Beranda / โรแมนติก / หนี้หัวใจใต้กลลวง / บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

Share

บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-02 18:43:43

ในเสี้ยววินาที

คีรณัฐคว้าเอวเธอกดลงกับเบาะโซฟา

 

"งั้นผมจะช่วยสอนให้เอง..."

 

เสียงของเขาแหบพร่า ขณะที่ก้มลงแนบชิดจนลมหายใจสอดประสานกัน

ริมฝีปากหยักกดลงมาปิดกั้นรอยยิ้มเย้า ๆ นั้นอย่างไร้ความปรานี

ลิ้นร้อนลากซอกไซ้ไปตามลำคอขาวเนียนอย่างเผ็ดร้อน

พราวฟ้าสะดุ้ง ร่างบางบิดเร้าใต้ร่างเขา แต่ถูกมือหนากดตรึงไว้แน่น

 

"อยากใช้ร่างกายล่ะก็..."

เสียงเขาครางต่ำข้างหูเธอ

"ใช้กับผมนี่แหละ — ให้พอจนไม่กล้าเอาไปแลกกับใครอีก"

 

"ฉันพูดเล่นน่า..."

 

เสียงพราวฟ้าอ้อนเบา ๆ ขณะมือเล็กดันอกเขาไว้

สายตากลมโตสั่นระริกเล็กน้อย ทั้งจากความตกใจและความเร้าใจที่ไหลผ่านร่าง

แต่คีรณัฐไม่ขยับออก

กลับยิ่งโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิม

ลมหายใจร้อน ๆ สัมผัสผิวแก้มเธออย่างจงใจ

 

"เล่นไม่รู้เรื่องเลยนะ...ฟ้า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบใกล้ใบหู

 

พราวฟ้ากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง

แต่ริมฝีปากหยักร้อนผ่าวก็ปิดริมฝีปากบางของเธอเสียก่อน

จูบรุนแรงและเร่าร้อนไร้ซึ่งความอ่อนโยน

ราวกับตั้งใจจะลงโทษที่เธอกล้ากลั่นแกล้งความอดทนของเขา

มือหนาลูบไล้ตามสันหลังเธอผ่านเนื้อผ้าบางเบา

ลมหายใจของพราวฟ้าขาดห้วงทีละน้อย

 

"คีร์..."

 

เธอครางแผ่วในลำคอ พยายามดันเขาออกอย่างไร้เรี่ยวแรง

แต่ยิ่งผลัก

เขายิ่งรัดเธอแน่นขึ้น

มือแข็งแรงนั้นเลื่อนขึ้นเกาะกุมข้อเท้าขาวเนียน

ลากขึ้นมาตามแนวขาอ่อนช้า ๆ จนชุดเดรสสั้นถลกขึ้นไปกองเหนือสะโพก

 

"บอกเองไม่ใช่เหรอ...ว่าจะใช้ร่างกาย?"

 

เสียงเขาทุ้มพร่า ขณะริมฝีปากลากไล้ซอกคอเนียนจนพราวฟ้าสะท้าน

ความเย็นจากแอร์ในห้องผสมกับความร้อนที่แล่นพล่านในตัวเธอ

ทำให้ทุกสำนึกเลือนรางเหมือนหมอกหนา

พราวฟ้าเริ่มจะเอ่ยอ้อนอีกครั้ง

แต่กลับถูกมือหนาผลักดันลงนอนกับเบาะนุ่ม

ริมฝีปากหยักร้อนระอุจูบไล่ตั้งแต่ข้อเท้า ไล่ขึ้นมาตามเรียวขาสวยที่เริ่มสั่นระริก

ทุกสัมผัสของเขาทำให้พราวฟ้าเหมือนกำลังจมลงในมหาสมุทรลึกที่ไม่มีทางหนี

เธออยากหนี...แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้

มือเรียวกำชายผ้าแน่นเมื่อปลายนิ้วหยาบลากเสียดสีไปตามหน้าท้องแบนราบ

สัมผัสนั้นทั้งเร่าร้อน ทั้งปลิดปลิวสติทีละชั้น...ทีละนิด

 

"อยากลองเล่นกับไฟ..."

คีรณัฐกระซิบชิดริมใบหู ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาที่ต้นคอ

"ก็ต้องยอมรับผลของมันให้ได้"

 

พราวฟ้าเผยอริมฝีปากหอบหายใจ

ขณะที่มือหนาสอดเข้าตามแนวชายเสื้อ

ปลดกระดุมทีละเม็ด...ทีละเม็ด

จนผิวขาวเนียนเปลือยเปล่าต่อสายตาเขา

แววตาของคีรณัฐเข้มลึก

ไม่ใช่แค่ปรารถนา แต่เต็มไปด้วยการครอบครองและการลงโทษที่หวานล้ำจนพราวฟ้าแทบหยุดหายใจ

เรียวขาของพราวฟ้าเบียดเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

เมื่อความร้อนที่แผ่ซ่านจากกายแกร่งโถมทับมาอย่างไม่ให้ตั้งตัว

คีรณัฐไม่ให้โอกาสเธอหนี

ไม่ให้เวลาคิด

ฝ่ามือร้อนแหวกเรียวขาของเธอออก เขาผสานกายเข้าหาเธออย่างมั่นคง...

กดแทรกตัวตนเข้ามาทีละน้อย

กลืนกินเธอจนแนบแน่นราวกับจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

พราวฟ้าสะดุ้งเฮือก

เสียงหอบกระทบกับไหล่กว้าง

สติที่เหลืออยู่แทบปลิดปลิวไปกับแรงสั่นสะท้านในกาย

 

"คีร์..."

 

เธอเรียกชื่อเขาอย่างขาดห้วง หายใจไม่ทั่วอก

แต่เขาไม่ปล่อย

กลับแนบชิด...ลึกขึ้น...แน่นขึ้น

เหมือนตั้งใจจะประทับรอยตัวเองลงบนเธอทุกตารางนิ้ว

การขยับกายของเขาในคราแรกยังเนิบนาบ เย้ายวน

ลากเสียดสีในจังหวะที่ช้าแต่แน่นลึก

แต่ไม่นานนัก...จังหวะนั้นก็เปลี่ยนไป

แรงขึ้น...

เร่งขึ้น...

เหมือนพายุที่โหมกระหน่ำซัดจนเธอแทบตั้งตัวไม่ทัน

เสียงเนื้อกระทบกันในห้องเงียบงัน

เสียงลมหายใจหนักหน่วงประสานกันราวกับดนตรีเร่าร้อนที่ไม่มีบทหยุด

พราวฟ้าหลับตาแน่น

ปล่อยให้ตัวเองจมลึกไปกับสัมผัสดิบ ๆ ที่แสนหวานในอ้อมแขนของเขา

เธอไม่รู้ว่าเธอครางออกมาเมื่อไหร่

ไม่รู้ว่าเธอกอดเขาแน่นตั้งแต่เมื่อไหร่

รู้เพียงว่า...

เธอยินยอมให้เขาเข้าครอบครองทั้งร่างกายและหัวใจ

ด้วยความโหยหา และรักสุดหัวใจ

ในค่ำคืนนี้...

เธอถูกเขากลืนกินจนหมดสิ้น

ไม่มีพื้นที่ใดในกายหรือวิญญาณที่หลงเหลือไว้ให้ใครอื่นอีกต่อไป

 

หลังจากพายุปรารถนาผ่านพ้น

บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบอ่อนหวาน

มีเพียงเสียงลมหายใจสองจังหวะที่สอดประสานกันเงียบ ๆ

พราวฟ้านอนซุกอยู่ในอ้อมแขนกว้าง

ผ้าห่มผืนบางคลุมกายทั้งคู่เอาไว้หลวม ๆ

คีรณัฐขยับปลายนิ้วลูบหลังเธอแผ่วเบา

เหมือนกำลังวาดบางสิ่งลงบนผิวเนียนละเอียดนั้นด้วยปลายนิ้ว

พราวฟ้ายิ้มบาง เอียงใบหน้าแนบอกเขา แล้วพูดเสียงอู้อี้

 

"คุณทำแบบนี้กับฉันตั้งหลายครั้งแล้วนะ..."

"เมื่อไหร่คุณจะมาขอฉันแต่งงานซักทีล่ะ?"

น้ำเสียงเธอเจือขี้เล่น แต่แววตาที่แอบเงยขึ้นมองเขา...มีทั้งความจริงจังและความหวังซ่อนอยู่

 

คีรณัฐหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ

ลูบผมนิ่มของเธอด้วยท่าทีเอ็นดู ก่อนแกล้งถามกลับ

"แล้วคุณแน่ใจเหรอ...ถ้าแต่งงานแล้ว คุณจะเลิกโลดแล่นในวงการได้จริง ๆ?"

 

พราวฟ้าทำปากยื่น นึกหาวิธีตอบโต้

ก่อนจะหัวเราะคิก แล้วเชิดหน้าขึ้นนิด ๆ อย่างภาคภูมิใจ

"ฉันรับบทแม่ในละครได้อยู่นะ..."

"ถึงจะไม่ใช่นางเอกแล้วก็เถอะ!"

เสียงหัวเราะหวาน ๆ ของเธอกระจายทั่วห้อง

 

คีรณัฐมองเธอนิ่ง ๆ ดวงตาเปล่งประกายอบอุ่นจาง ๆ ที่แม้เขาจะพยายามซ่อน แต่ก็ซ่อนแทบไม่มิด

เขาก้มลงจูบหน้าผากเธอเบา ๆ

ก่อนน้ำเสียงจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น

"ฟ้า..."

"งานของผมมันไม่ธรรมดา..."

"มันอันตรายกว่าที่คุณคิด"

 

พราวฟ้าขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นตีเขาเบา ๆ

"คุณนี่ก็หาข้ออ้างตลอดเลย..."

 

คีรณัฐยกมือขึ้นจับมือเล็ก ๆ ของเธอมาไว้ที่ริมฝีปาก

จูบเบา ๆ เป็นเชิงขอโทษ

 

"คุณแค่เป็นพนักงานบริษัททั่วไป..."

พราวฟ้าเบะปากน้อย ๆ พูดกลั้วขำ

"มีอะไรจะอันตรายไปกว่าฉากระเบิดในละครที่ฉันต้องเล่นบ้างล่ะ?"

 

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 9 ผู้หญิงคนนั้นชอบของแรง

    เขาไม่ตอบ แต่เพียงยิ้มมุมปากบาง ๆเพราะเธอยังไม่รู้...ว่างานของเขา ไม่ใช่แค่พนักงานบริษัทธรรมดาแต่เป็นหน่วยพิเศษที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องสกปรกในเงามืดของประเทศนี้เขาเลือกที่จะเงียบ และเก็บเธอไว้ในโลกที่ปลอดภัยคีรณัฐเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนที่หัวใจเธอจะหนักไปกว่านี้"อีกสองสามวัน ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน"เสียงเขานุ่มทุ้ม ขณะที่ลูบหลังเธอเบา ๆ"คงไม่ได้มาหาบ่อย ๆ"พราวฟ้าสูดลมหายใจลึก ๆก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ"ดีเลย..."เธอยิ้มบาง"อาทิตย์หน้าฉันก็เปิดกล้องละครเรื่องใหม่แล้วเหมือนกัน"เธอซุกหน้าแนบอกเขาอีกครั้ง"ต่อไปคงต้องคิดถึงกันมากขึ้นสินะ"คีรณัฐไม่ตอบเพียงกอดร่างของเธอในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิดเหมือนต้องการสลักเธอเอาไว้ในอก...ไม่ให้ห่างไปไหนในห้องเงียบ ๆ มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นประสานกันอย่างที่ไม่มีคำพูดใดจำเป็นอีกต่อไปรุ่งเช้า ห้องนอนในคอนโดที่อบอวลด้วยไออุ่นคีรณัฐนั่งพิงหัวเตียง มองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ข้างกายด้วยสายตานุ่มลึกพราวฟ้าซุกกายหลับสนิท รอยยิ้มบางยังแตะที่มุมปากราวกับกำลังฝันดีเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกแก้มเธอเบา ๆในดวงตาคมลึกซึ้งมีบางอย่างที่เขา

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 10 คำสั่งที่ไม่มีใครขัดได้

    ลาริสาเดินผ่านโถงทางเดินมืดมาที่ด้านหลังเพื่อล้างแก้ว เสียงส้นรองเท้าหนัก ๆ ก้องกังวานตามหลังเธอมาในทางเดินแคบ สะท้อนคล้ายกับเสียงหัวใจของลาริสาที่เต้นโครมครามอยู่ในอก เธอหันขวับไปตามสัญชาตญาณ... ตึง! ร่างสูงใหญ่ของการ์ดหนุ่มกระชากเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว มือสากกดปิดปากเธอแน่น ลมหายใจเขาร้อนฉ่า เป่ารดข้างแก้มอย่างจาบจ้วง "เงียบซะ..." เสียงกระซิบทุ้มต่ำเฉียดใบหูของเธอ "คืนนี้ฉันจะทำให้เธอร้องไม่หยุด..." ลาริสาตัวแข็งทื่อ แต่ผิวเนื้อกลับร้อนวาบจนขนลุกเกรียว แรงจากแขนแข็งแรงลากเธอเข้าไปในห้องเก็บของเล็ก ๆ เขาปิดประตูทันที เสียง "ปัง!" ของประตูดังกึกก้องในความเงียบ ภายในห้องเก็บของ เธอถูกผลักกระแทกกับผนังปูนแข็ง ร่างของหญิงสาวสั่นเทิ้ม อากาศในอกพร่องหายจนแทบหายใจไม่ออก มือหยาบกร้านลากช้า ๆ ไล่ตั้งแต่ลำคอ...ลงไปถึงต้นแขน ผิวเธอสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เสียงหอบกระเส่าของเขาแตะอยู่ที่ข้างใบหู ทำให้สติของเธอแทบพร่าเบลอ "อย่าเล่นตัวเลยน่า..." เสียงแหบพร่าเหมือนสัตว์นักล่าไล่ต้อนเหยื่ออ่อนแอ นิ้วแข็งแรงบังคับไล้ลงมาที่เอว... กดบังคับให้แผ่นหลังของเธอแนบแน่นกับแผ่นอกแข็

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 11 เครื่องมือเรียกร้องความสนใจ

    ลาริสาเปิดประตูเดินเข้าไปเสียงบานประตูไม้ปิดลงช้า ๆ ด้านหลังลาริสาเงยหน้าขึ้นมองความมืดสลัวตรงหน้าเพียงแสงไฟเพดานดวงเล็กที่เปิดสลัวไว้ ทำให้เห็นเพียงเงาราง ๆ ของชายคนหนึ่งที่นั่งทอดกายอยู่กลางห้องเขานั่งเอนหลังบนโซฟาหนังสีเข้มแสงบางเฉียบจากโคมไฟสาดเฉียงผ่านใบหน้าข้างหนึ่ง...เผยให้เห็นเสี้ยวหน้าคมเข้มที่นิ่งงันจนดูน่ากลัวหญิงสาวก้าวขาอย่างลังเลหัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวว่าจะได้ยินออกไปนอกอกเธอไม่รู้ว่าใครรอเธออยู่ข้างหน้าแต่สัญชาตญาณบอกได้เพียงอย่างเดียว...คน ๆ นั้นกำลัง "รอเธออยู่"ลาริสากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ก้าวเข้าไปใกล้ทีละก้าว ทีละก้าวและทันทีที่เธอเดินเข้ามาถึงระยะเพียงเอื้อม...แขนแกร่งที่เธอไม่ทันมองเห็นก็คว้าข้อมือเล็กของเธออย่างรวดเร็ว แล้วดึงร่างเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างไร้ความลังเล"อ๊ะ!"เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปาก ก่อนที่สติจะตามทันกลิ่นกายชายคุ้นเคยแผ่กระจายร้อนระอุไปทั่วผิวเธอสายตาเธอเบิกกว้าง มองสบกับดวงตาสีฟ้าราวน้ำแข็งคู่นั้นภานุวัฒน์ อนันตรเวศน์เขากลับมาแล้ว...โดยไม่มีใครเตือนเธอเลยสักนิดแววตาของเขามืดดำจนเหมือนเหวลึก ไม่มีแสง ไม่มีความหวัง มีเพีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 12 ฉันไม่ชอบบังคับใคร

    “อ๊ะ…!”เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสื้อเชิ้ตตัวบางบนร่างเธอก็ถูกกระชากจนขาดวิ่นดัง แคว่ก!เศษผ้าหลุดรุ่ย เผยผิวขาวซีดที่สั่นระริกใต้สายตาแข็งกร้าวของเขาริมฝีปากของภานุวัฒน์กดลงมาอย่างรุนแรงบดขยี้ทุกสัมผัสด้วยความโกรธที่สุมอยู่เต็มอกจูบของเขา...ไม่ใช่จูบที่อ่อนโยน ไม่ใช่ความโหยหามันคือการลงทัณฑ์ การลงโทษที่บาดลึกยิ่งกว่ามีด"ฮึก...อย่า...ขอร้องล่ะ..."เสียงอ้อนวอนของลาริสาสั่นพร่า น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินลงไม่หยุดเธอพยายามดิ้นหนี บิดกายขัดขืนสุดแรงเกิดแต่ยิ่งเธอดิ้น ภานุวัฒน์ยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นเขากดตัวเธอแนบแน่นกับโซฟาใช้ริมฝีปากขบเม้มลงที่ซอกคอขาวจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำแรงกัดนั้น...ไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความเมตตาเสียงสะอื้นของเธอดังสะท้อนในห้องแต่สำหรับเขาในตอนนี้...มันเหมือนเชื้อเพลิงที่ยิ่งสุมไฟแค้นในอกให้ลุกโชน"แกล้งทำเป็นใสซื่อเก่งนัก..."เสียงเขากระซิบชิดใบหูเธอเสียงต่ำลึกจนแทบเป็นเสียงคำราม"ถ้างั้น...ฉันจะดูให้เห็นกับตา ว่าเธอไร้เดียงสาจริง...หรือมันก็แค่เปลือกนอกหลอกลวง"คำพูดนั้นบาดลึกเหมือนมีดกรีดใจริมฝีปากร้อนชื้นของเขาเลื่

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 1 กับดักแห่งความหวัง

    กลิ่นน้ำมันเครื่อง และเบาะหนังที่ชื้นด้วยเหงื่อซึมทะลุขึ้นจมูกทันทีที่ลาริสารู้สึกตัวมือของเธอถูกมัดไว้แน่น ร่างถูกโยนไว้กับพื้นรถตู้ด้านหลังที่ปิดทึบ แสงเพียงเสี้ยวจากไฟท้ายสะท้อนผ่านรอยแตกของฝาปิดเก็บของเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม แต่เสียงที่ทำให้เธอเย็นเยียบยิ่งกว่า คือเสียงบทสนทนาของชายสองคนด้านหน้า“แน่ใจนะว่าเป็นลูกของท่านรัฐมนตรีจริง ๆ?”“เออสิวะ กูเห็นกับตา ไม่ใช่เด็กธรรมดาแน่ๆ คนอย่างเธอ ส่งให้ฝั่งโน้นเขาจะจ่ายหนักกว่าเดิมแน่นอน”“ชายแดนเพื่อนบ้านใช่ไหม…ซ่องนั่นที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปตรวจน่ะ?”“ก็ที่นั่นแหละ จะได้จบ ๆ ไป ใครจะไปรู้ว่าลูกสาวรัฐมนตรีมานั่งรับแขกอยู่ตรงนั้น”เสียงหัวเราะหยันดังตามมา ราวกับคำพูดนั้นเป็นแค่เรื่องตลกไร้ค่าของโลกใต้ดินเลือดในกายลาริสาเย็นเฉียบเธอแทบไม่รู้ว่าลมหายใจหลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่คำว่า “ขายตัว” “รับแขก” “ชายแดน”แต่ละคำเหมือนมีดที่สลักลงกลางใจเธอหวาดกลัว ร่างกายสั่นราวกับไข้ขึ้นน้ำตาที่หลั่งลงมานั้น…ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เป็นความกลัวแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกลัวว่าจะไม่มีใครตามหาเธอเจอกลัวว่าจะไม่มีวันกลับไปได้อีก...ภายในห้องแต่งตัว คลั

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 2 รับแขกไม่ซ้ำหน้า

    เสียงหัวเราะต่ำของชายตรงหน้าดังขึ้นมือหนาขยับต่ำลงเรื่อย ๆ พร้อมแรงกดที่ทำให้เธอแทบขาดใจ“ไม่! ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ!”เธอรวบแรงทั้งหมดคว้าขวดวิสกี้บนโต๊ะฟาดลงบนพื้นเสียงแก้วแตกกระจายข้างตัว เสี้ยววินาทีที่เขาชะงักเธอสะบัดตัวสุดแรง ผลักร่างใหญ่ของเขาออกกระชากชายกระโปรงแล้ววิ่งออกจากห้อง โดยไม่หันหลังกลับห้องทั้งห้องเหมือนแคบลงจนหายใจไม่ออกเสียงฝีเท้าดังสะท้อนในทางเดินมืดชื้นเหงื่อหัวใจของเธอเต้นรัวเหมือนกลองรบ แต่เธอไม่รู้ว่ากำลังวิ่งหนีอะไร หรือกำลังวิ่งเข้าสู่อะไร…ที่เลวร้ายกว่าเดิมโถงทางเดินมืดสลัว กลายเป็นเขาวงกตไร้ทางออกเสียงฝีเท้าของลาริสาดังก้องสะท้อนตามผนังหินเย็นเฉียบ กลิ่นอับชื้นของสถานที่ที่ไม่มีหน้าต่างเหมือนยิ่งบีบคั้นหัวใจให้แน่นขึ้นทุกวินาทีเธอไม่รู้ว่ากำลังหนีไปไหน…ไม่รู้ว่าเสียงฝีเท้าที่ได้ยินตามหลัง เป็นเสียงจริง หรือเป็นเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นจนแสบหูเธอเลี้ยวพรวดไปตามความรู้สึกจนกระทั่งโครม!ร่างของเธอชนเข้ากับบางอย่างแน่น หนัก และมั่นคงจนเธอสะบัดถอยหลังแทบไม่ทันแขนแกร่งคว้าเธอไว้ก่อนจะล้มกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ และไออุ่นของผิวเนื้อชาย…ห้อมล้อมเธอในช

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 3 หนี้เลือดที่ต้องชดใช้

    ลาริสาไม่รู้ว่าความเงียบที่ปกคลุมระหว่างเขากับเธอนั้นกินเวลานานแค่ไหนเธอแค่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟา หนังที่เย็นเฉียบแนบผิวแทบไม่ต่างจากเลือดในร่างของเธอในตอนนี้หัวใจเธอเต้นช้าลง…แต่ทุกจังหวะเหมือนมีมีดกรีดอยู่ภายในเธอคิดย้อนกลับไปในคืนที่มืดที่สุดในชีวิต คืนที่เธอถูกจับตัวขึ้นรถตอนนั้น เธอเชื่อว่าเธอกำลังจะตายหรือแย่กว่านั้น…เธอจะมีชีวิตอยู่ แต่ในสถานะที่ไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรีเธอจำคำพูดพวกนั้นได้แม่นน้ำเสียงเหยียดหยามของคนที่บอกว่าเธอจะถูกขายไปฝั่งชายแดน ไปอยู่ในซ่องเถื่อนที่ไม่มีใครตามหาเจอไปเป็นของเล่น...ในที่ที่กฎหมายเข้าไม่ถึง และคำว่ามนุษย์ก็ไม่มีความหมายแต่แล้ว…ในเช้าวันต่อมาเธอกลับลืมตาขึ้นมาในที่แห่งหนึ่ง ยังถูกคุมตัว แต่ไม่มีโซ่ ไม่มีเสียงหัวเราะต่ำ ไม่มีสายตาสกปรกที่จ้องจะกลืนกินเธอมีเพียงคำสั่งให้เปลี่ยนชุด​ แต่งหน้า ใส่หน้ากากและกลายเป็นเด็กเสิร์ฟเหล้าในคลับปิดที่หรูหราแต่ไร้อิสระตอนแรกเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทำไมชะตาที่เหมือนกำลังจะหล่นจากหน้าผาถึงได้เปลี่ยนทิศอย่างประหลาดแต่ตอนนี้…ทุกอย่างชัดเจนชายตรงหน้า คนที่ดึงเธอไว้จากขุมนรกคนที่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่กลั

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 4 ลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงนรก

    หลังจากภานุวัฒน์กับพ่อสามารถหนีข้ามแดนไปได้เขาไม่เคยลืมไม่เคยลืมว่ามีใครคนหนึ่ง...ยอมเดินเข้ามาในไฟนรกเพื่อช่วยชีวิตเขาแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อะไรเลย...และนั่นคือเหตุผลที่หลายปีต่อมาเมื่ออคินตกอยู่ในอันตรายกลางขบวนขนของเถื่อนเมื่อทุกคนทอดทิ้งเขาภานุวัฒน์ ในฐานะเด็กชายที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากอคิน จึงไม่มีวันยอมปล่อยให้ชายคนนี้ตายเหมือนหมาข้างทางเขาฝ่าแนวปืน ฝ่าอำนาจมืดเขาพาอคินกลับมา...แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองก็ตามหลังจากที่ธุรกิจของเขากับพ่อมั่นคงขึ้น เขาก็นำเงินมาลงทุนเปิดสถานที่แห่งนี้และมอบมันให้กับอคิน...อคินหลุบตาลงช้า ๆ เมื่อนึกถึงอดีตเหล่านั้นความขอบคุณ ความซาบซึ้งในใจ...ไม่เคยจางหายไปเลยตลอดชีวิตของเขาเขาเข้าใจดี ว่าหนี้บางหนี้...ไม่ต้องพูดแต่จะผูกมัดไว้จนวันสุดท้ายของลมหายใจและเพราะอย่างนั้น...ไม่ว่าภานุวัฒน์จะทำอะไรไม่ว่ามันจะขัดกับตรรกะ หรือทำให้เขาเดือดร้อนมากแค่ไหนเขาจะไม่มีวันหักหลังภานุวัฒน์อคินยิ้มจาง ๆ หันมามองคนที่เป็นมากกว่าคำว่าเพื่อน"ฉันเข้าใจ..."เสียงเขาแหบพร่า แต่แน่วแน่"เพราะถ้าไม่มีแกวันนั้น ฉันก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เหมือนกัน"ภา

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02

Bab terbaru

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 12 ฉันไม่ชอบบังคับใคร

    “อ๊ะ…!”เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปากเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสื้อเชิ้ตตัวบางบนร่างเธอก็ถูกกระชากจนขาดวิ่นดัง แคว่ก!เศษผ้าหลุดรุ่ย เผยผิวขาวซีดที่สั่นระริกใต้สายตาแข็งกร้าวของเขาริมฝีปากของภานุวัฒน์กดลงมาอย่างรุนแรงบดขยี้ทุกสัมผัสด้วยความโกรธที่สุมอยู่เต็มอกจูบของเขา...ไม่ใช่จูบที่อ่อนโยน ไม่ใช่ความโหยหามันคือการลงทัณฑ์ การลงโทษที่บาดลึกยิ่งกว่ามีด"ฮึก...อย่า...ขอร้องล่ะ..."เสียงอ้อนวอนของลาริสาสั่นพร่า น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินลงไม่หยุดเธอพยายามดิ้นหนี บิดกายขัดขืนสุดแรงเกิดแต่ยิ่งเธอดิ้น ภานุวัฒน์ยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นเขากดตัวเธอแนบแน่นกับโซฟาใช้ริมฝีปากขบเม้มลงที่ซอกคอขาวจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำแรงกัดนั้น...ไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความเมตตาเสียงสะอื้นของเธอดังสะท้อนในห้องแต่สำหรับเขาในตอนนี้...มันเหมือนเชื้อเพลิงที่ยิ่งสุมไฟแค้นในอกให้ลุกโชน"แกล้งทำเป็นใสซื่อเก่งนัก..."เสียงเขากระซิบชิดใบหูเธอเสียงต่ำลึกจนแทบเป็นเสียงคำราม"ถ้างั้น...ฉันจะดูให้เห็นกับตา ว่าเธอไร้เดียงสาจริง...หรือมันก็แค่เปลือกนอกหลอกลวง"คำพูดนั้นบาดลึกเหมือนมีดกรีดใจริมฝีปากร้อนชื้นของเขาเลื่

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 11 เครื่องมือเรียกร้องความสนใจ

    ลาริสาเปิดประตูเดินเข้าไปเสียงบานประตูไม้ปิดลงช้า ๆ ด้านหลังลาริสาเงยหน้าขึ้นมองความมืดสลัวตรงหน้าเพียงแสงไฟเพดานดวงเล็กที่เปิดสลัวไว้ ทำให้เห็นเพียงเงาราง ๆ ของชายคนหนึ่งที่นั่งทอดกายอยู่กลางห้องเขานั่งเอนหลังบนโซฟาหนังสีเข้มแสงบางเฉียบจากโคมไฟสาดเฉียงผ่านใบหน้าข้างหนึ่ง...เผยให้เห็นเสี้ยวหน้าคมเข้มที่นิ่งงันจนดูน่ากลัวหญิงสาวก้าวขาอย่างลังเลหัวใจเธอเต้นแรงจนน่ากลัวว่าจะได้ยินออกไปนอกอกเธอไม่รู้ว่าใครรอเธออยู่ข้างหน้าแต่สัญชาตญาณบอกได้เพียงอย่างเดียว...คน ๆ นั้นกำลัง "รอเธออยู่"ลาริสากลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ก้าวเข้าไปใกล้ทีละก้าว ทีละก้าวและทันทีที่เธอเดินเข้ามาถึงระยะเพียงเอื้อม...แขนแกร่งที่เธอไม่ทันมองเห็นก็คว้าข้อมือเล็กของเธออย่างรวดเร็ว แล้วดึงร่างเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างไร้ความลังเล"อ๊ะ!"เสียงหวีดเบา ๆ หลุดจากริมฝีปาก ก่อนที่สติจะตามทันกลิ่นกายชายคุ้นเคยแผ่กระจายร้อนระอุไปทั่วผิวเธอสายตาเธอเบิกกว้าง มองสบกับดวงตาสีฟ้าราวน้ำแข็งคู่นั้นภานุวัฒน์ อนันตรเวศน์เขากลับมาแล้ว...โดยไม่มีใครเตือนเธอเลยสักนิดแววตาของเขามืดดำจนเหมือนเหวลึก ไม่มีแสง ไม่มีความหวัง มีเพีย

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 10 คำสั่งที่ไม่มีใครขัดได้

    ลาริสาเดินผ่านโถงทางเดินมืดมาที่ด้านหลังเพื่อล้างแก้ว เสียงส้นรองเท้าหนัก ๆ ก้องกังวานตามหลังเธอมาในทางเดินแคบ สะท้อนคล้ายกับเสียงหัวใจของลาริสาที่เต้นโครมครามอยู่ในอก เธอหันขวับไปตามสัญชาตญาณ... ตึง! ร่างสูงใหญ่ของการ์ดหนุ่มกระชากเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว มือสากกดปิดปากเธอแน่น ลมหายใจเขาร้อนฉ่า เป่ารดข้างแก้มอย่างจาบจ้วง "เงียบซะ..." เสียงกระซิบทุ้มต่ำเฉียดใบหูของเธอ "คืนนี้ฉันจะทำให้เธอร้องไม่หยุด..." ลาริสาตัวแข็งทื่อ แต่ผิวเนื้อกลับร้อนวาบจนขนลุกเกรียว แรงจากแขนแข็งแรงลากเธอเข้าไปในห้องเก็บของเล็ก ๆ เขาปิดประตูทันที เสียง "ปัง!" ของประตูดังกึกก้องในความเงียบ ภายในห้องเก็บของ เธอถูกผลักกระแทกกับผนังปูนแข็ง ร่างของหญิงสาวสั่นเทิ้ม อากาศในอกพร่องหายจนแทบหายใจไม่ออก มือหยาบกร้านลากช้า ๆ ไล่ตั้งแต่ลำคอ...ลงไปถึงต้นแขน ผิวเธอสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เสียงหอบกระเส่าของเขาแตะอยู่ที่ข้างใบหู ทำให้สติของเธอแทบพร่าเบลอ "อย่าเล่นตัวเลยน่า..." เสียงแหบพร่าเหมือนสัตว์นักล่าไล่ต้อนเหยื่ออ่อนแอ นิ้วแข็งแรงบังคับไล้ลงมาที่เอว... กดบังคับให้แผ่นหลังของเธอแนบแน่นกับแผ่นอกแข็

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 9 ผู้หญิงคนนั้นชอบของแรง

    เขาไม่ตอบ แต่เพียงยิ้มมุมปากบาง ๆเพราะเธอยังไม่รู้...ว่างานของเขา ไม่ใช่แค่พนักงานบริษัทธรรมดาแต่เป็นหน่วยพิเศษที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องสกปรกในเงามืดของประเทศนี้เขาเลือกที่จะเงียบ และเก็บเธอไว้ในโลกที่ปลอดภัยคีรณัฐเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนที่หัวใจเธอจะหนักไปกว่านี้"อีกสองสามวัน ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน"เสียงเขานุ่มทุ้ม ขณะที่ลูบหลังเธอเบา ๆ"คงไม่ได้มาหาบ่อย ๆ"พราวฟ้าสูดลมหายใจลึก ๆก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ"ดีเลย..."เธอยิ้มบาง"อาทิตย์หน้าฉันก็เปิดกล้องละครเรื่องใหม่แล้วเหมือนกัน"เธอซุกหน้าแนบอกเขาอีกครั้ง"ต่อไปคงต้องคิดถึงกันมากขึ้นสินะ"คีรณัฐไม่ตอบเพียงกอดร่างของเธอในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิดเหมือนต้องการสลักเธอเอาไว้ในอก...ไม่ให้ห่างไปไหนในห้องเงียบ ๆ มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นประสานกันอย่างที่ไม่มีคำพูดใดจำเป็นอีกต่อไปรุ่งเช้า ห้องนอนในคอนโดที่อบอวลด้วยไออุ่นคีรณัฐนั่งพิงหัวเตียง มองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ข้างกายด้วยสายตานุ่มลึกพราวฟ้าซุกกายหลับสนิท รอยยิ้มบางยังแตะที่มุมปากราวกับกำลังฝันดีเขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมที่ปรกแก้มเธอเบา ๆในดวงตาคมลึกซึ้งมีบางอย่างที่เขา

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 8 งานของผมอันตรายกว่าที่คุณคิด

    ในเสี้ยววินาทีคีรณัฐคว้าเอวเธอกดลงกับเบาะโซฟา"งั้นผมจะช่วยสอนให้เอง..."เสียงของเขาแหบพร่า ขณะที่ก้มลงแนบชิดจนลมหายใจสอดประสานกันริมฝีปากหยักกดลงมาปิดกั้นรอยยิ้มเย้า ๆ นั้นอย่างไร้ความปรานีลิ้นร้อนลากซอกไซ้ไปตามลำคอขาวเนียนอย่างเผ็ดร้อนพราวฟ้าสะดุ้ง ร่างบางบิดเร้าใต้ร่างเขา แต่ถูกมือหนากดตรึงไว้แน่น"อยากใช้ร่างกายล่ะก็..."เสียงเขาครางต่ำข้างหูเธอ"ใช้กับผมนี่แหละ — ให้พอจนไม่กล้าเอาไปแลกกับใครอีก""ฉันพูดเล่นน่า..."เสียงพราวฟ้าอ้อนเบา ๆ ขณะมือเล็กดันอกเขาไว้สายตากลมโตสั่นระริกเล็กน้อย ทั้งจากความตกใจและความเร้าใจที่ไหลผ่านร่างแต่คีรณัฐไม่ขยับออกกลับยิ่งโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิมลมหายใจร้อน ๆ สัมผัสผิวแก้มเธออย่างจงใจ"เล่นไม่รู้เรื่องเลยนะ...ฟ้า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบใกล้ใบหูพราวฟ้ากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างแต่ริมฝีปากหยักร้อนผ่าวก็ปิดริมฝีปากบางของเธอเสียก่อนจูบรุนแรงและเร่าร้อนไร้ซึ่งความอ่อนโยนราวกับตั้งใจจะลงโทษที่เธอกล้ากลั่นแกล้งความอดทนของเขามือหนาลูบไล้ตามสันหลังเธอผ่านเนื้อผ้าบางเบาลมหายใจของพราวฟ้าขาดห้วงทีละน้อย"คีร์..."เธอครางแผ่วในลำคอ พยายามดันเขาออกอย่างไ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 7 การท้าทายที่อันตราย

    ลาริสาก้มหน้าถือกล่องปฐมพยาบาลแน่นในมือฝ่ามือที่บาดเจ็บแสบระคนกับอาการปวดที่ยังแล่นขึ้นตามข้อศอกทุกครั้งที่ขยับเธอเดินอย่างระมัดระวังไปตามทางเดินแคบ ๆหลบสายตาอยากรู้อยากเห็นที่ไหลวนรอบตัวเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่ถูกโยนเข้าไปในป่าใหญ่ที่ไม่ปรานีระหว่างทาง เธอเกือบสะดุดอีกครั้งเพราะขาสั่นจากความเจ็บแต่แล้ว...มีมือหนึ่งเอื้อมมาคว้าแขนเธอไว้เบา ๆ"เดี๋ยวฉันช่วย" เสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นข้างหูส้ม​ พี่สาวร่างเล็กในชุดเสื้อโปโลสีเข้ม ที่ลาริสาได้พบในวันแรกที่เธอถูกส่งตัวเข้ามาอยู่ที่นี่ส้มเคยเป็นคนแรกที่ยื่นน้ำให้เธอในคืนที่ร้องไห้ไม่หยุดเคยเป็นคนที่นั่งเงียบ ๆ ข้าง ๆ ตอนที่เธอรู้สึกว่าทั้งโลกนี้ไม่เหลือใครลาริสาเม้มปากแน่น แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้ส้มช่วยพยุงตัวไปนั่งที่ม้านั่งยาวด้านหลังส้มไม่ถามอะไรเพิ่มเติมเพียงแค่ดึงกล่องออกจากมือเธออย่างเบามือ แล้วเริ่มทำแผลให้อย่างเงียบ ๆปลายนิ้วที่พันผ้าพันแผลแน่นแต่ไม่เจ็บสัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อในสถานที่แห้งแล้งเช่นนี้"พักก่อนเถอะนะ..." ส้มกระซิบเสียงเบา ขณะพันแผลเสร็จ"เดี๋ยวฉันจะไปบอกหัวหน้าว่าเธอทำงานไม่ไหว ขอพักคืนนี้"ลาริสาเ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 6 ให้จดจำไปจนตาย

    ความเงียบปกคลุมทั่วห้องหลังบทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างภานุวัฒน์กับธีภพจบลงท่ามกลางความเงียบ...แต่ไม่ว่างเปล่าในห้วงความเงียบนั้นมีทั้งความเข้าใจ และภาระที่แต่ละคนแบกไว้ในเส้นทางที่ไม่อาจหันหลังคีรณัฐ ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตเรียบเฉียบที่นั่งพิงพนักนิ่ง ๆ กระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เฉือนลึกในทุกถ้อยคำ"ฉันเอง...ก็คงต้องถอนตัวจากฝั่งธุรกิจแล้วเหมือนกัน"เพียงคำพูดเดียวบรรยากาศในห้องพลันตึงขึ้นอย่างยากจะอธิบายธีภพละสายตาจากแฟ้มในมือภานุวัฒน์หยุดมือที่กำลังขยับแฟ้มเอกสารทั้งสองไม่ถามซ้ำ เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ เบื้องหลังหน้ากากผู้บริหารที่คีรณัฐสวมไว้ตลอดหลายปีคือเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษระดับสูง หนึ่งในผู้กวาดล้างขบวนการสกปรกในโลกมืดทั้งสารเสพติด อาชญากรรม และนักการเมืองที่ย่ำยีผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะ...ท่านรัฐมนตรี วิศรุต เกริกไกร เป้าหมายที่เขาเพ่งเล็งมาเนิ่นนานคีรณัฐหัวเราะเบา ๆ คล้ายไม่ยี่หระ"ถึงเวลาแล้วล่ะ...ต้องกลับไปทำในสิ่งที่ควรทำ"เสียงเขานิ่งและมั่นคงจนรอบห้องเหมือนจะอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆธีภพพยักหน้าเข้าใจไม่พูดมาก เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ไม่ต้องการถ้อยคำฟ

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 5 เบื้องหลังความสำเร็จ

    เวลาผ่านไปไม่นาน การ์ดในชุดดำเดินตรงมาหยุดที่หน้ากระจกที่ลาริสามานั่งก้มหน้าเงียบอยู่เขาไม่พูดพร่ำโยนถุงผ้าใบใหญ่ ๆ มาวางบนโต๊ะเครื่องแป้งจนฝุ่นฟุ้งกระจาย"เปลี่ยนชุดซะ" น้ำเสียงสั้น กระด้าง ไร้ความรู้สึกลาริสาเงยหน้าขึ้นอย่างสับสนการ์ดกระแทกคำอธิบายออกมาอย่างเย็นชา"ต่อไปนี้...เธอไม่ต้องเข้าไปในห้อง VIP อีก""ทำงานอยู่โซนข้างนอก เตรียมเครื่องดื่ม เสิร์ฟเหล้า แค่นั้น"พูดจบ เขาก็หมุนตัวจากไปทิ้งไว้เพียงถุงผ้าหนักอึ้ง กับความเงียบที่กดทับตัวเธอลาริสาก้มหน้ามองถุงผ้ามือบางสั่นนิด ๆ ขณะเปิดมันออกชุดใหม่ เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเรียบง่าย กับกางเกงขายาวสีดำไม่มีหน้ากากลูกไม้ ไม่มีเสื้อคอกว้าง ไม่มีกระโปรงสั้นเหนือเข่าเหมือนเมื่อก่อนมันคือชุดของพนักงานโซนด้านนอกจริง ๆ...ชุดที่อย่างน้อย จะไม่ต้องโดนแตะต้องโดยแขกอีกลาริสาเม้มปากแน่น รู้สึกเหมือนหัวใจบีบรัดอย่างแรงในขณะที่เธอยังซึมซับคำสั่งใหม่เสียงกระซิบกระซาบเริ่มดังขึ้นรอบตัว"ฮึ นึกว่าทำผิดแล้วจะโดนเตะออกซะอีก...""เส้นใหญ่นี่หว่า ได้ย้ายมาทำงานสบาย ๆ ข้างนอกแทน""อภิสิทธิ์พิเศษสำหรับคนหน้าตาดีสินะ..."เสียงกระซิบเหยียดหยันแทงทะล

  • หนี้หัวใจใต้กลลวง   บทที่ 4 ลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงนรก

    หลังจากภานุวัฒน์กับพ่อสามารถหนีข้ามแดนไปได้เขาไม่เคยลืมไม่เคยลืมว่ามีใครคนหนึ่ง...ยอมเดินเข้ามาในไฟนรกเพื่อช่วยชีวิตเขาแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อะไรเลย...และนั่นคือเหตุผลที่หลายปีต่อมาเมื่ออคินตกอยู่ในอันตรายกลางขบวนขนของเถื่อนเมื่อทุกคนทอดทิ้งเขาภานุวัฒน์ ในฐานะเด็กชายที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากอคิน จึงไม่มีวันยอมปล่อยให้ชายคนนี้ตายเหมือนหมาข้างทางเขาฝ่าแนวปืน ฝ่าอำนาจมืดเขาพาอคินกลับมา...แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองก็ตามหลังจากที่ธุรกิจของเขากับพ่อมั่นคงขึ้น เขาก็นำเงินมาลงทุนเปิดสถานที่แห่งนี้และมอบมันให้กับอคิน...อคินหลุบตาลงช้า ๆ เมื่อนึกถึงอดีตเหล่านั้นความขอบคุณ ความซาบซึ้งในใจ...ไม่เคยจางหายไปเลยตลอดชีวิตของเขาเขาเข้าใจดี ว่าหนี้บางหนี้...ไม่ต้องพูดแต่จะผูกมัดไว้จนวันสุดท้ายของลมหายใจและเพราะอย่างนั้น...ไม่ว่าภานุวัฒน์จะทำอะไรไม่ว่ามันจะขัดกับตรรกะ หรือทำให้เขาเดือดร้อนมากแค่ไหนเขาจะไม่มีวันหักหลังภานุวัฒน์อคินยิ้มจาง ๆ หันมามองคนที่เป็นมากกว่าคำว่าเพื่อน"ฉันเข้าใจ..."เสียงเขาแหบพร่า แต่แน่วแน่"เพราะถ้าไม่มีแกวันนั้น ฉันก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เหมือนกัน"ภา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status