เวลา 01.30 น. ณ บาร์โฮสของเฮเลน
เสียงเพลงดังสนั่นไปทั้งร้าน แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้การพูดระหว่างสามสาวลดลงได้เลย
"ไม่รู้อ่ะฉันต้องได้กระเป๋า!"
คิมเพื่อนสนิทของฉันกำลังแหกปากแข่งกับเสียงเพลง เธอกับเคททะเลาะกันเรื่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่ออกมาแล้วหมดภายในห้านาที โดยที่ไม่มีเหลือให้สำหรับยัยคิมแม้แต่ใบเดียว
"ก็บอกว่ามันหมด!" เคทแหกปากแข่งกับเสียงเพลง ส่วนฉันนั่งมองทั้งคู่สลับกันไปมา
"สั่งทำพิเศษให้สำหรับฉันเดี๋ยวนี้!" คิมยังไม่ยอมแพ้ เมื่อเหล้าเข้าปาก ความเอาแต่ใจจึงเริ่มขึ้น
"ไม่ทำย่ะ!" เคทตะโกนใส่เพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
"แกเปลี่ยนไปเคท แกไม่รักฉันเหมือนเดิม!" คิมเบะปากและจ้องหน้าเคท
"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ฉันไม่มีหนังทำกระเป๋าให้แกแล้วยัยบ้า!"
"ฮึก!" เอาเข้าไปยัยสองคนนี้ อีกคนเมาก็ชอบมีอะไรแปลกๆออกมา อีกคนเมาแล้วก็ชอบดุ ไม่ใจดีกับเพื่อน
"เออๆ หยุดร้องเดี๋ยวทำให้" เคทตัดบทด้วยความรำคาญ สุดท้ายยัยนี่ก็ยอมตามใจคิมอยู่ดีนั่นแหละ
"กรี๊ด! ทำไมเกิดมาแล้วสวย ใจดี รวยน้ำใจกับเพื่อนขนาดนี้เนี่ย ฉันจะบวชให้แกหนึ่งพรรษา!" คิมโดดลงจากเก้าอี้บาร์ตัวสูงแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดเคทเอาไว้
"บวชคือไร" เคทหันมาถามด้วยสีหน้าสงสัย
"ไม่รู้อ่ะ" ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร
"เพื่อนน่ารัก รักเพื่อน~" คิมเริ่มซุกไซ้เคทเพราะความเมา ยัยนี่เอาร่างไหนออกมาอีกเนี่ย
"น่าเบื่อจัง" แม้ปากจะบ่น แต่มือก็ลูบหัวเพื่อนไม่ปล่อย
"ทำให้ไปเถอะ ยัยคิมเมาแล้ว"
"ยัยนี่เมาแล้วใครล่ะที่ต้องไปส่ง" เคทเริ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวเอง
"แกนั่นแหละ ฉันต้องอยู่จัดการบาร์ต่อ"
"นี่ ๆ" จู่ ๆคิมก็ดึงเราทั้งคู่ล้อมวงเข้าหากัน
"อะไร" เคทถามด้วยความสงสัย อยู่ๆก็เป็นอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย
"มีผู้ชายมองมาทางพวกเราด้วย" คิมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"คนไหน" ฉันกำลังจะเงยหน้าขึ้นมองก็ถูกยัยคิมจับหัวไว้แล้วกดลงตามเดิม
"เดี๋ยวสิ มีหลายคนเลยนะ"
"เดี๋ยวให้เฮเลนจัดการ" ฉันพยักหน้าตามที่เคทพูด เพราะเราต่างรู้กันดีว่าคิมไม่สนใจผู้ชายคนไหนและไม่ชอบให้ผู้ชายเข้ามาวุ่นวายกับเธอ
"ปล่อยมือได้แล้ว เดี๋ยวฉันจัดการให้" พูดจบก็แกะมือเพื่อนออกจากหัวแล้วเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกันกับที่ทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้นตามเช่นกัน ฉันเพ่งมองไปยังทิศทางที่คิมบอก สายตาจ้องมองผ่านความมืดและแสงสีภายในบาร์ กลุ่มชายชุดดำจำนวนหนึ่งเดินตรงเข้ามาทางเรา
"เคทพายัยคิมกลับบ้าน" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สายตามองตรงไปยังกลุ่มผู้ชายที่ยืนเรียงกันอยู่ตรงหน้า
"ไหวเหรอเฮเลน~" เสียงพูดลิ้นพันกันขนาดนี้ ยังจะกล้ามาเป็นห่วงฉันอีก
"ฉันเข้าใจแกเฮเลน คิมเรากลับบ้านกันเถอะ" เคทที่พอจะมีสติ หยิบกระเป๋าของตัวเองและคิมมาถือไว้พร้อมกับลากตัวเพื่อนขี้เมาให้เดินตาม
"ไม่~ ต้องอยู่ช่วยเฮเลน!" คิมยังคงพยายามยื้อตัวเองเอาไว้ จนเคทต้องออกแรงฉุดกระชากเธอให้เดินตามไปด้วยความยากลำบาก
เมาหนักจนจำคนของฉันไม่ได้ ปล่อยไว้มีหวังสร้างเรื่องแน่ ฉันมองตามหลังเพื่อนที่เดินพ้นประตูออก แล้วจึงเดินนำหน้ากลุ่มลูกน้องตัวเองเดินไปยังห้องทำงานตัวเอง
"มีอะไร" ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตามองกลุ่มผู้ชายที่ยืนเรียงกันอยู่หน้าโต๊ะ
"ไฟลต์บินจากญี่ปุ่นมาอิตาลีที่ถูกจองในนาม ของมัสชิโม่รอบสองทุ่มผู้เดินทางในไฟลต์นั้นคือคุณมาร์ชินครับ"
"....พูดอีกที" ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า
"ไม่ได้หูฝาดครับคุณมาร์ชิน มัสชิโม่กำลังเดินจากญี่ปุ่นมาอิตาลีในเที่ยวบินรอบสองทุ่ม คาดว่าจะถึงช่วงไม่เกิดเก้าโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ครับ"
"...." ฉันนั่งเงียบและทบทวนในสิ่งที่คนของตัวเองพูดอีกครั้ง
"แต่ไฟลต์บินรอบเที่ยงคืนตามเวลาประเทศญี่ปุ่นก็ถูกจองในนามของมัสชิโม่เช่นกันครับ" ฉันหันขวับกลับไปมอง
"ไฟลต์บินถูกจองสองรอบ" แม่ของเขากลับมาด้วยหรือเปล่า แล้วทำไมไม่กลับมาพร้อมกันล่ะ
"ใช่ครับ"
แต่...คนที่ปกปิดตัวเองได้นานถึงสิบปีอย่างเขา อยู่ๆก็ปล่อยข้อมูลการเดินทางและเจาะจงเวลาให้ฉันรู้ได้อย่างชัดเจนเนี่ยนะ
"ส่งคนไปต้อนรับเขารอบเที่ยงคืน" คำสั่งของฉันทำเอาทุกคนหันมองหน้ากัน
"แต่คุณมาร์ชินมารอบไฟลต์บินสองทุ่มนะครับ"
"คนที่ปิดตัวเองได้นานตลอดสิบปีอย่างหมอนั่น ไม่มีทางปล่อยข่าวจริงออกมาหรอก" ฉันไม่หลงกลแน่
"แล้วรอบสองทุ่มล่ะครับให้ส่งคนไปไหม" ถ้าออกจากญี่ปุ่นสองทุ่ม ก็น่าจะถึงที่นี่ประมาณไม่เกิดเก้ามองสินะ
"ไม่ต้องๆ เอาแค่รอบเดียวพอ ว่าแต่พวกนายมีรูปเขาไหม"
"ก็มีแต่รูปตอนเด็กนะครับ รูปตอนก่อนเขาบินไปญี่ปุ่นที่คุณหนูมีไงครับ"
"ฉันเคยมีด้วยเหรอ" ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าเคยเก็บอะไรแบบนั้นด้วย
"คิดไว้แล้วแหละครับว่าคุณหนูต้องทำหาย ผมเตรียมมาไว้ให้แล้ว"
ภาพถ่ายถูกวางลงบนโต๊ะ ภาพของผู้ชายคนหนึ่งในวัยที่กำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวซีด ดวงตาคมนิ่งสงบแต่ก็ดูมีความน่ากลัวอยู่ภายใต้นัยน์ตานั่น สิบปีที่ผ่านมาจะเปลี่ยนมากแค่ไหนนะ อย่างน้อยก็คงส่วนสูงล่ะมั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่เด็ก การหาตัวก็คงไม่ยากเกินไป ใบหน้าที่โดดเด่นนี่สะดุดตาฉันแน่
"ขอบใจ เอาตามที่ฉันสั่งก็แล้วกัน"
"ครับ" พวกเขารับคำสั่งของฉันแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
มาแล้วสินะฉันต้องต้อนรับนายแบบไหนดีถึงจะทำให้ฉันรู้สึกพอใจ แต่คงจะไม่ยอมให้มันจบลงง่ายๆแน่ ฉันยังอยากสนุกกับนายอีกเยอะ มาร์ชิน
เวลา 08.45น. ณ สนามบินประเทศอิตาลี
ร่างสูงในชุดเสื้อฮูดตัวหนาสีดำ ใบหน้าหล่อถูกปกปิดด้วยแว่นสายตาทรงกลม เขาลากกระเป๋าออกจากทางประตู สายตาจ้องมองไปยังรอบตัว ทุกอย่างดูสงบนิ่ง ไม่มีกลุ่มคนมาดักรอต้อนรับนอกเหนือไปจากคนของเขาเอง สิ่งที่คาดการเอาไว้เป็นไปตามที่คิดสินะ ก็แค่ผู้หญิงซื่อบื้อคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษนักหนา นึกว่าจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่านี้ เขาเดินตรงไปยังกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาเช่นกัน
แต่จู่ๆก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมชวนหลงใหลที่เดินผ่านตัวไป ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งผ่านนำขึ้นหน้าไป ทำให้ต้องหยุดชะงักแล้วจ้องมองร่างบางตรงหน้า ดวงคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ผมยาวสลวยสีดำพลิ้วไหวไปตามแรงหัน เธอยืนมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะหันหลังกลับมาสบตา เธอขมวดคิ้วจ้องมองหน้าเขา ก่อนจะยกภาพถ่ายในมือขึ้นชูในระดับสายตา เพื่อเทียบกับบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ก่อนที่รูปภาพในมือจะถูกขย้ำกำไว้แน่น
"มาร์ชิน..." เสียงเล็กพึมพำ พร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้า
"....." บุคคลที่ถูกไล่ตามจนโดนจับได้เอาแต่ยืนนิ่ง สายตาจ้องมองไปยังร่างบางตรงหน้า เธอมาคนเดียวไม่มีคนติดตาม แล้วก็เป็นฝ่ายเจอเขาก่อนด้วยและที่สำคัญ เธอสวยมากจริงๆ เฮเลน
"มาร์ชิน...หรือเปล่า" เธอถามย้ำอีกครั้ง
"...ไง" แบบนี้ค่อยน่าเล่นสนุกด้วยหน่อย...เฮเลน
‧͙⁺˚*・༓☾ หมั้นรักกับดักมาเฟีย ☽༓・*˚⁺‧͙
"คงทำได้อย่างที่พูดนะ" มาร์ชินจ้องมองตามเรือนร่างที่คร่อมเขาอยู่"ถ้าทำไม่ได้คงไม่พูด นายพอใจเรื่องข้อแลกเปลี่ยนใช่ไหม" ถ้าไม่พอใจก็ต้องกำลังแล้วแหละ"ก็ได้อยู่" ได้อยู่แบบไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่เลยนะ รู้แหละว่าฉันคงไม่ถูกใจเขาเท่าแม่เลขาแน่"ดี แต่ฉันต้องการให้มั่นใจก่อนว่าคนของฉันจะปลอดภัย" ถ้าต้องมาห่วงเรื่องนี้มันอาจจะทำให้ฉันจัดการเขายาก เพราะฉะนั้นต้องให้พาทั้งสองคนออกไปก่อน"ก็เอาไปสิ" มาร์ชินจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเรียบเฉย คำพูดของเขาสามารถใช้เปิดทางให้ฉันได้อย่างดี ร่างบางยันตัวออกห่างแล้วหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวจากกระเป๋ามากดโทรออก หลังจากคุยกับบุคคลที่อยู่ปลายสายเรียบร้อยแล้วก็หันกลับมาหาผู้ชายที่นั่งอยู่"เปิดทางให้คนของฉันเข้ามาด้วย""...อือ" เพียงแค่เสียงแผ่วเบาของเขาก็ทำให้ลูกน้องต่างเดินออกไปจัดการตามคำขอของฉันทันที แต่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของใครบางคนที่จ้องมองมา ฉันหันไปมองยังเลขาสาวที่แอบมองมา เมื่อถูกจับได้เธอก็ทำเป็นมองตรงไปยังด้านหน้า"คุณเลขา""...คะ" น้ำเสียงนุ่มนวลแตกต่างจากสายตาที่มองมาจริงๆ"ขอโทษที่แย่งหน้าที่ของคุณในคืนนี้นะคะ เดี๋ยวฉันจะทำแทนเอง" ฉันนี่มันเป็นพวกเห
ณ คฤหาสน์แอซเซอร์ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เชิญค่ะ"ประตูเปิดกว้างออก ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามายังภายในห้องพักส่วนตัวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด"คุณหนูครับ""มีอะไรเหรอ" ฉันสวมสร้อยที่เคทให้มาแล้วนั่งจ้องอยู่หน้ากระจก เคททำอะไรก็ถูกใจฉันไปหมดจริงๆ แม้จะมีบุคคลที่เข้ามาใหม่แต่ก็ไม่คิดจะหันไปสนใจสักนิด"คนของเราที่ส่งให้ไปติดตามคุณมาร์ชิน""อือ ได้เรื่องอะไรบ้าง" ฉันแค่ต้องการรู้สถานที่ๆเขาไปในแต่ละวันของหมอนั่นก็เท่านั้นและที่สำคัญวันที่มาร์ชินจะเข้าไปที่คลับ การปรากฏตัวของฉันมันต้องสนุกแน่ เพราะดูแล้วเขาไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องการหมั้นของเรา"ข้อความสุดท้ายที่ฝากเอาไว้มีเพียงเท่านี้ครับ""...." ฉันหันหลังกลับมามองหน้าเขา ' ข้อความสุดท้าย'"ข้อความถูกส่งผ่านเบอร์โทรนี้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาแล้วเราก็ไม่สามารถติดต่อทั้งคู่ได้อีกเลย" โทรศัพท์ถูกยื่นมาตรงหน้าฉัน พร้อมกับข้อความที่ถูกส่งมาปรากฏบนหน้าจอ'มารับของคืนด้วย แต่ต้องหาอะไรมาแลกเปลี่ยนที่ทำให้ฉันพอใจด้วยนะ'"ฉันแค่ให้ไปตามดูว่าวันหนึ่งหมอนั่นไปที่ไหนบ้างนิ แล้วทำอีท่าไหนถึงโดนจับได้""พวกเขาเป็นเด็กใหม่ ผมแค่คิดว่ามันเป็นงานง่ายๆ""ประเมินหมอนั่น
ซ่า!!สายน้ำจากฝักบัวไหลกระทบร่างเปลือยเปล่า น้ำที่ไหลผ่านช่วยให้ร่างกายได้รู้สึกผ่อนคลาย แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเขา ตอนนี้ในหัวมีแต่คำพูดของเฮเลน สายตา ใบหน้า ริมฝีปากที่เขาพึ่งสัมผัสแล้วยังกลิ่นหอมจากตัวเธอ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอผู้หญิงสักหน่อย แล้วจะสนใจผู้หญิงที่สวยแต่บ้าแบบนั้นทำไม เมื่อตั้งสติให้กลับมาเหมือนเดิมได้แล้ว เขาก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วออกจากห้องน้ำร่างสูงเปลือยท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันล้อมเอวปกปิดเอาไว้เท่านั้น เขาเดินออกจากห้องน้ำสายตาก็เหลือบมองไปเห็นกล่องสีแดงที่วางอยู่บนโต๊ะ กล่องแหวนหมั้นที่เขาถือมันกลับมา จะทิ้งมันมาหลายรอบก็ทำไม่สำเร็จสักที จนสุดท้ายก็พามันกลับมายังที่เดิมทุกที ในระหว่างที่เขากำลังจะเปิดฝากล่องกำมะหยี่ในมือ เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะก๊อก ก๊อก ก๊อก!"คุณมาร์ชินคะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เสียงคุ้นหูที่เขาพอจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร"เข้ามา" สิ้นเสียงของเขาประตูก็เปิดออกทันที"ขออนุญาตค่ะ"ร่างบางในชุดนอนผ้าแพรสีดำตัวบางเดินเข้ามาในห้องนอนของเขา แอล เลขาประจำมัสชิโม่ ผู้ส่งข่าวและผู้ดูแลประจำตัวของเขา เธอมักจะบินไปญี่ปุ่นบ่อยๆ ทั้งไป
(มาร์ชิน)2 วันต่อมา ณ โรงพยาบาลเอกชนผู้ชายคนหนึ่งนอนหลับอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ภายในห้องพักVIP การดูแลความปลอดภัยแน่นหนาสมฐานะของผู้เป็นบอสใหญ่แห่งมัสชิโม่ ข้างเตียงมีผู้ชายอีกคนนั่งเฝ้ามาตลอดสองวันหลังจากที่เขากลับมาถึงอิตาลี ทายาททางสายเลือดเพียงคนเดียว ตลอดสิบปีเราไม่เคยได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำเพราะเขาไม่คิดที่จะกลับมา จนกระทั่งพ่อเส้นเลือดในสมองแตก ทุกอย่างจึงตกไปอยู่ในมือของแม่เลี้ยง นายหญิงผู้กุมตำแหน่งและใช้ชีวิตหลงอยู่ในอำนาจที่ไม่ใช่ของตนเอง ทั้งเงินและผู้ชายทำให้เธอลุ่มหลงจนลืมสิ่งที่เธอต้องดูแล"จะนอนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" ความรู้สึกของเขาที่มีต่อพ่อนั้นไร้ซึ่งความผูกพัน มีเพียงความเป็นห่วงในฐานะของลูกและหน้าที่ที่ต้องดูแลเท่านั้น"...." ถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางจะได้คำตอบ"บอกแม่แล้วนะครับ แม่แค่ฝากความเป็นห่วงมาเท่านั้น""....""แม่หวังว่าพ่อจะเข้าใจ ที่แม่ไม่สามารถมาได้" พูดคนเดียวทั้งๆที่รู้ว่าพ่อไม่มีทางได้ยิน"....""แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่สามารถให้แม่เลี้ยงกับลูกของเธอใช้นามสกุลของเราได้อีกต่อไป" แม่เลี้ยงถูกพาไปไว้ที่ไหนสักแห่ง ที่ๆเธอจะไม่สามารถกลับมาได้อ
ในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักที พรหมลิขิตทำให้เราพัดพรากจากกัน จนวันนี้ทุกอย่างก็นำพาให้เราได้กลับมาเจอกัน ความจริงบรรยากาศการพบกันครั้งแรกของคู่หมั้น คงต้องให้ความรู้สึกประมาณนี้ แต่ความจริงนั้น ฉันแทบจะพุ่งเข้าไปบีบคอเขาให้แหลกคามือ"ยินดีต้อนรับค่ะ...คู่หมั้น" แม้ว่าประโยคหลังจะกัดฟันพูด แต่ใบหน้ายังคงฝืนยิ้มให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ฉันพิจารณาผู้ชายตรงหน้า ฉันคิดว่าเขาจะโดดเด่นมากกว่านี้ซะอีก ใบหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมในทางที่ดี...ดีแบบหล่อมาก แต่นอกนั้นดูไม่มีอะไรน่าสนใจ เสื้อฮูดตัวหนาสีดำ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบบนใบหน้าสวมทับด้วยแว่นสายตา แววตานิ่งเฉยจ้องมองมาทางฉัน ทั้งหมดของเขาธรรมดาซะจน...จืดชืด"ขอบคุณที่มารับ" เสียงทุ้มเอ่ยพูด พร้อมกับขายาวที่ก้าวเดินเข้ามาใกล้"จะไปไหน" ฉันก้าวเดินเข้าไปดักหน้า สายตาของเราทั้งคู่จ้องมองกัน"อยากเจอขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวยังไงผมก็ต้องเข้าไปหาคุณเฮเลนอยู่แล้ว""ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก แค่อยากเห็นหน้า""พูดเหมือนว่ากำลังชอบเลยนะครับ" จะอ้วก แค่ฟังก็ขนลุกซู่ละ"หึ!" เห็นฉันเป็นพวกตกหลุมรักง่ายหรือไงตึก ตึก ตึกแต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ กลุ่มค
เวลา 01.30 น. ณ บาร์โฮสของเฮเลนเสียงเพลงดังสนั่นไปทั้งร้าน แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้การพูดระหว่างสามสาวลดลงได้เลย"ไม่รู้อ่ะฉันต้องได้กระเป๋า!" คิมเพื่อนสนิทของฉันกำลังแหกปากแข่งกับเสียงเพลง เธอกับเคททะเลาะกันเรื่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่ออกมาแล้วหมดภายในห้านาที โดยที่ไม่มีเหลือให้สำหรับยัยคิมแม้แต่ใบเดียว"ก็บอกว่ามันหมด!" เคทแหกปากแข่งกับเสียงเพลง ส่วนฉันนั่งมองทั้งคู่สลับกันไปมา"สั่งทำพิเศษให้สำหรับฉันเดี๋ยวนี้!" คิมยังไม่ยอมแพ้ เมื่อเหล้าเข้าปาก ความเอาแต่ใจจึงเริ่มขึ้น"ไม่ทำย่ะ!" เคทตะโกนใส่เพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม"แกเปลี่ยนไปเคท แกไม่รักฉันเหมือนเดิม!" คิมเบะปากและจ้องหน้าเคท"ฉันไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ฉันไม่มีหนังทำกระเป๋าให้แกแล้วยัยบ้า!""ฮึก!" เอาเข้าไปยัยสองคนนี้ อีกคนเมาก็ชอบมีอะไรแปลกๆออกมา อีกคนเมาแล้วก็ชอบดุ ไม่ใจดีกับเพื่อน"เออๆ หยุดร้องเดี๋ยวทำให้" เคทตัดบทด้วยความรำคาญ สุดท้ายยัยนี่ก็ยอมตามใจคิมอยู่ดีนั่นแหละ"กรี๊ด! ทำไมเกิดมาแล้วสวย ใจดี รวยน้ำใจกับเพื่อนขนาดนี้เนี่ย ฉันจะบวชให้แกหนึ่งพรรษา!" คิมโดดลงจากเก้าอี้บาร์ตัวสูงแล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดเคทเอาไว