สดหอมฟุ้งทั่วห้อง ลาริสาสวมชุดไทยสีงาช้างอ่อน ผ้าสไบปักดิ้นทองพาดบ่าดูงดงามราวเจ้าหญิงในนิทาน ดวงตาคู่นั้นมีแววเขินอายปนความปลื้มปิติในทุกการเคลื่อนไหว ข้างเธอ​ นาราและพราว

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 105 ไม่มีใครต้องถูกทอดทิ้งไว้กับอดีต

    เมื่อรถจอดลงหน้าบ้าน เธอก็ทำท่าจะเปิดประตูลงเองตามปกติ แต่เสียงเขาห้ามไว้ก่อน “เดี๋ยว ผมไปด้วย” เขาเปิดประตูฝั่งตัวเองแล้วเดินอ้อมมาที่เธอ ขณะเธอหันมามองด้วยความแปลกใจ “คุณจะ…เข้าไปเหรอคะ?” เธอถามเบา ๆ น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความสั่น เขาพยักหน้า ช้า ๆ หนักแน่น “ผมอยากไหว้แม่ของคุณ…” “ก็ในเมื่อคุณเป็นผู้หญิงที่ผมรัก​ แม่ของคุณ…ก็คือคนที่ผมเคารพด้วยหัวใจ” เขาพูดเรียบ ๆ แต่ทุกคำกลับแน่นลึกเหมือนสัญญาที่ออกมาจากหัวใจ และนั่นเพียงพอที่จะทำให้เธอพยักหน้า ยิ้มจาง ๆ แล้วพาเขาเดินตามเข้าบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เสียงเปิดประตูบ้านไม้ดังเบา ๆ ในยามเย็น ลาริสาก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ข้างกายมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตามเข้ามาช้า ๆ เขาไม่ได้ใส่สูท ไม่ได้มีภาพลักษณ์ของนักธุรกิจใหญ่โต…มีเพียงเสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดา กับสีหน้าเรียบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยแรงใจที่แน่วแน่ ป้านวลที่จัดโต๊ะอาหารอยู่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นผู้มาใหม่ “แม่คะ…” ลาริสาเรียกเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วข้าง ๆ รถเข็น “นี่คือคุณภานุวัฒน์ค่ะ…” แววตาคุณภาวินีขยับวูบ​ ไม่มีคำถาม ไม่มีความประหลาดใจ มีเพียงสายตาที่ไล่มองเขาช้า ๆ เหมือน

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 104 ก็ว่าแล้ว...มันไม่ธรรมดาแน่

    ขาของเธอสั่นน้อย ๆ จนต้องยึดแขนเขาไว้แน่น เขาจึงแกล้งเอ่ยเสียงเบาแฝงแววขบขัน “ดูเหมือนร่างกายคุณจะอ่อนแอไปหน่อยนะครับ…สงสัยต้องพามาออกกำลังกายแบบนี้บ่อย ๆ” “หยุดเลย!” เธอตีเขาอีกครั้ง ใบหน้ายังแดงเรื่อ ดวงตาวาววับทั้งขวยเขินทั้งหมั่นไส้ “เย็นนี้รอผมนะ เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาพูดขณะจัดปกเสื้อให้เธอเรียบร้อย เธอพยักหน้าช้า ๆ ยิ้มจาง ๆ พลางสูดหายใจลึก เตรียมจะกลับเข้าไปในชั้นเรียนอีกครั้ง และในจังหวะที่เธอก้าวออกจากประตู เธอก็ยังได้ยินเสียงเขาไล่หลังมาเบา ๆ ว่า “แต่ถ้าคุณคิดถึงผมก่อนถึงเวลาเลิกงาน ก็แวะมาหาผมที่ห้องนี้ได้ตลอดนะครับ” ... เสียงเปิดประตูดังแผ่วขณะลาริสาก้าวกลับเข้ามาในห้องเรียน แสงจากหน้าต่างทอดผ่านโต๊ะไม้ยาวในบรรยากาศเงียบสงบ นักเรียนยังคงก้มหน้าตั้งใจเขียนแบบฝึกหัดตามคำสั่งจากครูพี่เลี้ยงที่คุมชั้นไว้ชั่วคราว เธอกลืนน้ำลายเบา ๆ สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อปรับอารมณ์ แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง ขาที่ยังสั่นเล็กน้อยในทุกก้าวทำให้เธอต้องเกาะขอบโต๊ะด้านหน้าไว้ ริมฝีปากร้อนผ่าว ดวงตาแอบเหลือบมองบานประตูหลังห้องที่เธอเพิ่งเดินผ่านราวกับภาพเมื่อครู่นั้นยังซ้อนทับอยู่ตรงนั้น ‘คุ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 103 รู้แล้วใช่ไหมว่าผมรักคุณขนาดไหน

    ริมฝีปากร้อนจัดแตะแผ่วที่ลาดไหล่เธออย่างอ้อยอิ่ง ราวกับซึมซับทุกคำตอบที่ยังไม่หลุดจากริมฝีปาก “ฉัน…รู้ใจตัวเองแล้ว…” เสียงเธอสั่นพร่าราวกับจะขาดหายทุกครั้งที่เขาแตะต้อง “ฉันรักคุณ…ฉันยอมรับ…แม้ว่าฉันจะไม่รู้เลยว่า…คุณรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่…คุณรัก…หรือคุณแค้น…หรือคุณเกลียดกันแน่…” คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก ปลายนิ้วที่กำลังไล้ต่ำอยู่แถวเอวหยุดค้างอยู่กลางอากาศชั่วขณะ แววตาเขานิ่งงันเหมือนจมหายไปกับบางสิ่งที่อัดแน่นในอก ก่อนที่ชั่ววินาทีนั้น เขาจะก้มหน้าลงอีกครั้ง​ พร้อมกระซิบเสียงแผ่วชิดริมผิวเนื้อ “คุณยังไม่รู้อีกหรอ…ว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับคุณ…” มือเขาเลื่อนไปที่กระดุมเสื้อเธอ แล้วค่อย ๆ ปลดมันทีละเม็ด ทุกจังหวะช้า…แต่ชัดเจนและแน่วแน่ เธอสั่นสะท้าน พยายามยกมือขึ้นห้าม…แต่เรี่ยวแรงที่มีดูไร้น้ำหนักเมื่อเขารั้งเธอไว้แน่นขึ้น “ผมไม่ได้อยากครอบครองคุณเพราะความแค้น…” เขากระซิบ “ผมไม่ได้แตะต้องคุณเพราะต้องการทำร้าย…” “แต่เพราะทุกครั้งที่มองคุณ ผมหยุดตัวเองไม่ได้…” และยิ่งเขาพูด…ปลายนิ้วก็ยิ่งลึกซึ้ง ทุกคำสารภาพหลุดออกจากปากเขา พร้อมกับสัมผัสที่รุกล้ำเข้าไปทีละนิด ทีละลมหายใจ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 102 จะไม่หนีหัวใจของตัวเองอีกแล้ว

    เธอพูดต่อทั้งที่เสียงยังเรียบ​ แต่เนื้อเสียงกลับกัดลึกยิ่งกว่าคำใด “ฉันเห็นนะคะ ฉันเห็นคุณเปิดประตูรถให้เธอ ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ แล้วยังเดินเข้าไปในร้านด้วยกัน…มันเป็นภาพที่ชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ” เธอยิ้มบาง แต่ในดวงตาเต็มไปด้วยความตัดพ้อที่พยายามกลบไว้ในรอยยิ้มประชด “พวกคุณดูเหมาะกันดีนะคะ สวย หล่อ สมกันดี ฉันขอโทษที่เผลอเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น” เขาไม่ตอบทันที แต่เสียงที่หลุดจากปากในวินาทีนั้น กลับทุ้มต่ำ…และตรงประเด็นอย่างน่าตกใจ “คุณหึงเหรอ?” คำถามที่ทิ่มแทงลงไปตรงใจ ลาริสาสะบัดหน้า เธอกำลังจะลุกหนี แต่เขากลับไม่ปล่อยให้เธอไปง่าย ๆ “ฉันจะหึงทำไมคะ?” เธอพูดเร็ว “คุณไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน คุณจะควงใครไปถ่ายรูปก็เรื่องของคุณ” เพียงแค่นั้น…เขาก็รู้แล้ว รู้โดยไม่ต้องถามต่อ เขายกมือขึ้นช้า ๆ ปลายนิ้วหยาบกร้านลูบไล้แก้มเธอแผ่วเบา สายตาของเขามองตรงเข้าไปในดวงตาเธอที่กำลังสั่น และในขณะที่เธอกำลังจะขยับตัวหลบ เขาก็รั้งเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย เสียงของเขาแผ่ว…แต่ชัดเจนจนไม่มีพื้นที่ให้เข้าใจผิดอีกต่อไป “ฟังผมนะ…” เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นกระทบผิวแก้มเธอ “ผู้ห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status