ขณะที่กำลังท่องไปในโลกโซเชียลอย่างเพลิดเพลินเดนิสาก็ไม่รู้เลยว่ามีคนแอบมองตนเองอยู่ตลอดจนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงหญิงสาวเริ่มเบื่อจึงหยิบขนมที่เตรียมมาจากบ้านขึ้นมาทานและเงยหน้าขึ้นเพื่อจะถามว่าติณณภพจะทานขนมกับเธอไหม หญิงสาวจึงเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจ้องมาทางตนเองอยู่
“มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือหนูรบกวนสมาธิอาหมอ”
“เปล่าหรอก”
“แต่อาหมอมองหน้าหนูอยู่นะคะ”
“อาก็แค่สงสัยบางอย่าง”
“สงสัยอะไรคะ”
“สงสัยว่าหนูได้ตาสีฟ้ามาจากใคร” ติณณภพโกหกออกไปคำโตทั้งที่จริงตนเองกำลังแอบสังเกตพฤติกรรมของเธอ
“ได้มากจากคุณพ่อค่ะ” เดนิสาชอบตาสีฟ้าของตนเองมากเพราะมันเป็นสิ่งที่เชื่องโยงระหว่างเธอกับบิดาที่ล่วงหลับไปนานแล้ว
“อ๋อ” ติณณภพพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่เคยเจอกับบิดามารดาของเดนิสามาก่อนเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน
“อาหมอกินขนมไหมคะ”
“อาไม่ชอบกินขนม”
“เหมือนคุณยายเลยค่ะ คุณยายก็บอกว่าไม่ชอบกินขนมก๊อปแก๊ปพวกนี้”
คำพูดของเดนิสาทำให้เขาชะงักเพราะไม่คิดว่าเธอจะเอาเขาไปเปรียบเทียบกับคุณยายซึ่งมีอายุมากกว่าเขาหลายสิบปี
“แต่อาว่าลองกินหน่อยก็ดีนะ” เพราะกลัวจะถูกมองว่าแก่เหมือนคุณยายติณณภพเลยเดินมานั่งข้างๆ และหยิบขนมของเธอมาทาน
“รสชาติก็ไม่เลวนะ แต่โซเดียมเยอะไปไหน่อย แบบนี้กินบ่อยๆ ไม่ดีต่อสุขภาพนะ” เขาเตือนออกไปตามสัญชาตญาณ
“หนูรู้ค่ะ แต่กินแล้วมันหยุดไม่ได้ ปกติแล้วอาภพไม่กินขนมเลยเหรอคะแล้วเวลาอ่านหนังสือหรือทำงานไม่ง่วงแย่เหรอ”
“อาก็กินกาแฟไง”
“กาแฟไม่ดีต่อสุขภาพเหมือนกันนะคะ”
“นั่นสินะ” เขาไม่รู้จะเถียงเดนิสายังไงเพราะสิ่งที่เธอพูดมันก็จริงแต่เขาก็มีลิมิตว่าวันหนึ่งจะดื่มกาแฟไม่เกินสองแก้วหรือบางวันก็ดื่มแค่แก้วเดียว
“อาหมออยู่บ้านคนเดียวเหรอคะ”
“ครับ”
“ไม่เหงาเหรอคะ” เดนิสาเริ่มชวนคุยเพราะนั่งเงียบคนเดียวมาหนึ่งชั่วโมงก็เริ่มจะเบื่อ ปกติแล้วเธอเป็นคนร่าเร่งและมีเพื่อนเยอะมากแต่พอกลับมาที่นี่ก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนที่อังกฤษเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกันละเธอก็อยากลืมทุกอย่างที่นั่น
“ก็นิดหน่อยนะ” อันที่จริงเขาอยากตอบว่าเขาชอบที่ได้อยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ถ้าตอบแบบนั้นออกไปเดนิสาก็คงจะรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ชายหนุ่มเลยเลือกตอบอีกอย่าง
“อาหมออยากหายเหงาไหมคะ” คำถามมาพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาเป็นประกาย
“อยากสิ” เขาไม่รู้ว่าเดนิสาจะทำอะไรเลยยอมตามน้ำไปก่อน
“ถ้างั้นวันที่อาหมอหยุดหนูจะมาอยู่เป็นเพื่อนหาหมอเองดีไหมคะ” เดนิสาพยายามหาทางออกให้กับตนเองเพราะรู้สึกว่าที่บ้านของคุณยายมันไม่ปลอดภัยเลยโดยเฉพาะวันหยุดเพราะอาณัติมักจะพาเพื่อนมาที่บ้านและพูดคุยกันเสียงดัง และเพื่อนบางคนของเขาก็มักจะพูดจาแทะโลม อาณัติไม่ได้ช่วยอะไรแถมยังผสมโรงไปกับเพื่อนอีกด้วย แต่จะอยู่ที่ร้านตลอดคุณยายกับน้าของเธอก็อยากให้หญิงสาวได้มีเวลาทบทวนบทเรียนก่อนที่จะเริ่มไปเรียนในวันจันทร์หน้า
“ได้สิ”
“ขอบคุณค่ะ งั้นเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เลยนะคะ หนูจะมาบ้านอาหมอหลังเที่ยงค่ะ”
“ตอนเช้าล่ะ”
“ตอนเช้าไปช่วยคุณยายกับน้าษาที่ร้านค่ะ”
“เดซี่ก็ขยันเหมือนกันนะ แล้วเรื่องไปเรียนล่ะจัดการเรียบร้อยหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ จะเริ่มไปเรียนวันจันทร์แล้วค่ะ”
“ตื่นเต้นไหมที่จะได้เจอเพื่อนใหม่”
“ตื่นเต้นค่ะ ตอนนี้หนูพยายามจะรู้จักเพื่อนให้มากที่สุด ทุกคนดูเป็นกันเองมากค่ะ พวกเรามีไลน์กลุ่มกันพออาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่าหนูย้ายมาเรียนระหว่างเทอมเพื่อนก็ดึงหนูเข้ากลุ่มและช่วยแนะนำว่าหนูต้องเตรียมตัวยังไงบ้างก่อนเรียน”
“อ่านภาษาไทยได้เหรอ”
“พอได้ค่ะ แต่เพื่อนของหนูก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษ”
“เดซี่เคยเรียนภาษาไทยเหรอ”
“เคยค่ะ ตอนเด็กๆ หนูก็อยู่เมืองไทยค่ะ เลยได้เรียนนิดหน่อย พอไปอยู่ที่นุ่นแม่ก็สอนให้อ่านบ้าง บางครั้งคุณยายส่งหนังสือไปให้ค่ะ” เดนิสาเล่าไปด้วยกินขนมไปด้วยอย่างผ่อนคลาย เธอรู้สึกว่าการคุยกับติณณภพทำให้ตนเองผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้น
“ไปอยู่ที่นู่นนานหลายปีแล้วกลับมาอบยู่เมืองไทยแบบนี้ไม่คิดถึงเพื่อนๆ เหรอครับ” เมื่อมีช่องทางเขาก็เริ่มถามขอ้อมูลของเดนิสามากขึ้น
“หนูไม่อยากนึกถึงทุกอย่างที่นั่นอีก” เธอพูดแล้วเงียบจนคนถามรู้สึกผิดมากที่ทำให้หญิงสาวกลับยังจุดที่เธอเจ็บปวดอีกครั้ง
ติณณภพไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่อเพราะแค่นี้มันก็มากเกินไปสำหรับการพูดคุยกันตามลำพังครั้งแรก เขาอยากให้เดนิสาไว้ใจเขามากขึ้นและพูดถึงปัญหานั้นให้เขาฟังเอง
“เดี๋ยวคุณยายก็คงกลับแล้ว” เดนิสาพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“เดซี่จะไปรอคุณยายก็ได้”
“หนูขอรอจนได้ยินเสียงรถคุณยายมาได้ไหมคะ”
“ได้สิ หนูจะอยู่ที่บ้านของอานานแค่ไหนก็ได้”
“อาจะไม่ถามเหรอคะว่าทำไมหนูถึงไม่อยากกลับบ้าน”
“เดซี่อาจไม่มีเพื่อนคุยใช่ไหม”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ”
“แล้วเพราะอะไรล่ะครับ” ในที่สุดติณณภพก็กล้าถามถึงเหตุผลเพราะรู้สึกได้ว่าเดนิสาก็อยากจะเล่าให้เขาฟังอยู่เหมือนกัน
“เพราะหนูรู้สึกว่าที่บ้านนั้นไม่ปลอดภัย”
“ถ้าที่บ้านไม่ปลอดภัยแล้วที่ไหนล่ะที่ปลอดภัย”
“หนูว่าที่บ้านของอาหมอยังปลอดภัยกว่าที่นั่น”
“เล่าให้อาฟังได้ไหม”
“อาอยากฟังเหรอคะ”
“อยากฟังสิ เดซี่อยากเล่าให้อาฟังไหมล่ะ”
“อาหมอสัญญาไหมว่าจะไม่อกเรื่องนี้กับคุณยายและน้าษา”
“อาไม่กล้ารับปาก เดซี่ลองเล่าให้อาฟังก่อนได้ไหมครับแล้วอาจะตัดสินใจเองว่าควรจะบอกคุณยายหรือเปล่า”
“ถ้าบอกคุณยายต้องไม่สบายใจแน่ๆ หนูไม่อยากให้คุณยายไม่สบายใจ”
“ถ้าเรื่องมันใหญ่เราก็ควรบอกคุณยาย แต่ถ้ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่เราก็จะรู้กันสองคน ตกลงตามนี้ไหม”
“ก็ได้ค่ะ”
เดนิสาตื่นเต้นที่ได้กลับมายังประเทศอังกฤษถึงแม้ว่าจะเคยอยู่ที่นี่มานานกว่า 15 ปี แต่การกลับมาครั้งนี้ก็อาจจะต่างจากทุกครั้งหญิงสาวมีติณณภพเดินจะเข้ามาในบ้านหลังเล็กที่ครั้งหนึ่งเดนิสาเคยกลัวและไม่คิดจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย “มือเย็นเชียวกลัวเหรอเดซี่”“นิดหน่อยค่ะ” เดนิสาตอบพลางพยักหน้าเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเธอกับไมเคิลก็ยังไม่เคยเจอกันเลย ผ่านมาเกือบจะครึ่งปีแล้วแต่ความทรงจำก็ยังชัดเจน“อาหมอคะ หนูคิดว่าลืมทุกอย่างได้แล้วแต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย พอกลับมาสถานที่เดิมหนูก็ยังคิดถึงเรื่องเดิมอีก” เดนิสาพูดเสียงสั่น“เดซี่หนูไม่ต้องกลัวนะ อาอยู่กับหนูตลอดเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ อาจะคุยกับแม่ของเดซี่จากนั้นเราจะรับกลับ”“หนูไม่รู้ว่าวันนี้เขาจะอยู่บ้านหรือเปล่า”พอทั้งสองเดินผ่านประตูบ้านเข้าไปมารดาของหญิงสาวเห็นก็รีบเข้ามากอดลูกสาวด้วยความดีใจ“เดซี่”“แม่ชา หนูคิดถึงแม่ค่ะ” เดนิสาร้องไห้และกอดมารดาแน่นกว่าทั้งสองจะผละออกจากกันก็นานพอสมควร“หนูสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ แม่ล่ะคะผอมไปหรือเปล่า”“ช่วงนี้แม่ออกกำลังกายทุกวันจ้ะลูก”“แม่คะหนูลืมแนะนำเลยค่ะคนนี้อาหมอติณณ์ค่ะ”“สวัสดีครับคุณน้า”“ส
เดนิสาอยู่ร่วมงานปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำจนถึงเที่ยงคืนก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเมามาก เธอคิดว่าคงวดื่มต่ออีกไม่ไหวหญิงสาวจึงไลน์บอกให้ติณณภพมารับหน้าบ้านพัก“ดื่มไปเยอะเหรอเดซี่หน้าแดงหมดแล้ว”“ค่ะ แต่หนูยังไม่เมานะคะหนูยังเดินตรงและก็ยังจำได้ว่าอาหมอเป็นแฟนของหนู เดนิสาเดินเซจนชายหนุ่มต้องช่วยประคองกลับมาจนถึงบ้านพักของเขา“นั่งรอตรงนี้นะคนเก่งเดี๋ยวอาไปหาผ้าเย็นๆ มาเช็ดตัวให้”“ค่าอาหมอ” เดนิสารับคำขณะที่มองแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักติณณภพกับมาพร้อมด้วยผ้าขนหนูและกะละมังใบเล็กก่อนจะเช็ดไปตามซอกคอและลำตัวของเธออย่างแผ่วเบาหลังจากเช็ดตัวจนเสร็จเขาก็เอากะละมังไปเก็บในห้องครัวโดยมีเดนิสาเดินตามหลังมาด้วย เขาเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำดื่มส่งให้เธอ“ขอบคุณนะคะอาหมอ”“ดีขึ้นไหม ปวดหัวไหม”“ค่ะอาหมอ หนูไม่มามากขนาดนั้นหรอกค่ะก็แค่มึนๆ เองค่ะ”“งั้นไปนอนนะพรุ่งนี้จะได้มีแรงเที่ยว” “หนูยังไม่ง่วงเลย อาหมอง่วงหรือยังคะ”“อานอนมาทั้งวันแล้ว ไม่ง่วงเลยสักนิด” ติณณภพเดินเข้ามาจนชิดและกอดเธอไว้อย่างหลวมๆ สายตาที่เขาจ้องลงมานั้นทำให้เดนิสาขนลุกไปทั้งตัว เพราะในแววตาของคุณหมอ
เมื่อวางสายจากคนรักแล้วเดนิสาก็ไปกระซิบบอกอรอินทร์ว่าติณณภพตามมาหาและเธอจะออกไปค้างกับเขาที่บ้านพักและจะรีบกลับมาในตอนเช้า“แล้วเดซี่ไม่ไปเที่ยวกับอาหมอเหรอ”“แต่เราอยากเที่ยวกับเพื่อนด้วยอาหมอก็ไม่ว่าอะไร คืนนี้อิ๊นซ์นอนคนเดียวได้แน่นะ”“คนเดียวที่ไหนล่ะยังมียายปลาอีกคนที่พักห้องเดียวกับเรา ถ้ายัยปลาถามเดซี่จะให้เราบอกไปตามตรงไหม แต่เราว่าไม่ต้องห่วงหรอกเพราะดูแล้วยายปลาน่าจะเมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว”“ไหนว่าคืนนี้จะไม่กินเหล้ากัน”“ตอนแรกก็ตกลงกันแบบนั้นแหละ แต่ก็ไม่มีใครทนได้พวกนั้นล่ะกินเหล้าเก่งจะตาย”“แล้วอิ๊นซ์ล่ะ”“ไม่ต้องห่วงเลยเราโตมากับพี่ชายนะเรื่องกินเหล้าแค่นี้เราสบายมาก เดซี่รีบไปเถอะเดี๋ยวอาหมอจะรอนาน”“พรุ่งนี้เข้าเจอกันนะ”“อือ”เดนิสาเดินผ่านกลุ่มเพื่อนมายังหน้าบ้านซึ่งไม่มีใครสนใจใครเพราะทุกคนกำละสนุกกับกิจกรรมตรงหน้าเมื่อเดินออกมากก็เห็นติณณภพมายืนรออยู่แล้ว“คิดถึงอาหมอจังเลยค่ะ” เดนิสาเข้าไปกอดโดยไม่สนใจว่าจะมีใครเห็นเพราะตรงนั้นมืดมาก“อาก็คิดถึงเดซี่” ติณณภพดึงคนรักมากอดแล้วหอมไปยังไรผมด้วยความคิดถึง“ขับรถมาเหนื่อยไหมคะ”“ก็มีบ้าง”“อาหมอถึงกี่โมงคะ” หญิงสาวชวนค
ก่อนสอบปลายภาคเดนิสาและติณณภพไม่ได้เจอกันเลย หญิงสาวขออ่านหนังสืออยู่ที่บ้านของตนเองขณะที่ติณณภพก็รับขึ้นเวรมาขึ้น เขารับทั้งเวรออกตรวจและเวรที่ปรึกษาซึ่งบางครั้งก็มีเคสคลอดด่วนที่เขาต้องไปทำคลอดในเวลากลางคืน ที่เขาทำแบบนี้เพื่อตนเองจะได้ไปเที่ยวกับเดนิสาอย่างสบายใจเพราะเพื่อนหมอก็จะมาออกตรวจแทนตนเองในช่วงนั้นด้วย แต่ก็มีอีกเหตุผลหนึ่งคือเขาไม่อยากอยู่ว่างเนื่องจากปกติแล้ววันเสาร์และวันอาทิตย์เดนิสาจะมาขลุกอยู่ที่บ้านของเขาตลอด แต่พอเธอไม่อยู่ติณณภพก็รู้สึกเหงาวันนี้เป็นการสอบวันสุดท้ายของเดนิสาหญิงสาวโทรศัพท์มาบอกติณณภพว่าตนเองสอบเสร็จแล้วและกำลังจะเดินทางไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อนๆ“เดินทางปลอดภัยนะเดซี่”“ขอบคุณค่ะ เราเจอกันกันอีกทีเย็นวันอาทิตย์นะคะ”“อีกตั้งหลายวันเลยนะ”“สามวันเองค่ะ”“เฮ้อ ไม่อยากให้ไปเลย”“หนูชวนอาหมอแล้วอาหมอไม่มาเอง”“อาอยากให้หนูใช้ชีวิตกับเพื่อนให้เต็มที่สนุกให้เต็มที่ เพราะเราย้อนเวลากลับมาได้”“ค่ะ หนูจะใช้ชีวิตวัยรุ่นให้สนุกเต็มที่เลยค่ะ หนูจะขึ้นรถแล้วนะคะ อาหมอตั้งใจทำงานนะคะถ้าถึงแล้วหนูจะไลน์บอก”“ได้จ้ะ ดูแลตัวเองด้วยนะเดซี่ แล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดด
ระหว่างรอให้ถึงเวลาที่หนังจะฉายเดนิสากับติณณภพก็ไปทานอาหารกลางวันและดินเล่นเพื่อฆ่าเวลาขณะที่เดินผ่านร้านขายยาเดนิสาก็หยุดเดินและดึงแขนติณณภพไว้“มีอะไรหรือเปล่าเดซี่”“หนูจะซื้อยาแต้มสิวค่ะ”“หนูไม่มีสิวนี่เดซี่จะซื้อไปทำไม” เขามองหน้าเนียนใสของคนรักที่ไม่มีสิวเลยสักเม็ด“โมเดลฝากซื้อค่ะ”“อาหมอรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ”“เข้าไปด้วยกันก็ได้” ติณณภพเดินตามหญิงสาวเข้ามาในร้านขายยาที่อยู่ในห้างสรรพค้าเดนิสาได้ยาแต้มสิวแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมออกจากร้าน หญิงสาวเดินวนไปมาจนติณณภพสงสัย“เดซี่จะซื้อย่างอื่นเพิ่มใช่ไหม”“ใช่ค่ะ อาหมอออกไปก่อนได้ไหมคะ”“ของที่หนูจะซื้อเป็นความลับเหรอ”“เป็นความลับของเพื่อน”“อาไปรอข้างนอกก็ได้” ติณณภพคิดว่าเธอคงจะอึดอัดถ้าเขายืนอยู่ด้วย“อาหมอคะ” เดนิสารั้งแขนเขาไว้ขณะที่เขากำลังจะเดินออกไปนอกร้าน“มีอะไรครับเดซี่ หน้าดูไม่ดีเลยหรือว่ามไม่สบายหรือปวดท้องเมนยังไม่หาย” เขาถามคนรักด้วยความเป็นห่วง“เปล่าค่ะ หนูหายเป็นเมนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่หนูมีของอยากซื้อแต่หนูไม่กล้าซื้อ”“จะซื้ออะไรเดี๋ยวอาซื้อให้”“อาหมอสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกใคร” “อาสัญญา” “เพื่อ
หลังจะขออนุญาตคุณยายราตรีแล้วติณณภพก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ช่วงนี้เขาพยายามรีบเคลียร์งานและออกตรวจแทนเพื่อนๆ หมอให้มากที่สุดเพื่อจะได้เพิ่มวันหยุดของตัวเองให้มากขึ้น เขาวางแผนจะพาเดนิสาไปเจอกับมารดาของเธอที่อังกฤษ และอาจจะเที่ยวที่นั่นต่ออีกหลายวัน ก่อนจะกลับมาทำงานระหว่างนี้เดนิสาก็ขับรถไปเรียนเอง ทำให้ติณณภพไม่ค่อยเป็นห่วงมากเท่าไหร่ในทุกเย็นเขาเลิกงานที่โรงพยาบาลแล้วก็จะโทรหาหญิงสาวจากนั้นก็ไปออกตรวจที่คลินิกของเพื่อน จะกลับมาถึงบ้านอีกทีก็สองทุ่มครึ่ง จึงไม่ค่อยได้เจอเดนิสาเท่าไหร่แต่ทั้งสองก็ยังโทรศัพท์หากันทุกวันจนกระทั่งถึงวันเสาร์ซึ่งปกติแล้วเดนิสาจะต้องมาที่บ้านของชายหนุ่มหลังจากทานอาหารกลางวันแต่วันนี้หญิงสาวรีบมาตั้งแต่เช้าเพราะเธออยากจะเจอกับเขามาก“สวัสดีค่ะ อาหมอทำอะไรอยู่คะ”“อารดน้ำต้นไม้ใกล้จะเสร็จแล้วเข้ามาก่อนสิ” ติณณภพรีบไปเปิดประตูให้คนรัก“หนูไม่กวนอาหมอใช่ไหม”“ไม่เลย เดซี่มีอะไรหรือเปล่าวันนี้ถึงมาแต่เช้า”“หนูมีเรื่องจะคุยกับอาหมอนิดหน่อย”“เรื่องอะไรล่ะ ไปคุยกันในบ้านนะ” ติณรภพจับมือคนรักแล้วพากันเดินเข้ามายังห้องรับแขก“หนูลืมบอกอาหมอว่าหลังสอบเสร็จหนูจะไปเที